ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,837 รายการ

         หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง ร่วมกับกลุ่มเพลินตรัง ครอบครัวยิ้ม ขอเชิญชวนน้องๆ เข้าร่วมกิจกรรม "อ่าน คิด สนุก เล่น"                      อ่าน : อ่านข่าว เหตุการณ์ปัจจุบัน                     คิด : ข่าวและสถานการณ์                     สนุก : เธอเป็นฉัน ฉันเป็นเธอ                      เล่น : อาชีพที่ใฝ่ฝัน           กำหนดจัดในวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2566 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง เตรียมพบกับ ๓ กิจกรรม ได้แก่ การแสดงบทบาทสมมุติจากข่าว การวิเคราะห์ข่าว และ อาชีพที่ใฝ่ฝัน                 เปิดรับสมัครเด็กๆ เข้าร่วมกิจกรรม "อ่าน คิด สนุก เล่น" ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2566 สมัครโดยตรงได้ที่ ป้าไก่แมงมุม เบอร์มือถือ 089-729-1513 และพี่ปุ๋ย เบอร์มือถือ 085-474-5150





บทความทางวิชาการ "โบราณสถานน่าสนใจในกรุงรัตนโกสินทร์ ตึกสุริยานุวัตร ที่พำนักของนักเศรษฐศาสตร์คนแรกของเมืองไทย" โดย นายณัฐพงศ์  ศิริวัฒนพิเชษฐ์ นักโบราณคดีชำนาญการ กองโบราณคดี



           พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ขอเชิญเที่ยวชมตลาดอาร์ตทอยในสวน (Art Toys Market in the Garden) ประจำเดือนตุลาคม ๒๕๖๖ เนื่องในเทศกาลผีนานาชาติ “พูด ผี-ปีศาจ” (Ghost Talks) วันเสาร์และอาทิตย์ที่ ๒๘ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น. ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พบกับกิจกรรมหลากหลาย ดังนี้            - เปิดตลาดอาร์ตทอยโดยศิลปินกลุ่มศาลาอันเต (Sala Arte)            - กาชาปองผีนานาชาติชุดพิเศษ             - พูดคุยกับนักสะสมงานผีของครูเหม เวชกร และทีมศิลปินการ์ตูนผีไทยอันเลื่องชื่อ “ป๋าโต้ด โกสุมพิสัย”            - พาชมมุมลับ ๆ ในพิพิธภัณฑ์ “เรื่องหลอนในวังหน้า” (Mystery Tour)             - มุมแลกเปลี่ยนของสะสมสำหรับแฟนคลับอาร์ตทอยและกาชาปอง            - มุมร้านชา “กระท่อมแม่มด” ให้นั่งพักขาและเขียนไปรษณียบัตรเก๋ ๆ ถึงคนที่คุณรัก ----------------------------------------------------------วันเสาร์ที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๖  - เวลา ๑๐.๐๐ น. “เรื่องหลอนในวังหน้า” โดยเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สลับกันมาเล่าเรื่องขนหัวลุกให้ฟัง - เวลา ๑๓.๐๐ น. “เรื่องหลอนในวังหน้า” (Mystery Tour) พาตามรอยขนหัวลุกในวังหน้า โดยเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร  - เวลา ๑๔.๐๐ น.  “รำลึกครูเหม เวชกร“ โดยคุณจุติ จันทร์คณา (มดไวตามิลค์) จากกลุ่ม MGC ---------------------------------------------------------- วันอาทิตย์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๖ - เวลา ๑๐.๐๐ น. “Prosthetic Artist“ ศิลปินไทยกับเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ โดยคุณวสิษฐ สุจิตต์  - เวลา ๑๓.๐๐ น. ”เรื่องหลอนในวังหน้า“ (Mystery Tour) พาตามรอยขนหัวลุกในวังหน้า โดยเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร  - เวลา ๑๔.๐๐ น.”Hobby ที่รัก“ การทำ model making ในงานของเล่นของสะสม โดยคุณวสิษฐ สุจิตต์  ----------------------------------------------------------           ผู้สนใจสามารถไปร่วมทุกกิจกรรมได้โดยไม่ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า ลงทะเบียนที่หน้างาน ทั้งนี้ จะมีของที่ระลึกพิเศษสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน (เสียค่าเข้าชมตามปกติ อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ๓๐ บาท ชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท) 


         พัดเปรียญฆราวาส ซึ่งตามประวัติระบุเอาไว้ว่าได้รับจากพระเจริญโภคสมบูรณ์ กรมพระคลังข้างที่ ส่งมอบให้กรมศิลปากร เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๔  มีลักษณะเป็นพัดหน้านาง พื้นพัดทำจากผ้าตาดสีแดง ตรงกลางปักลายด้วยดิ้นทองเป็นกลีบบัว ประดับดิ้นเลื่อมขลิบทองเป็นแนวรัศมีและกระหนกแซม ขอบพัดปักเป็นเส้นคั่นและกระหนกด้ามทำจากไม้คาดกลางทาบตับพัด ตรงกลางทำเป็นปุ่มนูนสองด้าน ยอดพัดเป็นงากลึงรูปหัวเม็ด มีงาแกะสลักลายกระหนกตรงคอพัดรองรับขอบพัดด้านล่าง ปลายเป็นสันงานช้างกลึง นับเป็นพัดพิเศษและมีขนาดเล็กกว่าพัดยศทั่วไป           สันนิษฐานว่าเป็นพัดเปรียญ ๕ ประโยค สำหรับฆราวาส ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ ครั้งทรงแปลหนังสือนิบาตชาดกถวาย เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๗           พัดเปรียญ เป็นพัดที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานแก่พระภิกษุ สามเณร สันนิษฐานว่ามีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่การแบ่งสีพัดตามลำดับชั้นนั้นเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้แก่ สีเขียว หมายถึง พัดเปรียญธรรม ๓ ประโยค สีน้ำเงิน หมายถึง พัดเปรียญธรรม ๔ ประโยค สีแดง หมายถึง พัดเปรียญธรรม ๕ ประโยค และสีเหลือง หมายถึง พัดเปรียญธรรมตั้ง ๖ ประโยคขึ้นไป           นอกจากนี้พัดเปรียญยังพระราชทานแก่ฆราวาสผู้มีความชำนาญในภาษาบาลีสันสกฤตถึงขั้นเปรียญธรรม ทั้งนี้การพระราชทานพัดเปรียญแก่ฆราวาส มีปรากฏด้วยกันถึง ๒ ครั้ง คือ           ครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพัดเปรียญ ๕ ประโยคให้แก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ ผู้ได้รับการยกย่องว่าทรงเป็นบัณฑิตทางอรรถคดีธรรมจารีตในพระพุทธศาสนาจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส          ส่วนครั้งที่สองเกิดขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพัดเปรียญเป็นเกียรติยศให้แก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ผู้ซึ่งเถรสมาคมยกย่องว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในภาษาบาลีเทียบเท่าเปรียญธรรม ๕ ประโยค   พัดเปรียญสำหรับฆราวาสที่มีขนาดเล็กพิเศษนี้ จึงนับเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่หาชมได้ยากยิ่ง     แหล่งที่มา ๑. ณัฏฐภัทร  จันทวิช.  ตาลปัตร พัดยศ และสมณศักดิ์.  เข้าถึงเมื่อ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖, เข้าถึงได้จาก https://www.saranukromthai.or.th/sub/other_sub.php?file=encyclopedia/book32.html ๒. สำนักงานราชบัณฑิตยสภา.  ตาลปัตร.  เข้าถึงเมื่อ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เข้าถึงได้จาก https://dictionary.orst.go.th/ ๓. พระมหานิรุตตุ์ ฐิตสํวโร.  คู่มือสมณศักดิ์ พัดยศ ฉบับสมบูรณ์ (ปรับปรุงแก้ไข พ.ศ. ๒๕๕๒ เพิ่มเติมพัดใหม่ ๕ ตำแหน่ง) (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ธงธรรม,๒๕๕๒), ๑๙๐-๑๙๓. ๔. ชินดนัย ไม้เกตุ และหฤษฎ์ แสงไพโรจน์.  พระประวัติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์และประวัติชุมชนวังกรมพระสมมตอมรพันธุ์.  เข้าถึงเมื่อ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖, เข้าถึงได้จาก https://urbanally.org/article/History-of-living-old-building



#องค์ความรู้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ตุงสามหางตุง หมายถึง ธงแขวนแบบหนึ่งในศิลปะล้านนา ตามความเชื่อของคนล้านนา ตุง ไม่ได้เป็นเพียงของใช้สำหรับการประดับตกแต่งหรือสื่อถึงสัญลักษณ์ความเป็นล้านนาเท่านั้น แต่ตุงยังมีความหมายและความสำคัญซ่อนอยู่ ใช้เป็นเครื่องประกอบสำคัญในงานประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ ตามความเชื่อ หรือถวายเป็นพุทธบูชา โดยมีทั้งรูปแบบที่ใช้สำหรับงานมงคล งานอวมงคล หรือใช้ได้ทั้งสองงาน . “ตุงสามหาง” มีอีกชื่อเรียกว่า ตุงฮูปคน หรือ ตุงผีต๋าย เป็นตุงแบบที่ใช้สำหรับงานอวมงคลเท่านั้น เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยตุงประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1. ส่วนหัว 2. ส่วนตัว ทำเหมือนแขนคน และ 3. ส่วนหาง ทำเป็น 3 ชาย รูปแบบที่พบในปัจจุบัน มีทั้งแบบที่ทำเป็นเค้าโครงรูปร่างคนอย่างชัดเจน แบบที่ทำเป็นรูปเทพนมหรือเทวดา หรือแบบที่ทำเป็นรูปเจดีย์และมีรูปโกศอยู่ภายใน โดยทุกแบบจะมีชาย 3 หางห้อยลงมา   วัสดุที่ใช้ทำจากผ้าหรือกระดาษสา ตกแต่งด้วยกระดาษเงินหรือกระดาษทอง เป็นลวดลายต่าง ๆ  สำหรับของพระภิกษุสงฆ์ ตัวตุงจะใช้ผ้าสีเหลือง หรือผ้าสบงผืนใหม่.ในอดีตช่างจะทำตุงสามหางต่อเมื่อมีคนตายแล้วเท่านั้น ไม่มีการทำเตรียมไว้ล่วงหน้า และจะทำรูปลักษณ์ของตุงตามลักษณะของผู้ตาย เช่น ผอม อ้วน สูง เตี้ย เพื่อเป็นการบอกกล่าวให้คนที่มางานศพทราบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตาย แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำในลักษณะนี้แล้ว ใช้วิธีการเขียนแทน โดยเขียนระบุบอกชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดและเสียชีวิตไว้บนตุง. เมื่อถึงวันเผาศพหรือเสียศพ จะมีคนแบกคันตุงสามหางพร้อมสะพายถุงข้าวด่วน เดินนำหน้าขบวนแห่ศพไปสู่สุสานหรือป่าช้า และนำไปไว้ติดกับเมรุเผาศพพร้อมเผาไปพร้อมกับศพด้วย มีความเชื่อกันว่าคนถือตุงห้ามหันหลังมองกลับมาจนกว่าจะไปถึงป่าช้า เพราะหากหันกลับมาเชื่อว่าจะมีคนตายเพิ่มอีก ในอดีตจะมีการเลือกคนที่ถือตุงนำขบวนจะต้องเป็นคนที่มีความประพฤติดี มีศีลธรรม แต่ปัจจุบันจะเป็นใครก็ได้ที่รับอาสาทำหน้าที่นี้    .ความหมายเกี่ยวกับตุงสามหางมีผู้ตีความไว้หลากหลายนัย อาทิเช่น เชื่อว่าหางตุงทั้ง 3 หางหมายถึง ที่พึ่งสูงสุดของมนุษย์คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บ้างก็เชื่อว่าหมายถึง โลกทั้ง 3 ของมนุษย์คือ สวรรค์ มนุษยโลก และนรกภูมิ บ้างก็เชื่อว่าหมายถึง อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา เป็นต้น--------------------------------------------อ้างอิง- ยุพิน เข็มมุกด์. ช่อและตุง ศิลป์แห่งศรัทธา ภูมิปัญญาท้องถิ่น. เชียงใหม่ : โรงพิมพ์แสงศิลป์, 2553. หน้า 142, 191-199. - คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดเชียงใหม่. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2542 หน้า 151.- ดอกรัก พยัคศรี. ตุง. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2566 จาก https://www.sac.or.th/.../trad.../th/equipment-detail.php...ภาพประกอบ- ตุงสามหาง จาก ร้านส.สว่าง ตุงสามหาง จังหวัดเชียงใหม่ (ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลและอนุญาตให้ถ่ายภาพ) - ตุงสามหางรูปคน จาก งานศพในจังหวัดลำปาง (ถ่ายโดยคุณอริยธัช มูลน้อย)


          หอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราช ขอเชิญน้องๆ นักเรียนระดับประถมศึกษา ร่วมกิจกรรมเรียนศิลปะสำหรับเด็ก ฝึกทักษะเบื้องต้น ในหัวข้อ “ศิลปะสร้างสรรค์ จากแม่พิมพ์กระดาษ” ในวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องศิลปะและวรรณกรรม อาคาร 2 ชั้น หอสมุดแห่งนครศรีธรรมราช            ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ "ฟรี" ไม่เสียค่าใช้จ่าย (รับจำนวนจำกัด) สอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Facebook หอสมุดแห่งชาติ นครศรีธรรมราช หรือ โทร. 0 7532 4137, 083 6361949, 081 701678




         อานม้าประดับมุก          แบบศิลปะ : รัตนโกสินทร์          ลักษณะ : เครื่องรองนั่งบนหลังม้าทำจากไม้ เป็นแท่นวงรีและแอ่นโค้งทาสีแดง เจาะช่องตรงกลางตามแนวยาวสำหรับวางผ้าบุนวม และด้านข้างเจาะช่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสำหรับผูกสายโกลน มีเชิงยื่นออกมาเป็นขามุมมนด้านละสองข้าง ติดห่วงกลมทำจากโลหะใช้คล้องสายเหาและเครื่องผูก พนักรอบนอกประดับมุก ทำจากชิ้นเปลือกมุกขนาดเล็กต่อกันปูพื้นจนเต็ม ขอบรอบนอกทำจากโลหะตีลายวงกลมเรียงต่อกัน พนักด้านหลังค่อนข้างเตี้ยตกแต่งด้วยโลหะเส้นแบนทำเป็นลวดลายก้านขด ส่วนพนักด้านหน้าสูงมีความโค้งเว้าปลายงอน ใช้คล้องวางเก็บสายบังเหียน ตกแต่งด้วยโลหะเส้นแบนผูกลายเป็นก้านขดคล้ายรูปหัวใจสองดวงหัวปลายเข้าหากัน          ความสำคัญ : อานม้าประดับมุกสำหรับขุนนาง ใช้เทคนิคการตกแต่งด้วยงานประดับมุก ทำเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กเรียงต่อกัน และทำโลหะเป็นเส้นลายก้านขดวางบนมุกอีกชั้นหนึ่ง เป็นศิลปวัตถุที่ต้องอาศัยความประณีตและความชำนาญของช่างฝีมือ โดยพระยาเพ็ชรพิชัย (ทองจีน) ทำให้แก่บุตรในงานเกียรติยศฯ คือเจ้าพระยาสุรบดินทร์ (พร จารุจินดา) เป็นบุคคลที่มีความสำคัญได้รับพระราชทานนามสกุล “จารุจินดา” ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลพิษณุโลก อุปราชมณฑลพายัพ และองคมนตรีสมัยรัชกาลที่ 6          สันนิษฐานว่าเจ้าพระยาสุรบดินทร์คงมีความเชี่ยวชาญในการบังคับม้า ได้เข้ารับราชการ พ.ศ. 2428 รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นนายรองฉันมหาเล็กเวรศักดิ์ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และต่อมาเมื่อพ.ศ. 2429 ได้เลื่อนเป็นจ่าห้าวยุทธการในกรมพระตำรวจขวา จากการแสดงขี่ม้ารำทวนถวายทอดพระเนตรหน้าพลับพลาในงานพระเมรุสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ36 ซึ่งคุณหญิงชอุ่ม สุรบดินทร์ได้มอบเครื่องม้าโบราณที่ใช้ในการขี่ม้ารำทวนชุดนั้นให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพร้อมกันด้วย ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ          ชนิด : ไม้ทาสีแดง โลหะ ประดับมุก          อายุ/สมัย : พุทธศตวรรษที่ 25          ประวัติ/ตำนาน : เป็นของพระยาเพ็ชรพิชัย (ทองจีน จารุจินดา) ผู้เป็นบิดาเจ้าพระยาสุรบดินทร์ (พร จารุจินดา) ทำให้แก่บุตรของท่านในงานเกียรติยศฯ ได้รับมอบจากคุณหญิงชอุ่ม สุรบดินทร์ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498   แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=52876   ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th



ชื่อเรื่อง :  หนังสือแบบเรียนสอนอ่าน อักขระ พยัญชนะตัวไทยเหนือผู้แต่ง : ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์ : ๒๔๙๕ สถานที่พิมพ์ :  เชียงใหม่ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์เจริญเมืองจำนวนหน้า : ๓๔ หน้าเนื้อหา : หนังสือเล่มนี้ชื่อแบบเรียนสอนอ่านอักขระ พยัญชนะตัวไทยเหนือ พิมพ์ครั้งที่ ๔ ด้วยเครื่องพิมพ์อักษร ที่โรงพิมพ์เจริญเมือง ถนนเจริญเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ ไม่ระบุผู้แต่ง นายเมืองใจ  ชัยนิลพันธ์ ผู้พิมพ์โฆษณา อักษรล้านนา ภาษาล้านนา ไม่รวมปก ลักษณะสิ่งพิมพ์ ชำรุด ฉีกขาด หน้าอักษร สมบูรณ์ ไม่เลอะเลือน แบบเรียนสอนอ่านอักขระ พยัญชนะตัวไทยเหนือ ประกอบไปด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับ อักขระ พยัญชนะ สระ (แม่ไม้) แม่อักขระ (พยัญชนะ ๓๓ ตัว) ตัวอยู่โรง (ควบกล้ำ) แม่อักขระสูง แม่อักขระต่ำ คำหัดอ่าน รวมเนื้อหาทั้งสิ้น ๑๖ หน้า                                                                                          เลขทะเบียนหนังสือหายาก : ๒๔๙๑เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : E-book_๒๕๖๗_๐๐๒๕หมายเหตุ : โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗


black ribbon.