ค้นหา


รายการที่พบทั้งหมด 39,660 รายการ

คณะจาก อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ (เวลา 13.30) จำนวน 150 คนวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๓๐ น. คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ เข้าศึกษาดูงาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครนายก พระบรมชนกชลพัฒน์ โดยมีนายธิริทธิ์ เรืองทวีทรัพย์ ตำแหน่ง หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครนายก พระบรมชนกชลพัฒน์ และว่าที่ร้อยตรีรุ่งเรือง ชื่นชม ตำแหน่ง พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ เป็นวิทยากรนำชมในครั้งนี้


           สำนักหอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญฟังการบรรยายเรื่อง "กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์กับละครร้อง"  ภายใต้โครงการเผยแพร่ความรู้ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ฯ ประจำปี 2567 วิทยากรโดย ผศ. ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้ช่วยอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.30-16.30 น. ณ อาคารดำรงราชานุภาพ 2490 ถนนหน้าพระธาตุ เขตพระนคร กรุงเทพฯ  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 08 6891 2548, 08 9545 3194 9 สามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live : National Library of Thailand  https://www.facebook.com/NationalLibraryThailand



ผู้แต่ง : ชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเชียงใหม่ ปีที่พิมพ์ : 2539 สถานที่พิมพ์ : ม.ป.ท. สำนักพิมพ์ : ม.ป.พ.      เชียงใหม่มีอายุยืนยาวนานมาถึง 700 ปี ในปีพ.ศ. 2539 เป็นปีที่มีความหมายสำหรับชาวเชียงใหม่ ที่มีความสำคัญสำหรับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมือง โดยเฉพาะเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามหลายสิ่งหลายประการที่ได้นิยมนับถือปละปฏิบัติสืบสานกันต่อมา ในด้านวัฒนธรรมประเพณีท่านที่มีความรู้ ผู้ทรงคุณวุฒิ พระสงฆ์องค์เจ้า ได้รวบรวมจัดทำคู่มือเป็นหนังสือรูปเล่มอยู่จำนวนไม่น้อย ที่จะได้ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเป็นแบบปฏิบัติในด้านประเพณีต่างๆ ของบ้านเมืองไว้เป็นมรดกตกทอดสืบสานต่อไปยังลูกหลาน ในวาระที่บ้านเมืองมีอายุได้ถึง 700 ปีในครั้งนี้ชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเชียงใหม่จึงได้รวบรวมเรียบเรียงประเพณีที่ดีงามต่างๆ ของท้องถิ่น และยังมีความจำเป็นสำหรับวิถีชีวิตประจำวันขึ้นในเวลาที่เป็นมงคล



โบราณสถานนอกกำแพงเมืองทิศตะวันออก ชื่อโบราณสถาน                                                 วัดตระพังช้าง   ที่ตั้ง                                           อยู่นอกกำแพงเมืองบริเวณห่างจากมุมกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก  เฉียงเหนือประมาณ ๓๐๐ เมตร   และฝั่งตะวันออกของห้วยแม่ลำพันบริเวณที่เป็นคันดินยกพื้นสูง ที่เรียกว่าคันน้ำอ่างเก็บน้ำโบราณหมาย  เลข ๒ ในเขตตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย   พิกัดทางภูมิศาสตร์                           รุ้ง ๑๗ องศา ๑ ลิปดา ๓๕ พิลิปดาเหนือ                                                 แวง ๙๙ องศา ๔๒ ลิปดา ๕๙ พิลิปดาตะวันออก   อายุสมัย                                                -   ลักษณะและสภาพ                            เป็นเนินโบราณสถาน ไม่ทราบรูปร่าง มีแนวก่ออิฐและร่องรอยของชิ้นส่วนกระเบื้องมุงหลังคา เนินโบราณสถานแห่งนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑๐ เมตร ทางทิศตะวันออกของโบราณสถาน มีสระน้ำใหญ่ขนาดกว้าง ๕๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร อยู่ เรียกว่า ตะพังช้าง เป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานกลุ่มนี้   ประวัติ                                        ไม่ปรากฏหลักฐานทางด้านเอกสารและศิลาจารึก   การดำเนินการ                                ๑. ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา     เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่  ๘ มีนาคม ๒๔๗๘                                                 ๒. ขุดแต่ง พ.ศ.2556 ชื่อโบราณสถาน                                                 วัดโบสถ์   ที่ตั้ง                                           อยู่นอกกำแพงเมืองสุโขทัยทางด้านทิศตะวันออก โดยอยู่ห่างจากมุมกำแพงเมืองด้าน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร และอยู่ในเขต อ่างเก็บน้ำโบราณหมายเลข ๒ ใกล้กับคันดินกั้นน้ำ บริเวณมุมอ่างเก็บน้ำด้านทิศ ตะวันออกเฉียงใต้  ในเขตตำบลเมืองนา อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย   พิกัดทางภูมิศาสตร์                           รุ้ง ๑๗ องศา ๑ ลิปดา ๓๐ พิลิปดาเหนือ                                                 แวง ๙๙ องศา ๔๓ ลิปดา ๓๐ พิลิปดาตะวันออก   อายุสมัย                                                -   ลักษณะและสภาพ                            เป็นเนินโบราณสถานที่อยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำโบราณ โดยมีร่องรอยแนวศิลาแลงเป็นผนังกั้นดินอยู่โดยรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดพื้นที่กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๓๐ เมตร บนเนินดินเป็นซากโบรานสถานยังไม่ได้ขุดแต่งและบูรณะ มีร่องร่อยของการเรียงอิฐ และเสาศิลาแลงกลม ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นอุโบสถกลางน้ำ ตามชื่อที่เรียก   ประวัติ                                        ไม่ปรากฏหลักฐานทางด้านเอกสารและศิลาจารึก   การดำเนินการ                                ๑. ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา     เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่  ๘ มีนาคม ๒๔๗๘                                                 ๒. ยังไม่ได้มีการขุดแต่งและบูรณะ ชื่อโบราณสถาน                                                 วัดปากท่อ   ที่ตั้ง                                           อยู่นอกกำแพงเมืองเก่าสุโขทัยด้านทิศตะวันออก โดยห่างจากมุมกำแพงด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ออกมาทางทิศตะวันออกประมาณ ๑.๖ กิโลเมตร และอยู่ติดกับมุมด้านนอกของอ่างเก็บน้ำโบราณหมายเลข ๒ ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยห่างประมาณ ๒๐-๓๐ เมตร ในเขตตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย   พิกัดทางภูมิศาสตร์                           รุ้ง ๑๗ องศา ๑ ลิปดา ๒๘ พิลิปดาเหนือ                                                 แวง ๙๙ องศา ๔๓ ลิปดา ๑ พิลิปดาตะวันออก   อายุสมัย                                                -   ลักษณะและสภาพ                            เป็นเนินโบราณสถาน ไม่ทราบรูปร่าง มีร่องรอยของแนวอิฐและเสาศิลาแลงกลมปรากฏอยู่ เส้นผ่าศูนย์กลางของโบราณสถานนี้ประมาณ ๒๗ เมตร โบราณสถานนี้มีร่องรอยของคูน้ำล้อมรอบบริเวณเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง ๒๕ เมตร ยาว ๓๐ เมตร คูน้ำตื้นเขินไปมากแล้ว ขนาดความกว้างของคูประมาณ ๗-๘ เมตร   ประวัติ                                        ไม่ปรากฏหลักฐานทางด้านเอกสารและศิลาจารึก   การดำเนินการ                                ขุดแต่ง พ.ศ.2556 ชื่อโบราณสถาน                                                 วัดอีฝ้าย   ที่ตั้ง                                           อยู่นอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก โดยอยู่ห่างจากประตูกำแพงหักไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ ๖๐๐ เมตร และอยู่ห่างจากวัดหญ้ากร่อนไปทางทิศเหนือประมาณ ๑๕๐ เมตร ในเขตตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย   พิกัดทางภูมิศาสตร์                           รุ้ง ๑๗ องศา ๑ ลิปดา ๒๐ พิลิปดาเหนือ                                                 แวง ๙๙ องศา ๔๓ ลิปดา ๐ พิลิปดาตะวันออก   อายุสมัย                                                -   ลักษณะและสภาพ                            เป็นเนินโบราณสถานมีแนวเรียงอิฐและเสาศิลาแลงกลม ไม่ทราบรูปร่างแน่ชัด มีขนาดของเนินดินกว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๒๕ เมตร   ประวัติ                                        ไม่ปรากฏหลักฐานทางด้านเอกสารและศิลาจารึก   การดำเนินการ                                ๑. ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่ม๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่  ๘ มีนาคม ๒๔๗๘                                                 ๒. ขุดแต่ง พ.ศ. 2555 ชื่อโบราณสถาน                                                 วัดหญ้ากร่อน   ที่ตั้ง                                           อยู่นอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก โดยอยู่ห่างจากประตูกำแพงหักไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๔๐๐ เมตร และอยู่ห่างจากห้วยแม่ลำพันไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๑๕๐ เมตร  ในเขตตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย   พิกัดทางภูมิศาสตร์                           รุ้ง ๑๗ องศา ๑ ลิปดา ๑๕ พิลิปดาเหนือ                                                 แวง ๙๙ องศา ๔๓ ลิปดา ๐ พิลิปดาตะวันออก   อายุสมัย                                      สุโขทัย   ลักษณะและสภาพ                            เป็นกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่โดยรอบเนินที่ตั้งมีคูน้ำล้อมรอบอยู่ทั้ง ๔ ด้าน กลุ่มโบราณสถานวัดหญ้ากร่อนนี้ประกอบด้วย โบราณสถานดังต่อไปนี้ ๑.      ฐานวิหาร ๕ ห้อง ก่ออิฐ และมีเสาทำด้วยศิลาแลงกลม ขนาดกว้างประมาณ ๘ เมตร ยาว ๑๘ เมตร ตั้งอยู่กลางเนิน ๒.      ฐานเจดีย์ทรงกลมแบบลังกา ขนาด ๑๒ x ๑๒ เมตร ก่อด้วยอิฐตั้งอยู่ด้านหลัง หรือทิศตะวันตกของวิหาร ๓.      ฐานเจดีย์รายก่ออิฐ จำนวน ๔ องค์ ตั้งอยู่เรียงรายทั่วไป ๔.      ฐานวิหารเล็กก่ออิฐ เสาทำด้วยศิลาแลง ขนาดกว้าง ๓ เมตร ยาว ๕ เมตร ตั้งอยู่ระหว่างกลางของวิหาร ๕ ห้อง กับเจดีย์ประธานทรงกลม ๕.      ฐานศาลาก่ออิฐ ทำด้วยศิลาแลงกลม ขนาด ๔ เมตร ยาว ๕ เมตร ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารใหญ่ ๖.      คูน้ำที่ล้อมรอบกลุ่มโบราณสถานทั้งหมดไว้มีขนาดกว้างประมาณ ๖ เมตร ล้อมรอบพื้นที่ที่ตั้งโบราณสถานเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาดกว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๖๐ เมตร   ประวัติ                                        ไม่ปรากฏหลักฐานทางด้านเอกสารและศิลาจารึก   การดำเนินการ                                ๑. ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา     เล่ม ๔๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่    ๘ มีนาคม ๒๔๗๘                                                 ๒. ขุดแต่งและบูรณะ พ.ศ. ๒๕๑๕



 อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรน้อมใจปลูกดอกไม้สีเหลืองเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีและถวายความอาลัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ทำโครงการปลูกต้นไม้มงคลจำนวน ๒๕๐ ต้น ดาวเรือง จำนวน ๑๐,๐๐๐ ต้น และปอเทือง จำนวน ๓๐ ไร่ ในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร รวมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา ๕๐,๐๐๐ ตัวลงคูเมืองกำแพงเพชร เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ และเป็นการสนองนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ชวนคนไทยร่วมกันปลูกดอกดาวเรืองหรือดอกไม้สีเหลืองให้บานสะพรั่งทั่วแผ่นดินในห้วงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ขณะนี้ดอกปอเทืองเริ่มออกดอกสีเหลืองมาตั้งแต่ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ และคาดว่าจะบานสะพรั่งในช่วงวันพระราชพิธี และบานต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ ส่วนดอกดาวเรืองจะเอาออกมาประดับสถานที่ในช่วงใกล้วันพระราชพิธี  โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร สถานีวิจัยประมงน้ำจืดจังหวัดกำแพงเพชร ภาคเอกชน และประชาชนในท้องถิ่น นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเที่ยวชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่ทุ่งปอเทืองได้ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรเขตภายในกำแพงเมืองใกล้ประตูผี นอกจากจะได้ถ่ายภาพที่สวยงามกับทุ่งปอเทืองแล้ว ยังสามารถเที่ยวชมโบราณสถาน กำแพงเมือง ป้อม ประตูเมืองโบราณกำแพงเพชรได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทางอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรขอความกรุณาเพียงอย่าเหยียบย่ำทำให้ต้นปอเทืองเสียหาย และช่วยกันรักษาความสะอาดพื้นที่ เพื่อถนอมให้ต้นปอเทืองสวยงาม เป็นสัญลักษณ์แห่งการถวายความอาลัยแด่พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่อันเปรียบประดุจ"พ่อ" ผู้เป็นที่รักยิ่งของพวกเรา  ที่ไหนๆก็มีปอเทือง ที่ไหนๆก็มีโบราณสถาน แต่ที่นี่มีปอเทืองอยู่กับโบราณสถาน คือผลพลอยได้จากการแสดงออกถึงความรักและอาลัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ การท่องเที่ยวและการถ่ายภาพสวยงาม...แท้จริงเพื่อคลายความทุกข์โศกและเยียวยาจิตใจของพวกเราชาวไทยมิให้เศร้าโศกจนสุดทน ผลที่ได้ตามมาคือการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเตรียมฟื้นคืนผืนป่าตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ มาแล้วอย่าลืมเลยไปเที่ยวโบราณสถานสำคัญในเขตอรัญญิก และเขตวัดพระแก้ว วัดพระธาตุ กลางเมืองกำแพงเพชร มีค่าใช้จ่ายเขตละ ๒๐ บาทสำหรับคนไทย และเขตละ ๑๕๐ บาทสำหรับชาวต่างชาติ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ๐๙๕-๓๐๗-๘๒๑๑ , ๐๕๕-๘๕๔-๗๓๖ , ๐๕๕-๘๕๔-๗๓๗




วันพุธที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๓ เวลา ๑๕.๓๐ น. คณะผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยว จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๔ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมี นางสาวอรุณี แซ่เล้า หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


พระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ กับจังหวัดชัยนาท                  ตลอดระยะเวลานับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เป็นต้นมา  พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมพสกนิกรทั่วภูมิภาคแม้แต่ในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ  ทรงตรากตรำพระวรกายเข้าไปแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือพสกนิกร เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขเป็นที่ประจักษ์กันโดยทั่วไป สมดังพระปฐมบรมราชโองการ ที่พระราชทานในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก “….เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม…”             ซึ่งพระองค์ได้ทรงถือปฏิบัติตามพระราชปณิธานดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอตลอดมาจนบังเกิดประโยชน์แก่บ้านเมืองและพสกนิกรเป็นอเนกอนันต์              พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดชัยนาท เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๙๘ โดยเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดพระบรมธาตุวรวิหาร  ตำบลชัยนาท  อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท และได้เสด็จประทับแรม ณ เขื่อนเจ้าพระยา  ในวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๔๙๘ เสด็จทอดพระเนตรความก้าวหน้างานก่อสร้างเขื่อนเจ้าพระยา 




***บรรณานุกรม*** หนังสือหายาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว.  ประชุม : พระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ที่ทรงบริหารราชการแผ่นดิน ภาคที่ ๓  (ตอน ๒) ระหว่างพุทธศักราช ๒๔๓๔ ถึง พุทธศักราช ๒๔๕๓.  พระนคร : โรงพิมพ์สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี, ๒๕๑๓.


Messenger