ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,652 รายการ
โบราณสถานวัดพระบาทคอแก่ง
วัดพระบาทคอแก่ง ตั้งอยู่ที่บ้านพระบาท ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตามประวัติวัดระบุว่า วัดแห่งนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๒๑๕ โดยมีนายอุ่นเป็นผู้พบรอยพระพุทธบาท จึงชักชวนชาวบ้านสร้างเพิงครอบรอยพระพุทธบาทไว้ ต่อมามีพระภิกษุและแม่ชีจันเดินทางมาจากเวียงจันทน์ เพื่อมากราบนมัสการรอยพระพุทธบาท จึงได้ชักชวนชาวบ้านสร้างเสนาสนะเพิ่มเติม และตั้งขึ้นเป็นวัด ชื่อ “วัดพระพุทธบาท (เวินกุม)” ชาวบ้านเรียกว่า วัดพระบาทคอแก้ง หรือ พระพุทธบาทโคกซวก
สิ่งสำคัญภายในวัด ได้แก่ รอยพระพุทธบาท ซึ่งถือเป็น “อุเทสิกเจดีย์” ชนิดหนึ่ง คือ สิ่งที่สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศแก่พระพุทธเจ้าหรือแทนองค์พระพุทธเจ้า สภาพเดิมสันนิษฐานว่าเป็นแอ่งหินธรรมชาติ ต่อมาจึงมีการตกแต่งให้เป็นรอยพระพุทธบาทในภายหลัง สภาพปัจจุบันมีการตกแต่งรอยพระพุทธบาทด้วยปูนปั้น ลักษณะเป็นรอยพระบาทข้างขวา ทาด้วยสีทอง บริเวณนิ้วพระบาทประดับลายก้นหอย และลายกลีบบัว บริเวณฝ่าพระบาทประดับลายธรรมจักร และสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้ กำหนดอายุสมัยวัฒนธรรมล้านช้าง ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๒ – ๒๔
ปัจจุบันโบราณสถานแห่งนี้เป็นสถานที่เคารพสักการะบูชาของประชาชนในท้องถิ่น และบริเวณใกล้เคียง โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๓ วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๔๗๙
Wat Phra Bat Ko Kaeng
Wat Phra Bat Kho Kaeng is located at Ban Phra Bat, Phra Phutthabat Sub-district, Si Chiang Mai District, Nong Khai Province. According to the record, it was built in 1672 after Buddha’s footprint were found by Mr. Un. Under his suggestions, more religious buildings were constructed as people came to visit the temple more often. This temple was later named Wat Phra Phutthabat (Woen-Kum), Wat Phra Bat Kho Kaeng, or Phra Phutthabat Khok Suak.
The most important feature of this temple is Buddha’s footprint of Lan Xang culture (17th - 19th century CE), a symbolic representation of the Buddha, inside a pillar hall Mandapa.It is supposedly a natural rock pool made into an imprint of Buddha’s right foot. The footprint was decorated with stucco, painted in gold, and adorned with Dharmachakra at the center, while the fingers were carved with whorl and lotus petal shape.
Wat Phra Bat Kho Kaeng has been registered and published in the Government Gazette, Volume 53, on September 27, 1936.
ชื่อเรื่อง : คำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 ว่าด้วยบุคคล
หัวเรื่อง : กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ -- บุคคล
คำค้น : กฎหมายแพ่งและพาณิชย์
รายละเอียด : -
ผู้แต่ง : อนุมัติ ใจสมุทร
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : -
ปีที่พิมพ์ : 2515
วันที่เผยแพร่ : 7 กุมภาพันธ์ 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : หนังสือรวมคำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 ลักษณะ 2 บุคคล มาตรา 15 ถึง มาตรา 97 แบ่งออกเป็น 3 ภาค ได้แก่ ภาค 1 บุคคลธรรมดา ภาค 2 นิติบุคคล และภาค 3 บทบัญญัติเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับบุคคล
เลขทะเบียน : น.32 บ. 4953 จบ.
เลขหมู่ : 346
อ195 ค
วัดอินทาราม ตั้งอยู่ ณ ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ฝั่งทิศใต้ของคลองบางกอกใหญ่ (คลองบางหลวง) เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดบางยี่เรือนอก, วัดบางยี่เรือไทย หรือวัดสวนพลู สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปฏิสังขรณ์ทั้งพระอาราม และเสด็จมาทรงศีลบำเพ็ญพระกรรมฐาน อีกทั้งยังเป็นพระอารามที่ประดิษฐานพระบรมศพ ถวายพระเพลิงและบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระอารามแห่งนี้ได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โดยพระยาศรีสหเทพ (เพ็ง ศรีเพ็ญ) ปลัดบาญชี กรมมหาดไทย และได้รับพระราชทานนามพระอารามว่า วัดอินทาราม
โบราณวัตถุสถานสำคัญ
ภายในวัดอินทาราม มีการจัดแบ่งพื้นที่ในเขตพุทธาวาส เป็น ๒ กลุ่ม ได้แก่
๑. กลุ่มพระอุโบสถเดิม พระอุโบสถเดิม เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน แผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาทรงกระเท่เซร ไม่มีไขราหน้าจั่ว มีพะไลหน้าและหลังรองรับด้วยเสาสี่เหลี่ยม เครื่องบนสันหลังคาและเชิงชายประดับด้วยเครื่องถ้วยเคลือบ หน้าบันประดับด้วยเครื่องถ้วยลายก้านแย่งแบบพระราชนิยมสมัยรัชกาลที่ ๓ แต่เดิมไม่มีหน้าต่าง อดีตเจ้าอาวาส พระทักษิณคณิสร (สาย) ได้ขอพระบรมราชานุญาตบูรณะโดยการลดเสา-เจาะผนังทำช่องหน้าต่าง ภายในอาคารประดิษฐานพระพุทธรูปฉลองพระองค์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยา ซึ่งบรรจุพระบรมราชสรีรังคารสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีไว้ใต้ฐานพระ บนฐานชุกชียังประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ สมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสได้รวบรวมมาจากที่ต่างๆ และใต้ฐานชุกชีบรรจุอัฐิของสกุลอินทรโยธิน และพิชเยนทรโยธิน ซึ่งเป็นสายสกุลผู้สืบเชื้อสายจากสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
รูปพระอุโบสถเดิม
เบื้องหน้าพระอุโบสถเดิม มีพระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ๒ องค์ องค์ทางด้านทิศตะวันออกบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เรือนธาตุรองรับด้วยฐานบัวปากระฆังทรงบัวกลุ่มและฐานสิงห์ ปล้องไฉนทรงและบัวกลุ่ม ส่วนองค์ทางด้านทิศตะวันตกบรรจุพระอัฐิสมเด็จพระอัครมเหสี
พระวิหารน้อย หรือพระวิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถเดิม มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลังคาทรงกระเท่เซร ไม่มีไขราหน้าจั่ว มีพะไลรอบรองรับด้วยเสาสี่เหลี่ยม หน้าบันปูนปั้นประดับเครื่องถ้วยและกระเบื้องเคลือบลายก้านต่อดอก ภายในอาคารตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ท้ายวิหารทางทิศตะวันตกประดิษฐานพระแท่นบรรทม ส่วนทางทิศตะวันออกประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ด้านหน้าพระวิหารประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
นอกเขตกำแพงแก้วด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีหอระฆังย่อมุมไม้สิบสอง ซุ้มทรงบันแถลง ยอดทรงมณฑปและบัวกลุ่ม
๒. กลุ่มพระอุโบสถใหม่
สถาปัตยกรรมกลุ่มนี้ ตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงแก้ว ประกอบด้วยพระอุโบสถ พระวิหารทิศ ๒ หลัง ตั้งอยู่เบื้องหน้าพระอุโบสถ มณฑปแปดเหลี่ยมยอดพระปรางค์ มีพะไลรอบ ๒ หลัง ตั้งอยู่ท้ายพระอุโบสถด้านทิศตะวันออกและตะวันตก พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีพะไลรอบ หลังคา ๒ ซ้อน ๒ ตับ เครื่องลำยองประกอบด้วยช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ หน้าบันแกะสลักไม้ลงรักปิดทองประดับกระจกลายดอกพุดตานก้านแย่ง หน้าบันชั้นลดทำเป็นช่องหน้าต่าง ๒ บาน บานหน้าต่างลายพุ่มข้าวบิณฑ์ พื้นหน้าบันชั้นลดลายดอกลอยก้านแย่ง ซุ้มประตูหน้าต่างทรงบันแถลง ซุ้มเสมาทรงบันแถลงย่อมุมไม้สิบสอง ยอดทรงมณฑป มาลัยเถาทรงบัวกลุ่ม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย พระนามว่า พระพุทธชินวร
รูปพระอุโบสถ
ด้านหน้าพระอุโบสถประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พร้อมด้วยแท่นบูชา ศิลาจารึกทรงใบเสมาขนาดใหญ่ และบ่อน้ำโบราณ
ด้านทิศใต้ของพระอุโบสถ มีกลุ่มสถาปัตยกรรมตั้งเรียงกันบนฐานไพที ประกอบด้วย พระเจดีย์ย่อมุมไม้ยี่สิบ ฐานยักษ์และลิงแบก บัวปากระฆังและปล้องไฉนเป็นบัวกลุ่ม จำนวน ๓ องค์ และพระวิหารราย จำนวน ๔ องค์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดเล็ก มีประตู ๑ บาน ไม่มีหน้าต่าง เครื่องบนเป็นเครื่องลำยอง มีทวยรองรับชายคา เสาอิงมีบัวหัวเสา หน้าบันไม้แกะสลักลงรักปิดทองประดับกระจกลายก้านแย่ง ภายในอาคารเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพเล่าเรื่อง, ลายดอกไม้ร่วง และเครื่องบูชา พระวิหารรายหลังที่ ๑ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ (ตะแคงขวา) พระวิหารรายหลังที่ ๒ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง ประกอบด้วยรูปประติมากรรมพระสาวก ๓ องค์ และภาพจิตรกรรมรูปพระสาวกบนผนังด้านทิศเหนือ พระวิหารรายหลังที่ ๓ ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทบนเขาสุมนกูฏ และพระวิหารรายหลังที่ ๔ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน (ตะแคงซ้าย)
ภายในกำแพงแก้วพระอุโบสถ มีวิหารคดและศาลารายประดิษฐานพระพุทธรูปโดยรอบ ด้านนอกกำแพงแก้วทางด้านทิศเหนือ มีพระเจดีย์กลม ๒ องค์
กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
๑.กำหนดบัญชีโบราณวัตถุสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๖๖ ตอนที่ ๖๔ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๔๙๒ ๒.ขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๙๔ ง วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗
ชื่อผู้แต่ง กองวัฒนธรรม สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ
ชื่อเรื่อง วารสารวัฒนธรรมไทย (ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๙)
พิมพ์ครั้งที่ -
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี
ปีที่พิมพ์ ๒๕๐๙
จำนวนหน้า ๗๓ หน้า
รายละเอียด
วารสารวัฒนธรรมไทย วารสารรายเดือน ของกองวัฒนธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับบนี้เป็นปีที่ ๖ ฉบับที่ ๙ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๙ เรื่องที่น่าสนใจ เช่น มายาทไทยว่าด้วยการพูดและการใช้ถ้อยคำ ดอกไม้หอมในเมืองไทย การประดับกระจกสี วิธีรักษาครรภ์ของไทยยวน วัฒนธรรมกับโทรศัพท์ สุนทรีภาพในวรรณคดีไทย อิริยาบถลี่นางเลิ้ง สตรีตัวอย่างในพระพุทธศาสนา ประวัตินักดนตรีไทย ศิลปกรรมไทย เพลงในวรรณคดีไทย เรื่องขุนช้างขุนแผน ศูนย์ชุมนุมส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและตอบปัญหาวัฒนธรรม
ได้มาจากวัดห้วยสะพาน ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2533
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน)อย.บ. 136/4ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 40 หน้า กว้าง 5.3 ซม. ยาว 55.7 ซม.หัวเรื่อง พระอภิธรรมปิฎก พระปุคคลบัญญัติบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก วัดประดู่ทรงธรรม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เลขทะเบียน : นพ.บ.662/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 62 หน้า ; 4.5 x 47.5 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 213 (165-173) ผูก 2 (2568)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขัน--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม