ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 40,724 รายการ
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2568 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ บริเวณโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม พร้อมทั้งประชุมหารือแนวทางและมาตรการป้องกันปัญหาน้ำท่วมโบราณสถานในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และติดตามความคืบหน้าการจัดทำรายงาน HIA การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ในพื้นที่เกี่ยวเนื่องแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า จากการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ บริเวณโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งตั้งอยู่ช่วงที่แม่น้ำเจ้าพระยาแคบที่สุด จึงมีความเสี่ยงที่ระดับน้ำจะล้นตลิ่งเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา จึงใช้วิธีป้องกันโดยการตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมรูปแบบที่สามารถยกตั้งขึ้นและพับเก็บได้บริเวณด้านตะวันออกของวัดริมแม่น้ำ แนวป้องกันน้ำท่วมมีความยาว 160 เมตร สูงจากผิวบนสุดของขอบตลิ่งประมาณ 1.80 เมตร และสามารถต่อความสูงเพิ่มเติมเป็น 2.40 เมตร ส่วนด้านใต้ ด้านตะวันตก มีแนวกำแพงป้องกันน้ำถาวรก่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนด้านเหนือใช้แนวทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3469 เป็นแนวป้องกัน นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่โบราณสถานที่มีการดำเนินงานตั้งแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จำเป็นต้องป้องกันการเกิดอุทกภัยทุกปี เพื่อรับรองสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น โดยได้กำชับให้กรมศิลปากรบูรณาการการทำงานในการดูแลโบราณสถานสำคัญกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ พื้นที่นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ยังคงปรากฏความเสี่ยงด้านต่างๆ รวมถึงอุทกภัยที่อาจมีผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก ในระดับแผนปฏิบัติการ กรมศิลปากรได้บรรจุแผนงานมาตรการลดผลกระทบจากภัยพิบัติไว้ในร่างแผนปฏิบัติการการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พุทธศักราช 2566 - 2575 ปัจจุบันอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ยังคงดำเนินงานตามมาตรการป้องกันผลกระทบจากภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่มรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนคร ศรีอยุธยา โดยมีการบริหารจัดการเป็นขั้นตอนในทุกปี มีการวิเคราะห์ปัญหาและจัดทำแผนการทำงาน ประชุมติดตามการดำเนินงานร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้ติดตามความคืบหน้าการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessments - HIA) ในการก่อสร้างรถไฟทางคู่ (รถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ - หนองคาย ช่วงสถานีอยุธยา) ในเขตพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (ช่วงบ้านโพ - พระแก้ว) ซึ่งศูนย์มรดกโลกได้แสดงความกังวลและสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูง และขอให้มีการจัดทำรายงานฯ (HIA) ที่อาจมีต่อแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยมีกำหนดแล้วเสร็จก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกทั้งจะเชิญผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลกเดินทางลงพื้นที่ แหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เพื่อให้ คำปรึกษาแนะนำการประเมินและลดผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก ในช่วงเดือนกันยายน 2567
นอกจากนี้ กรมศิลปากรได้รายงานการดำเนินโครงการฟื้นฟูบูรณะวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากร สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และกองทุนโบราณสถานโลกเข้ามาร่วมมือในการบูรณะโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ตั้งแต่ พ.ศ. 2555 (ภายหลังน้ำท่วมใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2554) จนถึงปัจจุบัน โดยมีการทำงานในรูปแบบคณะทำงานร่วมระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากสหสาขาวิชาชีพของกรมศิลปากรและนักอนุรักษ์ชาวไทยและชาวต่างประเทศของกองทุนโบราณสถานโลก ที่ผ่านมาดำเนินงานหลัก 2 ด้าน ประกอบด้วยการอนุรักษ์โบราณสถานและการจัดอบรม/การประชุมเชิงปฏิบัติการ ซึ่งจะมีพิธีปิดโครงการอนุรักษ์วัดไชยวัฒนารามที่ใช้งบประมาณจากสถานทูตสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2567
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ร่วมกับ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังภายในโบราณสถานวัดกู่ป้าด้อม พื้นที่เมืองโบราณเวียงกุมกาม ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ค้นพบลวดลายปูนปั้น ประดับราวบันไดวิหาร "ลายมกรคายมังกร" งานปูนปั้นที่มีคุณค่าความสำคัญด้านศิลปกรรมและหาชมได้ยากในดินแดนล้านนา
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เวียงกุมกาม นอกจากเป็นราชธานีแห่งแรกของล้านนาแล้ว ยังค้นพบหลักฐานสำคัญอีกหลายอย่าง เช่น ชั้นดินทางโบราณคดีที่ชี้ชัดว่าเคยถูกน้ำท่วมมาก่อน ถ้วยชามลายสัตว์มงคลของจีน จารึกระบุชื่อกุมกาม และได้ค้นพบสิ่งสำคัญที่โดดเด่นมาก คือ มังกร ลวดลายปูนปั้นที่ราวบันไดกู่ป้าด้อม อุทกภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ครั้งใหญ่นี้ ส่งผลให้น้ำหลากเข้าท่วมโบราณสถานในเวียงกุมกามอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กู่ป้าด้อมมีน้ำหลากท่วมสูงกว่า 2 เมตร เป็นเวลานาน แม้น้ำจะหลากผ่านไปแล้วแต่ยังท่วมขังในพื้นที่โบราณสถานต่อเนื่อง เพราะระดับน้ำใต้ดินพื้นที่รอบ ๆ ยังไม่ลดลง แม้กรมศิลปากรจะพยายามสูบน้ำออกแล้ว ส่งผลให้ มังกรที่กู่ป้าด้อม จมอยู่ในน้ำเกือบเดือนแล้ว ล่าสุดทั้งกรมศิลปากรและจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมมือกันสูบน้ำออกแต่ยังมีน้ำใต้ดินไหลซึมเข้ามาในพื้นที่เรื่อยๆ แต่ยังพอให้ มังกร พ้นน้ำขึ้นมาได้บางส่วนแล้ว กรมศิลปากรจะค่อยสูบน้ำออกต่อเนื่องไปจนกว่า มังกร จะลอยพ้นน้ำแล้วจึงจะเริ่มขั้นตอนการอนุรักษ์ลวดลายปูนปั้น มกรคายมังกร ราวบันไดวิหารวัดกู่ป้าด้อม เวียงกุมกาม
สำหรับขั้นตอนการอนุรักษ์ ขณะน้ำลดจะดำเนินการคลุมลวดลายปูนปั้นด้วยผ้าที่มีเส้นใยลักษณะหนาและมีความนุ่ม เพื่อรักษาความสมดุลของอุณหภูมิของลวดลายปูนปั้นกับสภาพภูมิอากาศ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อลวดลายปูนปั้น ภายหลังน้ำลดแล้วจะคลุมด้วยผ้าแห้งที่มีความสามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อการระบายความชื้นภายในของชั้นปูน โดยคอยตรวจสภาพการแห้งของลวดลายปูนปั้นเป็นระยะๆ จนกว่าจะแห้งสนิท (ระบายตามธรรมชาติ) จากนั้นเป็นขั้นตอน ฟื้นฟู คืนสภาพ คือ เมื่อลวดลายปูนปั้นแห้งสนิทแล้ว จะทำการตรวจสอบสภาพการชำรุด ทำความสะอาด และอนุรักษ์ตามอาการที่ชำรุด เช่น หากปูนปั้นมีร่องรอยการเผยอ ปริ แตกออกให้ทำการผนีกกลับดังเดิม หรือหากปูนปั้นมีการโป่งพองให้ทำการเจาะอัดฉีดน้ำปูนหมักชนิดเหลว โดยต้องรักษาสภาพของลวดลายเดิมให้คงไว้มากที่สุด
ร่วมกันเป็นกำลังใจให้ มังกร หนึ่งเดียวในล้านนา ได้กลับมาแข็งแรงและเป็นมรดกล้ำค่าของชาวเชียงใหม่และชาวไทยต่อไป
ทีมนักโบราณคดีได้ทำการวิเคราะห์แนวโบราณถสถานในพื้นที่ขุดค้นระยะที่ 4 เรียบร้อยแล้ว พบแนวโบราณสถานทั้งสิ้น 11 แนว ที่สำคัญเช่นแนวฉนวนทางเดินอิฐ ที่มีความยาวหลายเมตร ฐานรากอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมจำนวน 4 หลัง แนวขอบพื้นปูศิลาด้านข้างพระที่นั่งพุทไธสวรรค์ บางแนวมีอายุเก่าไปถึงสมัยรัชกาลที่ 4 การขุดค้นทางโบราณคดีครั้งนี้ถือเป็นมิติการค้นพบครั้งใหม่และกุญเเจสำคัญ ที่ช่วยตอบคำถามการใช้พื้นที่และตำแหน่งสิ่งปลูกสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล บริเวณเขตพระราชฐานชั้นกลาง (หมู่พระมณเฑียร และที่ออกว่าราชการของพระอุปราช) ในช่วงก่อนการยกเลิกตำแหน่งพระมหาอุปราชในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งถือว่ามีหลักฐานในอดีตหลงเหลือน้อยอย่างยิ่งข้อมูลจาก https://www.facebook.com/WangnaArchaeologicalProject2012
วันพุธที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๓ นางชุติมา จันทร์เทศ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา พร้อมด้วยนายวรรณพงษ์ ปาละกะวงษ์ ณ อยุธยา นักโบราณคดีปฏิบัติการ เข้าร่วมการประชุมแนวทางการพัฒนา โครงกระดูกมนุษย์ที่ค้นพบที่วัดพระนารายณ์ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุม
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 นายสุพจน์ พรหมมาโนช ผู้อำนวยการสำนักศิลปกรที่ 7 เชียงใหม่ และนายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดร้าง ในพื้นที่ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
วันอังคารที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ นางชุติมา จันทร์เทศ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา พร้อมด้วย นายชำนาญ กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน และนางสาวสุภาวดี อินทรประเสริฐ นักโบราณคดีชำนาญการ ลงพื้นที่ตรวจโบราณสถานเมืองเสมา และวัดพระนอนเมืองเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา