ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ

โครงการสำรวจเอกสารโบราณ วันพุธที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๔ ณ วัดไทรงาม ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง


วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ องค์การบริหารส่วนตำบลปราสาททนง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากอำเภอปราสาทว่าจะทำการถ่ายทำวิดีทัศน์เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของอำเภอ โดยเข้าถ่ายทำ  ณ  โบราณสถานปราสาททนง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ และขอความอนุเคราะห์สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา ส่งบุคลากรร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับโบราณสถานดังกล่าว โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ มอบหมายให้นายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ไปควบคุมและให้ข้อมูล


จัดแสดงภูมิปัญญาไทยพื้นถิ่น สิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น เตาเชิงกราน หม้อดินเผา กระจ่า กระบวย ฯลฯ เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา เช่น ไถ คราด ฯลฯ เครื่องประกอบอาชีพเสริม เช่น อุปกรณ์ปั้นหม้อดินเผา เครื่องทอผ้า เครื่องหีบอ้อย ฯลฯ เครื่องมือในการประมง เช่น ชะนาง สุ่ม ตุ้ม ข้อง กระชัง ฯลฯ และพาหนะในการเดินทาง เช่น เกวียน หรือระแทะ เป็นต้นการละเล่นพื้นบ้านจัดแสดงเครื่องการละเล่นต่างๆ ของเด็กไทยสมัยก่อน เช่น เดินกะลา หมากเก็บ ลูกหิน กระโดดเชือก ลูกข่าง ไม้หึ่ง ว่าว เป็นต้น


เลขทะเบียน : นพ.บ.1/3ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  50 หน้า  ; 4.5 x 57 ซ.ม. : รักทึบ-ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากบอกชื่อคัมภีร์ 1 แผ่น ชื่อชุด : มัดที่ 1 (1-10) ผูก 3หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม   


***บรรณานุกรม*** หนังสือหายาก กองการต่างประเทศและแถลงข่าว  กรมตำรวจ.  เกียรติสำนึก.  พระนคร : ประชาช่าง, ๒๔๙๘.


ชื่อเรื่อง                     คำให้การชาวกรุงเก่า คำให้การขุนหลวงหาวัด และพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ผู้แต่ง                       -ประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   ประวัติศาสตร์ทวีปเอเชีย    เลขหมู่                      959.303 พ375คสถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 คลังวิทยาปีที่พิมพ์                    2507ลักษณะวัสดุ               512 หน้าหัวเรื่อง                     ไทย -- ประวัติศาสตร์ – กรุงศรีอยุธยา, 2243-2275ภาษา                       ไทย                   บทคัดย่อ/บันทึกหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า หอพระสมุดวชิรญาณได้ต้นฉบับมาจากเมืองพม่า เมื่อ พ.ศ.2454 และแปลออกเป็นภาษาไทย รูปเรื่องคล้ายคลึงกับหนังสือชื่อ คำให้การขุนหลวงหาวัด


รายงานการเดินทางไปราชการ ณ เมืองเว้ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ๑. ชื่อโครงการ                    โครงการเข้าร่วมการประชุม MOWCAP General Meeting ครั้งที่ ๗ และสัมมนาทางวิชาการ Recommendation Concerning the Preservation of, and Access to, Documentary Heritage Including in Digital Form            ๒. วัตถุประสงค์                    ๒.๑ เพื่อเข้าร่วมการประชุม MOWCAP General Meeting ครั้งที่ ๗                    ๒.๒ เพื่อเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการ Recommendation Concerning the Preservation of, and Access to, Documentary Heritage Including in Digital Form                                       ๒.๓ เพื่อศึกษาดูงานทางด้านวัฒนธรรม                ๓. กำหนดเวลา                    ระหว่างวันที่ ๑๗ – ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ๔. สถานที่                     เมืองเว้ (Hue) สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม                  ๕. หน่วยงานผู้จัด                    คณะกรรมการแห่งภูมิภาคว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลก ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก UNESCO Memory of the World Regional Committee for Asia and the Pacific (MOWCAP) ๖. หน่วยงานสนับสนุน                    สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร                    สำนักบริหารกลาง กรมศิลปากร ๗. คณะผู้แทนไทย                     นางสาวนัยนา แย้มสาขา           ผู้อำนวยการสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ                    นางสาวกรพินธุ์ ทวีตา              นักจดหมายเหตุชำนาญการพิเศษ ๘. กิจกรรม                    - การประชุม UNESCO Memory of the World Regional Committee for Asia and the Pacific (MOWCAP) General Meeting ครั้งที่ ๗                    - การสัมมนาทางวิชาการ Recommendation Concerning the Preservation of, and Access to, Documentary Heritage Including in Digital Form                    - การศึกษาดูงานทางด้านวัฒนธรรม   ๙. สรุปสาระของกิจกรรม                    ๙.๑ การประชุม UNESCO Memory of the World Regional Committee for Asia and the Pacific (MOWCAP) General Meeting ครั้งที่ ๗                    สาระของการประชุม ได้แก่ รายงานของเลขาธิการสำนักงาน (Bureau) คณะกรรมการแห่งภูมิภาคว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ได้รายงานผลการดำเนินงานระหว่างปี ๒๐๑๒ – ๒๐๑๔ ในส่วนเรื่องงบประมาณก็ไม่ได้รับงบประมาณอย่างเป็นทางการและไม่มีบัญชีการเงินของตนเอง ซึ่งงบประมาณแต่ละรายการเบิกจาก UNESCO Bangkok Office ส่วนของเว็บไซต์อยู่กับหน่วยดูแล (host) Udamain ที่ฮ่องกง เอกสารรายงานของประเทศ (Country Report) สำนักงานฯ ได้รับรายงานของประเทศออสเตรเลีย กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเกาหลี ซามัว ไทย ติมอร์เลสเต ตูวาลู อุสเบกิสถาน วานูอาตู และเวียดนาม สำนักงานของแผนงานมรดกความทรงจำแห่งโลก แต่เดิมอยู่ที่สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ ต่อไปนี้จะไปตั้งอยู่ที่ Asian Culture Center (ACC) ที่เมืองกวางจู (Gwanggiu)  สาธารณรัฐเกาหลี บัดนี้ได้มีการลงนามในข้อตกลงแล้ว                    การเสนอรายงานของประเทศสมาชิก จำนวน ๑๐ ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐสังคมนิยมเกาหลี ประเทศออสเตรเลีย ประเทศนิวซีแลนด์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประเทศกัมพูชา ประเทศซามัว ประเทศทาจิกิสถาน ประเทศคาซาลสถาน ประเทศติมอร์เลสเต ประเทศตูวาลู และประเทศไทย โดย ดร.ประจักษ์ วัฒนานุสิทธิ์ ผู้แทนประเทศไทย รายงานผลการดำเนินงาน ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกฯ ของประเทศไทย ๒๐๑๔ – ๒๐๑๕ โดยกล่าวถึงองค์ประกอบ โครงสร้างของคณะกรรมการฯ จุดประสงค์ ที่มาของงบประมาณคือจากกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงวัฒนธรรม การดำเนินงานในรอบสองปีที่ผ่านมา เช่น การประชุมประจำเดือน การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ ได้จัดการประชุมสัมมนา คุณค่าของภาพยนตร์จดหมายเหตุ ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘ การประชุมเชิงปฏิบัติการของคณะอนุกรรมการจัดทำทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งชาติและพิธีขึ้นทะเบียนเอกสารมรดกความทรงจำแห่งชาติ ในวันที่ ๒๑ – ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๘ ที่โรงแรมบียอนสวีท เขตบางพลัด กรุงเทพฯ                    การขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี ๒๐๑๖ ประเทศสมาชิกต่างๆ นำเสนอเอกสารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก ๑๖ รายการ ที่ประชุมฯ พิจารณาแล้วและตัดสินขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ๑๔ รายการ ประกอบด้วย Archives of Confucius’ Family of the Ming and Qing Dynasties : Qufu Committee on Cultural Heritage, The Archives of Suzhou silk Samples of Modern and Contemporary Times : Suzhou Industrial and Commercial Archives Management Center, Archives and Manuscripts of Macao Kong Tac Lam Temple (1645 – 1980) : the Macau documentation and information society, Chapas Sinica, Mo ye Do Bo Tong Ji : Comprehensive Illustrated Manual of Martial Arts : National Library of DPR Korea, Arafat-al-Ashiqinva Arasulal-Arifin : Malek National Library and Museum Institution, Suiheisha and Hyeongpyengsa (records of cross border solidarity between the minorities that have been discriminated against), Kitab Ilmu Bedil : Book of Traditional Weaponry : Institute of Language and Literature, Tibetan Dictionary of Definitions and Term entitled as The Space for Attaining Wisdom, King Bayinnong Bell Inscription : Department of Archeology and National Museum, Pyeon-aek : Hanging Wooden Plaque in Korea : Advanced Centre for Korean Studies, Turkestan Collection of the National Library of Uzbekstan, PhucGiang School Woodblocks (18th – 20th Centuries) : Hatinh Museum, Royal Literature on Hua Royal Architecture (1802 – 1945) : Hue Monuments Conservation Center-Thua Thien’s Hue People Committee                         ๙.๒ การสัมมนาทางวิชาการ Recommendation Concerning the Preservation of, and Access to, Documentary Heritage Including in Digital Form                    การจัดการให้ผู้ใช้เข้าถึงมรดกด้านเอกสารโดยสะดวก รวมทั้งในรูปแบบดิจิทัล ประเทศสมาชิกต่างตระหนักถึงความบอบบางของเอกสารมรดกโลก เนื่องจากเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติ ความขัดแย้ง/สงคราม และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ได้แสดงความเห็นให้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงในการดูแลรักษาเอกสารมรดกโลก โดยให้มีกฎหมาย นโยบาย และกลยุทธ์ที่เหมาะสม ทั้งนี้หลังจากการประชุมหลายครั้ง เช่น โปแลนด์ แคนาดา จนกระทั่งในที่สุดก็ได้รับการรับรองจากการประชุมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ (Intergovernmental meeting) ให้ประเทศสมาชิกริเริ่มตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการรับเครื่องมือใหม่นี้ไปใช้ เผยแพร่อย่างกว้างขวางในหลายประเทศ ดำเนินการตามรูปแบบ นโยบาย กลยุทธ์ กฎหมาย ทำให้บังเกิดผลและประเมินทุก ๔ ปี เนื้อหาของ Recommendation ประกอบด้วย ความเบื้องต้น คำจำกัดความ ตัวตนของเอกสาร การอนุรักษ์เอกสารมรดก การดำเนินให้ผู้ใช้เข้าถึงเอกสารมรดกโลก มาตรการด้านนโยบาย และความร่วมมือในระดับชาติและนานาชาติ                    ๙.๓ การศึกษาดูงานทางด้านวัฒนธรรม                          ๙.๓.๑ ป้อมค่ายพระราชวังแห่งเว้ (The Citadel) ภายใต้ราชวงศ์เหวียนหรือเหงียน (Nguyen) 1802-1945 ซึ่งเป็นราชวงศ์เก่าแก่วงศ์สุดท้ายที่ปกครองของเวียดนาม สถานที่แห่งนี้ได้พัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางของประเทศ มีสถาปัตยกรรมโดเด่น เช่นป้อมค่าพระราชวังแห่งเว้ (The Citadel) วัด และสุสาน พระราชวังนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำหอม มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กำแพงคูน้ำล้อมรอบภายในเขียวขจี เคยมีอาคารพระราชวังต่างๆ จำนวนมาก แต่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาขณะนี้ได้สร้างใหม่ขึ้นทดแทนอาคารเดิมแล้วหลายหลัง และกำลังดำเนินการอยู่หลายหลัง ปลุกให้พระราชวังแห่งนี้กลับมามีชีวิตชีวาดังเดิม ที่เห็นเด่นชัดคือประตูโหง่มอน ห้องพระโรง หอราชานุสรณ์ แสดงว่าได้รับอิทธิพลจีนมาก สมกับที่เคยมีอำมาตย์เป็นชาวจีนมาก (Mandarin) ผู้สนใจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะ และสถาปัตยกรรมเวียดนามจึงไม่ควรพลาด                         ๙.๓.๒ สุสานพระเจ้ามินม่าง (Mausoleum of king Minh Mang) เป็นสุสานที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ่ ออกแบบดี เป็นอุทยานที่น่ารื่นรมย์ อาคารสุสานเชื่อมต่อกันเข้าไปเป็นลำดับมีบ่อน้ำล้อมรอบ ที่ฝังพระศพจะอยู่ด้านในสุด ได้รับอิทธิพลจีนมาก                        ๙.๓.๓ สุสานพระเจ้าไค่ดิ๊น (Mousoleum of King khai Dinh) พระเจ้าหรือจักรพรรดิไค่ดิ๊นเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียดนามโบราณก่อนที่ฝรั่งเศสจะเข้าไปปกครอง การออกแบบสุสาน วัสดุที่ใช้ก็ได้รับจากฝรั่งเศสเป็นอันมาก เลือกสถานที่บนไหล่เขาได้อย่างสวยงาม บรรยากาศดี รูปแบบศิลปะผสมผสานเก่าใหม่                        ๙.๓.๔ เจดีย์วัดเทียนมู่ (Thien Mu) เมืองเว้มีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองที่มีประชากรนับถือพระพุทธศาสนา (มหายาน) มากที่สุดในเวียดนาม เจดีย์วัดเทียนมู่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญมากของประเทศนี้ และในช่วงที่มีการประชุมตรงกับเทศกาลวันวิสาขบูชา วัดทุกแห่ง รวมทั้งสถานที่สำคัญ แม้แต่กลางลำน้ำหอมพระราชวังก็ประดับด้วยสัญลักษณ์ดอกบัวชมพูเจ็ดดอก สวยงามและมีความหมายดีเยี่ยม   ๑๐. ข้อเสนอแนะจากการจัดกิจกรรม                     ๑๐.๑ นักจดหมายเหตุ และบุคลากรของสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ควรได้รับการสนับสนุนให้มีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถสื่อสาร แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมในระดับสากลได้                     ๑๐.๒ ควรได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมด้านงบประมาณเพื่อเปิดโอกาสให้นักจดหมายเหตุรุ่นใหม่ได้ร่วมเดินทางไปฝึกประสบการณ์ตรงในต่างประเทศ เพื่อพัฒนาบุคลากรสายงานจดหมายเหตุให้มีความรู้และประสบการณ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมในต่างประเทศ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้มีความก้าวหน้า                                                                                   นางสาวกรพินธุ์ ทวีตา ผู้สรุปรายงานการเดินทางไปราชการ


เลขทะเบียน : นพ.บ.5/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  46 หน้า  ; 5 x 55 ซ.ม. : รักทึบ-ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากบอกชื่อคัมภีร์ 1 แผ่นชื่อชุด : มัดที่ 3 (20-32) ผูก 2หัวเรื่อง : ศัพท์วินัยกิจ--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม



เลขทะเบียน : นพ.บ.50/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  56 หน้า ; 4.6 x 53.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 31 (326-330) ผูก 4หัวเรื่อง :  แปดหมื่นสี่พันขันธ์ --เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ด้ามมีดรูปพระคเณศ วัสดุ สำริด ศิลปะสมัยอยุธยา พุทธศตวรรษที่ 23 พบที่ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มัชฌิมาวาส           พระคเณศองค์นี้ เป็นพระคเณศขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นพระคเณศ 2 กร (มือ) ประทับนั่งชันพระชานุ (เข่า) ทั้งสองข้าง พระบาท (เท้า) ขวาวางทับพระบาท (เท้า) ซ้าย ประทับนั่งบนฐานทรงกลม ด้านล่างฐานมีรู สำหรับเสียบด้ามมีด พระหัตถ์ (มือ) ขวาถือบ่วงบาศแนบพระอุระ (อก) โดยบ่วงบาศ หรือเชือกบ่วงมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบว่า เป็นเสมือนโลกียวิสัยหรือตัณหาราคะในทางโลกที่ถูกควบคุมโดยพระคเณศ เมื่อบ่วงบาศอยู่ในมือของพระองค์ และยังมีการตีความกันอีกว่า บ่วงบาศ หรือเชือกบ่วงเป็นสัญลักษณ์ของพลังที่รัดรึงคนดีเอาไว้กับพระเจ้า หรือคล้องคนดีพาไปสู่การเข้าไปรวมกับพระเจ้า พระหัตถ์ (มือ) ซ้าย ถือขอสับช้าง (อังคุกะ) ด้ามยาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องมือที่ใช้ในการถากถาง และสยบอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางทั้งปวง พระเศียร (ศีรษะ) คาดเครื่องประดับ สวมทองพระกร (กำไลข้อมือ) กำไลใต้ศอก และพาหุรัด (กำไลต้นแขน) สวมสังวาลย์ 2 เส้นไขว้กัน ด้านหลังมีตาบหลังทำเป็นลายประจำยาม ทรงพระภูษา (ผ้านุ่ง) ยาวเกือบถึงข้อพระบาท (ข้อเท้า) 3          พระคเณศองค์นี้เป็นพระคเณศในลักษณะของ “บรมครูช้างผู้ยิ่งใหญ่” ตามคติความเชื่อที่ยึดถือสืบต่อกันมาของผู้มีอาชีพเกี่ยวกับช้าง เชื่อกันว่าประติมากรรมรูปเคารพพระคเณศเป็นของสำคัญของผู้มีหน้าที่เป็นคชบาล ผู้มีตำแหน่งเป็นครูอาจารย์ในทางคชกรรมต้องมีพระคเณศ ซึ่งแกะด้วยงาช้างตระกูลพิฆเนศมหาไพฑูรย์ไว้บูชา ในขณะที่ไปแทรกโพน (การจับช้างกลางแปลง) ช้างเถื่อนก็นำเอาติดตัวไปเป็นเครื่องราง บางคนใช้งาช้างตระกูลพิฆเนศมหาไพฑูรย์แกะเป็น “พระคเณศ” ที่ด้ามมีด ไว้สำหรับใช้เป็นอาวุธประจำตัวในขณะไปทำการคล้องช้างก็มี จากลักษณะของประติมากรรม เครื่องแต่งกาย ลักษณะการใช้งาน และคติการสร้างทำให้สันนิษฐานได้ว่า พระคเณศองค์นี้น่าจะเป็นส่วนด้ามมีดหมอของหมอช้าง หรือด้ามมีดชะน็อก ซึ่งใช้ในการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับช้าง           การพบประติมากรรมพระคเณศองค์นี้ในบริเวณคาบสมุทรสทิงพระ อาจเนื่องมาจากชุมชนบริเวณคาบสมุทรสทิงพระ และชุมชนโดยรอบทะเลสาบสงขลา เป็นชุมชนที่รับอิทธิพลคติความเชื่อ ศาสนา และศิลปวัฒนธรรมมาจากอินเดียโดยตรง ดังจะเห็นได้จากร่องรอยหลักฐานอันเนื่องในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูทั้งลัทธิไศวนิกายและไวษณพนิกาย อีกทั้งตามตำนานนางเลือดขาวเชื่อกันว่า ชุมชนบริเวณคาบสมุทรสทิงพระ และชุมชนโดยรอบทะเลสาบสงขลาเป็นชุมชนเลี้ยงช้างมาก่อนที่จะขยายตัวเป็นชุมชนเมืองที่มีขนาดใหญ่ และช้างยังเป็นสัตว์สำคัญในการค้าข้ามสมุทรอีกด้วย-------------------------------------------------------- เรียบเรียง : นางสาวจันทร์สุดา ทองขุนแก้ว นักวิชาการวัฒนธรรม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ถ่ายภาพ : นางสาวธีรนาฎ มีนุ่น ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา อ้างอิง : 1. กรมศิลปากร. สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ. โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา. กรุงเทพฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์, 2549. 2. กรมศิลปากร. สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ. พระคเณศ เทพแห่งศิลปากร. กรุงเทพฯ: สมาพันธ์, 2554. 3. จิรัสสา คชาชีวะ. พระพิฆเนศวร์ : คติความเชื่อและรูปแบบของพระพิฆเนศวร์ที่พบในประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์, 2547. 4. ผาสุก อินทราวุธ. “พระคเณศ: ที่พบในภาคใต้.” สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ เล่ม 10 (2542): 4863-4876. 5. พิริยะ ไกรฤกษ์. ศิลปทักษิณก่อนพุทธศตวรรษที่ 19. กรุงเทพฯ: อมรินทร์การพิมพ์, 2523. 6. ศรีศักร วัลลิโภดม. “เมืองพัทลุง” ใน อู่อารยธรรมแหลมทองคาบสมุทรไทย, 217-242. กรุงเทพฯ: มติชน, 2548. 7. ศรีสมร ศรีเบญจพลางกูร. ประวัติศาสตร์เมืองสงขลา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฏสงขลา, 2544. 8. สันติ เล็กสุขุม. ประวัติศาสตร์ศิลปะไทย (ฉบับย่อ): การเริ่มต้นและการสืบเนื่องงานช่างในศาสนา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, 2548. 9. อายัณโฆษณ์ [นามแฝง]. “เรื่องพระคเณศที่เกี่ยวกับช้าง” ใน เทพนิยายสงเคราะห์เรื่องเมขลา-รามสูรและพระคเณศ, 70-75. เสถียรโกเศศ [นามแฝง] และนาคะประทีป [นามแฝง], บรรณาธิการ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2555. 10. อุไร จันทร์เจ้า. "ร่องรอยหลักฐานของศาสนาพราหมณ์ในชุมชนโบราณบนคาบสมุทรสทิงพระ ก่อนพุทธศตวรรษที่ 19." วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2560. ที่มาของข้อมูล : https://www.facebook.com/songkhlanationalmuseum/posts/3040984572632124



ชื่อผู้แต่ง           มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อเรื่อง             ยุทธภัยและความเป็นชาติโดยแท้จริง ครั้งที่พิมพ์        ๓ พ.ศ. ๒๕๑๗ สถานที่พิมพ์     กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์        ห.จ.ก.อรุณการพิมพ์ ปีที่พิมพ์            พ.ศ. ๒๕๑๗              จำนวนหน้า         ๑๘ หน้า คำค้น               ยุทธภัยและความเป็นชาติโดยแท้จริง หมายเหตุ  พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางฉลวย  สมบูรณ์                 หนังสือ ยุทธภัยและความเป็นชาติโดยแท้จริง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น โดยทรงใช้พระนามแฝงว่า อัศวพาหุ เป็นบทความร้อยแก้วสำหรับตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทย ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๗-๒๔๖๑ ซึ่งอยู่ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๑


1. เวทย์มนต์คาถา อักษรขอม ภาษาบาลี เช่น คาถาเสกปูนคาดคอ, ประสานกระดูก ฯลฯ 2. เวทย์มนต์คาถา เช่น เสกน้ำมันทาตัว, เสกน้ำล้างหน้า, คาถานมัสการพระพุทธเจ้า ฯลฯ 3. ตำรายาแก้ลมทรางกำเนิด


ผู้แต่ง : ชวลิต สุริยจันทร์ ปีที่พิมพ์ : 2534 สถานที่พิมพ์ : ลำพูน สำนักพิมพ์ : กุสุมานานาภัณฑ์


black ribbon.