ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 40,618 รายการ

ผู้แต่ง :  สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 1 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2508 หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.อ. (พิเศษ) ทรง  บุรานนท์               หนังสือกฤษณาสอนน้องคำฉันท์  เป็นหนังสือที่กรมสมเด็จพรปรมานุชิตชิโนรส ทรงพระนิพนธ์ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยสำนวนโวหาร  นับเป็นหนังสือชั้นเอกในกวีนิพนธ์เรื่องหนึ่ง  ประกอบด้วยเนื้อความโอวาทานุสาสนี สำหรับสตรีที่จะพึงปฏิบัติต่อสามี เป็นคติสำหรับกุลสตรีที่พึงปฏิบัติ


ชื่อเรื่อง                           โพธิปกฺขิยธมฺม (โพธิปักขิยธรรม เผด็จ)สพ.บ.                             145/3ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           74 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 56 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา -- หัวข้อธรรม บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับล่องชาด  ได้รับบริจาคมาจากวัดป่าเลไลยก์ ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองฯ จ.สุพรรณบุรี


ชื่อเรื่อง                                จตุวีก (จตุวีก)สพ.บ.                                  239/2ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           56 หน้า กว้าง 5.2 ซ.ม. ยาว 58.6 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           รวมเรื่อง บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน  เส้นจาร ฉบับลานดิบ ภาษาบาลี-ไทยอีสาน ได้รับบริจาคมาจากวัดทุ่งอุทุมพร ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี




ชื่อผู้แต่ง             สมพร  อยู่โพธิ์ ชื่อเรื่อง              พระพุทธรูปปางต่างๆ ครั้งที่พิมพ์           พิมพ์ครั้งที่สิบสอง สถานที่พิมพ์         นครหลวง สำนักพิมพ์           โรงพิมพ์สามมิตร ปีที่พิมพ์              ๒๕๑๕ จำนวนหน้า          ๑๕๒  หน้า หมายเหตุ            คุณหญิงโพยม  เสนีณรงค์ฤทธิ์ (โพยม  สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานกฐินสามัคคี ณ วัดสวนป่าน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๑๕                         หนังสือพระพุทธรูปปางต่าง ๆ นี้ นายสมพร  อยู่โพธิ์ ภัณฑารักษ์เอก กองโบราณคดี กรมศิลปกร ได้อุตสาหะ ค้นคว้าเรียบเรียงขึ้นจากเอกสารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ นอกจากจะให้ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธรูปปางต่างๆ รวมทั้งสิ้น ๕๖ ปาง ซึ่งสร้างขึ้นตามคติที่เชื่อถือกันอยู่ในประเทศไทยแล้ว ยังให้ความรู้เรื่องพระพุทธประวัติ เพราะพระพุทธรูปทุกปางสร้างขึ้นตามเหตุการณ์ต่างๆ ในพระพุทธประวัติ ซึ่งบางตอนก็เป็นเรื่องที่ไม่มีผู้ทราบแพร่หลายทั่วไป


#เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในการส่งเสริมกิจการขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติพุทธศักราช๒๕๒๐ +++วันพืชมงคล เป็นวันที่กำหนดพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นพิธีที่มีมาแต่โบราณเพื่อเป็นสิริมงคลเมื่อเริ่มเพาะปลูกทั้งยังเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรและถือว่าเป็นวันเกษตรกรอีกด้วย พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ฟื้นฟูพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลังจากที่ว่างเว้นไปหลายปี ในปีพ.ศ. ๒๕๐๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมการข้าว (เดิม) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำพันธุ์ข้าวต่างๆ มาปลูกทดลองในบริเวณสวนจิตรลดา โดยในปีแรกพระองค์ท่านทรงขับรถไถนาควายเหล็กเพื่อเตรียมเพาะปลูกข้าว ตลอดทั้งทรงหว่านข้าว และทรงเก็บเกี่ยวข้าวด้วยพระองค์เอง  +++เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในการส่งเสริมกิจการขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ พ.ศ. ๒๕๒๐ ผลิตขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นที่ระลึกเพื่อส่งเสริมกิจการขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (F.A.O) พ.ศ. ๒๕๒๐ จำนวน ๒ ชนิดราคา คือ ราคา ๑๕๐ บาท และราคา ๑ บาท ด้านหน้าเป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงหว่านข้าว โดยมีพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระเยาว์ประทับยืนด้านช้าง ในแปลงนาสาธิตสวนจิตรลดา  ___________________________________________ +++อ้างอิง ++++โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี . สถาบันพระมหากษัตริย์กับการปลูกข้าวในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๓, จากเว็บไซต์: http://www.rspg.or.th/special_articles/hrs_rice/rice_6.htm +++ธนารักษ์, กรม. เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในสมัยรัชกาลที่ 9. สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๓, จากเว็บไซต์: http://trdservice.treasury.go.th/coin2.php +++ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเพื่อส่งเสริมกิจการองค์การอาการและเกษตรแห่งสหประชาชาติ.  (๒๕๒๐, 4, พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา.  เล่มที่ ๙๔ ตอนที่ ๓๔ หน้า ๑๗. +++ศิลปากร,กรม. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย.  กรุงเทพฯ :กรม, ๒๕๖๐.



ตำรายาและขนาน ชบ.ส. ๑๒๐ พระครูวิจิตรธรรมรัตน์ เจ้าอาวาสวัดนามะตูม ต.นามะตูม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มอบให้หอสมุด ๓ มิ.ย. ๒๕๕0 เอกสารโบราณ (สมุดไทย)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.34/1-2 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)




          เมื่อจะนึกถึงเรื่องราวการฉายภาพยนตร์กลางแปลงหรือตามโรงภาพยนตร์ในอดีต ย้อนกลับไปสัก 40-60 ปี ภาพยนตร์ที่ได้รับความสนใจก็จะเป็นภาพยนตร์ไทย และภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่เป็นเรื่องราวสงคราม การต่อสู้ ความรัก เป็นต้น และเมื่อไม่นานมานี้จากการปฏิบัติงาน ผู้เขียนได้อ่านเอกสารเรื่องหนึ่งของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี โดยปกของเอกสารจุดหมายเหตุปึกเรื่องนี้ เขียนเพียงว่า “ภาพยนต์พระราชทาน” มีเอกสารทั้งหมด 52 แผ่น เป็นเรื่องราวการฉายภาพยนตร์พระราชทานในท้องที่จังหวัดจันทบุรี ด้วยเรื่องราวย้อนไปถึงเหตุการณ์ในช่วง พ.ศ. 2503 หรือกว่า 60 ปีผ่านมา ซึ่งผู้เขียนแน่นอนว่าไม่ทันกับเหตุการณ์ในช่วงนั้น จึงพยายามหาข้อมูลอื่นมาประกอบกับเอกสารชุดนี้ ประกอบเป็นเรื่องราวสะท้อนเหตุการณ์ในอดีตของจันทบุรีพอสังเขป          จากข้อมูลของหอภาพยนตร์ส่วนพระองค์ ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ ดำเนินการถ่ายทำโดย ฝ่ายภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง ซึ่งได้เริ่มมีการถ่ายทำภาพยนตร์ม้วนแรก และเก็บสะสมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2489 จำนวนกว่า 6,000 ม้วน ถ่ายทำด้วยฟิล์มสี ขนาด 16 มิลลิเมตร ครั้งแรกที่ชาวไทยได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ส่วนพระองค์ โดยการฉายภาพพระราชพิธีบนจอภาพยนตร์ คือ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 9) ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2493 ณ วังสระปทุม จากการศึกษาเรื่องการอนุรักษ์ฟิล์มภาพยนตร์ส่วนพระองค์ โดยหอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) ทำให้ทราบว่า ภาพยนตร์ส่วนพระองค์อย่างน้อยอีก 16 เรื่อง ได้รับการฉายในโรงภาพยนตร์ไทยในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2493 ถึง พ.ศ. 2510           ในช่วงที่โทรทัศน์ ยังไม่แพร่หลายและมีเฉพาะอยู่ในกรุงเทพฯ ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีก็มีโอกาศได้รับชมภาพยนตร์ส่วนพระองค์ เช่นกันใน พ.ศ.2503 ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 9) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพยนตร์ส่วนพระองค์ ชุดเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรภาคใต้ เดินทางออกฉายทั่วประเทศ โดยไม่เก็บค่าเข้าชม โดยหน่วยเคลื่อนที่ของเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวัง โดยจังหวัดจันทบุรี กำหนดฉาย เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2503 เวลา 20.00 น. ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี (ปัจจุบันคือหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี) จากรายงานพบว่ามีประชาชนกว่า 100 คนเข้าร่วมชมภาพยนตร์ส่วนพระองค์ในครั้งนี้            คลิกดู ภาพยนตร์พระราชทาน ชุดเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรภาคใต้ จาก หอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=EEGmN902AxE            ภาพยนตร์ชุดนี้ เป็นการบันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์การเสด็จเยี่ยมราษฎรจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้ โดยเสด็จฯ ทางรถไฟจากสถานีสวนจิตรลดา สู่จังหวัดนครปฐม และเสด็จไปยังจังหวัดชุมพร ต่อจากนั้นเสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส และสุราษฎร์ธานี           ใน พ.ศ. 2504 จังหวัดจันทบุรี ได้ขอพระราชทานภาพยนตร์ส่วนพระองค์ มาจัดฉายเพื่อเก็บรายได้บำรุงโรงพยาบาลพระปกเกล้า โดยจัดฉายภาพยนตร์ส่วนพระองค์ ชุดเสด็จเยี่ยม เวียดนาม อินโดนีเซีย และพม่า จัดฉายระหว่างวันที่ 19-21 เมษายน 2504 ณ โรงภาพยนตร์จันทบุรีภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์เฉลิมจันทร์ โรงภาพยนตร์บุญปัญญา อำเภอขลุง และโรงภาพยนตร์ท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ โดยเก็บค่าบัตรผ่านประตู ชั้นพิเศษ 20 บาท ชั้นที่ หนึ่ง 10 บาท ชั้นที่สอง 8 บาท ชั้นที่สาม 5 บาท นักเรียน 3 บาท ขายบัตรในการฉายภาพยนตร์ในครั้งนี้ทั้งหมด 850 ใบ ได้เงินรายได้บำรุงโรงพยาบาลพระปกเกล้ากว่า 10,602 บาท           สำหรับการฉายในกรุงเทพฯ จะมีการประชาสัมพันธ์การเข้าฉายของภาพยนตร์ส่วนพระองค์ด้วยการให้รถปิคอัพขับไปรอบกรุงเทพฯ และกระจายข่าวทางลำโพง นอกจากนี้ ภาพยนตร์ส่วนพระองค์หลายเรื่องที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ จะมีจำนวนผู้เข้าชมสูงมาก ดังจะเห็นได้จากการที่ขายบัตรเข้าชมได้มากกว่าภาพยนตร์ฮอลลิวูดและภาพยนตร์ไทยเรื่องอื่นๆ ที่เข้าฉายในเวลาเดียวกัน ซึ่งการนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์เรื่องใหม่ออกฉาย เป็นสิ่งที่ผู้ชมเฝ้ารอกันอย่างมาก---------------------------------------------------------ผู้เขียน อดิศร สุพรธรรม นักจดหมายเหตุชำนาญการ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี---------------------------------------------------------เอกสารอ้างอิง หอจดหมายเหตุแห่งชาติจันทบุรี. จบ1.2.4/895 เอกสารชุดจังหวัดจันทบุรี ส่วนสำนักงานปกครองจังหวัด. เรื่องภาพยนต์พระราชทาน (26 มกราคม 2503 – 4 พฤษภาคม 2504) หอภาพยนต์ส่วนพระองค์(2564) สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2564 จาก http://www.thaicadet.org/.../RoyalPrivateFilmArchive.html



องค์ความรู้เรื่อง เสี่ยงทาย การดำเนินชีวิตของมนุษย์ในแต่ละวันมักประสบกับความไม่แน่นอน และการเสี่ยงภัยต่าง ๆ นานา บางครั้งอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจ หวั่นไหว และหวาดวิตกได้ มนุษย์จึงต้องหาวิธีการควบคุมขจัดความหวาดกลัวต่อสิ่งเหล่านี้ โดยการพึ่งพาความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อำนาจเหนือธรรมชาติรวมทั้งไสยศาสตร์ เพราะเชื่อว่าเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการต่อสู้กับความกลัวในจิตใจได้ รวมทั้งช่วยชี้นำการตัดสินใจในการกระทำต่าง ๆ รวมถึงการดำเนินชีวิต การเสี่ยงทายจึงเป็นวิธีการรูปแบบหนึ่งที่มนุษย์แสดงพฤติกรรมอยากค้นหาคำตอบจากคำทำนายโชคชะตา โดยตัดสินใจเลือกที่จะกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจใช้ฉลาก ใบเซียมซี หรือวิธีการอื่น ๆ แม้การเสี่ยงทายจะมีรูปแบบและวิธีการที่หลากหลายแตกต่างกันไปบ้าง ตามวัฒนธรรมประเพณีคติความเชื่อของแต่ละชนชาติ แต่มีวัตถุประสงค์เหมือนกันคือ เพื่อค้นหาคำตอบจากคำทำนายในเรื่องที่มนุษย์ขาดความมั่นใจ และยังไม่ได้รับคำตอบที่กระจ่างจากสิ่งที่สงสัย ตั้งแต่เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย เช่น เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันไปจนถึงเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตคนหมู่มาก การเสี่ยงทายจึงเป็นขั้นตอนหนึ่งในการประกอบพิธีกรรมทั้งรัฐพิธี และประเพณีทั่วไป เช่น พระราชพิธีอาศยุช คือพระราชพิธีแข่งเรือ  เสี่ยงทาย ที่ปรากฏในกฎมณเฑียรบาลสมัยอยุธยา  พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งเป็นพิธีที่ประกอบขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พืชพันธุ์ธัญญาหาร สนับสนุนส่งเสริมและสร้างขวัญกำลังใจให้กับเกษตรกรในการประกอบอาชีพ คำทำนายที่ปรากฏในการพระราชพิธีนี้ มีหลักการสำคัญสองแนวทางคือ   เพื่อสร้างความมั่นใจ สร้างขวัญและกำลังใจว่าการเกษตรกรรมซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในปีนั้นจะได้รับผลดี  และ อีกแนวทางหนึ่งคือ เป็นการให้สติ มิใช่ให้รอคอยโชคชะตาดินฟ้าอากาศ แต่มุ่งให้เกิดการเตรียมพร้อมรับ แก้ไข หรือป้องกันสถานการณ์อันอาจเกิดขึ้น เช่น ปริมาณน้ำฝน น้ำมาก น้ำน้อย และศัตรูพืช เป็นต้น  โดยเป็นการเสี่ยงทายที่มีคำทำนายที่ให้ทั้งกำลังใจ และให้สติไปพร้อม ๆ กัน ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญในวัดจีน ศาลเจ้าจีนของคนไทยเชื้อสายจีนนั้น มีการเสี่ยงทายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เสี่ยงเซียมซี ที่มีอุปกรณ์หลัก ๆ คือ ไม้ติ้ว และใบเซียมซี ที่มีคำทำนายเรื่องร้าย - ดี    ในชีวิต เพื่อขอคำชี้แนะแนวทางจากคำทำนายโชคชะตาจากเทพเจ้า ซึ่งคำทานายนั้นบางครั้งอาจไม่ถูกใจ  บางคนก็แก้เคล็ดโดยการนำใบเซียมซีที่ได้ไปคืนยังตู้บรรจุใบเซียมซี เสมือนว่าไม่มีคำทานายดังกล่าวเกิดขึ้น ในวรรณคดีไทยมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเสี่ยงทายปรากฏในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง เช่น ในบทละครเรื่องนางมโนราห์ครั้งกรุงเก่า เมื่อพระมารดานางมโนราห์ฝันร้าย จึงให้หาพระโหรามาเสี่ยงทายทำนายฝันโดยการ “แทงศาสตรา”  หรือในบทละครเรื่องพระลอ  พระนิพนธ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ตอนลงสรงเสี่ยงน้ำ เมื่อพระลอจะเดินทางไปหาพระเพื่อนพระแพง เมื่อเดินทางมาถึงแม่น้ำกาหลง ได้เสี่ยงน้ำหาทำนายว่าควรเดินทางต่อไปหรือไม่  ความว่า “มากูจะเสี่ยงน้ำลองดู ผิวะกูรอดฤทธิ์ผีสาง  น้ำใสจงไหลควั่งคว้าง กูอับปางน้ำเฉนียนจงเวียนวนฯ”  เมื่อมนุษย์เราต้องการขวัญกำลังใจ และคำแนะนำประกอบการตัดสินใจในกิจการต่าง ๆ  การเสี่ยงทายจึงเป็นประเพณีปฏิบัติของมนุษย์ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน และจะคงอยู่ต่อไป เพราะเป็นพิธีกรรม และศาสตร์หนึ่งของเรื่องไสยศาสตร์ที่เกิดขึ้นมาจากความหวาดกลัวของมนุษย์ไม่ว่ายุคสมัยไหน แม้ปัจจุบันจะมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์  อันเป็นเพียงแค่ความเจริญทางวัตถุ และเทคโนโลยีแล้ว ก็ตาม ทว่าด้านจิตใจของมนุษย์ยังมีความหวั่นไหวหวาดกลัว  ต้องการความมั่นใจ รวมทั้งมีความปรารถนาในสิ่งต่าง ๆ  อีกมาก จึงพร้อมที่จะแสวงหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งการเสี่ยงทายนับเป็นรูปแบบหนึ่งที่ตอบสนองสิ่งเหล่านี้ได้ กมลพรรณ บุญสุทธิ์ นักอักษรศาสตร์ กลุ่มจารีตประเพณี  ค้นคว้าเรียบเรียง