ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,748 รายการ

ความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและบ้านเมืองที่มีพัฒนาการนับตั้ง แต่อดีตจวบจนปัจจุบัน กรมศิลปากรตระหนักถึงการแบ่งปันองค์ความรู้ด้านศิลปโบรา ณวัตถุอันเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติสู่สังคม


อบต. สำนักทอง จังหวัดระยอง (เวลา 09.30 น.) จำนวน 90 คนวันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๓๐ น. คณะจากองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง จำนวน ๙๐ คน เข้าศึกษาดูงาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครนายก พระบรมชนกชลพัฒน์ โดยมีนางสาว ณัฏฐกานต์ มิ่งขวัญ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานพิพิธภัณฑ์ชำนาญงาน และว่าที่ร้อยตรีรุ่งเรือง ชื่นชม ตำแหน่ง พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ เป็นวิทยากรนำชมในครั้งนี้


วธ. ขอเชิญร่วมงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 เพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนรู้รักและตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทย ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม โทร. 022470013 ต่อ 1226)             วันที่ 15 กรกฎาคม  2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น  8 กระทรวงวัฒนธรรม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ประธานการแถลงข่าวกล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พุทธศักราช 2542 รัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนรู้รักภาษาไทย ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ อีกทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างต้นแบบที่ดีแก่ประชาชนให้มีการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เหมาะสมและภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนเป็นการสร้างค่านิยมและส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนเห็นคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่สืบไป              กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้การบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานภายนอก และเครือข่ายวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เหมาะสม และภูมิใจในความเป็นไทยโดยมีกิจกรรมไฮไลต์ภายในงานประกอบด้วย               - มอบเข็มและโล่เกียรติยศ แก่ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น และผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย รวมทั้งสิ้น 18 รางวัล             - มอบรางวัล “เพชรในเพลง” ให้แก่นักร้องและผู้ประพันธ์เพลงไทยที่ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง จำนวน 14 รางวัล             - มอบรางวัลประกวดเพลงแรป “บอกรักษ์ภาษาไทย” จำนวน 5 รางวัล และรางวัลอ่านทำนองเสนาะ “สดับร้อยกรองไทย” ครั้งที่ 3 จำนวน 6 รางวัล             - จัดนิทรรศการ ประวัติและผลงานของผู้ที่ได้รับรางวัล และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม             ด้าน นายประสพ เรียงเงินอธิบดี กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า สำหรับบุคคลและองค์กรที่ได้เข็มและโล่เชิดชูเกียรติทางด้านภาษาไทย ประจำปีพุทธศักราช 2567 แบ่งเป็น  4 ประเภท ดังนี้               1. ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย จำนวน 2 ราย ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรทิพย์  พุกผาสุข และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวกานท์  ปทุมสูติ             2. ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น จำนวน 11 ราย ได้แก่ 1) นางเทพี  จรัสจรุงเกียรติ 2) นายชาครีย์นรทิพย์   เสวิกุล  3) นายณรงค์ฤทธิ์  คิดเห็น  4) นายธีระพงษ์  โสดาศรี  5) นางนันทพร  แสงมณี  6) นางสาวปาริฉัตร  ศาลิคุปต 7) นายแพทย์พงศกร  จินดาวัฒนะ 8) ผู้ช่วยศาสตราจารย์วีรวัฒน์  อินทรพร  9) นายศราวุธ  สุดงูเหลือม  10) ผู้ช่วยศาสตราจารย์สรตี  ปรีชาปัญญากุล  และ 11) นายสุภาพ  คลี่ขจาย                 3. ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1) นายไกรสร ฮาดคะดี  2)  นายณรงค์ศักดิ์  กำเนิดทอง  3) นายปราโมทย์ ในจิต และ 4) นายเอ็ด  ติ๊บปะละ              4. ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย จำนวน 1 องค์กร ได้แก่ สถาบันสุนทรภู่             ด้าน นายพนมบุตร  จันทรโชติ  อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากร จัดกิจกรรมเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2567  ซึ่งประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่  การจัดพิมพ์หนังสือหายาก การสัมมนาทางวิชาการด้านภาษาและวรรณคดีไทย และ การประกวดเพลง “เพชรในเพลง” เพื่อยกย่องบุคคลในวงการเพลงที่มีผลงานดีเด่นด้านภาษาไทย โดยมีรางวัลการประพันธ์เพลงและการขับร้องเพลง รวมทั้งหมด 12 รางวัล และรางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษ 2 รางวัล  โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้ รางวัลการประพันธ์เพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน 4 รางวัล ได้แก่             1) รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ นายปัณฑพล  ประสารราชกิจ และนายธิติวัฒน์  รองทอง จากเพลงลั่นทม              2) รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ นายกฤตศิลป์  ฉลองขวัญ จากเพลงดอกไม้จากดวงดาว 3) รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ นายจิรภัทร  แจ่มทุ่ง จากเพลงยามท้อขอมีเธอ 4) รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ นายสลา  คุณวุฒิ จากเพลงอยากซื้อบ้านนอกให้แม่ รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน 8 รางวัล  ได้แก่             1) รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ นายภาสกรณ์  รุ่งเรืองเดชาภัทร์ (สปาย) จากเพลงคอย              2)  รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ นายธานินทร์  อินทรแจ้ง (ธานินทร์  อินทรเทพ) จากเพลงเดือนประดับใจ              3) รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ นางสาวสรวีย์  ธนพูนหิรัญ (ผิงผิง) จากเพลงดอกไม้จากดวงดาว            4) รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ นางสาวปราชญา  ศิริพงษ์สุนทร จากเพลงมรดกธรรม มรดกโลก             5) รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ นายอนันต์  อาศัยไพรพนา (นัน อนันต์) จากเพลงยามท้อขอมีเธอ             6) รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ นายเสมา  สมบูรณ์ (ไชยา  มิตรชัย) จากเพลงรอยยิ้มก่อนจากลา             7) รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ นางสาวสุทธิยา  รอดภัย (ใบเฟิร์น สุทธิยา) จากเพลงกราบหลวงพ่อใหญ่อ่างทอง และ            8) รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ นางสาวกาญจนา  มาศิริ  จากเพลงสารภาพรัก รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษ จำนวน 2 รางวัล            1.รางวัลเชิดชูเกียรติ ครูเพลงผู้ใช้ภาษาวรรณศิลป์ดีเด่น ได้แก่นายชัยรัตน์  วงศ์เกียรติ์ขจร            2.รางวัลเชิดชูเกียรติ นักแปลเพลง : คมความ งามคำไทย ในบทเพลง ได้แก่ นายธานี  พูนสุวรรณ             ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (สป.) ได้เชิญชวนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยร่วมจัดทำวีดิทัศน์ เพื่ออนุรักษ์และรณรงค์ส่งเสริมการใช้ภาษาไทยของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ โดย สป.รวบรวมวีดิทัศน์ที่ได้รับจากสถานเอกอัครราชทูตฯ และนำไปตัดต่อให้กระชับภายในระยะเวลา 5 - 10 นาที เพื่อนำไปจัดฉายในงานวันภาษาไทยแห่งชาติ และเชิญผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยที่ร่วมจัดทำวีดิทัศน์ข้างต้น เข้าร่วมงานวันภาษาไทยแห่งชาติ               ในโอกาสนี้ วธ.ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยจะมีพิธีมอบเข็มและโล่เชิดชูเกียรติแก่ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น และผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย พร้อมรางวัลเพชรในเพลง ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม โทร. 022470013 ต่อ 1226


             อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี ได้รับการประกาศจากองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ ในชื่อ “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี” (Phu Phrabat, a testimony to the Sīma stone tradition of the Dvaravati period) เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 ถือเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย ต่อจากนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี และเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ได้รับการประกาศในปีที่ผ่านมา โดยอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกภายใต้คุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล ได้แก่ การรักษาความเป็นของแท้และดั้งเดิมของแหล่งวัฒนธรรม สีมาหินสมัยทวารวดี และเป็นประจักษ์พยานที่ยอดเยี่ยมของการสืบทอดของวัฒนธรรมดังกล่าวที่ต่อเนื่องอย่างยาวนานกว่าสี่ศตวรรษ โดยเชื่อมโยงเข้ากับประเพณีของวัดฝ่ายอรัญวาสีในเวลาต่อมา               กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 2567 เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคน ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองการประกาศขึ้นทะเบียนภูพระบาทเป็นมรดกโลกในครั้งนี้ และขอแนะนำการเดินทางไปท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท บ้านติ้ว ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ดังนี้




ภูพระ วัดศิลาอาสน์ ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ พระพุทธรูปที่ภูพระ เป็นศิลปะที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะท้องถิ่น คือ ทวารวดี ได้แก่ พระพักตร์รูปสี่เหลี่ยม พระขนงรูปปีกกา และศิลปะเขมรที่แพร่หลายเข้ามามาก ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-18 ได้แก่ แนวเส้นพระเกศา และเกตุมาลารูปกรวยคว่ำ สำหรับมงกุฎหรือกระบังหน้าที่ปรากฏบนพระพุทธรูปทรงเครื่องคล้ายกับที่พบจากพระพุทธรูปในศิลปะเขมรนครวัดหรือบายน ในพุทธศตวรรษที่ 17-18 พระเจ้าองค์ตื้อ (พระตื้น ภาษาอีสานแปลว่า พระเจ้าองค์ใหญ่) องค์พระมีขนาดหน้าตักกว้าง 5 ฟุต สูง 7 ฟุต พระพักตร์ทรงสี่เหลี่ยม พระรัศมีเป็นรูปบัวตูมขนาดเล็ก พระเกศาเป็นเส้นยาว เรียงคล้ายเส้นผม พระขนงมีขนาดเล็กต่อกันเป็นรูปปีกกา พระเนตรเล็กมองตรง พระนาสิกทรงสามเหลี่ยม พระโอษฐเล็ก พระกรรณยาว ครองจีวรห่มคลุม พระอังสายาว มีผ้าสังฆาฏิปลายตัดเป็นเส้นตรงยาวมาจรดพระนาภี ประทับนั้งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์แสดงปางมารวิชัย ที่มีลักษณะพิเศษ คือ จะวางพระหัตถ์ซ้ายไว้บนพระเพลาแทนที่จะเป็นพระหัตถ์ขวาตามแบบพระพุทธรูปปางมารวิชัยทั่วไป ...ศูนย์กลางการเรียนรู้และการท่องเที่ยว มรดกศิลปวัฒนธรรมอีสานใต้แบบบูรณาการ... สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา 274 หมู่ 17 ถนนพิมาย-ชุมพวง ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา 30110 Tel : 044-471518 , 044-481024 E-Mail : fed_10@finrarts.go.th Website : www.finearts.go.th/fad10 Facebook : สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา กรมศิลปากร Youtube : สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา


ปราสาทหนองผักบุ้งใหญ่           ตั้งอยู่ที่บ้านละลมติม ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ประกอบด้วยเนินปราสาทที่อยู่ในสภาพพังทลาย สันนิษฐานว่าเป็นปราสาทแบบเขมรโบราณ สร้างด้วยหินทรายและศิลาแลง  และมีบารายอยู่ด้านตะวันออก บริเวณโบราณสถานแห่งนี้ได้พบชิ้นส่วนหน้าบันหินทราย ศิลปะเขมรโบราณสมัยบาปวนซึ่งทำให้กำหนดอายุว่าอยู่ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - กลางพุทธศตวรรษที่ ๑๗ (ประมาณ ๙๐๐ - ๑,๐๐๐ ปีมาแล้ว) ตั้งแต่รัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ ถึงรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ ๖  (พ.ศ. ๑๕๔๕-พ.ศ.๑๖๕๐)           ทางด้านตะวันตกและด้านเหนือของปราสาทพบว่ามีแนวคันดินกั้นน้ำที่ไหลบ่ามาจากทางตะวันตกเฉียงเหนือ และชักน้ำเข้าสู่บารายของปราสาทหนองผักบุ้งใหญ่และปราสาทตาใบ และการพบว่ามีการก่อสร้างปราสาท ๓ หลัง ได้แก่ ปราสาทหนองผักบุ้งใหญ่ พูนผลและตาใบ บริเวณคันดินบังคับน้ำนี้ จึงทำให้สันนิษฐานว่าบริเวณนี้คงเป็นชุมชนที่มีความสำคัญและมีประชากรจำนวนมาก            กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานปราสาทหนองผักบุ้งใหญ่ ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๓ ตอนพิเศษ ๕๐ ง วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๓๙ มีพื้นที่โบราณสถานประมาณ ๒๒ ไร่ ๒ งาน ๒๕.๗๕ ตารางวา Prasat Nong Phak Bung Yai           Prasat Nong Phak Bung Yai is in Ban La Lom Tim, Khok Sung Subdistrict, Khok Sung District, Sa Kaeo Province. This Khmer temple is completely ruined, only a small hillock with  an eastern Baray (rectangular-shaped reservoir) remains. Laterite and sandstone architectural elements have been found on the hillock, e.g., two pediments in Baphuon style (11th - 12th century or 900 - 1,000 years ago) during the reign of King Suryavarman I - King Jayavarman VI.           There are earthen dikes, on the west and north of the site, which protect Prasat Nong Phak Bung Yai, Prasat Phun Phon and Prasat Ta Bai from flooding and divert water into Baray of Prasat Nong Phak Bung Yai and Prasat Ta Bai.            The Fine Arts Department announced the registration of Prasat Nong Phak Bung Yai as an ancient monument in the Royal Gazette, Volume 113, Special Part 50, dated 18th December 1996. The total area is around 36,103 square meters.   


ชื่อผู้แต่ง                 นริศรานุวัดติวงศ์ , สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ , เจ้าฟ้ากรมพระยา ชื่อเรื่อง                  หนังสือจดหมายระยะทางไปตรวจราชการแหลมมลายู ร.ศ. ๑๒๑ ครั้งที่พิมพ์              พิมพ์ครั้งที่ ๓ สถานที่พิมพ์            กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์              บริษัทประยูรวงศ์ จำกัด ปีที่พิมพ์                 ๒๕๒๕ จำนวนหน้า             ๓๓ หน้า : ภาพประกอบ ISBN                     - เลขเรียกหนังสือ       915.938   น254ห เลขทะเบียนหนังสือ   028852 หมายเหตุ               พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานประชุมพระสังฆาธิการประจำปี ๒๕๒๕ ณ วัดกะพังสุรินทร์ จังหวัดตรัง วันที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๕                            หนังสือจดหมายระยะทางไปตรวจราชการแหลมมลายู ร.ศ. ๑๒๑ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงค์ ทรงนิพนธ์ไว้เป็นบันทึกจดหมายเหตุรายวัน เมื่อคราวเสด็จไปตรวจราชการมณฑลภูเก็ต มณฑลนครศรีธรรมราช และมณฑลชุมพร ซึ่งพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการการไปตรวจราชการในตอนนั้นเพื่อให้ทรงทราบข้อบกพร่องในการปฏิบัติงานและเพื่อพัฒนาการไปรษณีย์ส่วนหนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์เฉพาะเสด็จจังหวัดตรัง และพัทลุงบางส่วนเท่านั้น





            พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร จัดกิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี ๒๕๖๘ นิทรรศการพิเศษ เรื่อง “ลวดลายปูนปั้นและดินเผาประดับโบราณสถานเมืองกำแพงเพชร” โดยจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทปูนปั้นและดินเผาประดับโบราณสถานที่จัดเก็บในคลังพิพิธภัณฑ์ อาทิ เศียรพระพรหมปูนป้้นและเศียรนาคปูนปั้น ปูนปั้นประดับโบราณสถานวัดพระแก้ว หงส์ดินเผาและแผ่นดินเผารูปกลีบบัวซ้อนชั้น ดินเผาประดับโบราณสถานวัดช้างรอบ กลีบบัวรูปเทพนมดินเผา แผ่นลายรักร้อยดินเผา บัวกลุ่มดินเผา ประดับโบราณสถานวัดช้างรอบ กลีบขนุนปูนปั้นประดับโบราณสถานวัดสิงห์ ฯลฯ ซึ่งลวดลายปูนปั้นและดินเผาประดับโบราณสถานเมืองกำแพงเพชร ส่วนใหญ่พบบริเวณวัดพระแก้ว วัดช้างรอบ วัดสิงห์ และวัดพระนอน ศาสนสถานในเขตกำแพงเมืองและอรัญญิก กำหนดอายุในพุทธศตวรรษที่ ๒๐ - ๒๑ ศิลปะอยุธยาตอนต้น หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น “ศิลปะสกุลช่างกำแพงเพชร” ซึ่งผสมผสานรูปแบบศิลปะสุโขทัย อยุธยา และล้านนา ได้อย่างลงตัวและวิจิตร นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมบรรยายเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และงานศิลปกรรมเมืองกำแพงเพชรในแง่มุมของนักวิชาการและสุนทรียศาสตร์ รวมถึงคุณค่าของงานประติมากรรมและลวดลายประดับสมัยอยุธยา อีกด้วย              ขอเชิญชวนผู้สนใจไปชมนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “ลวดลายปูนปั้นและดินเผาประดับโบราณสถานเมืองกำแพงเพชร” ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร เปิดวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ปิดวันจันทร์ - วันอังคาร สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๕๕๗๑ ๑๕๗๐ หรือทางเฟสบุ๊ก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร : Kamphaeng Phet National Museum https://www.facebook.com/kamphaengphetnationalmuseum


เลขทะเบียน : นพ.บ.613/4   ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 18 หน้า  ; 4 x 52 ซ.ม. : ล่องชาด-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 200 (37-48) ผูก 4 (2568)หัวเรื่อง : สัตตัปปกรณาภิธรรม--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.679/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 14 หน้า ; 4 x 57 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 215 (185-195) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : เล่มหลวง--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.746/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 32 หน้า ; 5 x 59 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 232 (355-361) ผูก 4 (2568)หัวเรื่อง : ธัมมสังคิณี--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง :  วิทยุสาร เล่ม 5 ตอนที่ 3  ฉะบับ กันยายน ผู้แต่ง : กรมไปรษณีย์โทรเลข ปีที่พิมพ์ : 2478 สถานที่พิมพ์ :  พระนคร  สำนักพิมพ์ :  โรงพิมพ์ไทยเขษม จำนวนหน้า : 46 หน้า สาระสังเขป : วิทยุสาร เล่ม 5 ตอนที่ 3 ฉะบับกันยายน ประกอบด้วย คำถวายพระพรชัยมงคลในวาระดิถีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล วันที่ 20 กันยายน 2478, สุนทรพจน์หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ร.น. รัฐมนตรี แถลง ณ วันที่ 26 มิถุนายน พุทธศักราช 2478, สุนทรพจน์หลวงประดิษฐ์มนูธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทางวิทยุกระจายเสียง เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2478, รายการส่งกระจายเสียงของวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท ประจำเดือน กันยายน พุทธศักราช 2478 ทั้งยังมีรายการบัญชีสิ่งของถวายพระ เป็นเครื่องไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทางวิทยุกระจายเสียงประจำพรรษา ซึ่งแผนกทะเบียนวิทยุและกระจายเสียงได้รับไว้จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2478  เลขทะเบียนหนังสือหายาก : 190 เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : nlcm_rb2568_00190 โครงการ : พัฒนาระบบบริการห้องสมุดดิจิทัล หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2568


black ribbon.