ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 41,347 รายการ
กรมศิลปากรขอเชิญชวนเด็กและเยาวชน ร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๖ ในวันเสาร์ที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๖ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติทั่วประเทศ เด็กๆ ที่สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมกิจกรรมในหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรใกล้บ้าน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การจัดกิจกรรมในส่วนกลาง มีดังนี้
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมบนเวที ดนตรีประกอบการเล่านิทาน ,การแสดงของเด็กและเยาวชน กิจกรรมด้านวิชาการ กิจกรรมตอบปัญหา, กิจกรรมแรลลี่, กิจกรรมเปิดโลกกว้างสู่อาเซียน กิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชน ระบายสี, งานประดิษฐ์จากดินฟีโม่, ชวนน้องปั้นดิน กิจกรรมสันทนาการ โยนห่วงยาง, ปิดลูกโปง, เก้าอี้ดนตรี และกิจกรรมต่างฯ อีกมากมาย สำหรับเด็กๆที่เข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับของขวัญของรางวัลทุกคน
- สำนักการสังคีตจัดการแสดงรายการศิลปากรคอนเสิร์ตรอบพิเศษ ชุด “Children’s Day Concert” อำนวยเพลงโดย นายสถาพร นิยมทอง การแสดงจะเป็นการบรรเลงและการขับร้องจากศิลปินกรมศิลปากรร่วมกับสถานศึกษาและสถาบันการดนตรีที่มีชื่อเสียง อาทิ โรงเรียนหลักสูตรการดนตรีกรุงเทพมหานคร โรงเรียนดนตรีวีมุส โรงเรียนราชินี โรงเรียนปราโมชวิทยา รามอินทรา โรงเรียนโพธิสารพิทยากร ตลอดจนเครือข่ายศิลปินจากสถานศึกษา เข้าร่วมฟังได้โดยไม่เก็บค่าบัตรเข้าชม
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธีกิจกรรมประกอบด้วย การบรรยายเกี่ยวกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และตอบคำถามรับของรางวัล การตอบปัญหาเกี่ยวกับวันเด็ก เรื่องทั่วไป เรื่องอาเซียน การเล่นเกมส์เก้าอี้ดนตรี การต่อจิกซอว์ และกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ เช่น การแข่งร้องเพลง การแข่งเต้น
- สำนักหอสมุดแห่งชาติ กิจกรรมประกอบด้วย การประกวดคัดลายมือ การวาดภาพระบายสี เล่นเกมและกิจกรรมต่างๆ สร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว ลุ้นรับของรางวัลมากมาย พร้อมทั้งบริการอาหารเครื่องดื่มและรับของรางวัล ฟรีตลอดงาน
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป จัดร่วมกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ กิจกรรมประกอบด้วย การแข่งขันประกวดวาดภาพระบายสี, ซุ้มกิจกรรมศิลปะ โดยคณะจารย์ นักศึกษาจากสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ศิษย์เก่าสถาบันบัณทิตพัฒนศิลป์, การแข่งขันแรลลี่ตอบปัญหาชิงรางวัล ด้านศิลปะ กิจกรรมสันทนาการ เช่น ดนตรี ประกวดร้องเพลง เกม ฯลฯ โดยความร่วมมือกับสำนักศิลปกรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม, ฉาย DVDแนะนำ และนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ให้แก่เยาวชนและผู้ปกครองที่เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งบริการอาหารกลางวันและเครื่องดื่ม
- หอสมุดแห่งชาติเขตลาดกระบัง เฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงรำอวยพร การบรรเลงเพลง จากวงดนตรี “วีรพล” การแข่งขันตอบปัญหา การแสดงบนเวที ประกวดร้องเพลง การแข่งขันวาดภาพ การแข่งขันเรียงความ เกมการละเล่น พร้อมแจกของขวัญของรางวัลมากมาย
กิจกรรมในส่วนภูมิภาค อาทิ
- อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย กิจกรรมประกอบด้วย การละเล่น เกมต่างๆ การตอบปัญหา การประกวดร้องเพลง และแจกของรางวัล
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี กิจกรรมประกอบด้วย การประกวดวาดภาพ ระบายสี การปั้นตุ๊กตา การประกวดร้องเพลงและการแสดงออกบนเวที ฯลฯ
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงบนเวทีโดยเยาวชนจากโรงเรียนหรือชุมชนต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ การละเล่นเกมต่างๆ บนเวที ฉายภาพยนตร์ตลอดทั้งวัน และจับฉลากชิงรางวัล
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น กิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมสันทนาการ การแสดงบนเวทีของกลุ่มเด็กนักเรียน การแสดงความสามารถ เล่นเกมตอบปัญหาชิงรางวัล รวมทั้งแจกของรางวัล อาหารและเครื่องดื่ม
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย สุพรรณบุรี กิจกรรมประกอบด้วย การแนะนำพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชาวนาไทย ด้วยวีดิทัศน์ การบรรยายความรู้เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ของพิพิธภัณฑ์/ศัพท์น่ารู้ เกมตอบคำถามและเกมที่เกี่ยวข้องกับพิพิธภัณฑ์/ข้าวและการทำนา
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ จัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนสุขสันต์ พิพิธภัณฑ์หรรษา” กิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ให้เยาวชนได้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ และเรียนรู้การปั้นตุ๊กตาพื้นบ้านล้านนาจากครูภูมิปัญญาล้านนา ในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๕ ณ โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ภายในจังหวัด สุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง
ฯลฯ
นอกจากนี้กรมศิลปากรยังเปิดให้เด็กๆ เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชมอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สถานที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติทั่วประเทศ
ติดต่อ : หน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรใกล้บ้าน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
กรมศิลปากรขอเชิญชวนเด็กและเยาวชน ร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๖ ในวันเสาร์ที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๖ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติทั่วประเทศ เด็กๆ ที่สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมกิจกรรมในหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรใกล้บ้าน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การจัดกิจกรรมในส่วนกลาง มีดังนี้
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมบนเวที ดนตรีประกอบการเล่านิทาน ,การแสดงของเด็กและเยาวชน กิจกรรมด้านวิชาการ กิจกรรมตอบปัญหา, กิจกรรมแรลลี่, กิจกรรมเปิดโลกกว้างสู่อาเซียน กิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชน ระบายสี, งานประดิษฐ์จากดินฟีโม่, ชวนน้องปั้นดิน กิจกรรมสันทนาการ โยนห่วงยาง, ปิดลูกโปง, เก้าอี้ดนตรี และกิจกรรมต่างฯ อีกมากมาย สำหรับเด็กๆที่เข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับของขวัญของรางวัลทุกคน
- สำนักการสังคีตจัดการแสดงรายการศิลปากรคอนเสิร์ตรอบพิเศษ ชุด “Children’s Day Concert” อำนวยเพลงโดย นายสถาพร นิยมทอง การแสดงจะเป็นการบรรเลงและการขับร้องจากศิลปินกรมศิลปากรร่วมกับสถานศึกษาและสถาบันการดนตรีที่มีชื่อเสียง อาทิ โรงเรียนหลักสูตรการดนตรีกรุงเทพมหานคร โรงเรียนดนตรีวีมุส โรงเรียนราชินี โรงเรียนปราโมชวิทยา รามอินทรา โรงเรียนโพธิสารพิทยากร ตลอดจนเครือข่ายศิลปินจากสถานศึกษา เข้าร่วมฟังได้โดยไม่เก็บค่าบัตรเข้าชม
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธีกิจกรรมประกอบด้วย การบรรยายเกี่ยวกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และตอบคำถามรับของรางวัล การตอบปัญหาเกี่ยวกับวันเด็ก เรื่องทั่วไป เรื่องอาเซียน การเล่นเกมส์เก้าอี้ดนตรี การต่อจิกซอว์ และกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ เช่น การแข่งร้องเพลง การแข่งเต้น
- สำนักหอสมุดแห่งชาติ กิจกรรมประกอบด้วย การประกวดคัดลายมือ การวาดภาพระบายสี เล่นเกมและกิจกรรมต่างๆ สร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว ลุ้นรับของรางวัลมากมาย พร้อมทั้งบริการอาหารเครื่องดื่มและรับของรางวัล ฟรีตลอดงาน
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป จัดร่วมกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ กิจกรรมประกอบด้วย การแข่งขันประกวดวาดภาพระบายสี, ซุ้มกิจกรรมศิลปะ โดยคณะจารย์ นักศึกษาจากสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ศิษย์เก่าสถาบันบัณทิตพัฒนศิลป์, การแข่งขันแรลลี่ตอบปัญหาชิงรางวัล ด้านศิลปะ กิจกรรมสันทนาการ เช่น ดนตรี ประกวดร้องเพลง เกม ฯลฯ โดยความร่วมมือกับสำนักศิลปกรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม, ฉาย DVDแนะนำ และนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ให้แก่เยาวชนและผู้ปกครองที่เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งบริการอาหารกลางวันและเครื่องดื่ม
- หอสมุดแห่งชาติเขตลาดกระบัง เฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงรำอวยพร การบรรเลงเพลง จากวงดนตรี “วีรพล” การแข่งขันตอบปัญหา การแสดงบนเวที ประกวดร้องเพลง การแข่งขันวาดภาพ การแข่งขันเรียงความ เกมการละเล่น พร้อมแจกของขวัญของรางวัลมากมาย กิจกรรมในส่วนภูมิภาค อาทิ
- อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย กิจกรรมประกอบด้วย การละเล่น เกมต่างๆ การตอบปัญหา การประกวดร้องเพลง และแจกของรางวัล พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี กิจกรรมประกอบด้วย การประกวดวาดภาพ ระบายสี การปั้นตุ๊กตา การประกวดร้องเพลงและการแสดงออกบนเวที ฯลฯ
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงบนเวทีโดยเยาวชนจากโรงเรียนหรือชุมชนต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ การละเล่นเกมต่างๆ บนเวที ฉายภาพยนตร์ตลอดทั้งวัน และจับฉลากชิงรางวัล
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น กิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมสันทนาการ การแสดงบนเวทีของกลุ่มเด็กนักเรียน การแสดงความสามารถ เล่นเกมตอบปัญหาชิงรางวัล รวมทั้งแจกของรางวัล อาหารและเครื่องดื่ม
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย สุพรรณบุรี กิจกรรมประกอบด้วย การแนะนำพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชาวนาไทย ด้วยวีดิทัศน์ การบรรยายความรู้เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ของพิพิธภัณฑ์/ศัพท์น่ารู้ เกมตอบคำถามและเกมที่เกี่ยวข้องกับพิพิธภัณฑ์/ข้าวและการทำนา
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ จัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนสุขสันต์ พิพิธภัณฑ์หรรษา” กิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ให้เยาวชนได้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ และเรียนรู้การปั้นตุ๊กตาพื้นบ้านล้านนาจากครูภูมิปัญญาล้านนา ในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๕ ณ โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ภายในจังหวัด สุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ฯลฯ
นอกจากนี้กรมศิลปากรยังเปิดให้เด็กๆ เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชมอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สถานที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติทั่วประเทศ
ติดต่อ หน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรใกล้บ้าน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
**บรรณานุกรม***
กรมศิลปากร
ทวีปัญญา เล่ม 6 ทวีปัญญา เล่ม 6 จัดพิมพ์ในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงบำเพ็ญพระกุศล เนื่องในวันคล้ายวัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระอุโบสถวัดนิเวศวิหาร วันที่ 26 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2527 ครบ 59 ปี
กรุงเทพฯ
โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย >2527
กลองมโหระทึก
เลขทะเบียน ๐๙/๓๗/๒๕๔๐
สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคสำริด
อายุประมาณ ๓,๕๐๐ – ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว
สำริด ขนาด สูง ๔๐ เซนติเมตร กว้าง ๗๒ เซนติเมตร
พบในที่นาของนายหลั่น พรหมเสนา บ้านเลขที่ ๒๗๐ ตำบลปักธงชัยเหนือ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ห่างจากหมู่บ้านไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือระยะประมาณ ๓๐๐ เมตร ในขณะที่จ้างรถแทรกเตอร์ปรับพื้นที่นา โดยพบลึกลงไปจากผิวดิน ๗๐ เซนติเมตร
กลองมโหระทึกหล่อด้วยสำริด ประกอบด้วยทองแดง ดีบุก ตะกั่ว โดยกรรมวิธีแทนที่โลหะด้วยขี้ผึ้ง (Lost Wax or Cire Predue) ด้วยพิมพ์ตั้งแต่ ๒ ชิ้นขึ้นไป
ลวดลายหน้ากลอง ตรงกลางหน้ากลองมีลายดาวหรือดวงอาทิตย์ ๑๒ แฉก ระหว่างแฉกมีลายหางนกยูงคั่นล้อมรอบด้วยวงกลม ๑ วง แถวลายซี่หวี ลายบุคคลสวมเครื่องประดับศีรษะ ตกแต่งด้วยขนนก ลายนกกระสาบินทวนเข็มนาฬิกา ลายบุคคลสวมเครื่องประดับศีรษะตกแต่งด้วยขนนกนั่งในเรือ ซึ่งอาจมีความหมายถึง เรือส่งวิญญาณ
กลองมโหระทึกถูกพบในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย พม่า เวียดนาม ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น สันนิษฐานว่า กลองมโหระทึกมีการผลิตครั้งแรกในวัฒนธรรมดองซอน ประเทศเวียดนาม ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรม เช่น พิธีกรรมขอฝน พิธีกรรมในการฝังศพ หรือพิธีกรรมในการรักษาโรค เป็นต้น
Bronze Drum
Registration No. 09/37/2540
ca. 3,500 – 2,500 years ago.
Bronze, Height 40 cm. Width 72 cm.
Found in the area of Mr.Lan Phromsena at 270 Pak Thong Chai Nuea sub-district, Pak Thong Chai district, Nakhon Ratchasima province. Excavated at a depth of 70 cm. below the surface.
The bronze drum is made from copper, tin and lead using the lost wax casting or Cire Predue techniques. The center of the drumhead is in the form of a 12-pointed star or sun. Between the pointed stars is a peacock feather design surrounded by a circle. It also features a circular pattern, a comb, herons flying counter-clockwise and people wearing head ornaments decorated with feathers and sitting on boats, believed to be the boats used for sending the dead to the next life.
Bronze drums were used for ceremonies or burials. They were found in South East Asia in countries such as Thailand, Burma, Vietnam, Laos, Malaysia, Indonesia and the Philippines. However, it was assumed that bronze drums originated in the Dong Son culture, during the period of Vietnamese prehistory.
ศาลมณฑลราชบุรี ศาลจังหวัดราชบุรีหรือศาลแขวงราชบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนวิชิตสงคราม ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี สร้างขึ้นในร.ศ.๑๒๕ หรือพ.ศ.๒๔๔๙ ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๔๗๖ ได้มีการยกเลิกศาลมณฑลราชบุรี จัดตั้งเป็นศาลจังหวัดราชบุรี อาคารหลังนี้จึงเป็นที่ทำการศาลจังหวัดราชบุรี จนกระทั่งพ.ศ. ๒๕๐๐ มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศาลแขวงขึ้น ๑๗ ศาล ศาลแขวงราชบุรีจัดตั้งขึ้นโดยอาศัย “พระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเขตอำนาจและวันเปิดทำการของศาลแขวงในบางจังหวัด พ.ศ.๒๕๐๐ มาตรา ๑๕” ในจังหวัดราชบุรีมีศาลแขวง ๑ ศาล มีเขตอำนาจในอำเภอเมืองราชบุรี และเปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๐๐ เป็นต้นไป ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๕๑๗ ได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวง พ.ศ.๒๕๑๗ มาตรา ๑๕ ให้ศาลแขวงราชบุรี ในจังหวัดราชบุรีซึ่งมีเขตอำนาจในอำเภอเมืองราชบุรี มีเขตอำนาจในอำเภอจอมบึง อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอบางแพ อำเภอบ้านโป่ง อำเภอปากท่อ อำเภอโพธาราม และอำเภอวัดเพลงด้วย มีผลให้ศาลแขวงราชบุรีมีเขตอำนาจครอบคลุมทั่วทุกอำเภอในเขตปกครองจังหวัดราชบุรี เป็นที่ทำการศาลแขวงราชบุรีจวบจนถึงปัจจุบัน ประวัติของศาลก่อนมีการปฏิรูปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น แต่ละกรมต่างมีอำนาจทั้งด้านบริหารและตุลาการทำการชำระคดีความที่เกี่ยวข้องกับกิจการที่ตนเป็นผู้บริหาร ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความจำเป็นในการรวบรวมศาลที่อยู่ในกรมกองต่างๆให้เป็นหมวดหมู่สังกัดอยู่ในกระทรวงเดียวกัน จึงประกาศตั้งกระทรวงยุติธรรมขึ้น เมื่อปี ๒๔๓๔ (ร.ศ. ๑๑๐) ให้คดีทั้งปวงตามศาลกระทรวงกรมต่างๆ มารวมอยู่ในกระทรวงยุติธรรมที่ตั้งขึ้นใหม่ทั้งหมด หลังจากนั้นได้ขยายวิธีจัดราชการศาลระบบใหม่ออกไปยังหัวเมือง เริ่มด้วยการประกาศใช้ธรรมนูญศาลหัวเมือง ร.ศ.๑๑๔ (พ.ศ.๒๔๓๘) การปกครองหัวเมือง ในขณะนั้นแบ่งออกเป็นมณฑลโดยรวมหัวเมืองหลายๆหัวเมืองเข้าเป็นมณฑล การจัดศาลหัวเมืองจึงจัดให้สอดคล้องกับการปกครองมณฑล มณฑลราชบุรีเป็นมณฑลหนึ่ง ซึ่งมีการจัดตั้งศาลมณฑลราชบุรีขึ้นตามประกาศ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ร.ศ.๑๑๗ โดยโปรดเกล้าฯให้หลวงศรีสัตยารักษ์ กับมิสเตอร์สะเลคเชอร์ ข้าหลวงพิเศษประจำการ ๒ นาย หลวงนรเนตร บัญชากิจ ผู้พิพากษาศาลมณฑลราชบุรี เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) ข้าหลวงเทศาภิบาล และพระยาอมรินทร์ฤาไชย ผู้ว่าราชการเมืองราชบุรี เป็นผู้จัดการศาลมณฑลราชบุรี หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ ได้มีการปรับปรุงและจัดระเบียบศาลหลายครั้ง ศาลมณฑลซึ่งทำหน้าที่ศาลอุทธรณ์หัวเมืองจึงยกเลิกไปในพ.ศ.๒๔๗๖ มีการกำหนดให้จัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาคออกเป็นจังหวัดและอำเภอ โดยให้เลิกศาลมณฑลและให้มีฐานะเป็นศาลจังหวัดแทน ต่อมาพ.ศ. ๒๕๐๑ มีการสร้างอาคารศาลจังหวัดราชบุรีขึ้นใหม่ อาคารหลังนี้จึงได้ใช้เป็นที่ทำการศาลแขวงจนกระทั่งถึงปัจจุบัน อาคารศาลแขวงราชบุรี (ศาลจังหวัดราชบุรีเดิม) ตั้งอยู่ในที่ดินราชพัสดุ เป็นอาคารตึก ๒ ชั้นแบบโบราณ รูปทรงสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกรุ่นเก่า การก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดทำการได้เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ร.ศ.๑๒๗ ลักษณะอาคารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ๒ ชั้น โครงสร้างผนังรับน้ำหนัก สถาปัตยกรรมเรเนซองส์ รีไววัลผสมวิคตอเรียน โครงหลังคา บานประตูและหน้าต่างเป็นไม้ หลังคาทรงจั่วมีคอสองยกสูง มุงกระเบื้อง ด้านข้างมีปีกนกคลุม หน้าบันเป็นลวดลายปูนปั้นตราประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และอักษรคำว่า “ศาลรัตนโกสินทร์ศก ๑๒๕” ภายในมีบันไดเวียนขึ้นชั้นบนทั้งสองชั้น มีห้องโถงอยู่ตรงกลางและมีห้องปีกทั้งสองข้าง ลักษณะเด่นของอาคาร คือ หลังคาจั่วมีความชันมากกว่าหน้าจั่วแบบคลาสสิค หน้าต่างเป็นซุ้มโค้ง ประตูทางเข้าชั้นล่างและช่องหน้าต่างด้านหน้าเป็นช่องสี่เหลี่ยม ผนังภายในด้านบนมีแผงประดับเป็นไม้ฉลุลวดลายแบบเรือนขนมปังขิง เมื่อเปรียบเทียบภาพถ่ายอาคารศาลที่ถ่ายไว้ก่อนพ.ศ.๒๔๖๐ กับตัวอาคารปัจจุบันจะเห็นว่าด้านหน้าอาคาร โดยเฉพาะแผงปิดหน้าจั่วมีความแตกต่างกัน สันนิษฐานได้ว่าเป็นเพราะตัวอาคารได้รับความเสียหายหลายส่วนจากแรงระเบิดในสงครามมหาเอเชียบูรพา และตัวอาคารได้ทำการซ่อมใหญ่ถึง ๒ ครั้ง เมื่อปี ๒๔๖๐ และปี ๒๔๙๐ ปัจจุบันศาลแขวงราชบุรีซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใกล้ตลาดสนามหญ้าหลังนี้ ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๔ ตอนที่ ๓๙ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๒๐ แล้ว จึงถือเป็นอาคารทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกหลังหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการศึกษา เพื่อที่จะได้เข้าใจประวัติศาสตร์การสร้าง องค์ประกอบและรูปแบบ รวมถึงอิทธิพลต่างๆที่มีต่อการออกแบบอาคารศาลในยุคนั้นรวมทั้งควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เพื่อบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของชาติและจังหวัดราชบุรีให้ชนรุ่นหลังได้ทราบต่อไป ภาพ : ศาลแขวงราชบุรีในอดีตภาพ ศาลแขวงราชบุรีในปัจจุบันข้อมูลโดย นางสาวปราจิน เครือจันทร์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี อ้างอิง เธียร เจริญวัฒนา,การจัดการศาลยุติธรรมหัวเมือง,ที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดอาคารศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา,กรุงเทพฯ โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม,๒๕๒๒. เลอสม สถาปิตานนท์.สถานที่ราชการสมัยรัชกาลที่๑ ถึงรัชกาลที่ ๙.กรุงเทพฯ: ภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วิจิตร เจริญภักตร์,ประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมตะวันตก: คริสเตียนตอนต้นถึงสมัยใหม่.กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,๒๕๔๓. วัฒนา ชิตวารี,กระทรวงยุติธรรมและระบบการศาลไทย.มหาวิทยาลัยรามคำแหง,ศาลคดีเด็กและเยาวชน,๒๕๑๖. ประวัติและวิวัฒนาการศาลและกระทรวงยุติธรรม,หนังสือที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปีกระทรงยุติธรรม ฉบับภาษาไทย (กรุงเทพฯ:เพอเฟคท์ กราฟฟิค กรุ๊ป),๒๕๓๕.
"Blockchain for Government Services" การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับภาครัฐ จัดทำโดย สำนักงานพัฒนารัฐบำลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)เทคโนโลยี Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโลกในยุคดิจิทัล ซึ่งได้รับความสนใจและทำาการศึกษากันอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากเทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามาปฏิวัติโลกธุรกิจ และแวดวงการเงินการธนาคารแล้ว ยังมีบทบาทในการยกระดับการบริหารงานภาครัฐเพื่อเข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) รวมถึงการเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชาชนไปสู่ความสะดวกสบายมากขึ้นเช่นเดียวกับอิทธิพลของโลกออนไลน์ในขณะนี้ ดังนั้นนักวางแผน นักกลยุทธ์ ตลอดจนผู้กำหนดนโยบายภาครัฐ จึงควรตระหนักถึงอิทธิพล และผลกระทบของเทคโนโลยี Blockchainที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อโอกาสและความท้าทายในอนาคตที่จะทำให้ประเทศไทยมีความได้เปรียบ เมื่อเทคโนโลยี Blockchain ถูกนำมาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ
หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลีหัวเรื่อง พุทธศาสนา บทสวดมนต์ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 18 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 53.5 ซม.บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
รายงานการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
1.ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว : กิจกรรมประสานงานเพื่อจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยดำเนินการแลกเปลี่ยนวิทยาการทางโบราณคดี โบราณสถาน วัฒนธรรมและพิพิธภัณฑสถาน
3.กำหนดเวลา
วันที่ 2-6 พฤษภาคม พ.ศ.2559
4.สถานที่
กรมมรดก และ หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
5.หน่วยงานผู้จัด
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ประเทศไทย และกรมมรดก กระทรวงแถลงข่าว การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
6.หน่วยงานสนับสนุน
สถานเอกอัครราชฑูตแห่งราชอาณาจักรไทย ประจำนครหลวงเวียงจันทน์
7.กิจกรรม
ประชุมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ประเทศไทย และกรมมรดก(โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่จาก กอง/แผนก ที่เกี่ยวข้องกับงานพิพิธภัณฑ์) กระทรวงแถลงข่าว การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการด้านพิพิธภัณฑสถานทั้งในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
8.คณะผู้แทนไทย
8.1 นางอมรา ศรีสุชาติ นักโบราณคดีทรงคุณวุฒิ
8.2 นางสาวพัชรินทร์ ศุขประมูล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยพิพิธภัณฑ์
8.3 นายทศพร ศรีสมาน ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ
8.4 นายชินณวุฒิ วิลยาลัย นักโบราณคดีชำนาญการพิเศษ
8.5 นางสาวโสภิต ปัญญาขัน นักวิทยาศาสตร์ด้านการอนุรักษ์ชำนาญการ
8.6 นางชูศรี เปรมสระน้อย หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติร้อยเอ็ด
8.7 นางสาวกนกวลี สุริยธรรม ภัณฑารักษ์ชำนาญการ
8.8 นางสาวเชาวนี เหล็กกล้า ภัณฑารักษ์ชำนาญการ
9.สรุปสาระของกิจกรรม
9.1 ประชุมร่วมเพื่อพิจารณาจัดทำ ร่าง แผนปฏิบัติงานด้านพิพิธภัณฑสถาน
คณะผู้แทนของกรมศิลปากรเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของกรมมรดก สปป.ลาว คือ ท่านเวียงแก้ว สุกสะหวัดดี รองอธิบดีกรมมรดก, ท่านทองลิด หลวงโคด ผู้อำนวยการกองโบราณวิทยา, ท่านพอนพัน ผู้อำนวยการห้องบริหารงาน, ท่านนางเพ็ดมาลัยวัน ผู้อำนวยการหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ และ เจ้าหน้าที่หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ อีกจำนวน 10 ท่าน ณ ห้องประชุม หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ ทั้งสองฝ่ายร่วมกันเสนอความคิดเห็น พิจารณาแนวทางในการปฏิบัติงานด้านพิพิธภัณฑ์สถานให้สอดคล้องตรงกันทั้งสองฝ่าย
9.2 ร่าง แผนปฏิบัติงานด้านพิพิธภัณฑสถาน
คณะผู้แทนของกรมศิลปากรและเจ้าหน้าที่ของกรมมรดก ร่วมกันพิจารณาแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติงานด้านพิพิธภัณฑ์สถาน สรุป ดังนี้
- แผนงานหลัก มี 3 แผน คือ
แผนการศึกษาวิจัย เรื่อง พุทธศิลป์
แผนงานอนุรักษ์ ปกป้องและคุ้มครองมรดก(National Single Window - NSW)
แผนการพัฒนาบุคลากร(แลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะและประสบการณ์เกี่ยวกับ
พิพิธภัณฑวิทยา)
- ปฏิบัติงานใน สปป.ลาว ในพื้นที่ 3 ส่วน คือ ภาคกลาง ภาคเหนือ และ ภาคใต้ ที่มีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่
- ปฏิบัติงานในประเทศไทย ในพื้นที่ติดต่อ สปป.ลาว และ ฝั่งแม่น้ำโขง
ตั้งแต่จังหวัดเชียงราย-น่าน-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-เลย-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม-มุกดาหาร-อุบลราชธานี รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ที่ต่อเนื่องและมีศักยภาพทางวิชาการสำหรับการปฏิบัติงาน
และปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 ส่วน คือ ภาคกลาง ภาคเหนือ และ ภาคใต้
- ระยะเวลา 5 ปี
- ปีที่ 1 เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูลและจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านพิพิธภัณฑสถานร่วมกันในพื้นที่ภาคกลางของ สปป.ลาว และ พื้นที่ในจังหวัดเลย-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนมของประเทศไทย
โดยคณะทำงานของทั้งสองฝ่าย(ที่จะตั้งขึ้นหลังการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ)
จะร่วมกันพิจารณาความรู้และข้อมูลของพื้นที่ศึกษาและจากนั้นจึงร่วมกันจัดทำมาตรฐานในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำสู่วิธีปฏิบัติงานจริงต่อไป รวมทั้งจัดฝึกอบรมเรื่องพิพิธภัณฑวิทยาเบื้องต้น(Fundermental academic museology) และNational Single Window(NSW) ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารงาน
- ปีที่ 2 เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูลและจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านพิพิธภัณฑสถานร่วมกันในพื้นที่ภาคเหนือของ สปป.ลาว และ พื้นที่ในจังหวัดเชียงราย-น่าน-อุตรดิตถ์-พิษณุโลกของประเทศไทย
โดยคณะทำงานของทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันทบทวนมาตรฐานในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำสู่การปรับปรุงวิธีปฏิบัติงานจริงต่อไป รวมทั้งจัดฝึกอบรมเรื่องพิพิธภัณฑวิทยาระดับกลาง(Intermidiate academic museology) ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารงาน
- ปีที่ 3 เป็นการปฏิบัติงานตามมาตรฐานด้านพิพิธภัณฑสถานร่วมกันในพื้นที่ภาคใต้ของ สปป.ลาว และ พื้นที่ในจังหวัดมุกดาหาร-อุบลราชธานีของประเทศไทย
โดยคณะทำงานของทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันทบทวนมาตรฐานในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำสู่การปรับปรุงวิธีปฏิบัติงานจริงต่อไป รวมทั้งจัดฝึกอบรมเรื่องพิพิธภัณฑวิทยาระดับสูง/มาตรฐานสากล(Advanced academic museology) ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารงาน, สัมมนาโต๊ะกลม(สำหรับคณะทำงานร่วม)
- ปีที่ 4 เป็นการปฏิบัติงานร่วมกันในพื้นที่และประเด็นที่ตั้งไว้ทั้งในประเทศไทยและ สปป.ลาว, แลกเปลี่ยนบุคลากรในการให้ความรู้ซึ่งกันและกัน, สัมมนาโต๊ะกลม(สำหรับคณะทำงานร่วม) รวมทั้งจัดฝึกอบรมเรื่องพิพิธภัณฑวิทยา 4 ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารงาน
- ปีที่ 5 สื่อประชาสัมพันธ์, การรักษาความปลอดภัย, ประชุมวิชาการและจัดพิมพ์หนังสือทางวิชาการ
10.ข้อเสนอแนะจากการจัดกิจกรรม
10.1 จะนำเสนอ รายละเอียดของ ร่าง แผนปฏิบัติงานด้านพิพิธภัณฑสถาน อีกครั้ง
10.2 จำเป็นต้องจัดทำ ร่าง แผนปฏิบัติงานด้านโบราณคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมมรดก(โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่จาก กอง/แผนก ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านโบราณคดี) กระทรวงแถลงข่าว การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อีกครั้ง
................................................ผู้สรุปผลการเดินทางไปราชการ
(นายชินณวุฒิ วิลยาลัย)
หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง ธรรมเทศนา ชาดก นิทานคติธรรมประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 42 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57.5 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
เลขทะเบียน : นพ.บ.54/6ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 40 หน้า ; 4.8 x 58 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 35 (353-358) ผูก 6หัวเรื่อง : วิธูรบัณฑิต --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อเรื่อง : ตำนานพระธาตุจอมจ้อ ตำนานเมืองเทิง (เมืองเถิง) คร่าวฮ่ำสร้างถนนเชียงราย - เถิง
ผู้แต่ง : ประจักษ์พัฒนคุณ, พระครู
ปีที่พิมพ์ : 2535
สถานที่พิมพ์ : เชียงใหม่
สำนักพิมพ์ : ธาราทองการพิมพ์