ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 41,347 รายการ

เลขทะเบียน : นพ.บ.412/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 50 หน้า ; 4 x 53 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 147  (71-80) ผูก 4 (2566)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.545/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 26 หน้า ; 4 x 50 ซ.ม. : ลานดิบ-ล่องรัก-รักทึบ-ล่องชาด ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 181  (303-310) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : พรหมราชสูตร--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง : ชีวิตมันสมองและการต่อสู้ของหลวงวิจิตรวาทการ ชื่อผู้แต่ง : พิมาน แจ่มจรัส ปีที่พิมพ์ : 2505 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : ผ่านฟ้าพิทยา จำนวนหน้า : 1,012 หน้า สาระสังเขป : ชีวิตมันสมองและการต่อสู้ของหลวงวิจิตรวาทการ เป็นหนังสือชีวประวัติของหลวงวิจิตรวาทการรัฐบุรุษคนสำคัญของประเทศไทย ชื่อหนังสือ มีที่มาจากหนังสือเรื่อง “มรสุมชีวิต” และ “มันสมอง” ของหลวงวิจิตรวาทการ หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหา 8 บทประกอบด้วย ความรักอันใด จิตตานุภาพ วิธีทำงานและสร้างอนาคต ทางสู้ในชีวิต มันสมอง กำลังใจ วิชา 8 ประการ และวิชาครองเรือนและครองรัก มีบทเสริม 4 บท ประกอบด้วย เรื่องจิตวิทยาทางการเมือง โลกพูด-วิญญาณฟัง จากชีวิตถึงวิญญาณ และบทส่งท้ายมหาบุรุษ




พระพฤหัสบดีพระอิศวรสร้างจากฤษี ๑๙ ตน บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีส้มแดง พรมน้ำอมฤตได้เป็นพระพฤหัสบดี มีผิวกายสีส้มแดง ทรงกวางเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันตก เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มักทำอะไรด้วยความระมัดระวัง สุขุม รอบคอบ เมตตาปรานีต่อผู้อื่น เป็นมิตรกับพระอาทิตย์ และเป็นศัตรูกับพระจันทร์ สัญลักษณ์เลข ๕ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๑๙ เป็นครูของเทพทั้งหลาย จึงนิยมทำพิธีไหว้ครูในวันพฤหัสบดี


พุทธเลิศหล้านภาลัย, พระบาทสมเด็จพระ.  พระราชนิพนธ์บทละคร เรื่อง สังข์ทอง.  พิมพ์ครั้งที่ 1.                 พระนคร: คุรสภา, 2496.         เนื้อเรื่องของบทละครนอกเรื่องสังข์ทอง  ได้เริ่มต้นกล่าวถึงเมืองยศวิมลนคร อันมีท้าวยศวิมลเป็นเจ้าเมือง พระมเหสีจันเทวีได้คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์ จึงถูกพระนางจันทา มเหสีรอง ใส่ร้ายว่าเป็นกาลีบ้านเมือง จนถูกขับออกจากเมืองไปอยู่กระท่อมตายายที่ชายป่า กระทั่งพระสังข์ที่ซ่อนอยู่ในหอย ได้ออกมาพบแม่ สร้างความยินดีกับพระนางจันเทวีมากข่าวล่วงรู้ไปถึงนางจันทา จึงได้ส่งคนมาจับพระสังข์ไปถ่วงน้ำ แต่ท้าวภุชงค์พญานาคราชช่วยเอาไว้ และส่งให้ไปอยู่กับ นางพันธุรัต พระสังข์เมื่อรู้ว่านางพันธุรัตเป็นยักษ์จึงได้ขโมยรูปเงาะ ไม้เท้า เกือกแก้ว เหาะหนีมาอยู่บนเขา นางพันธุรัตตามมาทันแต่ ไม่สามารถขึ้นไปหาพระสังข์ได้ จึงได้มอบมนต์มหาจินดา เรียกเนื้อเรียกปลาให้แก่พระสังข์ก่อนที่จะอกแตกสิ้นใจตาย  พระสังข์เหาะมาจนถึงเมืองสามล ท้าวสามลและนางมณฑากำลังจัดพิธีเลือกคู่ให้ธิดาทั้งเจ็ด แต่รจนาพระธิดาองค์สุดท้อง ไม่ยอมเลือกใครเป็นคู่ ท้าวสามลจึงให้คนไปตามเจ้าเงาะมาให้เลือก รจนาเห็นรูปทองที่ซ่อนอยู่ในรูปเงาะจึงเสี่ยงมาลัยไปให้ สร้างความพิโรธให้ท้าวสามาลจึงถูกขับไล่ให้ไปอยู่ที่กระท่อมปลายนากับเจ้าเงาะ  ท้าวสามลหาทางแกล้งเจ้าเงาะ โดยการให้ไปหาเนื้อหาปลาแข่งกับเขยทั้งหก เจ้าเงาะใช้มนต์เรียกเนื้อ เรียกปลาทำให้หกเขยหาปลาไม่ได้ จึงยอมถูกตัดปลายหูและปลายจมูกเพื่อแลกกับเนื้อและปลา ท้าวสามลพิโรธมากจนถึงกับคิดหาทางประหารเจ้าเงาะ  พระอินทร์ต้องหาทางช่วยโดยการลงมาท้าตีคลีชิงเมือง กับท้าวสามล ท้าวสามลส่งหกเขยไปสู้ก็สู้ไม่ได้ จึงยอมให้เจ้าเงาะไปสู้แทน เจ้าเงาะถอดรูปเป็นพระสังข์และสู้กับพระอินทร์ จนชนะ ท้าวสามลจึงยอมรับพระสังข์กลับเข้าเมืองและจัดพิธีอภิเษกให้ พระอินทร์เข้าฝันท้าวยศวิมล ท้าวยศวิมลจึงได้ออกตามหาพระนางจันเทวีจนพบ และได้เดินทางไปเมืองสามลนครเพื่อพบพระสังข์ โดยพระนางจันเทวีได้ปลอมเป็นแม่ครัวในวังและได้แกะสลักเรื่องราวทั้งหมดบนชิ้นฟัก ให้พระสังข์เสวย ทำให้พระสังข์รู้ว่าแม่ครัวคือพระมารดานั่นเอง พระสังข์และรจนาจึงได้เสด็จตามท้าวยศวิมลและพระนางจันเทวีกลับไปครองเมืองยศวิมลสืบต่อไป


ชื่อเรื่อง                         ธมฺมบทวณฺณนา ธมฺมบทฏฺฐกถา (ขุทฺทกนิกายฏฺฐกถา) อย.บ.                            327/12 หมวดหมู่                       พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                  54 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 53 ซม. หัวเรื่อง                         พระธรรมเทศนา                                                                       บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา


โบราณสถานวัดชนะสงคราม          โบราณสถานวัดชนะสงคราม หรือโบราณสถานร้าง ก.7 ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองสุโขทัย ห่างจากวัดมหาธาตุไปทางทิศเหนือประมาณ 150 เมตร จัดเป็นหนึ่งในกลุ่มโบราณสถานที่อยู่กลางเมืองสุโขทัย ซึ่งวัดนี้ถือว่าเป็นโบราณสถานขนาดกลาง แผนผังของวัดวางตัวตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างภายในวัดคือ          1.เจดีย์ประธานทรงระฆัง ขนาดใหญ่ ก่อด้วยอิฐ ลักษณะของเจดีย์เป็นรูปแบบเฉพาะของเจดีย์ทรงระฆังแบบสุโขทัย คือ มีบัวถลา (บัวคว่ำ) 3 ชั้น ถัดขึ้นไปเป็นบัวปากระฆัง องค์ระฆัง บัลลังก์ ก้านฉัตรและปลียอด ทั้งนี้ ในส่วนของฐานบัวที่มีการทำเป็นฐานบัวลูกแก้วอกไก่สองเส้น ลักษณะเช่นนี้จะพบอยู่ในศิลปะล้านนา          2.ฐานวิหาร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกหรือทางด้านหน้าของเจดีย์ประธาน ก่อด้วยอิฐ และมีเสาวิหารกลมก่อด้วยศิลาแลง          3.ฐานโบสถ์ อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเจดีย์ประธาน ก่อด้วยอิฐ เสาศิลาแลง มีเสมาหินล้อมรอบ และอีกหนึ่งฐานอยู่ทางด้านทิศตะวันออกถัดจากวิหาร ซึ่งฐานโบสถ์หลังนี้ตั้งอยู่กลางน้ำ โดยใช้น้ำเป็นอุทกเสมา แสดงเขตศักดิ์สิทธิ์ สันนิษฐานว่าโบสถ์ที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกนั้นตั้งขึ้นภายหลังในช่วงสุโขทัยตอนปลาย เนื่องจากมีฐานที่ค่อนข้างสูง ซึ่งนิยมกันในสมัยอยุธยาและมิได้ตั้งอยู่ตามแนวแกนทิศ ซึ่งเป็นแผนผังการสร้างวัดของสุโขทัย          4.ฐานเจดีย์ราย จำนวน 11 ฐาน ตั้งอยู่รายรอบเจดีย์ประธาน ซึ่งมีเจดีย์รายทรงวิมาน 2 องค์ ตั้งอยู่ทางด้านหน้าของเจดีย์ประธาน ถือว่าเป็นเจดีย์รายรูปแบบพิเศษ เนื่องจากพบเพียงไม่กี่องค์          5.กำแพงแก้ว ล้อมรอบวิหารและเจดีย์ประธาน ในปัจจุบันเหลือเพียงด้านทิศตะวันออกและทิศใต้บางส่วนเท่านั้น          วัดชนะสงครามนี้ไม่ปรากฏหลักฐานชื่อวัดในศิลาจารึก แต่ปรากฏชื่อวัดในพระราชนิพนธ์เที่ยวเมืองพระร่วง ของพระบาททสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกล่าวถึงวัดชนะสงครามว่า “...แต่ทางทิศเหนือวัดมหาธาตุ ริมวัดที่เรียกกันว่าวัดชนะสงครามนั้น...” .          เอกสารอ้างอิง1.อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กรมศิลปากร. ทำเนียบโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2561. พิมพ์ครั้งที่ 2. สุโขทัย : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กรมศิลปากร, 2561.2.ศ.เกียรติคุณ สุรพล ดำริห์กุล. ประวัติศาสตร์และศิลปะสุโขทัย. นนทบุรี : เมืองโบราณ, 2562. 3.ศ.ดร.ศักดิ์ชัย สายสิงห์. ศิลปกรรมโบราณในอาณาจักรสุโขทัย ประมวลศิลปกรรมโบราณเมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร. กรุงเทพฯ : มิวเซียมเพรส, 2561.4.พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, เที่ยวเมืองพระร่วง, กรุงเทพฯ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ มล.ซ้ง สนิทวงศ์, 2520.


           พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กรมศิลปากร ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย จัดนิทรรศการ “Blossoming Curiosity: Indonesia – Thailand Collaborative Painting Exhibition” ระหว่างวันที่ 4 – 29 ตุลาคม 2566 ณ อาคารนิทรรศการ 6 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป             “Blossoming Curiosity: Indonesia – Thailand Collaborative Painting Exhibition” เป็นนิทรรศการแสดงผลงานจิตรกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสาธารณรัฐอินโดนีเซียและประเทศไทย ครั้งที่ 2 โดยในปีนี้มีศิลปินชาวอินโดนีเซีย 10 คน นำภาพเขียนหลากหลายเทคนิคมาร่วมแสดงผลงานกับศิลปินไทยอีก 10 คน เช่น ธงชัย รักปทุม ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี 2553 และสมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี 2560 นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายรัคมัต บูดีมัน (H.E. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เป็นศิลปินรับเชิญร่วมแสดงผลงานอีกด้วย              โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายรัคมัต บูดีมัน (H.E. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเมื่อวันวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566             นิทรรศการ “Blossoming Curiosity: Indonesia – Thailand Collaborative Painting Exhibition” จัดแสดงตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ณ อาคารนิทรรศการ 6 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป  เปิดให้เข้าชมวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 น. (หยุดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท (* นักเรียน นักศึกษา ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และนักบวชทุกศาสนา เข้าชมฟรี )


หัวใจชาติ หนังสือวันเด็ก 2524 จัดพิมพ์ในโอกาสที่มีการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2524 เพื่อเผยแพร่พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9  พระราชนิพนธ์ “เดินตามรอยพ่อ” ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คำขวัญวันเด็ก และสาระน่ารู้ต่างๆ 


วันนี้เรามารู้จักภาชนะดินเผาในพิพิธภัณฑสถานแหห่งชาติ บ้านเชียง โดยนางสาวรัชฏญาภรณ์ ประทุมวัน สาขาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ #มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี


วิทยาจารย์ ปีที่ 52 พฤษภาคม 2496 ฉบับที่ 5 จัดพิมพ์โดยคุรุสภา เรื่องราวในเล่มประกอบด้วย คำขวัญวันแม่, วิธีสอนอังกฤษแบบใหม่, ครูสตรีไทยชนะเลิศในการประกวดเรียงความ, งานของยูนิเซฟในประเทศไทย เป็นต้น


เรื่อง วันโคนมแห่งชาติ ผู้เรียบเรียง : นางสาวลักษมณ ประจวบมูล บรรณารักษ์ปฏิบัติการ


ชื่อเรื่อง                    สพ.ส.64 กฎหมายแพ่งประเภทวัสดุ/มีเดีย       สมุดไทยดำISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  กฎหมายลักษณะวัสดุ              16; หน้า : ไม่มีภาพประกอบหัวเรื่อง                    กฎหมายแพ่ง                    ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                   ประวัติวัดพยัคฆาราม ต.ศรีประจันต์  อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 15 ส.ค..2538


Messenger