องค์ความรู้ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ในหัวข้อเรื่อง พระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิเพชรแห่งเจดีย์สิงห์ล้อมพระพุทธรูป คือ รูปที่ใช้แทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระบรมศาสดาในพระพุทธศาสนา โดยคติการสร้างพระพุทธรูปนั้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธองค์และเป็นพุทธานุสติให้เหล่าศาสนิกชนได้ระลึกถึงพระพุทธองค์ ซึ่งมีองค์ประกอบคือ ๑. อิริยาบถ ที่แสดงท่าทางการประทับนั่ง, ยืน, นอน (ไสยาสน์) และเดิน (ลีลา) ๒. มุทรา หรือปาง คือการแสดงถึงเหตุการณ์ในพระพุทธประวัติ ในส่วนของอิริยาบถที่แสดงท่าทางการประทับนั่งของพระพุทธรูป สามารถแบ่งได้ ๓ รูปแบบ ได้แก่๑. ขัดสมาธิราบ (วีราสนะ หรือสัตตวปรยังคะ) คือ การประทับนั่งขัดสมาธิ ให้ขาขวาทับขาซ้าย ๒. ห้อยพระบาท (ปรลัมพปทาสนะ) คือ การประทับนั่งห้อยพระบาทลงไปที่พื้น๓. ขัดสมาธิเพชร (วัชรปรยังกะ หรือวัชราสนะ) คือ การประทับนั่งขัดสมาธิ ให้ขาทั้ง ๒ ข้างไขว้กัน“ขัดสมาธิเพชร” ความหมายตามพจนานุกรมศัพท์ศิลปกรรม อักษร ก-ฮ ฉบับราชบัณฑิตสถาน พุทธศักราช ๒๕๕๐ หมายถึง ท่าประทับของพระพุทธรูปแบบหนึ่ง นั่งให้พระชงฆ์ (แข้ง) ไขว้กันอย่างมั่นคง และหงายฝ่าพระบาทขึ้นทั้งสองข้าง บางทีเรียกว่าขัดสมาธิสองชั้น หรือวัชรปรยังกะ (Vajraparyanka)แสดงถึงความหนักแน่น มั่นคง ไม่เคลื่อนไหวต่อทุกสิ่งที่เข้ามากระทบกับสมาธิ ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของท่าปฏิบัตินั่งโยคะอาสนะ (asana) เพื่อฝึกฝนจิตใจในการทำสมาธิ พระพุทธรูปในประเทศไทยที่ปรากฏในอิริยาบถประทับนั่งแบบขัดสมาธิเพชร ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปในศิลปะสมัยล้านนา (ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๙ – ๒๐) ที่ได้รับอิทธิพลทางศิลปะแบบปาละ-เสนะ ของอินเดีย ผ่านทางเมืองพุกามของเมียนมา มีลักษณะที่โดดเด่น คือ ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร พระชงฆ์ไขว้เห็นฝ่าพระบาทหงายทั้งสองข้างพระพักตร์มีลักษณะกลมและอมยิ้ม พระเกตุมาลาเป็นรูปดอกบัวตูม ขมวดพระเกศาใหญ่ พระขนงโก่ง พระหนุเป็นปม พระอุระนูน พระวรกายอวบ พระโอษฐ์เล็ก ส่วนของชายสังฆาฏิสั้นและอยู่เหนือพระถัน ปลายเป็นเขี้ยวตะขาบ เมืองกำแพงเพชรได้ปรากฏพบพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งแบบขัดสมาธิเพชร ณ วัดพระแก้วเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตกำแพงเมืองกำแพงเพชรตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง ผังวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ของวัดใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง มีเจดีย์สิงห์ล้อมเป็นเจดีย์ประธานของวัด ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลม หรือทรงระฆังขนาดใหญ่บนฐานสี่เหลี่ยม โดยรอบฐานมีประติมากรรมปูนปั้นรูปสิงห์รายรอบจำนวน ๓๒ ซุ้ม สามารถศึกษาเปรียบเทียบทางศิลปะเทียบเคียงได้กับเจดีย์ประธานสิงห์ล้อม ที่วัดธรรมิกราชและวัดแม่นางปลื้ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สันนิษฐานได้ว่าเจดีย์สิงห์ล้อม มีอายุสมัยในราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๐ – ๒๑ถัดจากฐานสิงห์ล้อมขึ้นมา เป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นจำนวน ๑๖ ซุ้ม คล้ายกับรูปแบบของเจดีย์ประธาน ที่วัดช้างล้อม เมืองศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เหนือซุ้มขึ้นไปเป็นชุดบัวถลาลดหลั่นกันสามชั้นรองรับองค์ระฆัง ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังก์ที่มีซุ้มจระนำออกมาทั้ง ๔ ด้าน ต่อด้วยส่วนของก้านฉัตร ปล้องไฉนและปลียอดบริเวณซุ้มที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นจำนวน ๑๖ ซุ้ม นั้น ที่ซุ้มด้านทิศใต้ได้ปรากฏร่องรอยของพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งแบบขัดสมาธิเพชร จำนวน ๑ องค์ ประดิษฐานอยู่บนฐานอิฐส่วนของพระพุทธรูปคงเหลือเฉพาะพระวรกาย ส่วนของพระเศียรและพระกรข้างขวาหักหาย แสดงการห่มผ้าจีวรถึงข้อพระหัตถ์และข้อพระบาท ขนาดหน้าตักกว้าง ๐.๗๗ เมตร สูง ๐.๖๐ เมตร กำหนดอายุสมัยได้ในราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๐ - ๒๑การเสด็จประพาสต้นครั้งที่ ๒ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๔๙พระองค์ได้เสด็จประพาสเมืองกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๔๙ โดยในวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๔๙ เสด็จประพาสตัวเมืองกำแพงเพชรเก่า ได้แก่ กำแพงเมือง ป้อมและประตูเมือง วัดพระแก้ว หลักเมือง และสระมน รวมทั้งทรงได้พระราชนิพนธ์บรรยายเกี่ยวกับพระพุทธรูปภายในซุ้มของเจดีย์สิงห์ล้อม วัดพระแก้ว ไว้ดังนี้ “…พระเจดีย์กลมลอมฟาง อยู่หลังวิหารอีกหน่อยหนึ่ง หย่อมนี้เห็นจะเป็นชั้นลังกา แต่พระเจดีย์นั้นทำงามมาก ชั้นล่างเป็นซุ้มคูหารอบ มีสิงห์ยืนในคูหา ถัดขึ้นไปอีกชั้น ๑ เป็นคูหาไว้พระพุทธรูปขนาดเดียวกับพระโบโรบุโด ซึ่งเชิญมาไว้ในวัดพระแก้ว แต่คะเนยังไม่ได้ว่าจะเป็นท่าต่าง ๆ ฤๅไม่ถัดขึ้นไปจึงถึงองค์พระเจดีย์บัวคว่ำบัวหงายที่รับปากระฆังเป็นบัวหลังเบี้ยสลับ กลีบกันงามเข้าทีมาก บัลลังก์มีซุ้มยื่นออกมา ๔ ทิศ ไว้พระ ๔ ปาง ไม่เห็นมีเสารับยอด ซึ่งกรมหลวงนริศสงสัยว่าจะเป็นทวย ถัดขึ้นไปปล้องไฉนแต่ยอดด้วน ประมาณว่าจะสูง ราว ๑๕ วา…”เอกสารอ้างอิงกรมศิลปากร. นำชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร. กรุงเทพฯ: บริษัทบางกอกอินเฮ้าส์จำกัด, ๒๕๖๑.กรมศิลปากร. พระพุทธรูปปางต่าง ๆ. นครปฐม: บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) จำกัด, ๒๕๕๘.กรมศิลปากร. รายงานการบูรณะโบราณสถานวัดพระแก้ว จังหวัดกำแพงเพชร . กำแพงเพชร: ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามเพชร, ๒๕๔๓.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จกรมพระยาดำรง ราชานุภาพ. เสด็จประพาสต้นในรัชกาลที่ ๕. พิมพ์ครั้งที่ ๒๖. กรุงเทพฯ : ไทยร่มเกล้า, ๒๕๒๙.พุทธรักษ์ ปราบนอก. (๒๕๕๙,กันยายน – ธันวาคม). “พุทธปรัชญา ในพุทธปฏิมา”, มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ๓๓ (๓): ๒๔๑ – ๒๖๓.ศักดิ์ชัย สายสิงห์. เจดีย์ในประเทศไทย รูปแบบ พัฒนาการ และพลัง ศรัทธา. กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์, ๒๕๖๐.ศักดิ์ชัย สายสิงห์. ศิลปกรรมโบราณในอาณาจักรสุโขทัย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มิวเซียมเพรส, ๒๕๖๑.ศักดิ์ชัย สายสิงห์. ศิลปะล้านนา. นนทบุรี: โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด, ๒๕๕๖.หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล. ศิลปะในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: อมรินทร์การพิมพ์, ๒๕๒๘.