ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,609 รายการ

             อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี ได้รับการประกาศจากองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ ในชื่อ “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี” (Phu Phrabat, a testimony to the Sīma stone tradition of the Dvaravati period) เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 ถือเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย ต่อจากนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี และเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ได้รับการประกาศในปีที่ผ่านมา โดยอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกภายใต้คุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล ได้แก่ การรักษาความเป็นของแท้และดั้งเดิมของแหล่งวัฒนธรรม สีมาหินสมัยทวารวดี และเป็นประจักษ์พยานที่ยอดเยี่ยมของการสืบทอดของวัฒนธรรมดังกล่าวที่ต่อเนื่องอย่างยาวนานกว่าสี่ศตวรรษ โดยเชื่อมโยงเข้ากับประเพณีของวัดฝ่ายอรัญวาสีในเวลาต่อมา               กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 2567 เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคน ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองการประกาศขึ้นทะเบียนภูพระบาทเป็นมรดกโลกในครั้งนี้ และขอแนะนำการเดินทางไปท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท บ้านติ้ว ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ดังนี้




ภูพระ วัดศิลาอาสน์ ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ พระพุทธรูปที่ภูพระ เป็นศิลปะที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะท้องถิ่น คือ ทวารวดี ได้แก่ พระพักตร์รูปสี่เหลี่ยม พระขนงรูปปีกกา และศิลปะเขมรที่แพร่หลายเข้ามามาก ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-18 ได้แก่ แนวเส้นพระเกศา และเกตุมาลารูปกรวยคว่ำ สำหรับมงกุฎหรือกระบังหน้าที่ปรากฏบนพระพุทธรูปทรงเครื่องคล้ายกับที่พบจากพระพุทธรูปในศิลปะเขมรนครวัดหรือบายน ในพุทธศตวรรษที่ 17-18 พระเจ้าองค์ตื้อ (พระตื้น ภาษาอีสานแปลว่า พระเจ้าองค์ใหญ่) องค์พระมีขนาดหน้าตักกว้าง 5 ฟุต สูง 7 ฟุต พระพักตร์ทรงสี่เหลี่ยม พระรัศมีเป็นรูปบัวตูมขนาดเล็ก พระเกศาเป็นเส้นยาว เรียงคล้ายเส้นผม พระขนงมีขนาดเล็กต่อกันเป็นรูปปีกกา พระเนตรเล็กมองตรง พระนาสิกทรงสามเหลี่ยม พระโอษฐเล็ก พระกรรณยาว ครองจีวรห่มคลุม พระอังสายาว มีผ้าสังฆาฏิปลายตัดเป็นเส้นตรงยาวมาจรดพระนาภี ประทับนั้งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์แสดงปางมารวิชัย ที่มีลักษณะพิเศษ คือ จะวางพระหัตถ์ซ้ายไว้บนพระเพลาแทนที่จะเป็นพระหัตถ์ขวาตามแบบพระพุทธรูปปางมารวิชัยทั่วไป ...ศูนย์กลางการเรียนรู้และการท่องเที่ยว มรดกศิลปวัฒนธรรมอีสานใต้แบบบูรณาการ... สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา 274 หมู่ 17 ถนนพิมาย-ชุมพวง ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา 30110 Tel : 044-471518 , 044-481024 E-Mail : fed_10@finrarts.go.th Website : www.finearts.go.th/fad10 Facebook : สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา กรมศิลปากร Youtube : สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา


ปราสาทหนองผักบุ้งใหญ่           ตั้งอยู่ที่บ้านละลมติม ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ประกอบด้วยเนินปราสาทที่อยู่ในสภาพพังทลาย สันนิษฐานว่าเป็นปราสาทแบบเขมรโบราณ สร้างด้วยหินทรายและศิลาแลง  และมีบารายอยู่ด้านตะวันออก บริเวณโบราณสถานแห่งนี้ได้พบชิ้นส่วนหน้าบันหินทราย ศิลปะเขมรโบราณสมัยบาปวนซึ่งทำให้กำหนดอายุว่าอยู่ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - กลางพุทธศตวรรษที่ ๑๗ (ประมาณ ๙๐๐ - ๑,๐๐๐ ปีมาแล้ว) ตั้งแต่รัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ ถึงรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ ๖  (พ.ศ. ๑๕๔๕-พ.ศ.๑๖๕๐)           ทางด้านตะวันตกและด้านเหนือของปราสาทพบว่ามีแนวคันดินกั้นน้ำที่ไหลบ่ามาจากทางตะวันตกเฉียงเหนือ และชักน้ำเข้าสู่บารายของปราสาทหนองผักบุ้งใหญ่และปราสาทตาใบ และการพบว่ามีการก่อสร้างปราสาท ๓ หลัง ได้แก่ ปราสาทหนองผักบุ้งใหญ่ พูนผลและตาใบ บริเวณคันดินบังคับน้ำนี้ จึงทำให้สันนิษฐานว่าบริเวณนี้คงเป็นชุมชนที่มีความสำคัญและมีประชากรจำนวนมาก            กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานปราสาทหนองผักบุ้งใหญ่ ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๓ ตอนพิเศษ ๕๐ ง วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๓๙ มีพื้นที่โบราณสถานประมาณ ๒๒ ไร่ ๒ งาน ๒๕.๗๕ ตารางวา Prasat Nong Phak Bung Yai           Prasat Nong Phak Bung Yai is in Ban La Lom Tim, Khok Sung Subdistrict, Khok Sung District, Sa Kaeo Province. This Khmer temple is completely ruined, only a small hillock with  an eastern Baray (rectangular-shaped reservoir) remains. Laterite and sandstone architectural elements have been found on the hillock, e.g., two pediments in Baphuon style (11th - 12th century or 900 - 1,000 years ago) during the reign of King Suryavarman I - King Jayavarman VI.           There are earthen dikes, on the west and north of the site, which protect Prasat Nong Phak Bung Yai, Prasat Phun Phon and Prasat Ta Bai from flooding and divert water into Baray of Prasat Nong Phak Bung Yai and Prasat Ta Bai.            The Fine Arts Department announced the registration of Prasat Nong Phak Bung Yai as an ancient monument in the Royal Gazette, Volume 113, Special Part 50, dated 18th December 1996. The total area is around 36,103 square meters.   


ชื่อผู้แต่ง                 นริศรานุวัดติวงศ์ , สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ , เจ้าฟ้ากรมพระยา ชื่อเรื่อง                  หนังสือจดหมายระยะทางไปตรวจราชการแหลมมลายู ร.ศ. ๑๒๑ ครั้งที่พิมพ์              พิมพ์ครั้งที่ ๓ สถานที่พิมพ์            กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์              บริษัทประยูรวงศ์ จำกัด ปีที่พิมพ์                 ๒๕๒๕ จำนวนหน้า             ๓๓ หน้า : ภาพประกอบ ISBN                     - เลขเรียกหนังสือ       915.938   น254ห เลขทะเบียนหนังสือ   028852 หมายเหตุ               พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานประชุมพระสังฆาธิการประจำปี ๒๕๒๕ ณ วัดกะพังสุรินทร์ จังหวัดตรัง วันที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๕                            หนังสือจดหมายระยะทางไปตรวจราชการแหลมมลายู ร.ศ. ๑๒๑ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงค์ ทรงนิพนธ์ไว้เป็นบันทึกจดหมายเหตุรายวัน เมื่อคราวเสด็จไปตรวจราชการมณฑลภูเก็ต มณฑลนครศรีธรรมราช และมณฑลชุมพร ซึ่งพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการการไปตรวจราชการในตอนนั้นเพื่อให้ทรงทราบข้อบกพร่องในการปฏิบัติงานและเพื่อพัฒนาการไปรษณีย์ส่วนหนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์เฉพาะเสด็จจังหวัดตรัง และพัทลุงบางส่วนเท่านั้น





            พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร จัดกิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี ๒๕๖๘ นิทรรศการพิเศษ เรื่อง “ลวดลายปูนปั้นและดินเผาประดับโบราณสถานเมืองกำแพงเพชร” โดยจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทปูนปั้นและดินเผาประดับโบราณสถานที่จัดเก็บในคลังพิพิธภัณฑ์ อาทิ เศียรพระพรหมปูนป้้นและเศียรนาคปูนปั้น ปูนปั้นประดับโบราณสถานวัดพระแก้ว หงส์ดินเผาและแผ่นดินเผารูปกลีบบัวซ้อนชั้น ดินเผาประดับโบราณสถานวัดช้างรอบ กลีบบัวรูปเทพนมดินเผา แผ่นลายรักร้อยดินเผา บัวกลุ่มดินเผา ประดับโบราณสถานวัดช้างรอบ กลีบขนุนปูนปั้นประดับโบราณสถานวัดสิงห์ ฯลฯ ซึ่งลวดลายปูนปั้นและดินเผาประดับโบราณสถานเมืองกำแพงเพชร ส่วนใหญ่พบบริเวณวัดพระแก้ว วัดช้างรอบ วัดสิงห์ และวัดพระนอน ศาสนสถานในเขตกำแพงเมืองและอรัญญิก กำหนดอายุในพุทธศตวรรษที่ ๒๐ - ๒๑ ศิลปะอยุธยาตอนต้น หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น “ศิลปะสกุลช่างกำแพงเพชร” ซึ่งผสมผสานรูปแบบศิลปะสุโขทัย อยุธยา และล้านนา ได้อย่างลงตัวและวิจิตร นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมบรรยายเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และงานศิลปกรรมเมืองกำแพงเพชรในแง่มุมของนักวิชาการและสุนทรียศาสตร์ รวมถึงคุณค่าของงานประติมากรรมและลวดลายประดับสมัยอยุธยา อีกด้วย              ขอเชิญชวนผู้สนใจไปชมนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “ลวดลายปูนปั้นและดินเผาประดับโบราณสถานเมืองกำแพงเพชร” ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร เปิดวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ปิดวันจันทร์ - วันอังคาร สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๕๕๗๑ ๑๕๗๐ หรือทางเฟสบุ๊ก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร : Kamphaeng Phet National Museum https://www.facebook.com/kamphaengphetnationalmuseum


เลขทะเบียน : นพ.บ.613/4   ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 18 หน้า  ; 4 x 52 ซ.ม. : ล่องชาด-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 200 (37-48) ผูก 4 (2568)หัวเรื่อง : สัตตัปปกรณาภิธรรม--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.679/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 14 หน้า ; 4 x 57 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 215 (185-195) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : เล่มหลวง--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.746/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 32 หน้า ; 5 x 59 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 232 (355-361) ผูก 4 (2568)หัวเรื่อง : ธัมมสังคิณี--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง :  วิทยุสาร เล่ม 5 ตอนที่ 3  ฉะบับ กันยายน ผู้แต่ง : กรมไปรษณีย์โทรเลข ปีที่พิมพ์ : 2478 สถานที่พิมพ์ :  พระนคร  สำนักพิมพ์ :  โรงพิมพ์ไทยเขษม จำนวนหน้า : 46 หน้า สาระสังเขป : วิทยุสาร เล่ม 5 ตอนที่ 3 ฉะบับกันยายน ประกอบด้วย คำถวายพระพรชัยมงคลในวาระดิถีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล วันที่ 20 กันยายน 2478, สุนทรพจน์หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ร.น. รัฐมนตรี แถลง ณ วันที่ 26 มิถุนายน พุทธศักราช 2478, สุนทรพจน์หลวงประดิษฐ์มนูธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทางวิทยุกระจายเสียง เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2478, รายการส่งกระจายเสียงของวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท ประจำเดือน กันยายน พุทธศักราช 2478 ทั้งยังมีรายการบัญชีสิ่งของถวายพระ เป็นเครื่องไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทางวิทยุกระจายเสียงประจำพรรษา ซึ่งแผนกทะเบียนวิทยุและกระจายเสียงได้รับไว้จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2478  เลขทะเบียนหนังสือหายาก : 190 เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : nlcm_rb2568_00190 โครงการ : พัฒนาระบบบริการห้องสมุดดิจิทัล หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2568


ชื่อเรื่อง : เทศน์มหาชาติ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางมรรคาคำณวน (ละมูล ปิ่นแสง) ณ ฌาปนสถานกองทัพอากาศ วัดพระศรีมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2516 ชื่อผู้แต่ง : มหาชาติ ปีที่พิมพ์ : 2516สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : วรวุฒิการพิมพ์ จำนวนหน้า : 332 หน้า สาระสังเขป : หนังสือเทศน์มหาชาติ คือร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยพระบุพจริยาของพระพุทธเจ้าในอดีตชาติ เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรบรมโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญพระบารมีเป็นชาติสุดท้าย ทรงแสดงเป็นคาถา คือคำประพันธ์ประเภทฉันท์ตลอดทั้งเรื่อง เนื้อหาหลักกล่าวถึง มหาเวสสันดรชาดก และประเพณีมีเทศน์มหาชาติ


พระราชนิพนธ์ ไดอรี่ซึมทราบ กับตามเสด็จประพาศไทรโยค ชื่อเรื่อง : พระราชนิพนธ์ ไดอรี่ซึมทราบ กับตามเสด็จประพาศไทรโยค หัวเรื่อง : กวีนิพนธ์ไทย คำค้น :        จดหมายเหตุรายวัน รายละเอียด : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พ.ศ. 2431 ผู้แต่ง : จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, 2396-2453 แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี หน่วยงานที่รับผิดชอบ/โรงพิมพ์/สำนักพิมพ์ : ม.ป.ท. ปีที่พิมพ์ : 2431 วันที่เผยแพร่ : 26 สิงหาคม 2568 ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : - ลิขสิทธิ์ : - รูปแบบ : PDF. ภาษา : ภาษาไทย ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก ตัวบ่งชี้ : - รายละเอียดเนื้อหา : พระราชนิพนธ์ไดอรี่ซึมทราบ กับตามเสด็จประพาศไทรโยค พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พ.ศ. 2431 ต้นเรื่องมีคำอธิบายว่าด้วยพระราชนิพนธ์บทกลอนในรัชกาลที่ 1 - 5 โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กลอนไดอรี่ซึมทราบนี้เป็นวรรณกรรมล้อเลียนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ โดยใช้รูปแบบของจดหมายเหตุของไทย แต่เรียกว่า ไดอรี่ (diary) อย่างตะวันตกเพื่อล้อเลียนความนิยมของแปลกใหม่ตามยุคของเจ้านายในสมัยนั้น  มูลเหตุที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเรื่องนี้  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงนิพนธ์ไว้ว่า  เป็นเพราะพระองค์ทรงเบื่อหน่ายหนังสือที่ผู้แต่งแต่งอย่าง “ซึมทราบ” คือแต่งขึ้นโดยไม่รู้จักถ้อยคำเพราะไม่สันทัดภาษา เพียงแต่รู้วิธีแต่งกลอนก็แต่งไป แต่คนก็ยังพอใจอ่าน พระองค์จึงทรงพระราชนิพนธ์บทกลอนแบบ “ซึมทราบ” ล้อเล่นบ้าง ทำนองเป็นของข้าราชการฝ่ายในแต่ง เนื้อเรื่องเป็นบันทึกเหตุการณ์เล่าเรื่องการเดินทางไปไทรโยค เลขทะเบียน : - เลขหมู่ :   ห       895.9112081            จ657ด


***รายการบรรณานุกรม*** หนังสือหายาก กรมศิลปากร.  ละคอน เรื่อง อิเหนา ตอน ลมหอบ.  พระนคร : โรงพิมพ์พระจันทร์, ๒๔๙๙.


black ribbon.