ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
https://www.onde.go.th/rss_module/feed/1/มาตรฐานภาครัฐ
https://www.onde.go.th/rss_module/feed/1/ข่าว
กรมศิลปากร ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” เทศกาลท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืน ระหว่างวันที่ 9 - 17 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดไชยวัฒนาราม วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ วัดพระราม และพระราชวังจันทรเกษม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่รัฐบาลได้จัดกิจกรรม Thailand Winter Festival เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น กระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงได้ขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล โดยเปิดให้เข้าชมโบราณสถานยามราตรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เร่งผลักดันการท่องเที่ยวศักยภาพสูงให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้เสน่ห์วิถีไทย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสความสวยงามของโบราณสถานในยามค่ำคืน ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเยี่ยมชมบรรยากาศ “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์วิถีไทยกรุงศรีอยุธยาช่วงต้นกรุงศรีฯ ในยุคที่รุ่งเรืองทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และการค้าขาย วิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้นมีความสุข และเสน่ห์ไทยอย่างไร ผ่านกิจกรรมการแสดง การละเล่น พร้อมทั้งการประดับไฟ Lighting Art Installation และ Projection Maping โบราณสถานอันทรงคุณค่าให้ได้เห็นความงดงามยามค่ำคืน ในวันที่ 9 - 17 พฤศจิกายน 2567 ณ วัดไชยวัฒนาราม วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ วัดพระราม และพระราชวังจันทรเกษม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับกิจกรรมไฮไลต์ - Lighting Art Installation – การประดับตกแต่งไฟ “4 วัด 1 วัง” ให้สวยงามยามค่ำคืน สัมผัสบรรยากาศที่มีมนต์เสน่ห์เมื่อครั้งต้นกรุงฯ ในวันที่ 9 - 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
- Projection Mapping – พบกับการฉายภาพเรื่องราวด้วยแสงสีอันวิจิตรตระการตา ณ วัดพระราม และวัดไชยวัฒนาราม ในวันที่ 9 - 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป
- การประกวดแมวไทยโบราณคืนถิ่นกรุงศรี – สืบสานตำนานแมวไทย ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567
- พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ – ณ วิหารหลวง วัดมหาธาตุ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
- การประกวดนางนพมาศ ประจำปี 2567 – ยลโฉมสาวงามนางนพมาศแห่งกรุงศรี ในวันลอยกระทง ณ วัดพระราม ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและละเล่นไทยโบราณ เชิญชวนแต่งชุดไทยย้อนยุค พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ยามค่ำคืน พร้อมเชิญชวนชิมอิ่มอร่อยจากการออกบูธอาหารจากทุกภูมิภาคตลอดการจัดงาน อย่าพลาดโอกาสสำคัญในครั้งนี้ มาร่วมเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา พร้อมทั้งดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืน ได้ที่งาน “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ในวันที่ 9 - 17 พฤศจิกายน 2567 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา Ayutthaya Historical Park
วัดศิริวรรณาวาส (ร้าง)
วัดศิริวรรณาวาส (ร้าง) ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เป็นวัดโบราณแห่งหนึ่งที่เจ้าเมืองสงขลาต้นตระกูล ณ สงขลา เป็นผู้สร้าง เมื่อครั้งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณ วโรรสเสด็จตรวจการณ์คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๕๕ (รัชกาลที่ ๕) ทรงบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับวัดศิริวรรณาวาส ใจความว่า
“...วัดศิริวรรณาวาส อีกชื่อหนึ่งว่า วัดตก พระปลัดมีเป็นเจ้าอาวาส ๑ ...วัดศิริวรรณาวาสเป็นวัดเล็กกว่าวัดสุวรรณคีรีรักษาสะอาดดีไม่ชำรุดทรุดโทรม ในอุโบสถกวาดเตียน โคมหวดที่แขวนไม่มีละอองจับ ส่วนลานวัดยังไม่เตียนแท้แต่ไม่ถึงรก ถ้ารู้จักจัดทางเดินก็ดี สถานที่จะใช้ก็ดี ทำให้เตียน สถานนอกนี้ปล่อยให้หญ้าขึ้นแต่อย่าถึงให้รกก็จะพอดูได้ฯ” จากสภาพวัดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าวัดศิริวรรณาวาสเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งบริเวณเมืองสงขลาฝั่งแหลมสน
สิ่งสำคัญภายในวัด คือ อุโบสถ และหอระฆังที่แสดงถึงศิลปกรรมท้องถิ่นภาคใต้ที่สวยงาม รวมทั้งกำแพงแก้วที่สร้างก่อล้อมอุโบสถโดยที่ทางเข้าด้านทิศตะวันออกทำซุ้มประตูแบบเก๋งจีน
กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดศิริวรรณาวาส (ร้าง) โดยเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานเมืองสงขลาเก่า ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๑๑๙ วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๓๕
Wat Siri Wannawat (deserted)
Located in Hua Khao Subdistrict of Singhanakhon District near Wat Bo Sap, this old temple was built by the governor of Songkhla and the ancestor of Na Songkhla Family while the city of Songkhla was situated on Laem Son side.
The important structures in the temple compound are the ordination hall (Ubosot) and the bell tower or belfry. These two structures exemplify the splendor of regional art in southern Thailand. The ordination hall was surrounded by the defensive wall (Kamphaeng Kaew) and its eastern entrance has a Chinese-style pavilion.
The Fine Arts Department announced the registration of Wat Siri Wannawat (deserted) as a national monument in Government Gazette, Volume 109, Part 119, dated September 17, 1992.
ชื่อเรื่อง : สำนวนจดหมายภาษาอังกฤษ
หัวเรื่อง : จดหมายธุรกิจ
จดหมาย, วิธีเขียน
คำค้น : -
รายละเอียด : -
ผู้แต่ง : วิชิต วิทยาภรณ์
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : โรงพิมพ์อักษรสัมพันธ์
ปีที่พิมพ์ : 2497
วันที่เผยแพร่ : 30 มกราคม 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : เป็นสำนวนในการเขียนจดหมายภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจการค้า
เลขทะเบียน : น. 32 บ. 4960 จบ.
เลขหมู่ : 423.1
ว551ส
สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ขอเชิญชม โครงการดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ ๖๘ “เหมันต์สุขสันต์ หฤหรรษ์สังคีต”วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ เวลา ๑๗.๓๐ น. ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พบกับการบรรเลง – ขับร้องวงดุริยางค์สากล “ลิเกออร์เคสตรา” บรรเลง - ขับร้องโดย ศิลปินสำนักการสังคีต, อำนวยเพลงโดย ธนู รักษาราษฎร์, อำนวยการแสดงโดย ศิริพงษ์ ทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต
บัตรราคา ๒๐ บาท (จำหน่ายบัตรก่อนการแสดง ๑ ชั่วโมง) ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม (วันและเวลาราชการ) โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๔๒ และ โทร. ๐ ๒๒๒๑ ๖๕๓๓
นอกจากนี้ยังสามารถติดตามรับชมการแสดงอื่น ๆ ในวันอาทิตย์ที่ ๒, ๙, ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๘ ได้ที่ https://www.finearts.go.th/promotion/view/53929-รายการแสดง-เหมันต์สุขสันต์--หฤหรรษ์สังคีต--โครงการดนตรีสำหรับประชาชน-ปีที่-68-ทุกวันอาทิตย์-เริ่ม-26-มกราคม-2568
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 82/4หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 32 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 54 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลานฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
“รอยเลื่อนสะกาย” : มหันตภัยทางธรณีวิทยาที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและภูมิภาค
วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงจากรอยเลื่อนสะกายในเมียนมา ประชาชนในหลายพื้นที่ของไทยรับรู้แรงสั่นสะเทือน ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะเหตุการณ์ตึกถล่มที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตและทรัพย์สิน
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ตึกถล่มที่เขตจตุจักร และขอส่งกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
รอยเลื่อนสะกาย : ลักษณะทางธรณีวิทยาและศักยภาพในการเกิดแผ่นดินไหว
รอยเลื่อนสะกายเป็นรอยเลื่อนมีพลัง (active fault) ขนาดใหญ่ที่วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ พาดผ่านประเทศเมียนมา มีความยาวประมาณ 1,200 กิโลเมตร รอยเลื่อนนี้เป็นรอยเลื่อนแบบเหลื่อมระนาบ (strike-slip fault) ที่มีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกในแนวราบ โดยแผ่นเปลือกโลกด้านตะวันตกเคลื่อนที่ไปทางเหนือเมื่อเทียบกับแผ่นเปลือกโลกด้านตะวันออก
ลักษณะทางธรณีวิทยาที่สำคัญของรอยเลื่อนสะกาย ได้แก่
• อัตราการเคลื่อนที่ : รอยเลื่อนสะกายมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยประมาณ 2 เซนติเมตรต่อปี ซึ่งถือว่าสูง และบ่งชี้ถึงศักยภาพในการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่
• ประวัติการเกิดแผ่นดินไหว : ในอดีต รอยเลื่อนสะกายเคยทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่หลายครั้ง เช่น แผ่นดินไหวขนาด 8.0 ในปี พ.ศ. 2455 ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ และแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ในปี พ.ศ. 2473 ที่เมืองพะโค
• ความเสี่ยงต่อประเทศไทย : เนื่องจากรอยเลื่อนสะกายตั้งอยู่ใกล้กับประเทศไทย แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบนรอยเลื่อนนี้จึงสามารถส่งผลกระทบต่อประเทศไทยได้ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบนรอยเลื่อนสะกายเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ดังนี้
• ประเทศไทย : แรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และทรัพย์สินต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของประชาชน ทำให้เกิดความหวาดกลัวและวิตกกังวล
• ประเทศเมียนมา : ประเทศเมียนมาได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหว เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว
• ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค : แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น บังกลาเทศ อินเดีย และจีน
จากเหตุการณ์รอยเลื่อนสะกายที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและภูมิภาค แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในอนาคต หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา ขอเชิญชวนทุกท่านมาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติจากหนังสือและสื่อต่าง ๆ ที่หอสมุดฯ ได้รวบรวมไว้ โดยขอแนะนำหนังสือที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ชื่อหนังสือ : แผ่นดินไหวที่คนไทยต้องเผชิญ
เลขทะเบียนหนังสือ : 551.22 ท151ผ
บรรณานุกรม : ทรงสมัย สุทธิธรรม. แผ่นดินไหวที่คนไทยต้องเผชิญ. กรุงเทพฯ: ไพลินบุ๊คเน็ต, 2550.
2. ชื่อหนังสือ : รอยเลื่อนในประเทศไทย แผ่นดินไหว-สึนามิ ภัยคืบคลานใกล้ตัว
เลขทะเบียนหนังสือ : 551.4637 ร193
บรรณานุกรม : ดาณุภา ไชยพรธรรม. รอยเลื่อนในประเทศไทย แผ่นดินไหว-สึนามิ ภัยคืบคลานใกล้ตัว. กรุงเทพฯ: แพรธรรม, [2554].
3. ชื่อหนังสือ : สุดโหด มหันตภัยล้างโลก
เลขทะเบียนหนังสือ : 363.34 บ177ส
บรรณานุกรม : บรรยง บุญฤทธิ์. สุดโหดมหันตภัยล้างโลก. กรุงเทพฯ: อนิเมทกรุ๊ป, 2548.
4. ชื่อหนังสือ : ต้องรอด เจาะลึกภัยพิบัติพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
เลขทะเบียนหนังสือ : 363.34 ส274ต
บรรณานุกรม : สมยศ ศุภกิจไพบูลย์. ต้องรอด : เจาะลึกภัยพิบัติพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส. กรุงเทพฯ: ย้อนรอย, 2558.
5. ชื่อหนังสือ : น้ำท่วม สึนามิ แผ่นดินไหว ภัยพิบัติใหญ่จะเกิดขึ้นอีกเร็ว ๆ นี้จริงหรือไม่?
เลขทะเบียนหนังสือ : 363.3495 ท362น
บรรณานุกรม : ทัศนัย ปัญญา. น้ำท่วม สึนามิ แผ่นดินไหว ภัยพิบัติใหญ่จะเกิดขึ้นอีกเร็ว ๆ นี้จริงหรือไม่. กรุงเทพฯ: แฮปปี้บุ๊ค, 2553.
เพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย ขอเชิญศึกษาหนังสือเกี่ยวกับภัยพิบัติได้ที่ #ห้องหนังสือทั่วไป ชั้น 1 หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
• กรมอุตุนิยมวิทยา: บทความวิชาการเพื่อเสนอตีพิมพ์ในวารสาร “อุตุ”
• Sanook.com: รู้จัก "รอยเลื่อนสะกาย" ฉายายักษ์หลับกลางเมียนมา ตัวการแผ่นดินไหว เขย่าแรงถึงไทย
• ไทยรัฐออนไลน์: ทำความรู้จัก รอยเลื่อนสะแกง ตัวการแผ่นดินไหวกระทบไทย
• Thai PBS News: รุนแรงสุดในรอบ 95 ปีแผ่นดินไหวบนบก 7.7 รอยเลื่อนสะกาย
เรียบเรียงข้อมูลและแนะนำโดย : นางแพรว ธนภัทรพรชัย เจ้าพนักงานห้องสมุดชำนาญงาน
ออกแบบกราฟิกโดย : นายพีรยุทธ กษิติบดินทร์ชัย บรรณารักษ์ปฏิบัติการ
ได้มาจากวัดห้วยสะพาน ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2533
กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี จัดกิจกรรมพิเศษเนื่องในวาระครบรอบ ๔๐ ปี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ขอเชิญชวนร่วมกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายชิงรางวัลเป็นของที่ระลึกสุดพิเศษ ชมนิทรรศการพิเศษเจาะลึกเรื่องราวของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ร่วมสนุกไปกับกิจกรรมตราประทับลวดลายใหม่ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
เนื่องในปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ เป็นวาระครบรอบ ๔๐ ปี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรีอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่กรมศิลปากรได้กราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในการประกอบพิธีเปิดอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๒๘ ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี จึงกำหนดจัดกิจกรรมพิเศษเนื่องในวาระ ๔๐ ปี ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้
๑. กิจกรรมการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “ความทรงจำ ๔๐ ปี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี” เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ ๔๐ ปี แห่งการก่อตั้ง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี โดยเป็นภาพถ่ายที่แสดงถึงความประทับใจ และความทรงจำที่มีต่อพิพิธภัณฑ์ ตลอดระยะเวลา ๔๐ ปี ที่ผ่านมา ผ่านสายตาของผู้เข้าชม มีรางวัลเป็นของที่ระลึกในวาระพิเศษนี้ สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๘ จนถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๘ เปิดโหวตการให้คะแนนภาพถ่ายผ่านทาง Facebook Fanpage พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๘ และประกาศผลการตัดสิน วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ๒. นิทรรศการพิเศษ และวิดิทัศน์ วาระ ๔๐ ปี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี (พ.ศ. ๒๕๒๘ - พ.ศ. ๒๕๖๘) “Museum Insight & Masterpieces in the Limelight” เจาะลึกพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี และโบราณวัตถุห้ามพลาด จัดแสดงในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ๒๕๖๘
๓. กิจกรรมตราประทับเช็คอิน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี สำหรับผู้รักการท่องเที่ยวและสะสมตราประทับพิพิธภัณฑ์ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐ ๓๗๒๑ ๑๕๘๖ หรือติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ทาง Facebook “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี : Prachinburi National Museum” https://www.facebook.com/prachinburimuseum
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน)อย.บ. 138/5ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 36 หน้า กว้าง 5.3 ซม. ยาว 55.3 ซม.หัวเรื่อง พระอภิธรรมปิฎก พระกถาวัตถุบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ไซอิ๋วเป็นเรื่องที่แตกออกจากพงศาวดารซุยถังในแผ่นดินของพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ กษัตริย์ที่สองในราชวงศ์ถัง (พ.ศ. ๑๑๖๑ – ๑๔๕๐) เนื้อเรื่องมีคำสุภาษิตแฝงอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ในเล่ม ๘ นี้ มีรูปคนโบราณและคำอธิบายเพิ่มเติมไว้ ได้แก่ ปาโฮ้วเจียงกุน เสียนเจีย เจ้าเมืองโซจ๊อก เจ้าเมืองเง็กฮัวจิว เจ้าเมืองท่งท้ายฮู้ ซิฮั่นไต้อ๋อง ซิซู้ไต้อ๋อง ซิติ้นไต้อ๋อง เซียนฮองงู่เจียงกุน เจ้าเมืองเทียนเต๊กก๊ก เจ้าแม่นางท้ายอิมแช เง๊กโถ่ว เข่าญ่วนหลายเศรษฐี กิมเต๊งไต้เซียน และพระโพธิสัตว์เตี๊ยบจิ๊นโจ๊ซือ
บรรณานุกรมไซอิ๋ว เล่ม ๘. พระนคร: องค์การค้าของคุรุสภา, ๒๕๑๒.
เลขทะเบียน : นพ.บ.662/4คห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 54 หน้า ; 4 x 54 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 213 (165-173) ผูก 4ค (2568)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขัน--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม