ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,757 รายการ

ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           14/7ประเภทวัดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                              42 หน้า : กว้าง 5.2 ซม. ยาว 54.5 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


    ชื่อผู้แต่ง          วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ชื่อเรื่อง           วิศวกรรมสาร  (ปีที่ ๓๑ ฉบับที่ ๑  กุมภาพันธ์  ๒๕๒๑) ครั้งที่พิมพ์        - สถานที่พิมพ์     กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์       วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ปีที่พิมพ์          ๒๕๒๑ จำนวนหน้า      ๘๗  หน้า รายละเอียด                    วิศวกรรมสาร ปีที่ ๓๑ ฉบับที่ ๑ เดือนกุมภาพันธ์  ๒๕๒๑ ประกอบด้วยบทความเรื่องระบบกำจัดน้ำโสโครกแบบไม่ใช้อากาศโดยใช้สารสังเคราะห์บรรจุในถังหมัก การกำจัดสิ่งเจือปนในน้ำโดยใช้วิธีทางฟลูอิไดเซซั่น การพาความร้อนโดยบังคับในท่อสามเหลี่ยม เป็นต้นพร้อมภาพประกอบ กราฟและตาราง  


เลขทะเบียน : นพ.บ.378/1ขห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 34 หน้า ; 4.5 x 53.5 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 143  (26-39) ผูก 1ข (2566)หัวเรื่อง : จีรธารกถา --เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.518/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 48 หน้า ; 4.5 x 50.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 173  (254-258) ผูก 4 (2566)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง                         ธมฺมปทวณฺณนา ธมฺมปทฏฺธกถา ขุทฺทกนิกายฏฺธกกา (ธมฺมฺปทขั้นปลาย)อย.บ.                            241/5หมวดหมู่                       พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                  56 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 58.5 ซม.หัวเรื่อง                         พระธรรมเทศนา                                                                       บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา


ชื่อเรื่อง                         สพ.บ.424/10 พระเจ้าห้าสิบชาติ (ห้าสิบชาติ) สพ.บ.                           424-10 ประเภทวัสดุมีเดีย            คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                       พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                  46 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 56.2 ซม.หัวเรื่อง                        พุทธศาสนา                                  เทศน์มหาชาติ บทคัดย่อ/บันทึก             เป็นคัมภีร์ใบลาน ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


        โคมแขวนจากลาลูแบร์ (จดหมายเหตุลาลูแบร์ Simon de La Loubere)         โคมแขวนในสมัยกรุงศรีอยุธยา….จากบันทึกจดหมายเหตุลาลูแบร์ (Simon de La Loubere) ราชทูตชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมาเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักกรุงศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นระยะเวลา ๓ เดือน ๖ วัน ลา ลูแบร์ ได้จดบันทึกเรื่องราวมากมายในกรุงศรีอยุธยา รวมถึงโคม ซึ่ง ลา ลูแบร์ ได้บันทึกการชักโคมและลอยประทีปของชาวสยามไว้ว่า ...         “อนึ่ง ชาวสยามมีมหรสพ เนื่องในการพระศาสนาด้วย ลุฤดูน้ำเริ่มลด ประชาชนพลเมืองจะแสดงความขอบคุณแม่คงคา ด้วยการตามประทีปโคมไฟขนาดใหญ่ (ในแม่น้ำ) อยู่หลายคืน มิชั่วแต่แม่พระคงคาจะลดราถอยไปเท่านั้น ยังอำนวยให้พื้นดินที่จะทำการเพาะปลูกอุดมดีอีกด้วย เราจะได้เห็นทั้งลำแม่น้ำเต็มไปด้วยดวงประทีปลอยน้ำ (กระทง) ไปตามกระแสธาร มีขนาดใหญ่ย่อมต่างกันตามศรัทธา ประสาทของแต่ละคนและมีกระดาษสีต่างๆ ซึ่งประดิษฐ์คิดทำกันขึ้นประดับประดาเครื่องลอยประทีปนั้น เพิ่มให้แสงสีงดงามขึ้นอีก โดยนัยเดียวกัน เพื่อแสดงความขอบคุณต่อแม่พระธรณีที่อนุเคราะห์ให้เก็บเกี่ยวพืชพรรณธัญญาหารได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ในวันต้นๆ ของปีใหม่ชาวสยามก็จะตามประทีปโคมไฟขึ้นอย่างมโหฬารอีกครั้งหนึ่ง”         “ครั้งแรกที่เราไปถึงเมืองละโว้นั้นเป็นเวลากลางคืน พอดีกับคราวตามประทีปนั้น และเราได้เห็นกำแพงเมืองตามประทีปโดมไฟสว่างไสวรายเรียงอยู่เป็นระยะๆ แต่ภายในพระบรมมหาราชวังนั้น ยังงดงามยิ่งขึ้นไปอีก ในกำแพงแก้วที่ล้อมพระราชฐานนั้น มีซุ้มช่องกุฏิ ๓ แถว โดยรอบ แต่ละช่องมีประทีปดวงหนึ่งตามไฟไว้ บัญชรและทวารทั้งนั้น ก็ประดับดวงประทีปด้วยเหมือนกัน มีโคมประทีปใหญ่และย่อมตกแต่งเป็นรูปแปลกๆ กัน ปิดกระดาษหรือหุ้มผ้าแก้วโปร่งระบายสีต่างๆ แขวนไว้อย่างเป็นระเบียบตามกิ่งไม้หรือตามเสาโคม”   Credit: ขอบคุณภาพและผลงาน อาจารย์วาสนา สายมา บทความนี้เป็นของเพจ Love Thailand Culture


โฉมเอย...โฉมงามอร่ามเเท้เเลตลึง... การประกวดนางงามจันทบุรี ในงานเหมันต์หรรษา 2511 งานประจำปีจังหวัดจันทบุรีนิยมจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคมของทุกปี เดิมใช้ชื่อ งานเหมันต์หรรษา ภายในงานจะมีกิจกรรมมากมาย อาทิ กีฬาพื้นเมือง งานศิลปหัตกรรมนักเรียน ดนตรี มวย ลิเก รำวงรีลาศ ภาพยนต์ โขนสด เเละที่สำคัญจะมีการประกวดนางงามจันทบุรี โดยหน่วยงาน ห้างร้าน ในจังหวัดจันทบุรี จะส่งสาวงามเข้าร่วมชิงชัย ปรากฏในเอกสารจดหมายเหตุ ในชุดจังหวัดจันทบุรี มีเอกสารสำคัญในการจัดงาน อาทิ ใบสมัคร ภาพถ่ายผู้เข้าประกวด(ภาพขาวดำ) คำสั่งจังหวัดต่างๆในการเเบ่งหน้าที่การจัดงาน เป็นต้น ภาพถ่ายผู้เข้าประกวดชุดนี้ ตามรายชื่อ หากคุณเเม่หรือคนในครอบครัว สนใจขอคัดสำเนาเป็นที่ระลึก สามารถขอทำสำเนาได้ที่หอจดหมายเหตุเเห่งชาติ จันทบุรี



ชื่อเรื่อง: ว่าด้วยแม่น้ำที่มีในประเทศสยาม ผู้แต่ง: มหาเสวกโท พระยามหาอำมาตยาธิบดี ปีที่พิมพ์: พ.ศ. ๒๔๖๘สถานที่พิมพ์: พระนครสำนักพิมพ์: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากรจำนวนหน้า: ๕๐ หน้า เนื้อหา: หนังสือ "ว่าด้วยแม่น้ำที่มีในประเทศสยาม" มหาเสวกโท พระยามหาอำมาตยาธิบดี (เสง วีรยศิริ) เมื่อครั้งเป็นหลวงเทศาจิตรวิจารณ์ได้แต่งและส่งลงพิมพ์ไว้ในหนังสือวชิรญาณ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๓ ต่อมาได้เรียบเรียงเพื่อแจกในการกฐินพระราชทาน มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาพลเทพ เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ ณ วัดอินทาราม พระพุทธศักราช ๒๔๖๘ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร เนื้อหากล่าวถึง แม่น้ำที่มีอยู่ในสยาม ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยาและ แม่น้ำของ นับว่าเป็นหนังสือที่ให้ความรู้ทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญและทรงคุณค่าควรแก่การศึกษาค้นคว้า และอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไปเลขทะเบียนหนังสือหายาก: ๗๐๙ เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์: E-book ๒๕๖๖_๐๐๑๒หมายเหตุ: โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖


วันเข้าพรรษา หมายถึง วันที่พระภิกษุในพระพุทธศาสนาอธิษฐานอยู่ประจำในวัดหรือเสนาสนะที่คุ้ฒแดดคุ้มฝนได้แห่งหนึ่ง ไม่ไปค้างแรมในที่อื่นตลอด 3 เดือนในฤดูฝน ปกติวันเข้าพรรษาจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ในปี พ.ศ. 2566 เป็นปีอธิกมาส มีเดือนที่เพิ่มขึ้นในปีจันทรคติ คือมี 13 เดือน มีเดือน 8 สองหน จึงเรียกว่า 8 สอง 8 เมื่อหมดเดือน 8 แล้ว แทนที่จะนับเดือนต่อไปเป็นเดือน 9 ก็ให้นับเดือน 8 ซ้ำอีกครั้ง และเรียกเดือน 8 ทั้งสองนี้ว่าเดือน 8 แรก และเดือน 8 หลัง วันเข้าพรรษาปีนี้ใช้เดือน 8 หลัง จึงเลื่อนไปในเดือนสิงหาคม ตรงกับวันพุธที่ 2 สิงหาคม 2566 พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยสำหรับพระสงฆ์ไว้ว่า ในฤดูฝนให้พระสงฆ์อยู่ประจำที่ 3 เดือน เรียกว่า จำพรรษา ทั้งนี้เนื่องจากในสมัยพุทธกาลตอนต้น พระพุทธเจ้าไม่ได้กำหนดให้พระสาวกจำพรรษา ภิกษุทั้งหลายจึงเดินทางเที่ยวจาริกไปทุกฤดู แม้ในฤดูฝนที่ชาวบ้านทำไร่ทำนากัน จึงเหยียบย่ำข้าวกล้าและสัตว์เล็กๆนานาชนิด เช่น มด ปลวก ชาวบ้านจึงพากันตำหนิติเตียน ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงตรัสในที่ประชุมสงฆ์ บัญญัติพระวินัยให้พระสงฆ์จำพรรษาตลอด 3 เดือนในฤดูฝน การเข้าพรรษา แบ่งออกได้เป็น 2 ระยะ คือ เข้าพรรษาแรกเรียกว่า “ปุริมพรรษา” เริ่มตั้งแต่ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงกลางเดือน 11 ถ้าเข้าพรรษาแรกไม่ทันก็เข้าพรรษาหลัง เรียกว่า “ปัจฉิมพรรษา” เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 9 ถึงกลางเดือน 12 แต่เข้าพรรษาหลังจะรับกฐินไม่ทันเพราะหมดเวลาทอดกฐิน ปีใดมีเดือน 8 สองหน ปีนั้นให้ถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง เป็นวันเข้าพรรษาแรก ช่วงเวลาพรรษา พุทธศาสนิกชนทั่วไปจะบำเพ็ญทาน รักษาศีล ฟังธรรม และเจริญภาวนามากขึ้น ก่อนวันเข้าพรรษาพุทธศาสนิกชนจะนำเทียนเข้าพรรษษและหลอดไฟฟ้าไปถวายพระ เพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้แสงสว่างตลอดเข้าพรรษา ในวันเข้าพรรษานิยมไปทำบุญที่วัด ถวายผ้าอาบน้ำฝนและช้าวของเครื่องใช้ตามแต่จะมีจิตศรัทธาถวาย เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำตาล ไม้ขีด ร่ม พุ่มเทียน ในตอนเช้าของวันเข้าพรรษาก็จะมีการทำบุญตักบาตรทั่วไป


          ชิ้นส่วนพระพิมพ์ดินเผา สมัยทวารวดี           ชิ้นส่วนพระพิมพ์ดินเผา จัดแสดง ณ อาคารจัดแสดง ๒ ชั้น ๒ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง           ชิ้นส่วนพระพิมพ์ดินเผา มีขนาดกว้าง ๑๐ เซนติเมตร สูง ๘.๒ เซนติเมตร พบเฉพาะส่วนเศียร ส่วนองค์พระชำรุดหักหายไป ชิ้นส่วนที่ปรากฏเป็นภาพพระเศียรของพระพุทธเจ้า ด้านหลังมีกรอบประภามณฑลรอบล้อมพระเศียร โดยพระพักตร์แสดงเอกลักษณ์ของพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยทวารวดี ได้แก่ อุษณีษะนูน พระเกศาขมวดเป็นเม็ดกลม พระพักตร์กลม พระนลาฏแคบ พระขนงทั้ง ๒ เชื่อมต่อกันเป็นเส้นปีกกา พระเนตรเหลือบต่ำและเปลือกพระเนตรโปลน พระนาสิกค่อนข้างใหญ่ ริมพระโอษฐ์หนา มุมพระโอษฐ์ทั้งสองข้างยกขึ้นแย้มพระสรวล ปลายพระกรรณทั้งสองยาว             รอบพระเศียรมีกรอบประภามณฑลรูปครึ่งวงกลม ภายในกรอบประภามณฑลมีการลงสีแดงอมส้ม ซึ่งพบพระพิมพ์ที่มีการลงสีลักษณะดังกล่าวที่เมืองฟ้าแดงสงยาง จังหวัดกาฬสินธุ์  กรอบประภามณฑลมีลวดลายกนกสามเหลี่ยม น่าจะหมายถึงเปลวไฟ การทำกรอบประภามณฑลมีลวดลายเปลวไฟรอบพระเศียรของพระพุทธเจ้าในสมัยทวารวดี สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะอินเดียสมัยปาละ ด้วยพระพักตร์ที่มีรูปแบบเฉพาะของศิลปะทวารวดี ประกอบกับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียที่ปรากฏ  จึงกำหนดอายุในสมัยทวารวดี ช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๔ - ๑๕ หรือประมาณ ๑,๑๐๐ – ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว            นอกจากนี้ยังพบพระพิมพ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันที่เมืองคันธารวิสัย อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เมืองฟ้าแดดสงยาง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ และบริเวณเมืองลพบุรี เป็นต้น พระพิมพ์ดังกล่าวหากมีสภาพสมบูรณ์ สันนิษฐานว่าเป็นภาพพระพุทธเจ้านั่งขัดสมาธิราบแบบหลวมๆ มีกลีบบัวมารองรับ และรอบพระเศียรมีประภามณฑลเปลวไฟ เป็นลักษณะพิมพ์ที่พบมากในเมืองโบราณแถบลุ่มแม่น้ำชี การพบพระพิมพ์รูปแบบคล้ายกันกระจายในเมืองโบราณที่ร่วมสมัยวัฒนธรรมทวารวดี น่าจะเกิดจากการเดินทางติดต่อระหว่างชุมชนในช่วงเวลาดังกล่าว     เอกสารอ้างอิง รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง. “พระพุทธรูปและพระพิมพ์ทวารวดีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”. วิทยานิพนธ์ตามหลักสูตรปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์ไทย บัณฑิตวิทยาลัย ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๕๒. วิริยา อุทธิเสน. “การศึกษาคติความเชื่อของชุมชนโบราณสมัยทวารวดีในลุ่มแม่น้ำชีตอนกลาง กรณีศึกษาจากพระพิมพ์ดินเผา”. วิทยานิพนธ์ตามหลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ บันฑิตวิทยาลัย ภาควิชาโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๖. ศักดิ์ชัย สายสิงห์. ศิลปะทวารวดี : วัฒนธรรมทางศาสนายุคแรกเริ่มในดินแดนไทย. นนทบุรี : เมืองโบราณ, ๒๕๖๒.  


ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อจ้างเป็นลูกจ้างชั่วคราว เงินนอกงบประมาณ (กองทุนโบราณคดี)




black ribbon.