ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ
องค์ความรู้จากหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง
ขอนำเสนอเรื่อง “ตราประจำจังหวัดตรัง”
๑. ความเป็นมาของตราประจำจังหวัด
ในปี ๒๔๘๓ โดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ริเริ่มให้มีการจัดทำตราประจำจังหวัดขึ้นใช้นอกเหนือจากตราประจำตัวและตราประจำตำแหน่งข้าราชการที่มีมาแล้วแต่โบราณ แนวคิดการสร้างตราประจำจังหวัดมาจากเหตุผลหลัก ๒ ประการคือ ๑) ต้องการมีเครื่องหมายประจำจังหวัดดังเช่นประเทศในยุโรป และ ๒) ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นมีความภาคภูมิใจและรักในบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ก่อให้เกิดความเป็นปึกแผ่นและส่งผลให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง
รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีจึงมอบนโยบายให้กรมศิลปากรออกแบบดวงตราประจำจังหวัด ขณะนั้นมีพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ ดำรงตำแหน่งอธิบดี ออกแบบดวงตราประจำจังหวัดทุกจังหวัด โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิของกรมศิลปากร ๒ ท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) เป็นผู้คิดความหมายจากชื่อจังหวัด หรือจากสิ่งสำคัญในแต่ละจังหวัด เพื่อจำลองออกมาเป็นภาพในดวงตรา และ
พระพรหมพิจิตร (อู๋ ลาภานนท์) เป็นผู้ร่างแบบตามแนวคิด ทั้งนี้เปิดโอกาสให้คณะกรรมการจังหวัดทุกจังหวัดมีส่วนร่วมเสนอแนวคิดเพื่อประกอบการพิจารณาเขียนตราประจำจังหวัดด้วย ส่วนการเขียนลงเส้นมีช่างอาวุโสในแผนกหัตถศิลป กองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากรเป็นผู้เขียนรวม ๔ นายคือ นายปลิว จั่นแก้ว นายทองอยู่ เรียงเนตร นายปรุง เปรมโรจน์ และนายอุ่ณห์ เศวตมาลย์
จังหวัดต่าง ๆ ได้นำดวงตราไปใช้ในปี ๒๕๘๕ ต่อมาเพื่อให้ดวงตราของแต่ละจังหวัดมีความชัดเจนยิ่งขึ้นเป็นของจังหวัดใด กรมศิลปากรจึงได้เพิ่มแถบชื่อจังหวัดหรือบางดวงได้เพิ่มทั้งรูปครุฑและแถบชื่อไว้ด้วยกัน โดยวางในตำแหน่งที่เหมาะสมของลักษณะตราแต่ละดวง
ต่อมาในภายหลังมีบางจังหวัดต้องการเปลี่ยนแปลงแบบดวงตราใหม่และได้ขอให้กองหัตถศิลป กรมศิลปากรออกแบบให้ใหม่ และบางจังหวัดได้มอบให้กรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทยแก้ไข หรือออกแบบขึ้นเอง ดังนั้นจึงมีหลายจังหวัดที่ยังคงใช้ตราประจำจังหวัดตามแบบเดิมที่กรมศิลปากรออกแบบให้เมื่อปี ๒๔๘๓ และมีดวงตราประจำจังหวัดของหลายจังหวัดที่เปลี่ยนแปลงไป
ในปัจจุบันจังหวัดที่มีพระราชบัญญัติจัดตั้งขึ้นใหม่ กรมศิลปากรได้ออกแบบตราประจำจังหวัดให้เฉพาะบางจังหวัดที่ขอความร่วมมือเท่านั้น
๒. ตราประจำจังหวัดตรัง
กรมศิลปากรออกแบบตราประจำจังหวัดตรังเป็นภาพสะพานท่าเรือ ทะเลมีระลอกคลื่น ภูเขาและต้นไม้ พร้อมทั้งอธิบายความหมายไว้ดังนี้
“สะพานท่าเรือมีเสาโคมไฟ” หมายถึง การเป็นเมืองท่าติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมาตั้งแต่สมัยโบราณ
“ทะเลมีลูกคลื่น” มาจากคำว่า "ตรังค์" ซึ่งแปลว่า คลื่น
“ภูเขา” หมายถึง ลักษณะพื้นที่ของจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ สลับกับภูเขา
“ต้นไม้” หมายถึง ต้นยางพารา ซึ่งพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) ได้นำมาปลูกในจังหวัดตรังเป็นแห่งแรก
ทั้งนี้ปัจจุบันจังหวัดตรังยังคงใช้ตราตามแบบของกรมศิลปากร แต่ได้เพิ่มชื่อจังหวัดตรังไว้ตอนล่างของดวงตรา
ในสมัยก่อนเคยมีการนำรูปครุฑมาไว้ตอนบนของดวงตราด้วย
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. ตราประจำจังหวัด. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๔๒.
สุนทรี สังข์อยุทธ์. ตรัง เมืองท่าอันดามัน. ตรัง: ศาลากลางจังหวัดตรัง กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๕๙.
อาณัติ บำรุงวงศ์. เหลียวหลัง แลหน้า : ทับเที่ยง ๙๐ ปี เทอดพระเกียรติครองราชย์ ๖๐ ปี.
สงขลา : เค.ยู.การพิมพ์ , ๒๕๔๙.
สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร. (๒๕๖๓). ตราประจำจังหวัด. สืบค้นเมื่อ ๑ เมษายน ๒๕๖๔,
จาก https://www.nat.go.th
ที่มาของภาพ
ภาพที่ ๑ จอมพล ป. พิบูลสงคราม จากเพจ S. Phormma's Colorizations https://www.facebook.com/sphormmacolorization/
ภาพที่ ๒ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ จากเว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม https://www.silpa-mag.com/quotes-in-history/article_918
ภาพที่ ๓ ศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) จากหนังสือบรรณานุกรมงานนิพนธ์ของศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธน
ภาพที่ ๔ พระพรหมพิจิตร (อู๋ ลาภานนท์) จาก https://www.pinterest.com/pin/117797346476310550/
ภาพที่ ๕ – ๘ ภาพตราประจำจังหวัด จากสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ภาพที่ ๙ – ๑๐ ภาพตราประจำจังหวัดตรัง จากหนังสือตรัง เมืองท่าอันดามัน.
ชื่อเรื่อง ชุมนุมบทละคอนและบทคอนเสิตผู้แต่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ วรรณคดี เลขหมู่ 895.9112081 น254ชสถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ ศิวพรปีที่พิมพ์ 2506ลักษณะวัสดุ 356 หน้าหัวเรื่อง บทละครไทย – รวมเรื่องภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกรวบรวมบทละครดึกดำบรรพ์ เรื่อง สังข์ทอง คาวี เรื่องอิเหนา สังข์ศิลปชัยภาคต้นและภาคปลาย กรุงพาณชมทวีป รามเกียรติ์ ตอน ศูรปนเขาตีสีดา, อุณรุท , พระมณีพิชัยบทคอนเสิต เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นางลอย,นาคบาศ,พรหมาศ เรื่องอิเหนา ตอน บวงสรวง บท ตาโบล วิวังต์ (Tableaux Vivantes) พร้อมบันทึกความแตกต่างและผิดพลาด โดย ม.จ.หญิงดวงจิตร จิตรพงษ์ ทรงบันทึก
ชื่อเรื่อง ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (มหาชนก-วิธูรบัณฑิต)
สพ.บ. 270/ง/1ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 52 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา ชาดก เทศน์มหาชาติ คาถาพัน
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมล้านนา ภาษาไทยล้านนา เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
เลขทะเบียน : นพ.บ.177/9ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4.5 x 59.5 ซ.ม. : ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 100 (74-79) ผูก 9 (2565)หัวเรื่อง : ธมฺมจกฺกฎีกา(ฎีกาธัมมจักร)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
สาวกนิพฺพาน (อานนฺท,ควมฺปติ,พิมฺพา,มหากสฺสป,โมคฺคลฺลาน,สารีปุตฺตเถรนิพฺพาน)
ชบ.บ.90/1-1
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
นิทรรศการ The story of khao daeng : คุณ เรา เขาแดง
นิทรรศการใหม่แกะกล่องจากสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลาและองค์กรเครือข่าย เป็นนิทรรศการบอกเล่าประวัติศาสตร์ ความเป็นมา และความสำคัญของเขาน้อยและเขาแดง อันเป็น “จุดกำเนิด หรือจุดเริ่มต้น” ประวัติศาสตร์เมืองสงขลา มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางวิชาการและกระตุ้นให้เกิดกระแสอนุรักษ์โบราณสถาน
นิทรรศการนี้ จัดขึ้นที่บ้านเขียนเจริญ(ร้านน้ำชาฟุเจาเดิม) ถนนนางงาม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เปิดให้เข้าชมในวันศุกร์ - เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม – 10 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00 น. - 16.00 น.
กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญชมนิทรรศการ เรื่อง “แม่ในนวนิยายไทย” เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ ณ ห้องวชิรญาณ ๒ – ๓ อาคาร ๒ ชั้น ๑ สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพฯ นวนิยายไทยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เริ่มมี การเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ เนื่องด้วยได้รับอิทธิพลจากประเทศตะวันตกและกลุ่มบุคคลที่ได้รับการศึกษาจากต่างประเทศ มีการนํารูปแบบการเขียนนวนิยายในต่างประเทศเข้ามาเผยแพร่ ระยะแรกจึงเป็นนวนิยายแปลและดัดแปลงจากนวนิยายต่างประเทศ เนื้อหาแนวอาชญากรรม สืบสวน ผจญภัย เรื่องเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และอิงประวัติศาสตร์ โดยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ นวนิยายแปลเป็นภาษาไทยเรื่องแรก คือ ความพยาบาท แปลโดย แม่วัน (พระยาสุรินทราชา) จากนั้นนวนิยายจึงแพร่หลายมากขึ้นจนถึงปัจจุบันภาพ : นวนิยายแปลเป็นภาษาไทยเรื่องแรกคือ ความพยาบาทภาพ : นวนิยายเลียนแบบเรื่องความพยาบาท คือ ความไม่พยาบาท นิทรรศการ เรื่อง “แม่ในนวนิยายไทย” นำเสนอความรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของนวนิยายไทยและ ถ่ายทอดบทบาทของความเป็นแม่ในนวนิยายเรื่องต่างๆ เนื้อหานิทรรศการแบ่งออกเป็น ๕ ส่วน ได้แก่ส่วนที่ ๑ “๙๐ พรรษา แม่ของแผ่นดิน” เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ส่วนที่ ๒ “วิวัฒน์ นวนิยายไทย” นำเสนอประวัติความเป็นมาของนวนิยายเล่มแรกของไทย จัดแสดงหนังสือนวนิยายไทยที่จัดพิมพ์ในรัชสมัยต่าง ๆ ส่วนที่ ๓ “บทบาทของความเป็นแม่ในนวนิยายไทย” นำเสนอ นวนิยายเรื่องต่าง ๆ กว่า ๕๐ เรื่อง พร้อมทั้งเนื้อเรื่องย่อ รวมทั้งนวนิยายไทยที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ กว่า ๒๐ เรื่อง ส่วนที่ ๔ “จากนวนิยายสู่บทโทรทัศน์” นำเสนอบทละครโทรทัศน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับบทบาทของแม่ที่สร้างจาก นวนิยาย เช่น ทองเนื้อเก้า คู่กรรม สี่แผ่นดิน ส่วนที่ ๕ “เกร็ดความรู้จากนวนิยาย” นำข้อมูลที่ปรากฏในนวนิยาย เช่น สถานที่ วัฒนธรรม ประเพณี มาอธิบายเพิ่มเติมเป็นการให้ความรู้แก่ผู้เข้าชม เช่น สถานีรถไฟบางกอกน้อย จากนวนิยายเรื่อง “คู่กรรม” ทุ่งวัวแล่น จากนวนิยาย “แผ่นดินของเรา” ตลาด ๑๐๐ ปีชุมแสง จากนวนิยาย “กรงกรรม” ผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการ เรื่อง “แม่ในนวนิยายไทย” ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ จันทร์ - ศุกร์ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๓๐ น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์) ณ ห้องวชิรญาณ ๒ – ๓ อาคาร ๒ ชั้น ๑ สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพฯ