ค้นหา


รายการที่พบทั้งหมด 30,060 รายการ

ชื่อเรื่อง                  มอญบางขันหมากผู้แต่ง                     ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏเทพสตรีประเภทวัสดุ/มีเดีย     หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN             -หมวดหมู่                 ประเพณี ขนบธรรมเนียมเลขหมู่                    390.09593 ร425มสถานที่พิมพ์             กรุงเทพฯ  สำนักพิมพ์               สถาบันราชภัฏเทพสตรีปีที่พิมพ์                  2533ลักษณะวัสดุ             76 หน้า.หัวเรื่อง                   มอญ--การละเล่นพื้นบ้าน                            มอญ--ความเป็นอยู่และประเพณี                            มอญ--รวมเรื่องภาษา                     ไทยบทคัดย่อ/บันทึก          หนังสือเอกสารเล่มนี้จะเพิ่มความรู้เรื่องมอญบางขันหมากให้กว้างขวางยิ่งขึ้นและคงช่วยส่งเสริมแนวทางการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์มอญ ตำบลบางขันหมาก ให้สืบทอดต่อไปยังลูกหลาน และมรดกทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์มอญจะคงอยู่คู่เมืองลพบุรีสืบไป           




นิทานจากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน.  กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ตีรณสาร, 2516.          เรื่องขุนช้างขุนแผนในหนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพของพระตีรณสารวิศวกรรม นี้ เป็นนิทานจากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมทั้งอธิบายแผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งเมืองและสถานที่บางแห่ง และคำอธิบายเรื่องเมืองและสถานที่ตามที่ปรากฏในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน


วัดมโนภิรมย์ หมู่ ๑ บ้านชะโนด ตำบลชะโนด อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร วัดมโนภิรมย์สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๒๓๐ โดยท้าวคำสิงห์และญาติพี่น้องรวมทั้งบริวารที่อพยพเคลื่อนย้ายมาจากฝั่งลาว พร้อมกับการตั้งบ้านชะโนด เดิมชื่อวัดใช้ชื่อเดียวกับชื่อหมู่บ้านและชื่อของลำห้วยที่ไหลผ่านพื้นที่ทางทิศเหนือลงสู่แม่น้ำโขงทางทิศตะวันออก แต่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดมโนภิรมย์ ส่วนวิหารสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๒๙๖ นับเป็นแม่แบบของงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมท้องถิ่นที่สำคัญสำหรับใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ศิลปะท้องถิ่นอีสาน สิ่งสำคัญที่ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ได้แก่ วิหาร . วิหาร ตามประวัติระบุว่า สร้างขึ้นราว พ.ศ.๒๒๙๖ โดยอาจารย์โชติ อาจารย์ขะ และอาจารย์โมข ช่างจากเวียงจันทร์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง ๙.๔๕ เมตร ยาว ๑๖.๓๕ เมตร สูงประมาณ ๙.๖๓ เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนฐานเป็นชุดฐานบัวงอนลูกแก้วอกไก่เตี้ย ๆ ตัวอาคารแบ่งออกเป็น ๕ ช่วงเสา โดยช่วงเสาแรกเป็นมุขโถงด้านหน้า มีบันไดทางขึ้น ๓ ด้าน คือ ด้านหน้าและด้านข้าง ๒ ข้าง ราวบันไดประดับปูนปั้นรูปสัตว์ศิลปกรรมท้องถิ่น ห้องวิหารมีขนาด ๔ ช่วงเสา ประตูทางเข้าเป็นบานไม้ เหนือกรอบประตูประดับลายปูนปั้นสวยงาม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นนาคปรกปางมารวิชัยเป็นประธานบนฐานชุกชี ส่วนภายนอก หน้าบันด้านหน้าประดับไม้สลักลวดลาย เสาวิหารทาสี หัวเสาประดับบัวปูนปั้น ส่วนหลังคาเป็นเครื่องไม้ทรงจั่วมุงกระเบื้องดินเผา กลางสันหลังคาประดับเจดีย์จำลอง มีโหง่ว(ช่อฟ้า)รูปหัวหงส์ ใบระกาและหางหงส์ม้วนงอนประดับ ทุกช่วงเสาทั้ง ๒ ด้าน ประดับคันทวยหูช้างเป็นไม้สลักลายรองรับชายหลังคา ผนังด้านข้างทำช่องแสงลูกมะหวด ๓ ช่วงเสา ส่วนช่วงเสาท้ายวิหารทำเป็นประตูทางเข้า-ออกด้านข้างทั้ง ๒ ด้าน ผนังด้านหลังวิหารก่อปิดทึบ ส่วนหน้าบันด้านหลังทำช่องแสงรูปสี่เหลี่ยมไม่ประดับลวดลายปูนปั้น . กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ ๑๑ อุบลราชธานี (สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี ในปัจจุบัน) ได้ดำเนินการบูรณะวิหารและศาลาการเปรียญวัดมโนภิรมย์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๓-๒๕๔๔ และกรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดมโนภิรมย์ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๙๙ ตอนที่ ๑๓๐ วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๒๕ ระวางแนวเขตโบราณประมาณ ๑ ไร่ ๓๔ ตารางวา -------------------------------------------------- ++++อ้างอิงจาก++++ . กรมศิลปากร. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดมุกดาหาร. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๔๔. หน้า ๑๔๓. . สำนักศิลปากรที่ ๑๑ อุบลราชธานี. รายชื่อโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว จังหวัดมุกดาหาร. เอกสารอัดสำเนา , ๒๕๕๒. ข้อมูล : กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี



ไอเซ็นเฮาวร์, ดไวท์ ดี.  รำพึงถึงความหลัง = At Ease : Stories I Tell to Friends.  แปลโดยพิจิตร      กุลละวณิชย์.  พระนคร: สหมิตรการพิมพ์, 2514.           รวบรวมเรื่องราวชีวิตของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่งของอเมริกาคือ ดไวท์ ดี. ไอเซ็นเฮาวร์ ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก การศึกษาที่เวสปอยต์ จนถึงชีวิตทหารที่รุ่งโรจน์ การได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัย ชีวิตความเป็นอยู่และครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่สำคัญในชีวิตของดไวท์ ดี. ไอเซ็นเฮาวร์ คือ มารดาและภรรยา นอกจากนี้ยังกล่าวถึงบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกผ่านมุมมองและการเล่าเรื่องผ่านตัวอักษรจากตัวผู้เขียนเอง


ชื่อเรื่อง                    สพ.ส.29 ไสยศาสตร์ประเภทวัสดุ/มีเดีย      สมุดไทยดำISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  ไสยศาสตร์ลักษณะวัสดุ              20; หน้า : มีภาพประกอบหัวเรื่อง                    โหราศาสตร์           ภาษา                      ไทยบทคัดย่อ/บันทึก        เนื้อหาว่าด้วยบทไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ที่เรียกว่ามงคล ๑๐๘ เป็นการภาวนาคาถาทางไสยศาสตร์หรือพุทธศาสตร์ที่เชื่อว่าทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์  กล่าวถึงการชุมนุมเทพต่างๆ อาทิ พระอินทร์ พระยม ท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้น เป็นการตั้งยันต์ ชุมนุมยันต์ คาถา และมีภาพยันต์                ประวัติวัดสามทอง ต.ตลิ่งชัน  อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 9 ส.ค.2538 




องค์ความรู้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านเรื่อง “พุทธรูปเจ้าองค์นี้พ่อเจ้าฟ้าหลวงสร้างไว้...”--- พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านนา พื้นเมืองน่าน อายุราวครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ ๒๔ทำด้วยไม้ ลงรักปิดทอง ขนาด ตักกว้าง ๒๒ เซนติเมตร สูง ๖๓ เซนติเมตรจากวัดพระธาตุแช่แห้ง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน--- องค์พระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบแสดงปางมารวิชัยบนฐานบัวลูกแก้วอกไก่ พระรัศมีเป็นเปลวสูง รองรับด้วยอุษณีษะ พระเศียรเรียบเกลี้ยงไม่มีขมวดพระเกศา พระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่งเป็นสัน พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เรียวบาง พระกรรณยาวทำเป็นแนวเส้นคล้ายลายก้านขดม้วนเข้าทางด้านใน พระศอเป็นปล้อง ครองจีวรห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวา ชายจีวรทำเป็นแผ่นใหญ่ปลายตัดตรงยาวลงมาจรดพระนาภี นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน บริเวณขอบฐานด้านล่างมีจารึกอักษรธรรมล้านนา ภาษาไทย จำนวน ๓ บรรทัด ความว่า “(พระ) พุทธรูปเจ้าองค์นี้ พ่อเจ้าฟ้าหลวง สร้างไว้ หื้อเป็นที่ไหว้สาสักการบูชาแห่งคนแลเทวดาทั้งหลาย ไปนานตราบ ๕๐๐๐ พระวัสสา แล นิพฺพานํ ปจฺจโย โหตุ”--- พระพุทธรูปองค์นี้ จากลักษณะพระพักตร์ แนวชายจีวร และสัดส่วนของฐาน คล้ายคลึงกับพระพุทธรูปทรงเครื่องประทับยืน วัดบุญยืน อำเภอเวียงสา สันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นโดยช่างชาวเมืองน่านกลุ่มเดียวกัน--- จากเนื้อความในจารึก แม้ว่าจะไม่ได้ระบุศักราชที่สร้าง แต่ได้มีการจารึกนามผู้สร้างว่า “พ่อเจ้าฟ้าหลวง” สร้างไว้ ซึ่งในที่นี้หมายถึง "เจ้าอัตถวรปัญโญ" เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ ๕๗ ครองเมืองน่านระหว่าง พุทธศักราช ๒๓๒๙ - ๒๓๕๓ (รวม ๒๕ ปี) ในสมัยของเจ้าอัตถวรปัญโญ เป็นช่วงที่เมืองน่านได้ขึ้นกับกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในปีพุทธศักราช ๒๓๓๑ เจ้าอัตถวรปัญโญได้ลงมาเฝ้าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ (รัชกาลที่ ๑) ณ กรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อขอเป็นข้าขอบขัณฑสีมา จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าอัตถวรปัญโญ เป็น “สมเด็จเจ้าฟ้าเมืองน่าน” กลับขึ้นมาครองเมืองน่าน และต่อมาตำนานเมืองน่าน ได้เรียกพระนามว่า “(สมเด็จ) เจ้าฟ้าหลวง” จึงสันนิษฐานว่าพระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นในสมัยของเจ้าอัตถวรปัญโญ--- ตามพงศาวดารเมืองน่าน ได้กล่าวว่าในสมัยเจ้าอัตถวรปัญโญ ได้มีการบูรณะฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในเมืองน่าน โดยการสร้างและซ่อมแซมวัดวาอารามตลอดจนพระพุทธรูปต่างๆ เช่น พุทธศักราช ๒๓๓๒ บูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุแช่แห้ง, พุทธศักราช ๒๓๓๖ สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริด วัดศรีบุญเรือง, พุทธศักราช ๒๓๔๐ สร้างวัดบุญยืน อำเภอเวียงสา,พุทธศักราช ๒๓๕๐ สร้างทิพย์เจดีย์และศาลานางหย้อง วัดพระธาตุช้างค้ำฯ เป็นต้น --- อาจกล่าวได้ว่า พระพุทธศาสนาในสมัยของเจ้าอัตถวรปัญโญ เป็นช่วงที่ได้รับการทำนุบำรุงให้มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่งช่วงหนึ่งเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าเมืองน่านในชั้นหลังทุกพระองค์ต่างก็ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากหลักฐานที่ปรากฏ อันได้แก่ วัดวาอาราม พระพุทธรูป สิ่งของหรือเครื่องใช้ทางศาสนาต่างๆ เช่น หีบพระธรรม คัมภีร์ใบลาน ซึ่งยังคงปรากฏอยู่ทั้งในเมืองน่าน และต่างอำเภอ อันเป็นขอบเขตการปกครองนครน่านจากอดีตจนถึงปัจจุบันเอกสารอ้างอิง- สุรศักดิ์ ศรีสำอาง และคณะ. เมืองน่าน โบราณคดี ประวัติศาสตร์ และศิลปะ. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร. ๒๕๓๗. - สำนักศิลปากรที่ ๗ น่าน. พงศาวดารเมืองน่าน ฉบับวัดพระธาตุช้างค้ำ. ๒๕๕๗.- สำนักศิลปากรที่ ๗ น่าน. พงศาวดารเมืองน่าน ฉบับวัดพระเกิด. ๒๕๕๗.- ฮันส์ เพนธ์ และคณะ. ประชุมจารึกล้านนา เล่ม ๕ จารึกในพิพิธภัณฑ์ฯ น่าน และจารึกเมืองน่านที่น่าสนใจ. คลังข้อมูลจารึกล้านนา, ๒๕๔๔. (เอกสารอัดสำเนา)



เรื่อง “วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า (วันวชิราวุธ) 25 พฤศจิกายน” วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า หรือ “วันวชิราวุธ” เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของคณะลูกเสือแห่งชาติ และบรรดาลูกเสือ เนตรนารี บุคลากรทางการลูกเสือ ตลอดจนพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า คือ เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสิน ทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีคุณูปการต่อประเทศไทยในหลายด้าน ทั้งด้านการคมนาคม การแพทย์และสาธารณสุข ด้านการปกครอง กิจการเสือป่าและลูกเสือ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านศิลปและวัฒนธรรมไทย ด้านวรรณกรรมและหนังสือพิมพ์ เป็นต้น ด้วยคุณูปการดังกล่าว ทางราชการจึงได้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ไว้ในสถานที่ต่างๆหลายแห่ง ที่สำคัญ คือ พระบรมราชานุสาวรีย์บริเวณหน้าสวนลุมพินี ซึ่งรัฐบาลและประชาชนพร้อมใจกันบริจาคทรัพย์สร้างขึ้น พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้ได้มีพิธีเปิด เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 และทางราชการได้กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า หรือ “วันวชิราวุธ” และจัดให้มีการถวายบังคมพระบรมรูปเป็นประจำทุกปี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสิน ทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (1 มกราคม พ.ศ. 2423 – 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468) เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 6 ในราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น 2 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2423 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 29 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสวยราชสมบัติเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม ปีจอ พุทธศักราช 2453 และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 รวมพระชนมายุ 45 พรรษา เสด็จดำรงราชสมบัติรวม 15 ปี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระอัจฉริยภาพและทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในหลายสาขา ทั้งด้านการเมืองการปกครอง การทหาร การศึกษา การสาธารณสุข การต่างประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือด้านวรรณกรรมและอักษรศาสตร์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อยแก้วและร้อยกรองไว้นับพันเรื่อง กระทั่งทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาเมื่อเสด็จสวรรคตแล้วว่า “สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ใน พระราชวงศ์จักรีพระองค์แรกที่ไม่มีวัดประจำรัชกาล แต่ได้ทรงมีการการสถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กหลวงหรือวชิราวุธวิทยาลัยในปัจจุบัน ขึ้นแทน ด้วยทรงพระราชดำริว่าพระอารามนั้นมีมากแล้ว และการสร้างอารามในสมัยก่อนนั้นก็เพื่อบำรุงการศึกษาของเยาวชนของชาติ จึงทรงพระราชดำริให้สร้างโรงเรียนขึ้นแทน อ้างอิง : ประชิด สกุณะพัฒน์, อุดม เชยกีวงศ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : ภูมิปัญญา, 2549. บุญเติม แสงดิษฐ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : พัชรการพิมพ์. 2541. ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้ นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี #องค์ความรู้ #วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า #วันวชิราวุธ #พระมงกุฎเกล้าฯ #หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกจันทบุรี #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กรมศิลปากร #สำนักศิลปากรที่5ปราจีนบุรี #กรมศิลปากร #กระทรวงวัฒนธรรม                     33    



ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           47/6ประเภทวัดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                              30 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 151/5เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


อภิธมฺมตฺถสงฺคห (อภิธมฺมสงฺคห) ชบ.บ 179/1ญ เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)