ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารกรมศิลปากร
ชื่อเรื่อง
เล่มที่
ตอนที่
หน้า
วันที่ประกาศ
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
107
๑๖ ง
789
๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
107
๑๖ ง
790
๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน [โบราณสถานตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร]
107
๑๖ ง
791
๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน [โบราณสถานวัดกันมาตุยาราม]
107
๑๖ ง
792
๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน [โบราณสถานศาลากลางและศาลจังหวัดสิงห์บุรี]
107
๑๖ ง
793
๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
107
๒๗ ง ฉบับพิเศษ
41
๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง แก้ไขประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ
107
๔๒ ง
2139
๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
107
๔๙ ง
2363
๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน [โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร]
107
๗๐ ง
3285
๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
107
๑๑๓ ง
5064
๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
107
๑๑๓ ง
5065
๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
107
๑๑๓ ง
5066
๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
107
๑๑๓ ง
5067
๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
107
๑๒๗ ง
5834
๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
107
๑๒๗ ง
5835
๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนทะเบียนโบราณสถาน
107
๑๗๖ ง
7635
๑๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ
107
๑๙๒ ง ฉบับพิเศษ
1
๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกระทำการแทน
107
๒๓๙ ง ฉบับพิเศษ
22
๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ (รวม ๔๓๘ รายการ)
108
๗๐ ง ฉบับพิเศษ
1
๑๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน (วัดบ้านตาทอง (ร้าง) ตำบลบางคลาน อำเภอ โพทะเล, วัดโคกโบสถ์ตาลอย (ร้าง ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล, วัดโคกมะเดื่อ (ร้าง) ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล เขตท้องที่จังหวัดพิจิตร)
108
๙๖ ง
5096
๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมความในประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ
108
๑๑๓ ง
6079
๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ [รวม ๑๘๔ รายการ]
108
๑๘๘ ง ฉบับพิเศษ
1
๒๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ (พระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่อง)
108
๒๓๕ ง ฉบับพิเศษ
1
๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ (เทวรูป ชนิดหิน ศิลปะแบบเขมร (นครวัดตอนปลาย))
108
๒๓๕ ง ฉบับพิเศษ
2
๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตโบราณสถาน [๑ โบราณสถานวัดท่าแค ๒ โบราณสถานบริเวณที่ดินวังเจ้าเมืองเก่าวังใหม่ ๓ โบราณสถานที่ฝังศพวิลันดา (ฮอลันดา)]
109
๙๐ ง
7812
๑๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตโบราณสถาน [โบราณสถานหมายเลข ๐๐๗, ๐๒๔ หมายเลข ๒๓ (๑๓๑) หมายเลข ๑๐๙ บ้านโคกวัด หมายเลข ๐๔๕ บ้านสระมะเขือ จังหวัดปราจีนบุรี ]
109
๙๓ ง
8056
๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดขอบเขตโบราณสถาน [พระนครคีรี]
109
๙๔ ง
8160
๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตโบราณสถาน [วัดโคกโบสถ์หลวงพ่อโต วัดท่าทังทวย]
109
๙๘ ง
8376
๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตโบราณสถาน
109
๑๐๙ ง
9452
๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดให้เข้าชมโบราณสถานที่มีเจ้าของ หรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยเรียกเก็บค่าเข้าชมหรือค่าบริการอื่น
109
๑๑๙ ง
10182
๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแสดงโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ โดยเรียกเก็บค่าเข้าชมหรือค่าบริการอื่น
109
๑๑๙ ง
10184
๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งปริมาณ รูปพรรณ และสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่มีอายุตั้งแต่สมัยอยุธยาขึ้นไป
109
๑๑๙ ง
10187
๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตโบราณสถาน
109
๑๑๙ ง
10190
๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ
109
๑๔๗ ง ฉบับพิเศษ
1
๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนและแก้ไขขอบเขตโบราณสถาน
110
๑๔ ง
24
๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
110
๑๗๔ ง
26
๒๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง อัตราค่าธรรมเนียมและวิธีการยื่นคำขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ในเขตโบราณสถาน
110
๑๘๓ ง
5
๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
110
๑๘๖ ง ฉบับพิเศษ
10
๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง แก้ไขขอบเขตที่ดินโบราณสถาน
110
๑๘๖ ง ฉบับพิเศษ
11
๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ
110
๑๙๔ ง ฉบับพิเศษ
1
๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
110
๒๑๗ ง ฉบับพิเศษ
67
๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
110
๒๒๐ ง ฉบับพิเศษ
15
๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
110
๒๒๐ ง ฉบับพิเศษ
18
๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
110
๒๒๐ ง ฉบับพิเศษ
19
๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน (๑. โบราณสถานเขาภูปลาร้า (เขาปลาร้า) ๒. โบราณสถานวัดเขาหน่อ ๓. โบราณสถานพระตำหนักเขาน้อย ๔. โบราณสถานคูและกำแพงเมืองร้อยเอ็ด)
111
๒๐ ง
21
๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๗
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
111
๕๒ ง
48
๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๗
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน [ปราสาทบ้านหลุ่งตะเคียน จังหวัดนครราชสีมา]
111
พิเศษ ๕๖ ง
23
๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๗
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ [โบราณวัตถุและศิลปวัตถุ ที่มิได้อยู่ในความครอบครองของกรมศิลปากร จำนวน ๒๘๒ รายการ]
111
๖๓ ง
1
๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๗
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
111
๗๑ ง
15
๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๗
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน [พระตำหนักเจ้าปลูก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา]
111
๘๑ ง
11
๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๗
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน [แหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท จังหวัดนครราชสีมา]
111
๘๕ ง
52
๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๗
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน [โบราณสถานในจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดอุบลราชธานี]
111
๘๕ ง
53
๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๗
นอกจากที่เที่ยวดังๆ ของเมืองกาญจน์อย่าง สะพานข้ามแม่น้ำแคว กาญจนบุรี อนุสรณ์สงครามมหาเอเชียบูรพา หรือ น้ำตกเอราวัณ แล้ว ที่กาญจนบุรียังมีศิลปะยุคโบราณอย่างปราสาทหินอีกด้วยค่ะ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีที่นี่ โดยปกติแล้ว เรามักเห็นศิลปะ หรือ สถาปัตยกรรมแบบขอมในแถบจังหวัดทางภาคอีสานของบ้านเราเป็นส่วนใหญ่ แต่น้อยนักที่จะเห็นสถาปัตยกรรมขอมในแถบทางภาคตะวันตก ซึ่ง อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ หรือ ปราสาทเมืองสิงห์ แห่งนี้ก็เป็นโบราณสถานเพียงแห่งเดียวที่เป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบขอม ที่ตั้งอยู่ในเมืองกาญจนบุรี ค่ะ
รู้จักปราสาทเมืองสิงห์
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ นี้ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแควน้อยใน ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ค่ะ ปราสาทเมืองสิงห์ นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา นิกายมหายาน ซึ่งมีสถาปัตยกรรม และปฏิมากรรม คล้ายคลึงกับของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์นักสร้างปราสาทแห่งขอม จากการขุดแต่งของกรมศิลปากร พบศิลปกรรมที่สำคัญยิ่งคือ พระพุทธรูปนาคปรก พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และ นางปรัชญาปารมิตา และยังพบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีอีกองค์หนึ่ง รูปลักษณ์คล้ายกับที่พบในประเทศกัมพูชาอีกด้วย
จากศิลาจารึกปราสาทพระขรรค์ เมืองพระนคร ประเทศกัมพูชา ซึ่งจารึกโดย พระวีรกุมาร พระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จารึกชื่อเมือง 23 เมือง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างไว้ มีเมืองชื่อ ศรีชัยสิงห์บุรี ซึ่งสันนิษฐานกันว่าคือเมือง ปราสาทเมืองสิงห์ นี่เอง
นอกจากนี้ยังมีอีกแนวความคิดเกี่ยวกับที่มาของปราสาทเมืองสิงห์ที่เชื่อว่า น่าจะเป็นการก่อสร้างเลียนแบบปราสาทขอม สมัยหลังรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และไม่น่าจะเกี่ยวข้องอันใดกับชื่อเมืองศรีชัยสิงห์บุรี หรือศรีชัยสิงห์บุรี ในจารึก เนื่องจากเห็นว่า ลักษณะทางสถาปัตยกรรมขาดความสมดุล และความลงตัว อีกทั้งเกิดความคลาดเคลื่อนในการวางตำแหน่งอาคาร ตลอดจนจารึกที่ฐานหินทรายรองรับประติมากรรมเป็นตัวอักษรและภาษาขอมสมัยหลังเมืองพระนคร หรือหลังจากรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ค่ะ
เดินชิลล์เที่ยวชมสถาปัตยกรรม
เมื่อเราเข้ามาภายในบริเวณปราสาทเมืองสิงห์จะมีป้าย QR Code หลากหลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และจีน อำนวยความสะดวก แนะนำประวัติศาสตร์ และสถานที่สำคัญต่างๆ ของปราสาทเมืองสิงห์ให้กับนักท่องเที่ยวค่ะ
โบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์นั้น สามารถแบ่งได้ออกเป็น
โบราณสถานหมายเลข 1 ตั้งอยู่บริเวณใจกลางกลุ่มโบราณสถานค่ะ และประกอบด้วยสิงห์สำคัญคือ ปรางค์ประธาน ระเบียงคด โคปุระ บรรณศาลา และกำแพงแก้ว
โบราณสถานหมายเลข 2 ลักษณะคล้ายคลึงกันกับโบราณสถานหมายเลข 1 ค่ะ มีปรางค์ประธาน โคปุระ 4 ด้าน แต่พังลงมามากบูรณะได้น้อย และเป็นสถานที่ขุดพบเทวรูป
โบราณสถานหมายเลข 1 และโบราณสถานหมายเลข 2 เป็นอาคารที่สันนิษฐานว่า เป็นศาสนสถานที่สำคัญ มีองค์ปรางค์ประธานตั้งอยู่กลางอาคารและเป็นที่ตั้งของรูปเคารพที่สำคัญอีกด้วย การก่อสร้างใช้ศิลาแลงเป็นส่วนวัสดุสำคัญนั่นเอง
โบราณสถานหมายเลข 3 โบราณสถานแห่งนี้อยู่บริเวณนอกกำแพงแก้ว มีลักษณะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดเล็กสร้างด้วยอิฐและศิลาแลง ซึ่งกรมศิลปากรสันนิษฐานว่า เป็นเจดี 2 องค์
โบราณสถานหมายเลข 4 ตั้งอยู่ใกล้หมายเลข 3 ยังบูรณะอยู่ เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า การก่อสร้างอาคารใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุสำคัญ
หลุมขุดค้นทางโบราณคดี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งขุดค้นพบทั้งโครงกระดูก เครื่องมือเครื่องใช้ ภาชนะสำริด ดินเผา เครื่องมือเหล็ก สร้อยคอทำด้วยลูกปัดหินและลูกปัดแก้ว ซึ่งชี้ชัดว่าชุมชนเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่จะสร้างเมืองสิงห์ เพราะเป็นศพของคนที่ตายมา 2,000 ปีแล้ว สันนิษฐานว่าคงจะยุคเดียวกับคนในชุมชนบ้านเก่าค่ะ
นอกจากนี้ภายในอาคารจัดแสดงวัตถุ ได้มีการจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ขุดค้นพบในบริเวณปราสาทเมืองสิงห์อีกมากมายค่ะ ทั้งศีรษะพระศิวะ แม่พิมพ์พระพุทธรูป ภาชนะดินเผา และอื่นๆ อีกมากมายซึ่งเป็นรูปจำลอง เพราะกรมศิลปากรได้นำไปเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครค่ะ
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ตั้งอยู่ที่ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
การเดินทาง ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางสายกาญจนบุรี – ไทรโยค จนถึงกิโลเมตรที่ 15 จะมีทางแยกซ้ายไปปราสาทเมืองสิงห์อีก 7 กิโลเมตร
วันศุกร์ที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๒เวลา ๐๙.๓๐ น.คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพัฒนาเด็กอ.เมือง จ.ขอนแก่นจำนวน ๓๕ คนเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่นโดยมีนางแพรว ธนภัทรพรชัย และนักศึกษาฝึกประสบการณ์ ๓ คน คือ นางสาวรมินทร์กร พูนนาม นายสัมฤทธิ์ ภูดวง และนายวัชรวิทย์ ปัญญะพงษ์ เป็นวิทยากรนำชม
วันที่ ๙ พ.ย. ๒๕๕๘ สำนักช่างสิบหมู่ได้มีโอกาสบันทึกเทปโทรทัศน์ในรายการ "Natcha The Explorer"
พร้อมทำภารกิจกับน้องณัชชา โดยมีนายช่างของเรา เป็นผู้ให้คำแนะนำ
ภารกิจในครั้งนี้คืออะไร? และน้องณัชชาจะผ่านไปได้หรือไม่ รอติดตามชมได้ในรายการ "Natcha The Explorer"
วันที่ ๑-๓ เมษายน ๒๕๖๒ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา ร่วมจัดงานวันอนุรักษ์มรดกไทย ณ ลานอนุเสาวรีย์ท้าวสุรนารี
หนังสือ เรื่องราวของคณะสังฆราชฝรั่งเศสในราชอาณาจักรสยามผู้ประพันธ์ได้แบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 ภาค1. ภาคจากเรื่องราวราชอาณาจักรสยาม2. จากอาณาจักรโคจิจีน3. จากอาณาจักรเขมร4. จากอาณาจักรตังเกี๋ย
สาระสังเขป : พระยาโบราณราชธานินทร์ ขณะดำรงตำแหน่ง เป็นอุปราชมณฑลกรุงเก่า ได้เรียบเรียงทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวเสด็จประพาสมณฑลกรุงเก่าและมณฑลนครสวรรค์ ดังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 33 หน้า 1521 ว่า "วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พุทธศักราช 2459" เวลาเช้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินโดยทางชลมารคจากท่าวาสุกรี ประพาสมณฑลกรุงเก่าและมณฑลนครสวรรค์ผู้แต่ง : โบราณราชธานินทร์, พระยา (พร เดชะคุปต์)โรงพิมพ์ : บุญส่งการพิมพ์ปีที่พิมพ์ : 2504ภาษา : ไทยรูปแบบ : PDFเลขทะเบียน : น.31บ.12490เลขหมู่ : 915.93 บ923รพ
ขอเชิญชม การแสดงรอบพิเศษ
“นาฏเจียระไน ส่งใจถึงเธอ”วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๑
เวลา ๐๙.๓๐ – ๒๐.๐๐ น.ณ โรงละครแห่งชาติ
ภาคเช้า (๐๙.๓๐ -๒๐.๐๐ น.)๑. การบรรเลงและขับร้องโดยวงดุริยางค์ไทยและวงดุริยางค์สากล กรมศิลปากร ออกแบบและจัดการแสดงโดย ผอ. เอนก อาจมังกร และ ดร.ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์
๒. รำฉุยฉายพระลอคลอเพื่อนแพง
๓. ระบำกินรีร่อน ออกซัดชาตรี
๔. ระบำอัศวลีลาม้าลิเก
๕. ละครเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน “ตอนขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง – พาวันทองหนี”
ภาคบ่าย (๑๔.๐๐-๑๖.๓๐ น.)
๑. ระบำพม่าลีลาหุ่น
๒. ละครพันทาง – เรื่องผู้ชนะสิบทิศ “ตอนแม่ทัพคนใหม่”
ภาคบ่าย (๑๔.๐๐-๑๖.๓๐ น.)
๑. รำบวงสรวงองค์ปะตาระกาหลา
๒. ฟ้อนแพน
๓. ละครเรื่องอิเหนา (แต่งกายชวา) “ตอนศึกกะหมังกุหนิง”
สถานที่จำหน่ายบัตร
- โรงละครแห่งชาติ โทร.๐๒-๒๒๔-๑๓๔๒ , ๐๘๙-๘๕๑-๙๔๖๔
- คุณเนาวลักษณ์ วัฒนพาณิชย์ โทร.๐๒-๕๒๖-๗๙๒๖ , ๐๘๙-๘๙๓-๒๐๘๙
บัตรราคา ๔,๐๐๐, ๓,๐๐๐, ๒,๐๐๐ และ ๑,๐๐๐ (ชั้นบน)
- เปิดสำรองที่นั่ง และจำหน่ายบัตรก่อนการแสดง ๑ สัปดาห์ และ วันแสดง (จำหน่ายบัตรก่อนการแสดง ๒ ชั่วโมง)
สนับสนุนการจัดการแสดงโดย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
“น้ำดื่มสะอาด น้ำดื่มตราสิงห์”
ชื่อเรื่อง ทศบารมีพระเวสสันดร
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ ธรรมสภา
ปีที่พิมพ์ ม.ป.ป.
จำนวนหน้า 30 หน้า
รายละเอียด
เป็นหนังสือในโครงการศีลธรรมของยุวชนคือสันติภาพของโลก เป็นโอวาทที่ท่านเจ้าคุณพุทธทาสมอบไว้ให้แก่ทุกคน เพื่อให้ช่วยกันส่งเสริม สนับสนุนและปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างแก่ยุวชน หนังสือในโครงการมีทั้งหมด 10 เล่ม เรียกว่า ทศบารมี ซึ่ง “ ทศบารมีพระเวสสันดร” เป็นหนึ่งในโครงการนี้ เป็นหนังสือที่กล่าวถึงพระพุทธเจ้าครั้งเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรจึงได้บำเพ็ญทานบารมีขั้นสูงสุดคือ ทรงบริจาคทรัพย์สิ่งของให้เป็นทานและต่อมาทรงบริจาคช้างสำคัญคู่บารมีจนเป็นเหตุให้ถูกเนรเทศไปอยู่ป่า นอกจากนี้ยังให้คติเตือนใจว่า “การให้ทาน เป็นบารมีแด่ตนอย่างยิ่ง” พร้อมภาพประกอบ
ประตูต้นไทร เป็นประตูเมืองด้านทิศเหนือของค่ายเนินวง ก่อสร้างในปีพุทธศักราช ๒๓๗๗ ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เพื่อเป็นปราการป้องกันพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของค่ายเนินวงมีภูมิประเทศเป็นเนินดินสูงกว่าพื้นที่โดยรอบ เหมาะแก่การตั้งทัพป้องกันข้าศึกศัตรู ค่ายเนินวงเป็นเมืองที่มีกำแพงเมืองคูเมืองล้อมรอบ คูเมืองขุดลงไปในชั้นศิลาแลงธรรมชาติ กว้างประมาณ ๑๕ เมตร ดินที่ขุดคูเมืองนำมาถมเป็นกำแพงเมืองกว้างประมาณ ๒๕ เมตร สูงประมาณ ๕ เมตร บริเวณที่มีการเว้นช่องประตูจะมีการก่ออิฐเป็นกำแพงกันดิน โดยเว้นช่องประตูกว้างประมาณ ๓.๕๐ เมตร ไม่ปรากฏร่องรอยของบานประตู แต่มีเสาไม้จำนวน ๔ ต้น สูงประมาณ ๕ เมตร รองรับอาคารด้านบนซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นหอรบหรือหอสังเกตุการณ์ ประตูต้นไทรเป็นประตูเพียงแห่งเดียวจากประตูเมืองทั้งหมด ๘ ประตู ที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยอาคารด้านบน ด้านข้างของอาคารทั้งสองด้านมีแนวใบบังทำจากศิลาแลง ยาวประมาณ ๗-๑๐ เมตร สูงประมาณ ๑.๕๐ เมตร และเชิงเทินกว้างประมาณ ๘ เมตร ยาวต่อเนื่องไปตลอดระยะกำแพงเมือง กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดแต่งทางโบราณคดีเพื่อออกแบบบูรณะประตูต้นไทร ก่อนดำเนินการได้ทำการตัดแต่งกิ่งต้นไทรที่ขึ้นปกคลุมอาคารด้านบน ทำให้พบฐานอาคารก่ออิฐที่มีลักษณะเป็นฐานบัวคว่ำ มีทางเข้าออกจากด้านกำแพงเมืองทั้งสองฝั่ง ฐานอาคารตั้งอยู่บนไม้ซุงผ่าครึ่งวางเรียงกัน มีเสาไม้ คานไม้และผนังกันดินก่ออิฐเป็นตัวรองรับน้ำหนักอาคาร ไม่พบส่วนของผนังอาคารและโครงสร้างหลังคา อย่างไรก็ตามพบชิ้นส่วนปูนฉาบผนังอาคาร ลวดบัวปูนปั้นเป็นวงโค้ง กระเบื้องมุงหลังคาดินเผา ทำให้สันนิษฐานว่าอาคารด้านบนของประตูเป็นอาคารที่มีฐานทำจากอิฐ มีผนังฉาบปูน มีช่องหน้าต่างหรือช่องประตูเป็นวงโค้งและมุงหลังคาด้วยกระเบื้องดินเผา ภาพที่ 1 ประตูต้นไทรก่อนการดำเนินงาน ภาพที่ 2 ฐานอาคารด้านบนประตู หลังการตัดแต่งกิ่งต้นไทร ภาพที่ 3 และ 4 ประตูต้นไทร หลังการขุดแต่งทางโบราณคดี ภาพที่ 5 ใบบัง หลังการขุดแต่งทางโบราณคดี ภาพที่ 6 ลวดบัวและปูนฉาบอาคาร ที่พบจากการขุดแต่งทางโบราณคดี ภาพที่ 7 และ 8 ประตูต้นไทร หลังการบูรณะ ภาพที่ 9 และ 10 อาคารด้านบนประตูต้นไทร หลังการบูรณะ ภาพที่ 11 และ 12 ใบบัง หลังการบูรณะ ที่มาของข้อมูล : สำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี