ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับเมืองโบราณอู่ทองและวัฒนธรรมทวารวดี แสดงถึงพัฒนาการของเมืองโบราณอู่ทอง ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ กระทั่งพัฒนาเข้าสู่สังคมประวัติศาสตร์สมัยทวารวดี ประกอบด้วยห้องจัดแสดง ๒ ห้อง
ห้องจัดแสดง ๑ บรรพชนคนอู่ทอง (สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และการรับวัฒนธรรมจากภายนอก)
ห้องบรรพชนคนอู่ทอง จัดแสดงพัฒนาการของเมืองโบราณอู่ทอง เมืองโบราณแห่งนี้ พบหลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์แบบสังคมเกษตรกรรมยุคหินใหม่ต่อเนื่องถึงยุคโลหะ เมื่อประมาณ ๓,๐๐๐ ปีมาแล้ว ต่อมาประมาณ ๒,๐๐๐ ปี พบหลักฐานโบราณที่แสดงว่า เมืองโบราณอู่ทองพัฒนาขึ้นเป็นเมืองท่าศูนย์กลางการติดต่อค้าขายที่สำคัญของชุมชนโบราณในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับประเทศสำคัญของโลกในเวลานั้น เช่น ลูกปัดชนิดต่างๆ ซึ่งทำด้วยหินมีค่าที่นำเข้าจากประเทศอินเดีย เหรียญกษาปณ์โรมัน ปูนปั้นรูปพ่อค้าชาวเปอร์เซีย ฯลฯ ราวพุทธศตวรรษที่ ๘ – ๑๐ หรือเมื่อประมาณ ๑,๖๐๐ – ๑,๘๐๐ ปีที่ผ่านมา พบหลักฐานที่แสดงถึงการนับถือพุทธศาสนาในเมืองโบราณอู่ทอง โดยเฉพาะพุทธศาสนาแบบหินยานหรือเถรวาท ทำให้เมืองอู่ทองเกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบทางวัฒนธรรมเข้าสู่วัฒนธรรมทวารวดี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมสมัยประวัติศาสตร์ยุคแรกสุดบนผืนแผ่นดินไทย โบราณวัตถุสำคัญที่จัดแสดง ได้แก่ เครื่องประดับทองคำ ลูกปัดทองคำสมัยทวารวดี ลูกปัดที่ทำจากหินแก้ว แผ่นดินเผาภาพพระภิกษุอุ้มบาตร อิทธิพลศิลปะอมราวดี ซึ่งถือเป็นโบราณวัตถุที่ได้รับอิทธิพลอินเดียที่มีอายุเก่าที่สุดเท่าที่พบในประเทศไทย แผ่นดินเผารูปเทวดา ตราประทับดินเผา จารึกดินเผา จารึกแผ่นทองแดง เหรียญกษาปณ์โรมัน เหรียญเงินมีจารึก และพระพุทธรูปสำริด
ห้องจัดแสดง ๒ อู่ทองศรีทวารวดี (วัฒนธรรมทวารวดีที่เมืองโบราณอู่ทอง)
ห้องอู่ทองศรีทวารวดี จัดแสดงเรื่องราวและความสำคัญของเมืองโบราณอู่ทองในฐานะเมืองสมัยประวัติศาสตร์ยุคแรกของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการค้าและศูนย์กลางพระพุทธศาสนาก่อนแพร่กระจายความเจริญไปสู่ชุมชนโบราณร่วมสมัยอื่นๆ เมืองโบราณอู่ทองเป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดี มีผังเมืองเป็นรูปวงรี ตัวเมืองมีคูน้ำคันดินล้อมรอบ ภายในตัวเมืองและบริเวณโดยรอบมีซากโบราณสถานกระจายอยู่ไม่น้อยกว่า ๒๐ แห่ง ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นที่ตั้งของโบราณสถานคอกช้างดิน กลุ่มศาสนสถานและสิ่งก่อสร้างเนื่องในศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ลัทธิไศวนิกาย เมืองโบราณอู่ทองมีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๖ หรือประมาณ ๑,๐๐๐ – ๑,๔๐๐ ปีที่ผ่านมา เป็นหลักฐานแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางวัตถุและวิทยาการต่างๆ ในอดีต อันมีผลจากการผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับการรับวัฒนธรรมจากประเทศอินเดีย ก่อให้เกิดรูปแบบทางวัฒนธรรมที่เรียกว่า “ทวารวดี” มีลักษณะที่สำคัญคือ การวางผังเมืองที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ การนับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาท การสร้างศาสนสถานด้วยอิฐขนาดใหญ่ และการมีรูปแบบทางศิลปกรรมเฉพาะเป็นของตนเอง โบราณวัตถุสำคัญที่จัดแสดง ได้แก่ ธรรมจักรศิลา พระพุทธรูปสำริด พระพุทธรูปดินเผา พระพิมพ์ดินเผา ประติมากรรมดินเผา ลูกปัด เครื่องประดับ เครื่องมือเครื่องใช้ ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรม ลวดลายปูนปั้น ฯลฯ โดยเฉพาะธรรมจักรศิลาพร้อมแท่นและเสาตั้ง ซึ่งถือเป็นโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมที่พบสมบูรณ์เพียงชิ้นเดียวในประเทศไทย
อาคารจัดแสดงที่ ๒
จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับดินแดนสุวรรณภูมิ พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของเมืองโบราณอู่ทอง เส้นทางการค้าทางทะเล และเมืองโบราณอู่ทองในฐานะศูนย์กลางของศาสนาพุทธ โดยเบ่งการจัดแสดงออกเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้
ห้องจัดแสดงชั้นบน ส่วนที่ ๑ “พัฒนาการทางประวัติศาสตร์บนผืนแผ่นดินสุวรรณภูมิ”
จัดแสดงพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของดินแดนสุวรรณภูมิ แหล่งการค้าสำคัญของโลกยุคโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่าคือดินแดนที่ประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์กระทั่งพัฒนาเข้าสู่สังคมเมือง และการค้าระหว่างชุมชนโบราณต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกด้วยโบราณวัตถุและสื่อจัดแสดงประเภทต่างๆ ที่ทันสมัย
ห้องจัดแสดงชั้นบน ส่วนที่ ๒ “สุวรรณภูมิการค้าของโลกยุคโบราณ”
จำลองเหตุการณ์การค้าทางทะเลจากคาบสมุทรอินเดียสู่ดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อราว ๓,๐๐๐ ปีที่ผ่านมา โดยใช้สื่อระบบโสตทัศนูปกรณ์ แสดงถึงการเดินเรือของพ่อค้าชาวต่างชาติ เส้นทางการค้าและเมืองท่าสำคัญในเวลานั้น ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งของเส้นทางการค้าดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเมืองโบราณอู่ทองโดยตรง
ห้องจัดแสดงชั้นล่าง
“อู่ทองศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา” จัดแสดงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อประมาณ ๑,๖๐๐ – ๑,๘๐๐ ปีที่ผ่านมา “เมืองโบราณอู่ทอง อรุณรุ่งแห่งอารยธรรมไทย” เป็นเมืองสำคัญยุคแรกที่ได้รับอิทธิพลทางศาสนาพุทธจากอินเดีย ซึ่งได้กลายมาเป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมทวารวดีในเวลาต่อมา โดยมีหลักฐานว่าพุทธศาสนาได้เข้ามาประดิษฐานที่เมืองโบราณอู่ทองเป็นจุดแรกในดินแดนประเทศไทย จัดแสดงโดยใช้โบราณวัตถุสำคัญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา แบบจำลองเจดีย์ ธรรมจักร และการขุดค้นทางโบราณคดีที่มีเมืองโบราณอู่ทอง ด้วยเทคนิคการจัดแสดงอันทันสมัยพร้อมภาพยนตร์อนิเมชั่น
เรือนลาวโซ่ง
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง ได้จำลองเรือนลาวโซ่งจัดแสดงไว้ภายใน เรือนลาวโซ่ถือเป็นรูปแบบบ้านอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวไทยทรงดำ หรือลาวโซ่ง ชาติพันธุ์สำคัญชาติพันธุ์หนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในอำเภออู่ทอง ไทยทรงดำ หรือ ลาวโซ่ง เป็นกลุ่มคนเชื้อสายไท มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศลาวและเวียดนาม ในสมัยธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น กองทัพไทยได้ยกไปตีนครเวียงจันทร์และเมืองต่างๆ ในอาณาจักรล้านช้าง (ประเทศลาว) ได้กวาดต้อนผู้คนครอบครัวชาวลาวต่างๆ มาจำนวนมาก รวมทั้งชาวลาวโซ่งมายังอาณาจักรสยาม (ประเทศไทย) ชาวลาวโซ่งที่เข้ามาครั้งนั้น ได้ตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่ในเขตจังหวัดเพชรบุรี ต่อมาได้ย้ายถิ่นฐานที่อยู่ไปทำมาหากินในจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งที่จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย ในปัจจุบันชุมชนชาวไทยทรงดำในจังหวัดสุพรรณบุรี อาศัยอยู่ในเขตอำเภออู่ทอง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า
ชาวไทยทรงดำมีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตนเอง ซึ่งจะพูดกันในกลุ่มเชื้อสายเดียวกัน มีเอกลักษณ์ทางการแต่งกายที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน คือ เครื่องแต่งกายสีดำที่ย้อมครามจนเข้มเป็นสีนำเงินดำ ชาวไทยทรงดำมีความเชื่อ การนับถือผี สิ่งที่เหนือธรรมชาติ และวิญญาณบรรพบุรุษ มีการประกอบพิธีกรรมที่เป็นแบบแผนมาจนถึงปัจจุบัน เช่น พิธีเสนเฮือน หรือการไหว้ผีเรือน พิธีขึ้นบ้านใหม่ พิธีแต่งงาน และพิธีศพ ที่มีความคล้ายคลึงกับพิธีของคนจีนในบางประการ
***บรรณานุกรม***
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
พระราชนิพนธ์ เรื่องเสด็จประพาสต้นครั้งที่สอง พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นางฉลวย ชูทรัพย์วันที่ 3 พฤศจิกายน 2531 ณ วัดมกุฏกษัตริยารามวันที่ 17 ธันวาคม พุทธศักราช 2512
พระนคร
โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว
2531
***บรรณานุกรม***
หนังสือหายาก
กรมสาธารณสุข. เอกสารสาธารณสุข เรื่อง อาหารของเรา พิมพ์เป็นที่ระลึก ในงานฌาปนกิจศพ คุณแม่เพี้ยน วิจิตรานนท์ ณ เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม วันอาทิตย์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๘๒. พระนคร : โรงพิมพ์ไทยพิทยา, ๒๔๘๒.
ชื่อเรื่อง ประชุมพงศาวดาร เล่ม 41 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 66 (ต่อ-67) จดหมายเหตุรายวันทัพสมัยกรุงธนบุรี เล่าเรื่องไปชวา ครั้งที่ 3ผู้แต่ง -ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ประวัติศาสตร์ เลขหมู่ 959.304 ป247สถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ องค์การค้าของคุรุสภาปีที่พิมพ์ 2512ลักษณะวัสดุ 320 หน้าหัวเรื่อง ไทย -- ประวัติศาสตร์ -- กรุงธนบุรีภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงนิพนธ์หนังสือ เล่าเรื่องไปชวา ครั้งที่ 3 ถวายสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นของเฉลิมพระขวัญ ในมงคลสมัยพระชนมายุครบ 6 รอบ เมื่อปี พ.ศ.2477
๑.ชื่อโครงการ โครงการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย และ ไทย-นิวซีแลนด์ ครั้งที่ ๓
๒. วัตถุประสงค์
๒.๑ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและผลักดันโครงการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
๒.๒ เพื่อหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมความร่วมมือ และการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย
๓. กำหนดเวลา ระหว่างวันที่ ๖ – ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙
๔. สถานที่
๔.๑ นครโอ๊คแลนด์ และ เมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์
๔.๒ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
๕. หน่วยงานผู้จัด
กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ
๖. หน่วยงานสนับสนุน
ไม่มี
๗. กิจกรรม
๗.๑ ข้าราชการกรมศิลปากร จำนวน ๑ คน ในคณะเดินทางไปราชการครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้น ๒๑ คน เข้าพบหารือกับหน่วยงานด้านการศึกษาและวัฒนธรรม โดยการแนะนำภารกิจของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และหารือแนวทางเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย
๗.๒ คณะเดินทางได้ศึกษาดูงานสถานที่สำคัญทางการศึกษา ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนิวซีแลนด์ และประเทศออสเตรเลีย
๘. คณะผู้แทนไทย
๑. นางวิไลลักษณ์ เกียรติธีรรัตน์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
๒. คณะเดินทางจากหน่วยงานอื่นในรายละเอียดดังแนบ (รวม ๒๑ คน)
๙. สรุปสาระของกิจกรรม
วันแรก (วันเสาร์ที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙)
๑๖.๓๐ น. คณะพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
๑๘.๔๕ น. คณะออกเดินทางไปยังนครโอ๊คแลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG491 (ระยะเวลาเดินทาง ๑๑ ชั่วโมง)
วันที่สอง (วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙)
๑๐.๔๕ น. - คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนครโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
- เดินทางไปยังโรงแรมที่พัก โรงแรม Stamford
๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. - รับประทานอาหารเที่ยง
๑๕.๐๐-๑๖.๓๐ น. - ศึกษาสถานที่สำคัญในนครโอ๊คแลนด์
๑๘.๐๐ น. - รับประทานอาหารค่ำ
วันที่สาม (วันจันทร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙)
๐๗.๐๐ น. - รับประทานอาหารเช้า
๑๐.๐๐ น. - เข้าพบและหารือ Auckland University of Technology (AUT)
- เรื่อง Faculty of Design and Creative Technologies และด้าน Applied Sciences เพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับไทยในทั้ง ๒ สาขา การส่งเสริมระดับมหาวิทยาลัย การเชื่อมโยงระหว่างภาคการศึกษา และภาคเอกชน และเรื่องการตั้ง Thai Studies Centre / Program
๑๑.๐๐ น.-๑๒.๓๐ น. - พบหารือ EDENZ College ซึ่งเป็นสถาบันเอกชนที่เน้นการเรียนการสอน
ด้าน Film Academy, Technology Academy และ Digital Media Academy
- ไทยสามารถศึกษาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการของสถาบันเอกชน ที่ขนาดไม่ใหญ่ และมี Specialty ในด้าน Creative Industry เป็นการเฉพาะ
๑๒.๐๐ น. - พบผู้บริหาร The Big Idea เว็บไซต์
- เว็บไซต์ www.thebigidea.nz ถือเป็นเว็บไซต์ที่เป็นชุมทาง (online hub) สำหรับกลุ่มผู้นำเสนอผลงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในสาขาต่าง ๆ รวมถึง supplier ในด้านดังกล่าว ทำให้เว็บไซต์ดังกล่าว สามารถเชื่อมโยงสมาชิก (ที่มีกว่า ๓ หมื่นคน) ให้ใช้ประโยชน์จาก Talent ของกันและกันในการนำเสนอผลงาน และจัดกิจกรรม
- ของทราบแนวทาง การดำเนินการผลสำเร็จในอดีต และการนำแนวคิดมาประยุกต์ใช้กับการส่งเสริมอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย
๑๘.๐๐ น. - รับประทานอาหารค่ำ
วันที่สี่ (วันอังคารที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙)
๐๗.๐๐ น. - รับประทานอาหารเช้า
๐๙.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น. - พบหารือ Plant and Food Research เป็นบริษัทที่มีรัฐบาลนิวซีแลนด์ถือหุ้นทั้งหมด ทำหน้าที่ในการวิจัยพัฒนาและเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ประเภท ผัก ผลไม้ พืชและอาหารโดยเน้นงานวิจัยที่สามารถนำไปสู่การค้าได้
- มีคณะมาเยือนไทยเมื่อปีที่แล้ว
- แจ้งนโยบายของไทยที่เกี่ยวข้อง เช่น Food Innopolis โอกาสในการร่วมมือด้านการวิจัยร่วมกัน
๑๑.๐๐ น.-๑๒.๓๐ น. - NZ Food Innovation Network เป็นเครือข่ายด้านทรัพยากรทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มแก่ธุรกิจทุกขนาดเพื่อให้สามารถพัฒนาสินค้าใหม่ๆ สู่ตลาดได้
- แจ้งนโยบายของไทยที่เกี่ยวข้อง เช่น Food Innopolis โอกาสในการร่วมมือด้านการวิจัยร่วมกัน
๑๒.๓๐ น.-๑๔.๐๐ น. - รับประทานอาหารเที่ยง
๑๕.๐๐ น. - โดยสารเครื่องบินไปยังกรุงเวลลิงตัน เที่ยวบิน NZ425
๑๖.๐๕ น. - เดินทางถึงกรุงเวลลิงตัน และเข้าพักที่ โรงแรม Intercontinental
๑๘.๐๐ น. - รับประทานอาหารค่ำ
๐๗.๐๐ น. - รับประทานอาหารเช้า
๐๙.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น. - พบหารือ NZ File Commission
- แจ้งสรุปพัฒนาของฝ่ายไทยเกี่ยวกับมติ ครม. เรื่อง Film incentives
- แจ้งพัฒนาการเรื่องความพร้อมในการจัดทำ Film Agreement กับฝ่ายนิวซีแลนด์
- ติดตามความคืบหน้าของฝ่ายนิวซีแลนด์
๑๑.๐๐น.-๑๒.๐๐ น. - พบหารือ Massey University, Wellington Campas (School of Design)
- หารือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การส่งเสริมระดับมหาวิทยาลัยการเชื่อมโยงระหว่างภาคการศึกษาและภาคเอกชน
- ขอเชิญฝ่ายวิจัยด้านเกษตรของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมด้วยเพื่อหารือพัฒนาการความร่วมมือด้านดังกล่าวจากปีก่อน
๑๒.๓๐ น.-๑๓.๓๐ น. - รับประทานอาหารกลางวัน
๑๓.๓๐ น.-๑๕.๐๐ น. - พบหารือกับหน่วยงาน New Zealand G2G Partnerships Limited
- เพื่อแจ้งให้หน่วยงาน G2G ของนิวซีแลนด์ทราบถึงโครงการ รวมถึงประสานกับภาคราชการและเอกชนไทยในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานของนิวซีแลนด์ ในด้านต่าง ๆ ต่อไป
- เป็นผู้จัดคณะให้ของ Food and Plant Research มาเยือนไทยเมื่อปีก่อน
๑๗.๐๐ น. - ออกเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเวลลิงตันไปยังนครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เที่ยวบิน QF172 (ใช้เวลาเดินทาง ๔ ชั่วโมง)
๑๙.๐๐ น. - เดินทางถึงนครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และเข้าพักที่โรงแรม Stamford
๒๐.๐๐ น. - รับประทานอาหารค่ำ
วันที่หก (วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙)
๐๗.๐๐ น. - รับประทานอาหารเช้า
๐๙.๐๐ น.-๑๒.๐๐ น. - พบหารือผู้บริหาร Creative Victoria
- ขอพบ Mr. Andrew Abbott, Deputy Secretary เพื่อหารือแนวทางความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมและการสร้าง formal relationship กับ Creative Victoria
- เชิญฝ่ายออสเตรเลีย เป็น partnership ในการเข้าร่วมงาน Bangkok Entertainment Week และหารือเรื่องการที่ไทยจะเข้าร่วมในงาน International Game Week
๑๑.๐๐ น.-๑๒.๓๐ น. - พบหารือ Lead Scientist of Victoria
- อยู่ภายใต้ Department of Economic Development, Jobs, Transport and Resources มีบทบาทหน้าที่ในการเสนอนโยบาย เพื่อผลักดันการพัฒนาวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมของรัฐ
- Lead Scientist เป็นประธาน Innovation Expert Panel ด้วย
- แสวงหาความร่วมมือกับไทยในโครงการ เช่น Food Innopolis การใช้วิทยาศาสตร์หรือการวิจัย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
๑๒.๓๐ น.-๑๔.๐๐ น. - รับประทานอาหารกลางวัน
๑๔.๓๐ น.-๑๖.๐๐ น. - พบหารือ Royal Melbourne Institute of Technology (RMIT) พบ Health Innovations Research Institute (HIRi)
- เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบ การตกแต่ง วิศวกรรม และคอมพิวเตอร์กราฟฟิค โดยมีการจัดคอร์สเฉพาะทางเช่น Diploma of Creative Industries
- มหาวิทยาลัยยังมีคณะ Food Science and Technology ซึ่งไทยสามารถจะแสดงหาความร่วมมือได้
- พบหารือกันทั้ง ๒ ภาควิชา เพื่อหารือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์งานวิจัยร่วม การนำการวิจัยไปสู่หาอุตสาหกรรมการส่งเสริมระดับมหาวิทยาลัย การเชื่อมโยงระหว่างภาคการศึกษาและภาคเอกชน เป็นต้น
- ขอพบผู้บริหารสถาบันเพื่อหารือเรื่อง Thai Studies Center/Program
๑๘.๐๐ น. - รับประทานอาหารค่ำ
วันที่เจ็ด (วันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙)
๐๗.๐๐ น. - รับประทานอาหารเช้า
๐๙.๓๐ น.-๑๑.๐๐ น. - พบหารือ TAFE Victoria, Kangan Institute (Centre for Fashion and Creative Industries)
- เป็น Campus ที่มี facilities เพื่อส่งเสริมการใช้ digital technology สนับสนุน งานด้าน fashion and design, visual merchandising โดยตัว Campus ตั้งอยู่ในย่าน Richmond ซึ่งเป็นย่านสำคัญด้าน fashion and design ของนครเมลเบิร์น
- แสวงหาแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่าง TAFE และภาคเอกสารไทย และสถาบันการศึกษาของไทย เช่น การ accredit ระหว่างสถาบันหรือสาชาวิชาชีพ
๑๑.๓๐ น.-๑๓.๐๐ น. - รับประทานอาหารกลางวัน
๑๕.๑๕ น. - เดินทางกลับประเทศไทย โดยเครื่องบินโดยสารของ บริษัทการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 466 (ใช้เวลาเดินทาง 9 ชั่วโมง)
๒๑.๔๕ น. - เดินทางถึงประเทศไทย
๑๐. ข้อเสนอแนะจากการจัดกิจกรรม
๑๐.๑ จากการเข้าพบหารือกับหน่วยงานด้านการศึกษาและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้านต่าง ๆ ของประเทศนิวซีแลนด์ และประเทศออสเตรเลีย ทำให้ได้เรียนรู้ว่า ในทั้ง ๒ ประเทศมีการเรียนการสอน แบบครบวงจรและมีความพร้อมด้านเทคโนโลยี สามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสามารถสร้างสรรค์งานออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตามจินตนาการ
๑๐.๒ ทั้งประเทศนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย มีความเป็นมิตรกับประเทศไทยและมีความสนใจเรื่อง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การศึกษา การทำวิจัย ร่วมกัน
๑๐.๓ ประเด็นการเจรจาสืบเนื่องจากโครงการที่จัดมาแล้วในปีก่อน และต่อยอดให้เกิดความก้าวหน้า ขึ้นในปีนี้และหวังว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ในปีต่อไป
ผู้สรุปผลการเดินทางไปราชการ
นางวิไลลักษณ์ เกียรติธีรรัตน์
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ
สาระสังเขป : อธิบายการแต่งโคลงในแบบต่างๆ ได้แก่ การแต่งโคลงสุภาพ(แบบจินดามณี) โคลงทัณฑ์ (แบบจินดามณี) โคลงกลบท โคลงกระทู้ โคลงดั้น โคลงโบราณ และโคลงเยี่ยงโบราณผู้แต่ง : มงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระโรงพิมพ์ : โสภณพิพรรฒธนากรปีที่พิมพ์ : 2470ภาษา : ไทยรูปแบบ : PDFเลขทะเบียน : น.31บ.13666เลขหมู่ : 808.1 ม113พ
เลขทะเบียน : นพ.บ.4/1ขห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า ; 5 x 55 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 2 (11-19) ผูก 8หัวเรื่อง : แทนน้ำนมแม่--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.49/14ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 36 หน้า ; 4.5 x 54 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 30 (308-325) ผูก 18หัวเรื่อง : บาลียมก --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ขอนำเสนอ “ศัพท์น่ารู้ก่อนดูพิพิธภัณฑ์ : Definitions Before Visiting the Exhibitions” ช่วยปูพื้นฐานด้านคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับนิทรรศการด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี เพื่อให้การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ครั้งถัดไปมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยจัดทำองค์ความรู้คำว่า “โบราณวัตถุ : Artifacts” ทั้งนี้ สามารถชมพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงแบบเต็ม ๆ ได้ที่ : http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/songkhla/index.php/th/ ................................................................................... เรียบเรียง / กราฟฟิก /ถ่ายภาพ : ฝ่ายวิชาการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา อ้างอิง : กรมศิลปากร. นิยามศัพท์ Definitions Before Visiting the Exhibition. กรุงเทพฯ: ฤทธี ครีเอชั่น, 2558. ที่มาของข้อมูล : https://www.facebook.com/songkhlanationalmuseum/posts/3072612666135981
ชื่อผู้แต่ง จดหมายเหตุ รัชกาลที่ ๓ เล่ม ๔
ชื่อเรื่อง จดหมายเหตุ รัชกาลที่ ๓ เล่ม ๔ครั้งที่พิมพ์ -สถานที่พิมพ์ กรุงเทพมหานครสำนักพิมพ์ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลสหประชาพาณิชย์ปีที่พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ จำนวนหน้า ๑๔๔ หน้าคำค้น จดหมายเหตุหมายเหตุ - หนังสือ จดหมายเหตุ รัชกาลที่ ๓ เล่ม ๔ นี้ รัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดพิมพ์ทูลเกล้าฯ ถวายสนองพระมหากรุณาธิคุณในมหามงคลเฉลิมพระเกียรติวันพระบรมราชสมภพ ครบ ๒๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงมีพระบรมราชคุณูปการแก่ประเทศและประชาชนเป็นล้นพ้นสุดที่จะพรรณาได้
1. ตำรายาเกร็ด เช่น ยาลมกระโสกล่อน, ยาริดสีดวง,ยาบิด, ยาแก้จุก, ยารูฝีในท้อง ฯลฯ 2. เวทย์สนต์คาถา อักษรขอม ภาษาบาลี