ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 40,242 รายการ
ที่มา : https://datasipmu.finearts.go.th/academic/65
กรมศิลปากร. คนก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, 2512.
ในภาพศิลปะไทยหงส์ หมายถึง สัตว์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมีลักษณะคล้ายห่าน คอยาวและตัวโตกว่า แต่ในส่วนที่เป็นหัวของหงส์นี้ เมื่อดูเปรียบเทียบกับสัตว์น้ำชนิดหนึ่ง คือ ม้าน้ำ หัวและคอคล้ายกันมาก ชะรอยช่างศิลปะไทยโบราณที่ประดิษฐ์ขึ้นน่าจะเอามาผสมกันเป็นแน่ แต่คงลักษณะคอและปีกให้เป็นนก (สัตว์ทวิบาท) อยู่และส่วนที่เป็นหางก็ใช้กระหนกครึ่งซีก ซึ่งประดิษฐ์มาจากครึ่งซีกของดอกบัวอ่อนหรือดอกบัวตูม มาปะติดปะต่อจนได้เป็นรูปของสัตว์ปีกชนิดหนึ่งขนานนามว่า “หงส์”
ที่มา: https://datasipmu.finearts.go.th/academic/55
“เขากะลา” ที่ไม่เกี่ยวกับ UFO
เรื่องและภาพ : ปริวรรษ เจียมจิตต์ – นักโบราณคดีปฏิบัติการ
กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี
เขากะลา ตั้งอยู่ในเขตตำบลเขากะลา อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ สภาพเป็นภูเขาหินปูนทอดตัวยาวในแนวทิศเหนือ - ทิศใต้ เขากะลามีหลายยอดเขา และมีภูเขาอื่น ๆ ตั้งอยู่โดยรอบ ได้แก่ เขาดิน ซึ่งเป็นภูเขาลูกโดด ลักษณะการก่อตัวของภูเขาเป็นดินอัดแน่นเป็นเนื้อเดียวตั้งอยู่ทางที่ราบด้านทิศตะวันตกของเขากะลา, เขาผักไร เป็นภูเขาหินปูนลูกเล็กตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และเขาสนามชัยซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเขาหินปูนเช่นกัน หินปูนที่พบในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์นั้น อยู่ในช่วงอายุทางธรณีกาล คือ ยุคเพอร์เมียน หรือราว ๒๙๙ - ๒๕๑ ล้านปีมาแล้ว
การสำรวจทางโบราณคดีบริเวณเขากะลา โดย ปพนพัชร์ สุขเจริญศิริชัย นักโบราณคดีอิสระ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๐ คณะสำรวจของโครงการสำรวจแหล่งโบราณคดีประเทศไทย กองโบราณคดี กรมศิลปากร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ และคณะนักโบราณคดีของกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี ประกอบด้วยเจตน์กมล วงษ์ท้าว สรธัช โรจนารัตน์ และปริวรรษ เจียมจิตต์ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๓ พบแหล่งโบราณคดีถึง ๑๗ แห่ง ได้แก่ แหล่งโบราณคดีบ้านชอน ๑, แหล่งโบราณคดีบ้านชอน ๒, แหล่งโบราณคดีซับกระโดน, แหล่งโบราณคดีซับผักกาด, แหล่งโบราณคดีธารลำไย ๑, แหล่งโบราณคดีธารลำไย ๒, แหล่งโบราณคดีพุวิเศษ, แหล่งโบราณคดีพุหว้า ๑, แหล่งโบราณคดีพุหว้า ๒, แหล่งโบราณคดีพุซาง, แหล่งโบราณคดีบ่อน้ำทิพย์, แหล่งโบราณคดีพบที่สำนักสงฆ์บ่อน้ำทิพย์ - วัดป่าพุซาง, แหล่งโบราณคดีบ้านเขาดิน ๑, แหล่งโบราณคดี บ้านเขาดิน ๒, แหล่งโบราณคดีพุตาฉิ่ง, แหล่งโบราณคดีพุตาเมือง, และแหล่งโบราณคดีบ้านปากดง พบหลักฐานทางโบราณคดี เช่น เศษภาชนะดินเผาเนื้อดินธรรมดา สีส้ม สีนวล สีดำ บางชิ้นมีการทาน้ำดินสีแดง และก้อนดินเผาไฟ ซึ่งเป็นหลักฐานที่สามารถพบได้ในทุก ๆ แหล่งโบราณคดีบริเวณเขากะลาแห่งนี้ กำหนดอายุเบื้องต้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย สมัยเหล็ก แหล่งโบราณคดีโดยรอบเขากะลา สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นชุมชนระดับหมู่บ้านเกษตรกรรม ตั้งที่อยู่อาศัยอยู่บนที่ราบเชิงเขากะลา บางแหล่งอยู่บนที่ราบลอนลาด ไม่นิยมอยู่บริเวณพื้นที่ราบลุ่ม คงเป็นเพราะการตั้งถิ่นฐานบนที่สูงกว่าดังกล่าว เป็นการป้องกันมิให้ประสบปัญหาอันเนื่องมาจากอุทกภัย ส่วนบริเวณที่ราบลุ่มริมลำน้ำนั้นคงเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ลักษณะโดยทั่วไปของดินบริเวณที่ตั้งแหล่งโบราณคดีเป็นดินร่วนปนลูกรัง ดินร่วนปนกรวด ดินเหนียวปนลูกรัง และปูนมาร์ล ที่ผุพังมาจากบนภูเขา ซึ่งมีลักษณะธรณีสัณฐานเป็นภูเขาหินปูน
ปัจจัยสำคัญที่มีต่อการตั้งถิ่นฐานของคนโบราณที่อาศัยอยู่ ณ พื้นที่แห่งนี้ คือ แหล่งน้ำใต้ดิน คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นจากการสะสมตัวของน้ำที่ไหลผ่านรอยแตกหรือ กัดกร่อนของชั้นหินปูนลงไปสะสมตัวอยู่ใต้ดิน และผุดขึ้นมาตามตาน้ำ ดังปรากฏตามชื่อหมู่บ้านในแถบนี้จะมีชื่อขึ้นต้นว่า พุ, ซับ, และชอน (Capillary water, Spring) ซึ่งการเลือกตั้งถิ่นฐานใกล้แหล่งน้ำใต้ดินอันเป็น ต้นน้ำของลำธารทุกสายในแถบนี้ ทำให้รูปแบบการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณรอบเขากะลานั้น “แตกต่าง” จากชุมชนโบราณโดยทั่วไป ซึ่งเลือกที่จะอยู่ใกล้ลำน้ำสายรองในที่ราบ อาจจะเพราะด้วยเหตุผลที่ว่าการอยู่ใกล้ตาน้ำนั้นจะทำให้ชุมชนนั้นได้ใช้ประโยชน์จากน้ำที่สะอาดที่สุดก่อนใคร และไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะแห้ง หรือเน่าเสียก็เป็นได้
จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบจากการสำรวจที่ผ่านมา สามารถกำหนดอายุเบื้องต้นได้ว่า แหล่งโบราณคดีบริเวณรอบเขากะลาน่าจะมีพัฒนาการอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย สมัยเหล็ก แม้ว่าจะมีการค้นพบเครื่องมือหินขัดในแหล่งโบราณคดีบางแห่ง เช่น ที่แหล่งโบราณคดีพุตาฉิ่ง บนที่ราบเชิงเขาบริเวณทิศเหนือของเขากะลา, แหล่งโบราณคดีพุวิเศษ บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขากะลา ก็อาจเป็นของที่ตกทอดมาจนถึงสมัยเหล็ก เพราะแม้จะมีการใช้เครื่องมือเหล็กแล้วการใช้เครื่องมือหินขัดก็ยังคงมีอยู่
หลักฐานที่สนับสนุนข้อสันนิษฐานที่ว่าแหล่งโบราณคดีบริเวณรอบเขากะลาส่วนมากมีพัฒนาการอยู่ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย สมัยเหล็ก ปรากฏให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในบริเวณแหล่งโบราณคดีบ้านปากดง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเขากะลาไปทางทิศเหนือ ระยะทางราว ๔ กิโลเมตร มีการพบหลักฐานเกี่ยวกับการโลหกรรมถลุงเหล็กเป็นจำนวนมาก เช่น ตะกรันแร่เหล็ก (ferrous slag), ชิ้นส่วนท่อลมดินเผา (tuyere) และชิ้นส่วนผนังของเตาถลุงโลหะ โบราณวัตถุบางส่วนเก็บรักษาไว้ที่โรงเรียนบ้านปากดง (เทียนศรีประสิทธิ์) เช่น เบ้าหลอมโลหะ, เครื่องมือโลหะ, เครื่องมือหินขัด, ชิ้นส่วนกำไลหิน, ลูกปัดหิน, ลูกปัดแก้ว, ภาชนะดินเผาเต็มใบ, หินดุ, แวดินเผา, ชิ้นส่วนกระดูกสัตว์ จากคำบอกเล่าของคุณครูที่ดูแลห้องเก็บโบราณวัตถุ กล่าวว่าโบราณวัตถุเหล่านี้รวบรวมมาจากพื้นที่ทำการเกษตรในหมู่บ้านปากดง และแหล่งโบราณคดีบ้านปากดง สาเหตุที่พบเนื่องจากมีการใช้รถไถปรับพื้นที่เพื่อทำการเกษตรกรรม ทำให้โบราณวัตถุ ชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์และกระดูกสัตว์ ปะปนขึ้นมากระจายตัวอยู่บนผิวดิน ทำให้ทราบว่าบริเวณพื้นที่แหล่งโบราณคดีบ้านปากดงมีการอยู่อาศัยอย่างหนาแน่น และเป็นชุมชนที่เป็นแหล่งถลุงโลหะ ผลิตเครื่องมือเหล็ก มีการผลิตภาชนะดินเผา และทอผ้าขึ้นใช้เอง ทำให้ทราบว่ามีบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นช่างฝีมือเฉพาะทางของชุมชน แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างของสังคมอันซับซ้อนของชุมชนโบราณรอบเขากะลา
จากการวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสารสนเทศภูมิศาสตร์ ในบริเวณใกล้เคียงกันรัศมี ๑๐-๑๕ กิโลเมตร พบเมืองโบราณในยุคประวัติศาสตร์ ช่วงก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ได้แก่ เมืองโบราณบ้านหนองเนิน, เมืองโบราณหัวถนนกลาง (เมืองสระแก้ว) ที่อยู่ห่างออกจากเขากะลาไปทางทิศตะวันออกระยะทางราว ๑๔ กิโลเมตร, เมืองโบราณคูเมือง (บ้านห้วยดุก) ที่อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ระยะทางราว ๑๒ กิโลเมตร และแหล่งโบราณคดีโคกสำริด ซึ่งเป็นแหล่งถลุงโลหะขนาดใหญ่ อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกระยะทางราว ๑๒ กิโลเมตร ซึ่งเมืองโบราณ และแหล่งโบราณคดีเหล่านี้พบหลักฐานเกี่ยวกับการโลหกรรม คงจะเป็นเครือข่ายการผลิตโลหะในสมัยโบราณ
ต่อมาคงจะมีการเข้ามาใช้พื้นที่อีกครั้งในสมัยอยุธยา จากหลักฐานเศษเครื่องถ้วยจีนแบบเขียนลายสีน้ำเงินและสีดำบนพื้นขาว (เจตน์กมล วงษ์ท้าว นักโบราณคดีชำนาญการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี ได้ให้ความเห็นว่าน่าจะมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๒ - ๒๕) พบที่แหล่งโบราณคดีบ้านชอน ๑, แหล่งโบราณคดีบ้านพุวิเศษ, แหล่งโบราณคดีบ่อน้ำทิพย์ (สำนักสงฆ์เขากะลาพญาธรรม), แหล่งโบราณคดีสำนักสงฆ์บ่อน้ำทิพย์ - วัดป่าพุซาง, และแหล่งโบราณคดีบ้านปากดง สอดคล้องกับแหล่งโบราณคดีใกล้เคียงกันอย่างโคกสำริด ที่มีการพบเศษเครื่องถ้วยจีน และเศษเครื่องถ้วยสังคโลก
ดังนั้น เราอาจเห็นภาพรวมของรูปแบบการตั้งถิ่นฐานชุมชนบริเวณรอบเขากะลา โดยยึดเอาเขากะลาเป็นหมุดหมายสำคัญ หรือจุดสังเกต (landmark) ของชุมชน ในอีกเหตุผลหนึ่งนั้น ภูเขาเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติชั้นดีสำหรับนายพรานผู้หาของป่าล่าสัตว์ ส่วนแหล่งโลหกรรมนั้น มีการขยับขยายออกไปให้ไกลจากต้นน้ำ นั่นอาจเป็นกุศโลบายของคนโบราณในการเลือกใช้พื้นที่เพื่อสงวนรักษาทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้ ดังจะเห็นว่า ชื่อในปัจจุบันคือบ้านปากดง นั่นหมายถึง “ชายป่า” การทำโลหกรรมบริเวณดังกล่าวซึ่งต้องใช้ทรัพยากรเชื้อเพลิงจำนวนมหาศาล จึงสามารถนำต้นไม้จากป่ามาใช้ได้อย่างสะดวก บริเวณนี้เป็นลำน้ำที่ขยายใหญ่ขึ้นมาเป็นลำห้วยแล้ว จึงไม่ต้องกังวลว่าป่าไม้จะหมดไปโดยง่าย ในขณะที่ป่าต้นน้ำต้องใช้เวลาฟื้นฟูยาวนานกว่ามาก
สำหรับประเด็นความสัมพันธ์กับชุมชนโบราณอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงกันนั้น เบื้องต้นได้พิจารณาจากแนวคิดภูมิศาสตร์การตั้งถิ่นฐาน และพัฒนาการทางสังคม มองเห็นภาพคร่าว ๆ ว่ากลุ่มคนที่อยู่บริเวณเขากะลานั้นต่อมาอาจจะมีการเคลื่อนตัวออกห่างจากเขากะลาซึ่งเป็นภูเขาที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางที่สุดในย่านนี้ ไปสู่ลำน้ำสายที่ใหญ่ขึ้น แต่ขนาดของภูเขานั้นเล็กลง จะเห็นว่าผู้คนยังคงยึดโยงอยู่กับภูเขาอันเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและหมุดหมายที่สำคัญอยู่ เพียงแต่ไปเพิ่มกำลังการผลิตในงานเกษตรกรรมยิ่งขึ้น และเมื่อทำการเกษตรกินอาณาเขตกว้างขวาง ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำเพิ่มขึ้นด้วย จึงละทิ้งตาน้ำที่เคยครอบครองอยู่ก่อนนั้น ไปพัฒนาองค์ความรู้ในการบริหารจัดการน้ำด้วยการสร้างขอบเขตชุมชนที่มีคูน้ำคันดินขึ้นแทนการอาศัยอยู่ ณ บริเวณอันเป็นต้นน้ำ ทั้งนี้ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี คาดหวังว่าจะมีการศึกษาเพิ่มเติม และนำมาบอกเล่าแลกเปลี่ยนความรู้กันในโอกาสต่อไป.
เอกสารอ้างอิง
กรมทรัพยากรธรณี. ธรณีวิทยาประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม, ๒๕๕๐.
กรมศิลปากร, กองโบราณคดี. แหล่งโบราณคดีประเทศไทย เล่ม ๒. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๓๑.
ปพนพัชร์ สุขเจริญศิริชัย. “การสำรวจเก็บข้อมูลสภาพปัจจุบันและการใช้พื้นที่เมืองโบราณคูเมือง (บ้านห้วย
ดุก) ตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว อำเภอพยุหะคีรี และตำบลหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์”, โครงการสำรวจเก็บข้อมูลสภาพปัจจุบันและการใช้พื้นที่บริเวณเมืองโบราณและชุมชนโบราณสมัยทวารวดี ในเขตจังหวัดนครสวรรค์, (มกราคม - พฤษภาคม ๒๕๖๐).
ปพนพัชร์ สุขเจริญศิริชัย. “รายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางประวัติศาสตร์โบราณคดีและมาตรการ
ป้องกันลดผลกระทบ พื้นที่คำขอประทานบัตรที่ ๑๑/๒๕๕๙ หมายเลขหลักหมายเขตเหมืองแร่ที่ ๓๒๓๑๐ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด อุทัยเมืองทอง หมู่ที่ ๑๑ ตำบลเขากะลา อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์”, (พฤษภาคม – มิถุนายน ๒๕๖๐).
ปพนพัชร์ สุขเจริญศิริชัย. “รายงานความก้าวหน้า การสำรวจเก็บข้อมูลสภาพปัจจุบันและการใช้พื้นที่เมือง
โบราณบ้านหัวถนนกลาง (เมืองสระแก้ว) ตำบลหัวถนน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์”, โครงการสำรวจเก็บข้อมูลสภาพปัจจุบันและการใช้พื้นที่บริเวณเมืองโบราณและชุมชนโบราณสมัยทวารวดี ในเขตจังหวัดนครสวรรค์, (กุมภาพันธ์ - เมษายน ๒๕๖๐).
ปพนพัชร์ สุขเจริญศิริชัย. “รายงานความก้าวหน้า การสำรวจเก็บข้อมูลสภาพปัจจุบันและการใช้พื้นที่เมือง
โบราณบ้านหนองเนิน ตำบลหัวถนน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์”, โครงการสำรวจเก็บข้อมูลสภาพปัจจุบันและการใช้พื้นที่บริเวณเมืองโบราณและชุมชนโบราณสมัยทวารวดี ในเขตจังหวัดนครสวรรค์, (กุมภาพันธ์ - เมษายน ๒๕๖๐).
สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี, กลุ่มโบราณคดี. “รายงานการสำรวจแหล่งโบราณคดีโคกสำริด หมู่ที่ ๑๐ บ้านป่าบัว
ทอง ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์”, (มีนาคม ๒๕๕๐).
สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี, กลุ่มโบราณคดี. “รายงานการสำรวจแหล่งโบราณคดีบริเวณเขากะลา แหล่ง
โบราณคดีบ้านชอน ๑-๒, ซับกระโดน, ซับผักกาด, ธารลำไย ๑-๒, พุวิเศษ, พุหว้า ๑-๒, พุซาง, บ่อน้ำทิพย์, สำนักสงฆ์บ่อน้ำทิพย์ - วัดป่าพุซาง, บ้านเขาดิน ๑-๒, พุตาฉิ่ง, พุตาเมือง และบ้านปากดง ตำบลเขากะลา อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์”, (ตุลาคม ๒๕๖๓).
สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี, กลุ่มโบราณคดี. “รายงานการสำรวจแหล่งโบราณคดีบริเวณเขากะลา แหล่ง
โบราณคดีบ้านชอน ๑-๒, ซับกระโดน, ซับผักกาด, ธารลำไย ๑-๒, พุวิเศษ, พุหว้า ๑-๒, พุซาง, บ่อน้ำทิพย์, สำนักสงฆ์บ่อน้ำทิพย์ - วัดป่าพุซาง, บ้านเขาดิน ๑-๒, พุตาฉิ่ง, พุตาเมือง และบ้านปากดง ตำบลเขากะลา อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์”, (ตุลาคม ๒๕๖๓).
กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน "บทกลอนสะท้อนนาฏกรรม" วิทยากร นางอัมไพวรรณ เดชะชาติ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนาการสังคีต สำนักการสังคีต ผู้ดำเนินรายการ นายธำมรงค์ บุญราช นักวิชาการละครและดนตรีปฏิบัติการ สำนักการสังคีต พิธีกร นางกมลชนก พรภาสกร นักวิชาการโสตทัศนศึกษา กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ - ๑๑.๔๕ น.
ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร
ท้าววสวัตตีมาร และเหล่าบริวาร จิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพุทธประวัติ ตอน"มารผจญ" ผนังด้านหลังองค์พระประธาน ภายในอุโบสถ วัดบางขนุน ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
เหรียญรูปปูรณฆฏะและศรีวัตสะ สมัยทวารวดี
เหรียญรูปปูรณฆฏะและศรีวัตสะ จัดแสดงอาคารจัดแสดง ๒ ชั้น ๒ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง
เหรียญเงินกลมแบน เส้นผ่านศูนย์กลาง ๒.๕ เซนติเมตร มีรูปสัญลักษณ์มงคลทั้ง ๒ ด้าน แต่ละด้านมีรายละเอียด ดังนี้
ด้านที่ ๑ มีรูปปูรณฆฏะขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ตรงกึ่งกลางเหรียญ โดยมีลักษณะเป็นหม้อทรงกลม ป่องกลาง คอคอด ปากกว้างผายออก มีลายพันธุ์พฤกษาห้อยลงมาทั้งสองข้าง ใต้หม้อมีสิ่งรองรับอาจเป็นใบไม้หรือดอกไม้ ขอบด้านนอกตกแต่งด้วยลายจุดกลมโดยรอบ
ด้านที่ ๒ มีรูปศรีวัตสะ และสัญลักษณ์มงคลอื่นๆ ประกอบ โดยมีศรีวัตสะอยู่ตรงกึ่งกลาง ลักษณะเป็นโครงลายเส้น โดยเส้นฐานล่างเป็นเส้นตรง เส้นด้านข้างทั้งสองด้านเชื่อมกับเส้นฐานล่าง ส่วนด้านบนตรงกึ่งกลางมีลักษณะคล้ายสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ด้านในมีรูปวัชระ ลักษณะเป็นอาวุธมีปลายแฉกทั้ง ๒ ด้าน ส่วนบนด้านขวาเป็นรูปพระอาทิตย์ และด้านซ้ายเป็นรูปพระจันทร์ ถัดลงมาด้านขวามีรูปอังกุศ (ขอสับช้าง) ลักษณะเป็นแท่งยาวมีปลายแหลมยื่นออกมาที่ด้านข้าง ส่วนด้านซ้ายสันนิษฐานว่าเป็นภาพจามร (แส้) ลักษณะเป็นแท่งยาวมีพู่ ใต้ศรีวัตสะมีรูปปลาหันไปทางขวา
ลวดลายที่ปรากฏบนเหรียญเป็นสัญลักษณ์มงคลที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์และความอุดมสมบูรณ์ พบเหรียญตราในลักษณะคล้ายคลึงกันนี้ตามแหล่งโบราณคดีสมัยทวารวดี แต่มีรายละเอียดสัญลักษณ์มงคลบางประการแตกต่างกันออกไป ได้แก่ เหรียญรูปสังข์และศรีวัตสะ เหรียญรูปพระอาทิตย์และศรีวัตสะ เหรียญรูปภัทรบิฐและศรีวัตสะ เหรียญรูปสัตว์และศรีวัตสะ เป็นต้น
นอกจากเหรียญตราชิ้นนี้แล้ว ยังพบเหรียญรูปปูรณฆฏะและศรีวัตสะที่มีรายละเอียดของลวดลายแตกต่างกันบางประการอีกจำนวนหนึ่ง ที่เมืองนครปฐมโบราณ จังหวัดนครปฐม และแหล่งโบราณคดีบ้านพรหมทิน จังหวัดลพบุรี กำหนดอายุเหรียญตราชิ้นนี้ในสมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๖ หรือประมาณ ๑,๐๐๐ – ๑,๔๐๐ ปีมาแล้ว
เอกสารอ้างอิง
วิภาดา อ่อนวิมล. “เหรียญตราในประเทศไทยช่วงพุทธศตวรรษที่ ๙-๑๖”. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๖๑.
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร แจ้งปิดให้บริการในวันพุธที่ 27 มีนาคม 2567 เพื่อเตรียมการเปิดนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2224 1333, 0 2224 1402
-------------------------------------------
Announcement
National Museum Bangkok will be closed on 27 March 2024 for the opening ceremony of the special exhibition.
Sorry for any inconvenience. For more infomation 0 2224 1333, 0 2224 1402
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม "ชม ชิด แชะ ถ่ายภาพความประทับใจ" ในงาน “Night at The Palace ย้อนเวลา ชมวัง 4 ศตวรรษ พระราชวังจันทรเกษม” พร้อมติดแฮชแท็ก #NightatThePalace ลุ้นรับของรางวัลพิเศษทุกสัปดาห์ โดยจะประกาศรางวัลทางเพจ Facebook : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม:Chantharakasem National Museum ทุกวันพุธ ตลอดเดือนมีนาคม 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อขอใช้พื้นที่ โทร. 0 3525 1586 E-mail : wangchantra@gmail.com Inbox : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม:Chantharakasem National Museumภาพ : ท้องฟ้า Twilight แสงสนธยา เบื้องหลังอาคารมหาดไทย หรืออีกชื่อคือ อาคารที่ทำการภาค ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เพื่อเป็นที่ทำการมณฑลเทศาภิบาลกรุงเก่าภาพ : ชื่อผู้ได้รับรางวัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (วันที่ 8-10 มีนาคม 2567)
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์ ขอเชิญชมความมหัศจรรย์ปราสาทพนมรุ้ง ปรากฏการณ์พระอาทิตย์สาดแสงส่องตรง 15 ช่องประตู ในยามรุ่งอรุณ ณ ปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งปรากฏการณ์นี้เป็นครั้งที่สองในรอบปี พุทธศักราช 2567 ร่วมชมความงามของปรากฏการณ์ดังกล่าวและรับแสงแรกของวัน ที่สาดแสงส่องทั้ง 15 ช่องประตู ผ่านองค์ศิวลึงค์ใจกลางเทวาลัย ณ ปราสาทพนมรุ้ง ในระหว่างวันที่ 3 - 5 เมษายน 2567 เวลา 05.30 น. เป็นต้นไป (พระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 06.00 น.) ณ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ดังกล่าว ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากมีเมฆหมอกหนา หรือฝนตก จะไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ผ่าน 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้งได้
ติดต่อสอบถามโทร 0 4466 6251 หรือ Inbox Facebook : อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์ Phanom Rung Historical Park
กลุ่มเครื่องมือหินกะเทาะ
ลักษณะ : เป็นเครื่องมือหินกะเทาะหน้าเดียว คือมีการกะเทาะผิวหินออกทั้งหมดด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านเป็นผิวหินเดิม เรียกเครื่องมือลักษณะนี้ว่า เครื่องมือหินแบบโฮบินเนียน (Hoabinian) โดยมี การกะเทาะให้เป็นรูปทรงตามแต่ที่ผู้กะเทาะจะใช้งาน ได้แก่ การสับ ตัด หั่น หรือทุบ อาหารหรือไม้ อาจจะมีการเข้าด้ามกับไม้ แต่ไม่หลงเหลือหลักฐานเพราะมีการย่อยสลายแล้ว
นอกจากการพบเครื่องมือหินกะเทาะ อันเป็นหลักฐานที่แสดงความเก่าแก่ของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในพื้นที่ถ้ำองบะ จังหวัดกาญจนบุรี เครื่องมือหินเหล่านี้ยังเป็นหลักฐานที่แสดงถึง ความร่วมมือของนักโบราณคดีไทย และนักโบราณคดี ผู้วิจัยจากหลากหลายประเทศ ตามโครงการความร่วมมือระหว่างไทย และเดนมาร์ก ภายหลังจากการค้นพบเครื่องมือหินระหว่างการเป็นเชลยศึกของ ดร.เอช อาร์ ฟาน เฮเกอเรน (Dr. H.R. Van Heekeran) นักโบราณคดีชาวดัชต์ (เนเธอร์แลนด์) โครงการความร่วมมือนี้เป็นการดำเนินงานทางโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีมาตรฐานครั้งแรกในประเทศไทย และส่งผลให้การดำเนินงานทางโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทยเป็นที่สนใจ เกิดการสำรวจและขุดค้นทางโบราณคดีในหลายภูมิภาค เช่น แหล่งโบราณคดีศูนย์การทหารปืนใหญ่ จังหวัดลพบุรี แหล่งโบราณคดีโนนนกทา จังหวัดขอนแก่น แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี
ขนาด : ชิ้นที่ 3 ยาว 10.5 ก.8
ชนิด : หิน
อายุ/สมัย : ก่อนประวัติศาสตร์ อายุ 12,000 – 4,000 ปีมาแล้ว
ประวัติ/ตำนาน : ก่อนประวัติศาสตร์ อายุ 12,000 – 4,000 ปีมาแล้ว
แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=51727
ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th
ชื่อเรื่อง : สมุดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ชุดเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาผู้แต่ง : สกุลไทยปีที่พิมพ์ : ๒๕๐๓สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : อักษรโสภณจำนวนหน้า : ๒๐๘ หน้า เนื้อหา : หนังสือ สมุดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ชุดเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ทั้งสี่พระองค์ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศยุโรป รวม ๑๔ ประเทศ นิตยสารสกุลไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้จัดพิมพ์ขึ้น เนื้อหาประกอบไปด้วย พระราชกรณียกิจและพระบรมฉายาลักษณ์ก่อนเสด็จพระราชดำเนิน ณ ประเทศไทย / พระราชกรณียกิจและพระบรมฉายาลักษณ์และเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาตามหมายกำหนดการต่างๆ เลขทะเบียนหนังสือหายาก : ๑๐๙๖เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : E-book_๒๕๖๗_๐๐๓๐หมายเหตุ : โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ (ไฟล์ดิจิทัลเพื่อการอนุรักษ์เท่านั้น)