ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 41,423 รายการ
ประวัติศาสตร์โบราณคดีของจังหวัดชัยนาทชั้นล่างจัดแสดงเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีของจังหวัดชัยนาท โบราณวัตถุที่จัดแสดง ได้แก่ เครื่องใช้ เครื่องประดับสมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัยทวารวดี พระพุทธรูปสมัยต่างๆจัดแสดงโบราณวัตถุที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เช่น ตู้พระธรรม เครื่องบริขารถมปัด ประติมากรรมและเครื่องถ้วยในศิลปะลพบุรี ศิลปะสุโขทัย ศิลปะอยุธยา ศิลปะรัตนโกสินทร์ และศิลปะจีน
***บรรณานุกรม***
หนังสือหายาก
พงษาวดารจีน เรื่องตั้งฮั่น เล่ม ๑. พระนคร : โรงพิมพ์พานิชศุภผล, ม.ป.ป..
เลขทะเบียน ๗๖/ ๒๕๑๙ สมัยทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒) หิน, ยาว ๖๓.๕ เซนติเมตร สูง ๓๐ เซนติเมตร หนา ๑๕ เซนติเมตร นายประสาร บุญประคอง พบจารึกนี้ในบริเวณระเบียงองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ ย้ายมาจากพิพิธภัณฑ์วัดพระปฐมเจดีย์ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๔ (ทะเบียนจารึก นฐ.๒) สภาพของจารึกชำรุดมากโดยเฉพาะตัวอักษรข้อความทางตอนต้นบรรทัด ลักษณะของจารึกชิ้นนี้เป็นแผ่นหินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปลายด้านหนึ่งโค้งมน จารึกเพียงด้านเดียว มีจำนวน ๒ บรรทัด ด้านข้างและด้านบนของแผ่นหินโกลนไว้ จนแลดูเรียบร้อยกว่าด้านหลังซึ่งขรุขระกว่ามาก นายชะเอม แก้วคล้าย ได้อ่านแปลและวิจารณ์ไว้จากอักษรที่เหลืออยู่ สรุปได้ว่าเป็น คาถา เย ธฺมมา จารึกด้วยอักษรปัลลวะ ภาษาบาลี อายุของตัวอักษรราว พุทธศตวรรษที่ ๑๒ แปลว่า ธรรมเหล่าใดมีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคต ตรัสเหตุ และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะ มีปกติตรัสอย่างนี้ฯ คาถาเย ธมฺมา ถือเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนามาจากคาถาสมบูรณ์ ดังนี้ "เย ธมฺมา เหตุ ปัพฺพวา เตสํ เหตุงฺ ตถาคโต เตสญฺจะ โย นิโรโธ จะ เอวํ วาที มหาสมฺโณ" "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติ ทรงสั่งสอนอย่างนี้" ความเป็นมาของพระคาถาบทนี้ปรากฏอยู่ในประวัติของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวา มีเนื้อความโดยย่อคือ หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และแสดงธรรมสั่งสอนประกาศพระศาสนาแล้ว ครั้งหนึ่งได้เสด็จมาประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ วันหนึ่ง พระอัสสชิ ผู้เป็นหนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ซึ่งตามเสด็จฯ พระพุทธองค์มาด้วย เข้าไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ ระหว่างทาง อุปติสสะปริพพาชกซึ่งเดินทางมาจากสำนักปริพพาชกได้พบเห็นพระอัสสชิมีกิริยาอาการอันสงบสำรวม น่าเลื่อมใส จึงอยากทราบว่าใครเป็นศาสดาของพระอัสสชิและมีคำสั่งสอนเช่นไร พระอัสสชิจึงแจ้งว่าตนเป็นนักบวชในสำนักของพระมหาสมณะ ผู้เป็นโอรสแห่งศากยวงศ์ พร้อมกับแสดงธรรมอันย่นย่อของพระพุทธองค์ ซึ่งก็คือพระคาถา เย ธมฺมาฯ นั่นเอง จากนั้น อุปติสสะปริพพาชกจึงเดินทางกลับมายังสำนัก และบอกเล่าเรื่องที่ได้พบกับพระอัสสชิ ตลอดจนแสดงธรรมที่พระอัสสชิกล่าวให้แก่สหาย คือโกลิตตะปริพพาชกฟัง จนกระทั่งเกิดดวงตาเห็นธรรมเช่นกัน ปริพพาชกทั้งสองพร้อมด้วยบริวารจึงพากันไปเข้าเฝ้าฯ พระพุทธองค์ยังเวฬุวันมหาวิหาร และทูลขออุปสมบท พระพุทธองค์จึงประทานอนุญาตให้ปริพพาชกทั้งสองพร้อมด้วยบริวารได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พระโกลิตตะปริพพาชก ซึ่งต่อมาก็คือพระโมคคัลลานะ หลังจากอุปสมบทได้ ๗ วัน ก็สำเร็จอรหัตตผล ส่วนอุปติสสะปริพพาชก หรือพระสารีบุตร บรรลุเป็นอรหันต์หลังจากอุปสมบทได้ ๑๕ วัน ส่วนบริวารทั้งหลายภายหลังก็ได้บรรลุเป็นอรหันต์จนหมดสิ้น โดยพระคาถานี้ ทำให้พระพุทธองค์ทรงได้สาวกองค์สำคัญ คือพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรมาเป็นอัครสาวกซ้ายขวา พุทธศาสนิกชนจึงนับถือกันเป็นพระคาถาวิเศษ ถือเป็นสัมฤทธิมนต์สำหรับเปลี่ยนแปลงความนับถือของผู้ที่ยังไม่เคยสดับรับฟังพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ จึงนิยมจารึกไว้เพื่อประกาศพระพุทธศาสนาให้เผยแผ่ออกไป พระคาถา เย ธมฺมาฯ จึงมักพบปรากฏอยู่ในงานศิลปกรรมทางพุทธศาสนาตั้งแต่ยุคแรกๆ เช่นในศิลปะทวารวดีและศิลปะศรีวิชัย นอกจากที่จารึกอยู่บนพระพิมพ์แล้ว ยังพบปรากฏอยู่บนศาสนวัตถุอื่นๆ เช่นเสาศิลาจารึก ฐานธรรมจักร หรือภาพสลักพระพุทธรูปอีกด้วย นอกจากศิลาจารึกคาถาเย ธมฺมา ข้างต้นแล้ว ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ยังเก็บรักษายอดสถูปจำลอง ตามประวัติกล่าวว่าพบที่วัดพระงาม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ลักษณะของยอดสถูปจำลอง คล้ายหม้อทรงกลมแป้น คดคอดสั้น มีขอบปากผาย ส่วนเชิงเป็นทรงกระบอกสูงตอนปลายผายออก ซึ่งส่วนล่างของเชิง มีจารึก ๑ แถว เป็นจารึก เย ธมฺมา ภาษาบาลี อักษรปัลลวะแบบหวัด จะเห็นได้ว่าในดินแดนเมืองนครปฐมโบราณ มีหลักฐานโบราณวัตถุหลายประการที่สะท้อนถึงการแรกรับเอาพระพุทธศาสนาเข้ามาประดิษฐานยังนครรัฐ นอกเหนือไปจากธรรมจักรอย่างที่พบเป็นจำนวนมากเลขทะเบียน ๓๐๕/ ๒๕๑๙ สมัยทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๖) ดินเผา, เส้นผ่าศูนย์กลางยอด ๑๒.๕ เซนติเมตร สูง ๓๕.๕ เซนติเมตร หากผู้สนใจต้องการศึกษาจารึกไม่เพียงแต่เฉพาะภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ เท่านั้น ภายในบริเวณวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ยังมีศิลาจารึกคาถาเย ธมฺมา ให้ศึกษาได้ คือ บริเวณภายในเก๋งจีนหน้าพระอุโบสถวัดพระปฐมเจดีย์ หรือที่เรียกว่าศิลาจารึกที่ศาลเจ้า พระปฐมเจดีย์ จารึกด้วยอักษรปัลลวะ ภาษาบาลี อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ เช่นกัน
เลขทะเบียน : นพ.บ.7/12ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 42 หน้า ; 4 x 55 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 5 (47-61) ผูก 9หัวเรื่อง : อัพภันตรนิทาน--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.32/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 32 หน้า ; 4.7 x 57.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 18 (189-193) ผูก 2หัวเรื่อง : สังฮอมธาตุ --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.55/ก/3ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 48 หน้า ; 4 x 51.3 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 36 (359-363) ผูก 3หัวเรื่อง : มหานิปาตวณฺณนา --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ตั้งอยู่นอกกำแพงแก้วด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโบราณสถานหมายเลข ๑ ห่างออกไป ๑๕๐ เมตร อาคารหลังนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบโล่ง ลักษณะเป็นแนวของฐานโบราณสถานขนาดเล็ก ภายในเป็นห้องก่อด้วยอิฐและศิลาแลง ฐานชั้นล่างเป็นฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสก่อด้วยศิลาแลง ถัดขึ้นมาเป็นฐานปัทม์ ๑ ชั้น ชั้นบนก่อด้วยอิฐซึ่งลักษณะการก่อสร้างเช่นนี้อาจจะเป็นการก่อสร้างทับซ้อนกันก็ได้ ที่มุมด้านนอกอาคารทุกมุมมีแผ่นหินปักไว้คล้ายกับเป็นใบเสมา และจากการขุดแต่งโบราณสถานหมายเลข ๓ นี้ ได้พบพระพิมพ์โลหะที่เป็นพระพิมพ์เนื้อชินตะกั่วจำนวนมาก อาคารหลังนี้มีผู้เสนอแนวความคิดว่าน่าจะสร้างมาก่อนการสร้างปราสาท
ชื่อเรื่อง : ที่ระลึกในโอกาสเสด็จพระราชดำเนิน เยี่ยมราษฎร และถวายผ้าพระกฐิน ณ จังหวัดกาญจนบุรี
ชื่อผู้แต่ง : -
ปีที่พิมพ์ : 2506
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์ภักดีประดิษฐ์
จำนวนหน้า : 314 หน้า
สาระสังเขป : หนังสือที่ระลึกในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร และถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดเทวสังฆาราม จังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 26 ตุลาคม 2506 กล่าวถึงประวัติศาสตร์และเกร็ดตำนานของจังหวัดกาญจนบุรี ประมวลงานของหน่วยงานต่างๆ การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น และสถานที่สำคัญของจังหวัดฯ อาทิ พระแท่นดงรัง พระเจดีย์สามองค์ โบราณสถานพงตึก น้ำตกเขาพัง วัดขุนแผน วัดนางพิม และเมืองสิงห์ เป็นต้น
1. ตำรายาเกร็ด เช่น ยาแก้กระหายน้ำ, ยาเขียวหอมเขียวหอม, ยาบิด, แก้ตกมูกเลือด, ยาแก้สะอึก, แก้ตานซาง, ยาเหลืองใหญ่, ยาอำมฤคอาทิด, ยามหาคงคา, ยาปราบหงสา, ยาแก้สเลด ฯลฯ 2. ยันต์ต่างๆ สำหรับลงหมอน
กรมศิลปากร. ตำราม้าของเก่าและตำราม้าคำโคลง. พระนคร : กรมศิลปากร, 2508. ตำราม้าของเก่าและตำราม้าคำโคลง นี้ แบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกกล่าวถึงตำราม้าของเก่า มีเนื้อหาว่าด้วยลักษณะม้าต่างๆ วิธีขับขี่ม้า และตำรายาม้า ในส่วนที่สองกล่าวถึงตำราม้าคำโคลง พร้อมด้วยภาพประกอบสี มีเนื้อหาว่าด้วยเรื่องลักษณะของม้ามงคล ม้าโทษ ม้าร้าย อธิบายถึงลักษณะขวัญม้า ตำราหัดม้า และมีตำราเพลงทวนบนหลังม้า เขียนเป็นรูปเส้นทางสำหรับชักม้ารวมอยู่ด้วย