ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
***รายการบรรณานุกรม***
หนังสือหายาก
กรมศิลปากร. ละคอนนอก เรื่อง สังข์ทอง ตอน ตีคลี. พระนคร : โรงพิมพ์พระจันทร์, ๒๕๐๓.
***บรรณานุกรม***
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
บทละครเรื่อง เงาะป่า คุรุสภาพิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระ ราชทานเพลิงศพ หลวงประโมทย์จรรยาวิภาช (ปราโมทย์ จันทวิมล) ณ เมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินท ราวาส
วันพุธที่ 29 สิงหาคม พุทธศักราช 2516
พระนคร
โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว
2516
สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดโครงการพัฒนาและส่งเสริมหอสมุดแห่งชาติเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต(ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ กิจกรรมส่งเสริมความรู้พัฒนาเครือข่ายเอกสารโบราณ จังหวัดนครปฐม ณ อาคารหอประชุมพุทธมณฑล ห้องประชุมเล็กทิศตะวันออก ชั้น ๒ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐมระหว่างวันที่ ๒๗ - ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ โดยมีพิธีเปิดการจัดกิจกรรม ในวันพุธที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๙ เวลา ๙.๐๐ น. โดย พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและ ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวเปิดกิจกรรมและมีพระสังฆาธิการ หน่วยงานของกรมศิลปากร และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรม ๑๐๕ รูป/คน
พบเครื่องถ้วยชามลายน้ำทอง มีพระบรมฉายาลักษณ์ ร.5 ที่กาน้ำ และจาน
ไม่ทราบว่ามีจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่เคยเห็นในหนังสือ รวมทั้งภาพใน Internet
ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ
อาคารรุกกำแพงดินยังไม่ได้รื้อ ติดเจ้าของอุทธรณ์สู้-รอชี้ขาดอีกรอบ 17 ก.พ.
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ครบกำหนดรื้อถอนอาคารรุกล้ำกำแพงดินแล้วแต่สถานการณ์ยังนิ่ง ผู้ว่าฯ ยันสั่งแล้วต้องดำเนินการ เทศบาลเผยเจ้าของอาคารอุทธรณ์กลับต้องนำเสนอจังหวัดอีกรอบก่อนดำเนินการต่อ ด้านศิลปากรบอกต้องอุทธรณ์กับส่วนกลางเท่านั้น แต่ไม่รู้เจ้าของอาคารดำเนินการหรือยัง ส่วนธนารักษ์แจงความเห็นแตก “รื้อหมด-รื้อเฉพาะที่ล้ำ” รอชี้ขาดในที่ประชุมติดตามความคืบหน้า 17 ก.พ. นี้
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการกรณีเอกชนก่อสร้างอาคารรุกล้ำแนวกำแพงดินเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโบราณสถานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการที่แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งแต่ละหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนารักษ์ ศิลปากร และเทศบาลนครเชียงใหม่ จะต้องมีการดำเนินการโดยยึดถือปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ยอมรับว่าในส่วนของภาครัฐเองคงต้องรับผิดชอบด้วยว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องมาจากการปล่อยปละละเลยในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ฝ่ายเอกชนเองก็สมควรที่จะทราบว่าสิ่งใดสามารถกระทำได้หรือไม่ได้ ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการในกรณีนี้จะต้องยึดข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นกรณีศึกษาและไม่เกิดปัญหาซ้ำซากขึ้นมาอีก
พร้อมทั้งอยากวิงวอนให้ทุกภาคส่วน ร่วมกันสร้างจิตสำนึกที่ดีในการรักษาโบราณสถานที่เป็นสมบัติของเชียงใหม่และของชาติให้คงอยู่ โดยไม่เกิดปัญหาการบุกรุกทำลายอีก เพราะหากเกิดขึ้นแล้วแก้ไขยาก
“กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ยอมรับว่าส่วนหนึ่งต้องเป็นความรับผิดชอบของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ปล่อยปละละเลย ทำให้ปัญหานี้เกิดการหมักหมมมานานจนยากที่จะแก้ไข แต่ยืนยันว่าจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นกรณีศึกษาและเป็นตัวอย่าง ไม่ให้มีการปล่อยให้เกิดกรณีปัญหาอย่างนี้ซ้ำซากอีก เพราะเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขหากเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว อย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่กล่าวว่า หลังจากที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีคำสั่งรื้อถอนอาคารที่รุกล้ำพื้นที่กำแพงดินทั้งสองแห่ง ได้แก่ อาคารโรงแรมของนางสาวเพ็ญสินี พรหมเศรณี บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง และอาคารพาณิชย์ ค.ส.ล.3 ชั้น จำนวน 4 คูหาของนายวลัญช์ชัย เกียรตินิยมรุ่ง โดยให้เข้าของอาคารทั้งสองรายทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตามพ.ร.บ. ควบคุมอาคารนั้น
ในขณะนี้ได้ครบกำหนดระยะเวลาแล้วนั้น ตามหลักปฏิบัติหากเจ้าของอาคารไม่ปฏิบัติตาม ทางเทศบาลจะต้องดำเนินการทางกฎหมาย โดยฟ้องร้องผ่านศาลเพื่อให้มีการพิจารณาคดีต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากมีคำสั่งออกไปแล้ว เจ้าของอาคารทั้งสองแห่งยังคงเพิกเฉยและไม่ได้ทำการรื้อถอนตามคำสั่ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าของอาคารทั้งสองแห่งได้ทำเรื่องอุทธรณ์มายังทางเทศบาล โดยอ้างว่าคำสั่งของเทศบาลที่ให้รื้อถอนอาคารนั้นไม่ชอบธรรม ทางเทศบาลจึงจำเป็นจะต้องนำคำอุทธรณ์เสนอต่อคณะกรรมการของจังหวัดเพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ด้านนายวิเศษ เพชรประดับ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวถึงการดำเนินงานในส่วนของสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.53 ทางกรมศิลปากรโดยอธิบดีกรมศิลปากรได้ลงนามหนังสือคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างแจ้งไปยังเอกชนเจ้าของอาคารให้ทราบแล้ว ซึ่งต่อมาทางเอกชนเจ้าของอาคารได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวมาที่สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ แต่ทางสำนักฯ ไม่มีอำนาจที่จะรับอุทธรณ์ดังกล่าวได้ ทางผู้ร้องต้องยื่นอุทธรณ์ไปที่กรมศิลปากรเอง ซึ่งยังไม่ทราบว่าทางเอกชนมีการดำเนินการไปแล้วหรือไม่อย่างไร
สำหรับการจะดำเนินการรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างรุกล้ำแนวกำแพงดินโบราณเมืองเชียงใหม่นั้น ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ยอมรับว่า การดำเนินการอาจจะต้องใช้เวลามากพอสมควร เพราะหากเอกชนเจ้าของอาคารที่เป็นกรณีปัญหา มีการยื่นคำร้องเข้าสู่กระบวนการทางศาล จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ อีกมากมาย จนกว่าจะถึงที่สุดว่าศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างไรกับกรณีที่เกิดขึ้น
ส่วนว่าที่ร.ต.ยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่กล่าวถึงการดำเนินการล่าสุดในเรื่องปัญหาการรุกล้ำแนวกำแพงดินว่า สำหรับบริเวณอาคารโรงแรมบริเวณฝั่งตรงข้ามโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิงที่อยู่ในความรับผิดชอบของธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่นั้น หลังจากมีคำสั่งให้รื้อถอน ทางเจ้าของอาคารได้ทำเรื่องอุทธรณ์ พร้อมทั้งระบุว่ายินดีที่จะปรับปรุงพื้นที่ในส่วนที่รุกล้ำเข้ามาในบริเวณพื้นที่เช่าให้กลับสู่สภาพเดิม ต่อกรณีดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็นออกเป็นสองฝ่าย โดยฝ่ายแรกเห็นว่าหากมีคำสั่งรื้อถอนแล้วควรจะทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่รุกล้ำพื้นที่ออกให้หมด ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าหากรื้อถอนและปรับสภาพในจุดที่รุกล้ำให้เหมือนกับเมื่อก่อนที่จะมีการรุกล้ำน่าจะเป็นธรรมต่อทางเจ้าของอาคารด้วย โดยเฉพาะเมื่อเจ้าของอาคารยินดีและพร้อมที่จะปฏิบัติตามอยู่แล้ว เพราะถ้าเลือกให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างทั้งหมดแล้ว หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี พื้นที่ที่ได้คืนมาก็อาจจะถูกรุกล้ำอีกในอนาคตได้ หรือหากฝ่ายเจ้าของอาคารรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องก็จะต้องเข้าสู่การพิจารณาและสู้คดีกันในชั้นศาล ซึ่งจะกินระยะเวลายาวนานกว่าจะได้ข้อสรุป
ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่กล่าวต่อไปว่า เมื่อมีความเห็นออกเป็นสองฝ่าย ทางธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกรมธนารักษ์ พร้อมกับประสานให้กรมธนารักษ์สอบถามต่อไปยังกรมศิลปากรด้วยว่ามีความเห็นต่อแนวทางทั้งสองแนวทางอย่างไร และหากมีการดำเนินการตามแนวทางที่สองจะมีข้อขัดข้องหรือไม่ น่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาการก่อสร้างอาคารรุกล้ำแนวกำแพงดิน ซึ่งจะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 17 ก.พ. ที่จะถึงนี้ ผลสรุปที่ได้จากการประชุมน่าจะถือเป็นที่สิ้นสุด
โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2554 22:35 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000020454
"พืชสมุนไพรกับการปรุงเครื่องหอมไทย" เล่มนี้ได้รวบรวมพันธุ์พืชหอมของไทย พร้อมวิธีการนำไปปรุงเป็นเครื่องหอมไทย ด้วยวิธีการปรุงที่ไม่ซับซ้อนมากนัก แต่ยังคงคุณค่าด้วยภูมิปัญญาของวัฒนธรรมไทยอย่างเปี่ยมล้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านทราบถึงวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและกรรมวิธี ขั้นตอนในการปรุงเครื่องหอมของไทยอีกด้วย
มิติชาติพันธุ์ นำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนที่โดดเด่นทางชาติพันธุ์ ของกลุ่มชาติพันธุ์นำเสนอในลักษณะของปฏิทินชีวิต จำแนกเป็น วัฏฏจักรชีวิต ได้แก่ การเกิด การแต่งงาน การักษาโรค และ การตาย และ ปฎิทินชุมชน อัตลักษณ์ร่วมในชุมชนที่ปรากฏในภาพของเทศกาล ๑๒ เดือน
วิธีการนำเสนอ
๑. ใช้วัตถุพิพิธภัณฑ์ คือ วัตถุชาติพันธุ์ โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ ที่เป็นทรัพย์ของแผ่นดิน และ ที่เป็นหลักฐานทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นองค์ประกอบหลักในการนำเสนอ ซึ่งเป็นจุดเด่นของความเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ของกรมศิลปากร และแตกต่างไปจากพิพิธ๓ณฑสถาน หรือ แหล่งเรียนรู้อื่น ๆ
๒. ใช้สื่อที่มีความทันสมัยเพื่อความสะดวกในการรับรู้และเข้าถึงองค์ความรู้ เช่น แผนที่ แผนภูมิ ภาพถ่าย หุ่นจำลอง ภาพเคลื่อนไหว ภาพสามมิติ วิดีทัศน์ ฯลฯ ประกอบในการนำเสนอเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้เข้าชมรู้สึกคล้อยตาม มีปฏิสัมพันธ์ และสามารถจินตนาการได้ ทั้งนี้ สื่อต่าง ๆ นั้น คำนึงถึงการดูแลรักษา การปรับเปลี่ยน และ ความสะดวกในการใช้
๓. วัตถุจัดแสดง และ สื่อต่าง ๆ มีการหมุนเวียน ปรับเปลี่ยนในช่วงทุก ๑ เดือน (สื่อนำเสนอในปฏิทินแต่ละเดือน) และ ๓ เดือน (กรณีวัตถุจัดแสดง) เพื่อสร้างสีสันและการดึงดูดผู้เข้าชม และที่สำคัญเพื่อการอนุรักษ์วัตถุจัดแสดงที่ส่วนใหญ่เป็นวัตถุประเภทอินทรียวัตถุ
๔. ให้ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้และเข้าถึงข้อมูลผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตัวเอง (learn by doing )
๕. สร้างสัญลักษณ์ (Branding) ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก ในฐานะพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ด้านชาติพันธุ์ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เผยแพร่และนำไปใช้ในการออกแบบและนำเสนอทุกประเภท
ภายในอาคารจัดแสดง 2 มีตู้จัดแสดงโดยรอบ 2 ฝั่ง จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงรัตนโกสินทร์ ด้านในสุดจัดแสดงพระพุทธรูปหินทรายศิลปะลพบุรี และตำราสมุดไทยขาว สมุดไทยดำน
***บรรณานุกรม***
กรมศิลปากร
จดหมายเหตุเสด็จประพาสเกาะชวาในรัชกาลที่ 5 ครั้งที่ 1 และ 2 พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ หม่อมเกษร สนิทวงศ์ ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม พระนคร วันที่13 พฤษภาคม พุทธศักราช 2514
พระนคร
โรงพิมพ์มนตรี
2514