ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน)อย.บ. 139/4ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 34 หน้า กว้าง 5.4 ซม. ยาว 57.3 ซม.หัวเรื่อง พระอภิธรรมปิฎก พระปุคคลบัญญัติบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
เลขทะเบียน : นพ.บ.611/5 ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4 x 56 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม่มีไม้ประกับ ชื่อชุด : มัดที่ 198 (19-32) ผูก 5 (2568)หัวเรื่อง : สัตตัปปกรณาภิธรรม--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.664/8ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 48 หน้า ; 3.5 x 51 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 214 (174-184) ผูก 8 (2568)หัวเรื่อง : ปาราษิก--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.741/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า ; 5 x 60 ซ.ม. : ทองทึบ-ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม้มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 230 (341-348) ผูก 2 (2568)หัวเรื่อง : พระยามิลินท์--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อเรื่อง : พุทธประวัติ ฉะบับต่างประเทศ
หัวเรื่อง : พระพุทธเจ้า
พระพุทธศาสนา
คำค้น : พุทธประวัติ
รายละเอียด : หนังสือจัดพิมพ์โดย คณะสัทธิวิหาริก ประจำปี พ.ศ. 2493 เพื่อเป็นที่ระลึกในการอุปสมบทพระสงฆ์ จำนวน 136 รูป ทั้งในกรุงเทพฯ และชลบุรี ถวายสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ จำนวน 1,000 ฉบับ
ผู้แต่ง : สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
สำนักพิมพ์/โรงพิมพ์ : ร.พ. สมัยนิยม
ปีที่พิมพ์ : 2493
วันที่เผยแพร่ : 30 กรกฎาคม 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF.
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์แปลจากหนังสือ Myths of the Hindus and Buddhists by Nivedita and Coomaraswamy โดยยังคงรักษาสำนวนต้นฉบับไว้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตอนต่างๆ
เลขทะเบียน : น. 68 บ. 79440 จบ. (ร.)
เลขหมู่ : ห
294.3092
ส245พ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น จัดโครงการบรรยายทางวิชาการ “ถอดความรู้จากโบราณวัตถุสู่ชุมชน” ครั้งที่ 1 ปีที่ 2 เรื่อง “ความรู้เรื่องผีและพิธีกรรมของหมอเหยาแห่งเทือกเขาภูพาน” วิทยากรโดย คุณตระกูล ฆารพล ครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านวังยาง (วังยางวิทยานุกูล) วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น กิจกรรมภายในงานมีการร่วมเสวนาเรียนรู้ความเป็นมาของพิธีเหยา ของกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาภูพาน และสาธิตการประกอบพิธีเหยา
ด่วน! รับจำนวนจำกัด สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม หรือกดลิงก์นี้ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScttuiOXiug9D89JQONufrezMMSkVom6nX0FyJ7RvS3vfd0Yw/viewform (ไม่เสียค่าลงทะเบียน และไม่มีเกียรติบัตร) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 4324 6170 Facebook: Khon Kaen National Museum พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น https://www.facebook.com/KhonKaenNationalMuseum
***บรรณานุกรม***
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระคาถาพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์สังเขปพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 4 มูลนิธิภูมิพโลภิกขุพิมพ์ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 พลอดุลยเดช ในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พุทธศักราช 2525
กรุงเทพฯ
โรงพิมพ์มูลนิธิภูมิพโลภิกขุ
2525
ใบปลิว งานมหกรรมหุ่นฟ่างนกและงานกาชาด จังหวัดชัยนาท ครั้งที่ ๒๘ภาพรวมงานแถลงข่าว มหกรรมหุ่นฟ่างนก จังหวัดชัยนาท ครั้งที่ ๒๘ งานแถลงข่าวงานมหกรรมหุ่นฟ่างนกและงานกาชาด จังหวัดชัยนาท ครั้งที่ ๒๘ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี ถ่ายภาพรวม งานแถลงข่าว มหกรรมหุ่นฟ่างนกและงานกาชาด จังหวัดชัยนาท ครั้งที่ ๒๘
งานประเพณีสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชรนั้นมีมานานคู่เมืองกำแพงเพชร โดยมีประเพณีจัดขึ้นในวันสารทไทยตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งชาวไทยที่นับถือพุทธศาสนา จะพร้อมใจกันกวนกระยาสารท ข้าวมธุปายาส หรือข้าวกระยาทิพย์ ข้าวยาคู น้ำผึ้ง น้ำตาล และกล้วยไข่ ที่เป็นพืชเศรษฐกิจและสัญญาลักษณ์ของจังหวัดกำแพงเพชร ไปทำบุญตักบาตรถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ วัดอารามต่างๆ และกลางคืนจะมีการทอดผ้าป่าแถว พร้อมการละเล่นพื้นบ้าน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการ “ตามรอยเสด็จพระราชดำเนินสู่ล้านนา” ณ หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ พร้อมกันนี้ได้ทรงเปิด “หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่” และ “พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ วันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2556
เวลา 09.10 น. ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จถึงหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จากนั้น อธิบดีกรมศิลปากร เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือประกอบนิทรรศการ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรและของที่ระลึก ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการ “ตามรอยเสด็จพระราชดำเนินสู่ล้านนา” นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับการดำเนินงานพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา และหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ ต่อจากนั้นทรงพระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณและผู้สนับสนุนการดำเนินงานจำนวน 100 ราย จากนั้นทรงเสด็จฯ ไปยังหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ทรงตัดแถบแพรเปิดนิทรรศการ “ตามรอยเสด็จพระราชดำเนินสู่ล้านนา” เสด็จฯ ไปยังที่ประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระศรีสวรินทรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะ ทอดพระเนตรนิทรรศการ จากนนั้นทรงเสด็จฯ ไปยังหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ ทรงตัดแถบแพรเปิดหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ ทอดพระเนตรนิทรรศการ จากนั้นทรงประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งไปยังพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ทรงตัดแถบแพรเปิดพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา เสด็จเข้าภายในพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ทอดพระเนตรนิทรรศการ ทรงลงพระนามาภิไธยในแผ่นศิลา และเสด็จออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ เวลา 11.30 น. ทั้งนี้ มีข้าราชการ พสกนิกรร่วมให้การต้อนรับเสด็จเป็นจำนวนมาก
หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่และพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา
เทศบาลนครเชียงใหม่ สำรวจหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่และพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา เพื่อที่จะทำการปรับปรุง เนื่องจากเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมสืบเนื่องมาอย่างยาวนาน ศิลปะล้านนาโดดเด่นที่ความงดงามและมีรูปแบบที่หลากหลาย สะท้อนภูมิปัญญาและความหมายที่แฝงเร้นมากับคติความเชื่อของบรรพชนล้านนา เมื่อเทศบาลนครเชียงใหม่ได้วางแนวทางการพัฒนาพื้นที่กลางเวียงเชียงใหม่เพื่อเป็นสถานที่ส่งเสริมการเรียนรู้ โดยสร้างหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ขึ้น ณ บริเวณอาคารศาลากลางเดิม เป็นสถานที่ให้ความรู้ภาพรวมของเอกลักษณ์สิ่งดีงาม คติความเชื่อ วัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของคนเมืองเชียงใหม่ พื้นที่บริเวณที่ตั้งหมู่บ้านอัยการเดิมซึ่งอยู่ติดกับหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ได้สร้างหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ขึ้นเพื่อให้ความรู้ด้านเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ บริเวณที่ตั้งของอาคารศาลแขวงเดิมได้จัดสร้างเป็นหอศิลป์ล้านนา เพื่อจัดแสดงเรื่องราวของประวัติศาสตร์ด้านศิลปะของอาณาจักรล้านนา และภูมิปัญญาทางศิลปะของผู้คนในอาณาจักรล้านนาจากอดีตถึงปัจจุบัน
ที่ตั้งของอาคารหอศิลป์ล้านนาในอดีตเป็นส่วนหนึ่งของคุ้มกลางเวียง เชื่อว่าเป็นส่วนที่ตั้งของ “วังหน้า” เพราะเป็นมรดกของเจ้าอุปราชสุริยะ เดิมเจ้าอุปราชสุริยะเตรียมถวายให้ใช้เป็นที่ทำการเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่ ร.ศ.118 (พ.ศ.2442) แต่เนื่องจากเจ้าจอมมารดาดารารัศมีได้มีพระประสงค์ทูลเกล้าฯ ถวายคุ้มกลางเวียงบางส่วนที่เป็นมรดกของพระองค์ให้รัฐบาลเพื่อจัดสร้างศาลาว่าการรัฐบาลมณฑลพายัพ(ปัจจุบันเป็นหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่) ดังนั้น คุ้มส่วนนี้จึงตกทอดเป็นมรดกแก่เจ้าน้อยเลาแก้ว(เจ้าราชบุตร) ต่อมาทางราชการขอซื้อเพื่อก่อสร้างที่ทำการศาลแขวง จังหวัดเชียงใหม่ แทนหลังเดิมซึ่งตั้งอยู่ที่เชิงสะพานนวรัฐ พื้นที่ส่วนนี้มีเนื้อที่ 6 ไร่ 2 ตารางวา ทั้งหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ และหอศิลป์ล้านนา เป็นกิจกรรมที่หนุนเสริมกันและมีพื้นที่ต่อเนื่องกัน โน้มนำการอนุรักษ์พัฒนาพื้นที่กลางเมืองเก่าเชียงใหม่ให้มีทิศทางที่เหมาะสมและเป็นการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเพื่อเป็นการโน้มนำการพัฒนาเชียงใหม่ไปสู่การเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน
การปรับปรุงหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่และพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนาเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ที่ให้สาระความรู้ สร้างภาพพจน์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพักอาศัยอยู่ในเชียงใหม่นานขึ้น ให้ผู้มาเยือนได้มีโอกาสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ทางด้านศิลปะและภูมิปัญญาศิลปะของล้านนาที่เป็นรากฐานของเมืองเชียงใหม่ และเข้าใจในคุณค่าของเมืองอย่างแท้จริง เป็นศูนย์กลางของการเผยแพร่งานวิชาการด้านประวัติศาสตร์ศิลป์และภูมิปัญญางานศิลป์ของล้านนา กระตุ้นให้คนในท้องถิ่นมีความภาคภูมิใจในบ้านเกิดเมืองนอนและเกิดจิตสำนึกในการดูแลรักษาเมืองในระยะยาว โดยเชื่อมโยงกับหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่และหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ และเพื่อโน้มนำการพัฒนาของภาคธุรกิจเอกชนในพื้นที่เขตเมืองอนุรักษ์ให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำกิจการที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์เมือง รวมทั้งพัฒนาพื้นที่บริเวณใจกลางเมืองประวัติศาสตร์เชียงใหม่ให้เกิดคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์เมืองในระยะยาว
เมื่อปลายปี 2555 เทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำการเปิดหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่และพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ให้กับชาวเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ได้รับชม และศึกษาประวัติศาสตร์ล้านนา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยเข้ารับชมและ ศึกษาประวัติสาสตร์อย่างมากมาย อีกทั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ยังมีโครงการนำนักเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงใหม่ เข้าศึกษาดูงานด้านประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ วิถีชีวิตของชาวล้านนา พิธีกรรม สถาปัตยกรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้เยาวชนได้ศึกษาถึงรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ของชาวล้านนา เพื่อการอนุรักษ์ และสืบทอดต่อไป
วัสดุ หินทราย
แบบศิลปะ ศิลปะทวารวดี
อายุสมัย อายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ 13-15 (ประมาณ 1,100–1,300 ปีมาแล้ว)
สถานที่พบ พบที่บ้านเมืองไพร อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายวีระ วุฒิจำนงค์ มอบให้เมื่อ 11 เมษายน 2538
หินทรายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหนึ่งแกะเป็นรูปเครื่องประดับลึกลงไปในเนื้อหินเป็นรูปตุ้มหูรูปกลม 3 อัน ตุ้มหูคล้ายดาวหรือกลีบดอกไม้หกแฉก และตุ้มหูรูปดอกไม้มีขอบเป็นหยัก ลักษณะเป็นช่อคล้ายฉัตรขนาดเล็ก แม่พิมพ์แต่ละอันต่อกับร่องหรือก้านสำหรับเทน้ำโลหะ
ลักษณะเป็นแม่พิมพ์แบบประกบกัน 2 ชิ้น ใช้หล่อเครื่องประดับในชีวิตประจำวันซึ่งทำมาจากทอง เงิน ดีบุก เช่น ตุ้มหู และเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ รูปแบบของเครื่องประดับเหล่านี้ แม้จะเริ่มทำมาตั้งแต่สมัยฟูนันราวพุทธศตวรรษที่ 8 แล้วก็ตาม แต่ความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปแบบนั้นมีน้อยมาก