ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,749 รายการ
พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางรักษ์ราชหิรัญ (ชิณ หังสสูต) ณ เมรุวัดมกุษัตริยาราม วันที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม ได้ดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 นั่นก็คือ "โครงการปรับปรุงห้องนิทรรศการพระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์)" ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินงาน คาดว่าจะสามารถเปิดให้เข้าชมได้ในเร็วๆนี้ นิทรรศการห้องที่ระลึกพระยาโบราณราชธานินทร์ ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในอาคารมหาดไทย เป็นนิทรรศการที่เผยแพร่ชีวประวัติและผลงานอันทรงคุณค่าของพระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ภายในห้องเป็นการจำลองการจัดแสดงห้องทำงานของพระยาโบราณราชธานินทร์ รวมไปถึงจัดแสดงเครื่องใช้ส่วนตัวและโบราณวัตถุบางส่วนที่มาจากการเก็บสะสมของท่าน โดยวัตถุประสงค์ของนิทรรศการนี้คือเพื่อเป็นการระลึกถึงและเชิดชูเกียรติพระยาโบราณราชธานินทร์ ผู้มีคุณูปการต่อวงการประวัติศาสตร์ โบราณคดี และชาวพระนครศรีอยุธยา การปรับปรุงนิทรรศการในครั้งนี้ ประกอบด้วย งานปรับปรุงป้ายนิทรรศการ ป้ายคำบรรยายวัตถุ ปรับปรุงแท่นจัดแสดงบางส่วน รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนแผนผังการจัดแสดง เพื่อให้การนำเสนอข้อมูลมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกทั้งยังเพื่อให้นิทรรศการมีความหลากหลายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
องค์ความรู้จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช เรื่อง "ศัพท์ช่างคำศิลป์ : ลายไทย"
ชื่อเรื่อง มหานิปาตวณฺณนา (เวสฺสนฺตรชาตก) ชาตกกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (หิมพานต์-ฉกษัตริย์)สพ.บ. 417/5ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 36 หน้า : กว้าง 4.6 ซม. ยาว 56.7 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา ชาดกบทคัดย่อ/บันทึกเป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทย-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ-รักทึบ-ลานดิบ-ลองชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
ชื่อเรื่อง ปญฺญาปารมี (ปัญญาปารมี)
สพ.บ. 416/1ขประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 22 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับชาดทึบ-ลานดิบ-ล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
เลขทะเบียน : นพ.บ.174/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 28 หน้า ; 4 x 52.5 ซ.ม. : ล่องชาด-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับ, มีฉลากไม้ไผ่ชื่อชุด : มัดที่ 98 (49-66) ผูก 4 (2565)หัวเรื่อง : มหานิปาตวณฺณนา(เวสสันดรชาดก) ชาตกฎฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฐกถา(ทสวร,หิมพานต์,วนปเวสน์ ฉกกษัตริย์)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
ชบ.บ.47/1-3ฆ
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
เลขทะเบียน : นพ.บ.229/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 50 หน้า ; 4.5 x 53 ซ.ม. : รักทึบ-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 112 (170-179) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : สทฺทสฺงคห(สัททาสังคหะ) --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.360/3ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 50 หน้า ; 4.5 x 51.5 ซ.ม. : ทองทึบ-รักทึบ-ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 139 (411-419) ผูก 3 (2565)หัวเรื่อง : อภิธฺมมตฺถสงฺคห (อภิธัมมัตถสังคหะ)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เหรียญตราพระอาทิตย์-ศรีวัตสะ
พบบริเวณบ้านเนินพลับพลา เมืองโบราณอู่ทอง ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
จัดแสดงห้องอู่ทองศรีทวารวดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง
เหรียญเงินกลมแบน มีรอยตัดแบ่งตรงกึ่งกลางเหรียญ เป็นร่องทะลุจากขอบเข้ามาด้านในเหรียญประมาณ ๒ ใน ๓ ส่วน เหรียญนี้กำหนดอายุสมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๖ หรือประมาณ ๑,๐๐๐ – ๑,๔๐๐ ปีมาแล้ว เหรียญตกแต่งสัญลักษณ์มงคลทั้ง ๒ ด้าน มีรายละเอียด ดังนี้
ด้านที่ ๑ เป็นรูปพระอาทิตย์ฉายแสง โดยมีพระอาทิตย์ครึ่งดวงอยู่ตรงกึ่งกลาง มีแฉกเป็นเส้นหนาส่วนปลายเรียวแหลมกระจายออกโดยรอบจำนวน ๑๒ แฉก ระหว่างแฉกมีจุดกลม มีเส้นวงกลมล้อมรอบ ขอบด้านนอกตกแต่งด้วยลายจุดกลมโดยรอบ
ด้านที่ ๒ เป็นรูปศรีวัตสะ ภัทรบิฐหรือฑมรุ และสวัสดิกะ โดยมีศรีวัตสะอยู่ตรงกึ่งกลาง ลักษณะเป็นโครงลายเส้น เส้นฐานล่างเป็นเส้นโค้ง เส้นด้านข้างทั้งสองด้านเชื่อมกับเส้นฐานล่าง ส่วนปลายด้านบนตวัดโค้งงอเข้าหากัน ด้านในมีลวดลายลักษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยมซ้อนกัน และมีลายจุดกลม ด้านข้างศรีวัตสะมีภาพภัทรบิฐ (บัลลังก์) หรือฑมรุ (กลองสองหน้า) มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม ๒ รูปประกอบกันคล้ายนาฬิกาทราย ด้านบนมีจุดกลม ๓ จุด อีกด้านของศรีวัตสะมีภาพสวัสดิกะ มีลักษณะเป็นรูปกากบาทประกอบกับลายจุดกลม ๔ จุด ลวดลายเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์มงคลที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์และความอุดมสมบูรณ์
สันนิษฐานว่าเหรียญเงินรูปแบบนี้ ใช้สำหรับการประกอบพิธีกรรม เนื่องจากมีรอยตัดอย่างจงใจ และพบร่วมกับเหรียญเงินขนาดเล็ก แท่งผลึกควอตซ์ และเศษทองคำเปลวจำนวนหนึ่ง เหรียญเงินมีสัญลักษณ์มงคลที่มีรอยตัดนี้ ยังพบที่แหล่งโบราณคดีสมัยทวารวดีแห่งอื่นด้วย เช่น เหรียญตราพระอาทิตย์-ศรีวัตสะ มีรอยตัด พบที่บ้านพรหมทิน อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี และเหรียญตราสังข์-ศรีวัตสะ มีรอยตัด พบที่บ้านอู่ตะเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบเหรียญเงินที่ถูกบิดงอหรือม้วนอย่างจงใจ ซึ่งสันนิษฐานว่าใช้ในการประกอบพิธีกรรมเช่นกัน เช่น เหรียญตรารูปพระอาทิตย์-ศรีวัตสะ และเหรียญตราสังข์-ศรีวัตสะม้วนงอ พบร่วมกับเหรียญเงินมีจารึก “ศฺรีทฺวารวตี ศฺวรปุณย” เหรียญเงินมีสัญลักษณ์มงคลและแท่งเงินตัด บรรจุภายในภาชนะดินเผา พบที่โบราณสถานคอกช้างดิน เมืองโบราณอู่ทอง เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง
รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง. มรดก ๑,๐๐๐ ปี เก่าที่สุดในสยาม. นนทบุรี : มิวเซียมเพรส, ๒๕๕๖.
วิภาดา อ่อนวิมล. “เหรียญตราในประเทศไทยช่วงพุทธศตวรรษที่ ๙-๑๖”. วิทยานิพนธ์ปริญญา ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๖๑.
สายันต์ ไพรชาญจิตร์และสุภมาศ ดวงสกุล. “หลักฐานและความรู้ใหม่ทางโบราณคดีจากคอกช้างดินเมืองอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี” ใน เอกสารประกอบการสัมมนาโครงการสัมมนา ประวัติศาสตร์ โบราณคดีเมืองสุพรรณบุรี “จากทวารวดีถึงสุพรรณภูมิ : หลักฐานและข้อมูลใหม่ทางโบราณคดี”. สุพรรณบุรี : ฝ่ายวิชาการ สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ ๒ สุพรรณบุรี, ๒๕๔๒.
#วัดจุฬามณี๗ #การศึกษาที่ผ่านมาเกี่ยวกับพระปรางค์วัดจุฬามณี๒อองรี ปาร์มองติเยร์ (๒๔๘๐) เสนอว่า พระปรางค์วัดจุฬามณี น่าจะสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยให้ความเห็นว่ารูปแบบศิลปะเขมรที่พบในประเทศไทย แบ่งได้เป็น ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นศิลปะเขมรโดยแท้จริง กับกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะเขมร กลุ่มแรกใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบเขมรใช้วัสดุหินทรายกับอิฐโดยไม่ใช้ปูน ซึ่งกำหนดอายุโดยการเปรียบเทียบกับจารึกในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๗ สิ่งก่อสร้างกลุ่มนี้ เช่น ปราสาทพิมาย ปราสาทพนมวัน ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะเขมร ใช้เทคนิคก่อสร้างและวัสดุในท้องถิ่น นิยมใช้ศิลาแลง อิฐ โดยใช้ปูนก่อ และปูนฉาบ ซึ่งแตกต่างจากเทคนิคการก่อสร้างของเขมร ในกลุ่มที่สองนี้ สามารถแบ่งย่อยได้อีกสองกลุ่ม กลุ่มย่อยแรก มีรากฐานมาจากศิลปะเขมร คือ ยังคงรูปแบบและเทคนิคการก่อสร้างแบบเขมรไว้ ตัวอย่างในกลุ่มนี้ ได้แก่ ศาลพระเสื้อเมือง วัดพระพายหลวง ศาลพระกาฬ วัดนครโกษา เทวสถานปรางค์แขก ปรางค์สามยอด วัดกำแพงแลง ส่วนใหญ่กำหนดอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖ – ๑๘ ส่วนอีกกลุ่มเรียกว่า กลุ่มที่เลียนแบบศิลปะเขมร ซึ่งมีรูปแบบคล้ายศิลปะเขมร แต่รูปแบบบางส่วนก็ไม่เคยปรากฎในศิลปะเขมรมาก่อน กลุ่มนี้มีลักษณะโดดเด่น ด้วยการประดับตกแต่งลวดลายปูนปั้น ได้แก่ วัดมหาธาตุ อยุธยา วัดราชบูรณะ วัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี พระปรางค์ วัดจุฬามณี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง จังหวัดสุโขทัย ซึ่งกำหนดอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๘ – ๒๑ ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงปรางค์ที่ได้รับการพัฒนารูปแบบและแรงบันดาลใจมาจากปราสาทของเขมรสงวน รอดบุญ (๒๕๒๒) เสนอว่า ลวดลายปูนปั้นประดับพระปรางค์วัดจุฬามณี เป็นลวดลายศิลปะแบบอยุธยาตอนต้นผสมสานกับศิลปะแบบสุโขทัย สร้างในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เช่นเดียวกับ น. ณ ปากน้ำ (๒๕๓๒, ๒๕๓๔ อ้างถึงใน สันติ เล็กสุขุม, ๒๕๓๙)วิทย์ พิณคันเงิน ได้เขียนบทความเกี่ยวกับการศึกษาศิลปกรรมที่วัดจุฬามณี (อ้างถึงใน วรรณิภา ณ สงขลา, ๒๕๒๙) โดยให้ความเห็นว่า ลายปูนปั้นที่ปรางค์วัดจุฬามณี เป็นฝีมือช่างสมัยอยุธยาตอนต้น ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย เช่น ลายประดับหน้ากระดานของฐานรองรับเรือนธาตุ รวมถึงรูปหงส์ที่ประดับส่วนบัวหงายที่อยู่ถัดขึ้นมาจากหน้ากระดาน ซึ่งทำรูปหงส์เดินเรียงกัน คล้ายกับลายปูนปั้นรูปพระสงฆ์เดินเรียงกันรอบฐานองค์พระธาตุ วัดมหาธาตุสุโขทัย จึงเชื่อว่าลายปูนปั้นที่วัดจุฬามณีน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากแบบอย่างงานศิลปะสุโขทัยฝ่ายอนุรักษ์จิตรกรรมและประติมากรรมติดที่ กองโบราณคดี กรมศิลปากร (๒๕๓๓) โดย ภัทรุตม์ สายะเสวี และคณะ เสนอว่า พระปรางค์วัดจุฬามณีน่าจะเป็นเทวสถานในศาสนาพราหมณ์ในช่วงอาณาจักรขอมโบราณปกครองภาคกลาง ต่อมาในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทได้เสด็จมาสร้างเมืองพิษณุโลกขึ้นใหม่บริเวณที่ตั้งปัจจุบันเมื่อประมาณพุทธศักราช ๑๙๐๐ ช่วงนี้คงจะมีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดจุฬามณี เนื่องจากในการขุดแต่งวัดจุฬามณี เมื่อพุทธศักราช ๒๔๙๗ ถึง ๒๔๙๘ ได้มีการค้นพบนาคสามเศียรสำริด ศิลปะสุโขทัย จึงเชื่อว่าพระปรางค์น่าจะมีอยู่แต่เดิมแล้วได้รับการบูรณะในสมัยสุโขทัย เอกสารอ้างอิง:น. ณ ปากน้ำ. (๒๕๓๒). ลายปูนปั้น มัณฑนศิลป์อันเลอเลิศแห่งสยาม. กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์เมืองโบราณ.______. (๒๕๓๔). วิวัฒนาการลายไทย. กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์เมืองโบราณ.ภัทรุตม์ สายะเสวี. (๒๕๓๓). โครงการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังเร่งด่วน วัดจุฬามณี จังหวัดพิษณุโลก. กรุงเทพ ฯ : ฝ่ายอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังและประติมากรรมติดที่ กองโบราณคดี. (เอกสารอัดสำเนา)วรรณิภา ณ สงขลา. (๒๕๒๙). รายงานศึกษาศิลปกรรม จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก และอุตรดิตถ์. กรุงเทพ ฯ : กองโบราณคดี. (เอกสารอัดสำเนา)สงวน รอดบุญ. (๒๕๒๓). “พระปรางค์วัดจุฬามณี” รายงานผลการสัมมนาประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก ครั้งที่ ๑ ณ วิทยาลัยครูพิบูลสงคราม พิษณุโลก ๒๕-๒๗ มกราคม ๒๕๒๒ : โรงพิมพ์ศาสนา.สันติ เล็กสุขุม. (๒๕๓๙). ปรางค์และลายปูนปั้นประดับ วัดจุฬามณี พิษณุโลก. นครปฐม: สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร. Parmentier, H. (1937). L'Art Pseudo-Khmer au Siam et la Prang. The Journal of the Greater India Society, Vol IV No l, 1937.#พี่โข๋ทัยมีเรื๋องเล๋า #วัดจุฬามณี #วัดพระศรีรัตนมหาธาตุลพบุรี #ภาพสันนิษฐาน