ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ

หมวดหมู่                        พุทธศาสนาภาษา                             บาลีหัวเรื่อง                          พุทธศาสนา                                    บทสวดมนต์ประเภทวัสดุ/มีเดีย            คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ                   22 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว  58 ซม. บทคัดย่อ                      เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม  ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534


เลขทะเบียน : นพ.บ.4/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  72 หน้า  ; 5 x 55 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 2 (11-19) ผูก 7หัวเรื่อง : แทนน้ำนมแม่--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม



เลขทะเบียน : นพ.บ.49/12ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  52 หน้า ; 4.5 x 54 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 30 (308-325) ผูก 16หัวเรื่อง :  บาลียมก --เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม



ชื่อผู้แต่ง           มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวชื่อเรื่อง            คำชี้แจงเรื่องการใช้เพลงเกียรติยศและเกร็ดความรู้เรื่องดนตรีไทยของกรมศิลปากรครั้งที่พิมพ์ ๓ พ.ศ. ๒๕๑๖สถานที่พิมพ์      กรุงเทพมหานครสำนักพิมพ์ สำนักพิมพ์ผดุงวิทยาการพิมพ์ปีที่พิมพ์            พ.ศ. ๒๕๑๖             จำนวนหน้า         ๔๘ หน้าคำค้น              คำชี้แจงเรื่องการใช้เพลงเกียรติยศและเกร็ดความรู้เรื่องดนตรีไทยของกรมศิลปากรหมายเหตุ  พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ร้อยตรี สว่าง  พันธุมเสน                 หนังสือ คำชี้แจงเรื่องการใช้เพลงเกียรติยศและเกร็ดความรู้เรื่องดนตรีไทยของกรมศิลปากร นี้ เป็นระเบียบที่ทางกรมศิลปากรได้รวบรวมขึ้นสำหรับใช้เป็นแนวทางในการบรรเลงเกียรติยศของชาติ ซึงมีอยู่ด้วยกัน ๕ เพลง คือ เพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงมหาฤกษ์ เพลงมหาชัย และเพลงวันชาติ พร้อมทั้งได้ชี้แจงโอกาสที่จะใช้เพลงเกียรติยศแบบพิสดารและแบบสังเขปไว้ด้วย


1. ตำราดูห่วง 2. ตำราดูวันจมวันฟู 3. คำสอนนาคก่อนบวช 4. ตำรายา เช่น ยาแก้ทราง ยาแก้เลือด ยาแก้ไข้ เป็นต้น


ชื่อเรื่อง : รายงานการขุดค้นขุดแต่ง และศึกษาชั้นวัฒนธรรมทางโบราณคดี เขลางค์นคร ผู้แต่ง : เทศบาลนครลำปาง และสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน ปีที่พิมพ์ : 2551 สถานที่พิมพ์ : เชียงใหม่ สำนักพิมพ์ : มรดกล้านนา


วัดวังสาริกา บ้านวังสาริกา ต.หนองกระทุ่ม อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี          วัดวังสาริกา สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๔ โดยนายเสา แยบเขตรกรณ์ เป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้น มีโบราณสถานสำคัญ ได้แก่ อุโบสถ ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกบริเวณหน้าวัด เป็นอาคารไม้ ขนาด ๕ ห้อง รวมระเบียงหน้า กว้าง ๗.๑๐ เมตร ยาว ๑๗.๓๐ เมตร ฐานก่ออิฐถือปูนผสมคอนกรีตเสริมเหล็ก เสา และโครงหลังคาเป็นไม้เนื้อแข็ง หลังคามุงกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบ ประดับช่อฟ้า ใบระกาและหางหงส์ เป็นคอนกรีตถอดพิมพ์ ลงรักประดับกระจก หน้าบันด้านหน้าและหลังตกแต่งด้วยลายปูนปั้นลงรักประดับจก แสดงภาพพุทธประวัติ ประตูและหน้าต่างเป็นไม้บานลูกฟัก มีใบเสมาหินอ่อนล้อมรอบอุโบสถทั้ง ๘ ทิศ ซุ้มเสมาเป็นทรงบุษบก สันนิษฐานว่าอุโบสถไม้หลังนี้สร้างขึ้นราว พ.ศ. ๒๕๐๐ โดยได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. ๒๕๖๐


  ชื่อเรื่อง : นิทานโบราณคดี   ผู้แต่ง : สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ   ปีที่พิมพ์ : ๒๕๑๑   สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ   สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย   หมายเหตุ :  พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นางเนียร  ลพานุกรม                     หนังสือนิทานโบราณคดี เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแต่ในสมัยที่ล่วงมาแล้วและองค์ผู้ทรงพระนิพนธ์ทรงเป็นนักปราชญ์ที่ชาวไทยพากันยกย่องสรรเสริญด้วยได้ทรงมอบมรดกวิทยาการไว้แก่อนุชนรุ่นหลังนี้เป็นจำนวนมาก นิทานโบราณคดีนี้ จึงนับเป็นมรดกอันหาค่าเปรียบมิได้ชิ้นหนึ่งในจำนวนมาก


วัดวังสาริกา บ้านวังสาริกา ต.หนองกระทุ่ม อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี          วัดวังสาริกา สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๔ โดยนายเสา แยบเขตรกรณ์ เป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้น มีโบราณสถานสำคัญ ได้แก่ อุโบสถ ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกบริเวณหน้าวัด เป็นอาคารไม้ ขนาด ๕ ห้อง รวมระเบียงหน้า กว้าง ๗.๑๐ เมตร ยาว ๑๗.๓๐ เมตร ฐานก่ออิฐถือปูนผสมคอนกรีตเสริมเหล็ก เสา และโครงหลังคาเป็นไม้เนื้อแข็ง หลังคามุงกระเบื้องดินเผาไม่เคลือบ ประดับช่อฟ้า ใบระกาและหางหงส์ เป็นคอนกรีตถอดพิมพ์ ลงรักประดับกระจก หน้าบันด้านหน้าและหลังตกแต่งด้วยลายปูนปั้นลงรักประดับจก แสดงภาพพุทธประวัติ ประตูและหน้าต่างเป็นไม้บานลูกฟัก มีใบเสมาหินอ่อนล้อมรอบอุโบสถทั้ง ๘ ทิศ ซุ้มเสมาเป็นทรงบุษบก สันนิษฐานว่าอุโบสถไม้หลังนี้สร้างขึ้นราว พ.ศ. ๒๕๐๐ โดยได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. ๒๕๖๐



           วิหารธรรมศาลา ตั้งอยู่ในวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช ทางทิศตะวันออกขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ โดยมีส่วนท้ายของวิหารยื่นเข้าไปในระเบียงคด ซึ่งเป็นรูปแบบการวางผังของวัดขนาดใหญ่ในสมัยอยุธยาตอนต้น วิหารธรรมศาลาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งสำคัญในพุทธศักราช ๒๔๓๕ ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยพระครูเทพมุนีศรีสุวรรณถูปาภิบาล (ปาน) หลังจากนั้นได้รับการบูรณะสืบมาอีกหลายครั้ง ได้แก่ พุทธศักราช ๒๔๓๗, ๒๔๔๐, ๒๕๑๐, ๒๕๓๒, ๒๕๔๐ และในพุทธศักราช ๒๕๖๓ นี้ กรมศิลปากรดำเนินการบูรณะวิหารธรรมศาลาอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินงาน            ลักษณะทางสถาปัตยกรรม เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้องเคลือบสี ประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ตามแบบสถาปัตยกรรมไทย หน้าบันสลักไม้ประดับกระจกสีและมีจารึกระบุปีพุทธศักราชที่ปฏิสังขรณ์ (พุทธศักราช ๒๔๓๗ และ ๒๕๑๑) ส่วนท้ายของวิหารที่ยื่นเข้าไปในระเบียงคด มีการทำผนังกั้นจึงแยกออกเป็น ๒ ส่วน ทำให้พื้นที่ส่วนท้ายวิหารมีลักษณะเป็นห้องคล้ายกับส่วนของอาคารสมัยอยุธยาที่เรียกว่า “ท้ายจระนำ” เช่น ที่วิหารหลวงวัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา นอกจากนี้ ที่ผนังด้านหน้าของพระวิหารยังมีการประดิษฐานพระพุทธรูปยืนทรงเครื่องปางประทานอภัย เรียกว่า “พระพุทธรูปพระทนทกุมาร” และส่วนท้ายของวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องปางห้ามญาติ เรียกว่า “พระนางเหมชาลา” การสร้างพระพุทธรูปดังกล่าว มาจากความเชื่อในตำนานพระธาตุและตำนานเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งระบุว่าเจ้าชายทนทกุมารและพระนางเหมชาลาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาฝังไว้ยังหาดทรายแก้ว ภายหลังพระเจ้าศรีธรรมโศกราชมาพบพระบรมสารีริกธาตุจึงโปรดให้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและสร้างเมืองขึ้น ณ หาดทรายแก้วจนสำเร็จ เมืองดังกล่าวก็คือ “เมืองนครศรีธรรมราช” และ พระบรมธาตุเจดีย์ก็คือ “พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช”            ภายในพระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย เรียกว่า “พระธรรมศาลา” รวมทั้งพระพุทธรูปขนาดย่อม ข้างละ ๒ องค์ซ้อนกัน ที่ผนังด้านสกัดตรงข้ามกับพระธรรมศาลามีการประดิษฐานเจดีย์ทรงกลมประดับกระจกองค์หนึ่งเรียกว่า “เจดีย์สวรรค์” ซึ่งตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กล่าวว่าสร้างในศักราช ๒๑๘๑ เพื่อบรรจุอัฐิของพระยารามราชท้ายน้ำ ซึ่งเสียชีวิตระหว่างสงครามกับโจรสลัด จึงสันนิษฐานว่าเจดีย์องค์นี้อาจมีอายุการสร้างในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากรูปแบบของเจดีย์ในปัจจุบัน พบว่าภายหลังคงมีการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง           กล่าวได้ว่า วิหารธรรมศาลาเป็นพระวิหารสำคัญในวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช ที่ปรากฏให้เห็นถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดในสมัยอยุธยา ทั้งลักษณะการวางตำแหน่งของพระวิหารตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเจดีย์ประธาน โดยมีส่วนท้ายของวิหารยื่นเข้าไปในระเบียงคด ซึ่งเป็นรูปแบบการวางตำแหน่งของวิหารในสมัยอยุธยาตอนต้น นอกจากนั้นพระวิหารหลังนี้ยังเต็มไปด้วยงานศิลปกรรมที่มีความสำคัญ ได้แก่ พระพุทธรูปยืนทรงเครื่องที่ผนังด้านหน้าและด้านหลังของพระวิหาร ซึ่งมีการศึกษาพบว่าเป็นรูปแบบศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย แต่ภายหลังได้รับการบูรณะสืบมาหลายครั้ง หน้าบันพระวิหารซึ่งสลักข้อความระบุปีพุทธศักราชที่บูรณะ พระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย นามว่า “พระธรรมศาลา” และเจดีย์สวรรค์ ปัจจุบันพระวิหารหลังนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อพุทธศาสนิกชน ถือเป็นพระวิหารที่มีความสำคัญสืบเนื่องมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยามาจนถึงปัจจุบัน -------------------------.........--เรียบเรียง/กราฟิก: นภัคมน ทองเฝือ นักโบราณคดีชำนาญการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช --------------------------------อ้างอิง: ๑) กรมศิลปากร. จารึกที่พบในจังหวัดนครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมราช: สำนักโบราณคดีที่ ๑๔ นครศรีธรรมราช, ๒๕๕๐. (อัดสำเนา) ๒) กรมศิลปากร. ตำนานพระธาตุและตำนานเมืองนครศรีธรรมราช. กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, ๒๕๖๐. ๓) นริศรานุวัดติวงศ์, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยา. จดหมายระยะทางไปตรวจราชการแหลมมลายู ร.ศ.๑๒๑ .กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, ๒๕๔๐. ๔) ประภัสสร์ ชูวิเชียร. พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชมหาสถูปแห่งคาบสมุทรภาคใต้. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, ๒๕๕๓. ๕) สันติ เล็กสุขุม. ศิลปะอยุธยา งานช่างหลวงของแผ่นดิน. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, ๒๕๔๒. ๖) สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช. “โบราณสถานและแหล่งโบราณคดีในพื้นที่สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช เล่ม ๓ นครศรีธรรมราช.” นครศรีธรรมราช: สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช, ๒๕๕๔. (อัดสำเนา)



ผู้แต่ง : - ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 1 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2510 หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางยวง  อังศุสิงห์               ว่าด้วยตำรารำไทย ประกอบด้วยรูปแสดงท่ารำต่างๆ เช่น เทพประนม ปฐม พรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลา ช้านางนอน ผาลาเพียงไหล่ พิสมัยเรียงหมอน กังหันร่อน ภมรเคล้า เป็นต้น


black ribbon.