ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,752 รายการ

         วันจันทร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ น. นายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากรเป็นประธานเปิดการประชุมผู้แทนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเพื่อพัฒนาแนวทาง ขั้นตอนและวิธีการในการดำเนินงานสำรวจขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในความครอบครองของวัด ภาครัฐและเอกชน ณ ห้องประชุม ๑ คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีนางสาวนิตยา กนกนมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การประชุมครั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็น ให้คำปรึกษา คำแนะนำ สำหรับพัฒนาวิธีการทำงานสำรวจโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในครอบครองชองวัด ภาครัฐและเอกชนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ลดปัญหาอุปสรรคการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยภัณฑารักษ์และเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติส่วนภูมิภาค รวมทั้งสิ้น ๕๓ คน เข้าร่วมประชุม            ผลการดำเนินงานตามโครงการเป็นที่น่าพอใจด้วยสามารถสำรวจโบราณวัตถุรายการใหม่ที่ทรงคุณค่าด้านต่างๆ ไม่น้อยกว่าปีละ ๑,๐๐๐ รายการ รวมทั้งติดตามตรวจสอบสภาพโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในครอบครองของวัด ภาครัฐและเอกชนที่ได้ประกาศขึ้นทะเบียนในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ไม่น้อยกว่าปีละ ๖๕๐ รายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโบราณวัตถุกลุ่มหนังสือสมุดไทย และหนังสือบุด กรมศิลปากรเล็งเห็นความสำคัญของเอกสารโบราณเหล่านี้ ในฐานะภูมิปัญญาของชาติแขนงหนึ่ง นับวันจะถูกทำลายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และถูกจำหน่ายถ่ายโอนอย่างง่ายดายเพราะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย จึงมีนโยบายให้สำรวจหนังสือสมุดไทย หนังสือบุด คัมภีร์ใบลานเพื่อประกาศขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติเช่นเดียวกับโบราณวัตถุชนิดอื่นต่อไป


          กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “การสืบทอดทางบรรเลงจากมุขปาฐะถึงทางบรรเลงที่ถอดจากโน้ตสากล” วิทยากร นางบุญตา เขียนทองกุล นักวิชาการละครและดนตรีเชี่ยวชาญ สำนักการสังคีต ดำเนินรายการ นายสุกิตติ์ ทำบุญ นักวิชาการละครและดนตรีปฏิบัติการ สำนักการสังคีต พิธีกร นางกมลชนก พรภาสกร นักวิชาการโสตทัศนศึกษา กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๑.๔๕ น.            ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม https://www.facebook.com/FineArtsDept และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร https://www.facebook.com/prfinearts


ชื่อผู้แต่ง         -         ชื่อเรื่อง           ร้อยเอก หม่อมเจ้ารลายฉลุทอง ทองใหญ่ ครั้งที่พิมพ์       - สถานที่พิมพ์     กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์       บริษัท โรงพิมพ์กรุงเทพฯ ( ๑๙๘๔ ) จำกัด ปีที่พิมพ์          ๒๕๓๔ จำนวนหน้า      ๑๗๙  หน้า หมายเหตุ        พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ร้อยเอก หม่อมเจ้าลายฉลุทอง ทองใหญ่ รายละเอียด                หนังสือในงานพระราชทานเพลิงศพร้อยเอก หม่อมเจ้าลายฉลุทอง  ทองใหญ่ เนื้อหาสาระประกอบด้วยเรื่องพระผู้สร้างเมืองอุดร  ๑๐๐  ปี  กรมไปรษณีย์ โทรเลข กองช่างวิทยุยุคท่านลายฯ เอกลักษณ์สถาปัตยกรรมไทยกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม จากจิตรลดาสู่ประเทศไทย  การสอนภาษาฝรั่งเศษด้านวิทยาศาสตร์  และการช่วยการเจริญพันธุ์แก่ผู้มีบุตรยาก


          กรมศิลปากร ขอเชิญร่วมกิจกรรมเนื่องในเทศกาลมหาสงกรานต์ พุทธศักราช 2566 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร รับความรู้คู่ความสนุกกับ “สงกรานต์แฟร์ : นพเคราะห์บูชาดาราจร รับพรสงกรานต์ปีเถาะ” วันที่ 7 - 9 เมษายน 2566 จัดกิจกรรมในลักษณะการออกร้านศิลปะเชิงสร้างสรรค์ และกิจกรรมต่าง ๆ ในหัวข้อ “สงกรานต์แฟร์ : นพเคราะห์บูชาดาราจร รับพรสงกรานต์ปีเถาะ”      ระหว่างวันที่ 7 – 9 เมษายน 2566 ซึ่งประกอบด้วย 9 กิจกรรม ดังนี้            1. นิทรรศการ “เก้าดารา” เรียนรู้เกี่ยวกับเทวดานพเคราะห์ในวิถีชีวิตไทย            2. เปิด “ตลาดเก้าล้าน” แสดงและจำหน่ายสินค้าที่นักศึกษา ศิลปิน และอาสาสมัคร ได้พัฒนาต่อยอดมาจากโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร           3. “สถานีเก้าสิปป์” กิจกรรมเวิร์กชอปงานศิลปะที่หยิบเล่นได้ โดยนักศึกษาและศิลปินอาร์ตทอย ณ ระเบียงด้านข้างหมู่พระวิมานฝั่งทิศเหนือ ข้างอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์           4. กิจกรรม “ทัวร์เก้ามณี” นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเรียนรู้ถึงที่มาของเทวดานพเคราะห์และเทศกาลมหาสงกรานต์ ผ่านโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในห้องจัดแสดงต่าง ๆ           5. กิจกรรม “ล่าขุมทรัพย์เก้าแต้ม” รับสมุดประทับตราแล้วออกตามหาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ  ที่เกี่ยวเนื่องกับเทวดานพเคราะห์ จำนวน 9 จุด เพื่อแลกรับถุงเครื่องราง “นวธัญมงคล” (เมล็ดพืชอันเป็นมงคล   9 ชนิด) เป็นของที่ระลึก วันละ 500 ชิ้นเท่านั้น           6. จิบชาเก้าชนิด “จิ๋วจ่งฉา” โดย อ๋อง ที บาย บี๋ (Ong Tea by Bee) ณ เรือนชาลีลาวดี            7. ลุ้นกาชาปองชุดพิเศษ “นวพ่าห์” สัตว์พาหนะเก้าชนิดของเทพนพเคราะห์โดย Little Turtle Studio           8. พิเศษสุดกับการเสี่ยงทายพระคเณศ “นวคเณศ” ซึ่งออกแบบโดยศิลปินอาร์ตทอยเพื่องานสงกรานต์แฟร์ 2566 โดยเฉพาะและมีจำนวนจำกัด           9. ทุกคนที่เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในช่วงงานสงกรานต์แฟร์ วันที่ 7 - 9 เมษายน 2566 จะได้รับเหรียญที่ระลึก “พิพิธคเณศ” เป็นรูปพระคเณศแบบต่าง ๆ ที่ศิลปินร่วมกันออกแบบไว้ 15 แบบ จำนวน 15,000 ชิ้น โดยจำกัดคนละ 1 เหรียญ/คน/วัน            กรมศิลปากร จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรม“สงกรานต์แฟร์ : นพเคราะห์บูชาดาราจร รับพรสงกรานต์ปีเถาะ”  ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เวลา 09.00 – 16.00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟสบุ๊ก เพจ National Museum Bangkok : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร หรือ โทรศัพท์ 0 2224 1333, 0 2224 1402


เลขทะเบียน : นพ.บ.505/3ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4.5 x 54.5 ซ.ม. : รักทึบ-ล่องชาด ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 169  (224-232) ผูก 3 (2566)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม



          แบบศิลปะ / สมัย พุทธศตวรรษที่ ๒๕             วัสดุ (ชนิด) ดิ้นเงิน ดิ้นทอง           ขนาด อกกว้าง ๕๓ เซนติเมตร ยาว ๗๕ เซนติเมตร           ประวัติความเป็นมา วิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่รับมาจากนางสัมพันธ์ โชตนา และนำมามอบให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่           ความสำคัญ ลักษณะและสภาพของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ  เสื้อเยียรบับ ของเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๙ (พ.ศ.๒๔๕๔ – ๒๔๘๒) เสื้อที่ทำจากผ้าเยียรบับถือเป็นเครื่องยศอย่างหนึ่งมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ผ้าเยียรบับมีชื่อเรียกในภาษาเปอร์เซียว่า Zarbaft มีความหมายว่าผ้าที่ทอจากทองคำ   


ช้างบุเงิน ช้างยืนแท่นแกะสลักจากไม้บุด้วยเงิน ซึ่งการบุ หมายถึงการตี การแผ่ การกดทับ โดยการเอาโลหะที่มีลักษณะบางๆ ทำการหุ้มของบางสิ่งเข้าไว้ หรือการตีให้เข้ารูป โดยช่างอาจจะเลือกโลหะมีค่าชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างเช่น  ทองและเงิน แผ่ให้เป็นแผ่น นำมาหุ้มชิ้นงานที่แกะสลักจากไม้ จากนั้นตกแต่งให้เข้ารูปและสลักเป็นลวดลายตามต้องการ  ตัวช้างมีเครื่องประดับประดอบด้วย-ปกกระพองคือผ้าปิดด้านหน้าหัวช้าง แขวนกระดิ่ง -ผ้าคลุมหลังทำจากผ้าตาด ปักประดับด้วยแผ่นเงิน ดิ้น และเลื่อมโลหะ ชายผ้าห้อยพู่สีเขียวและสีแดง คงจำลองมาจากเครื่องประดับช้างที่มีการใช้จริงในขณะนั้น ด้านบนมีสัปคับเงินประดิษฐานพระพุทธรูป กางกั้นด้วยฉัตรปรุเงิน ๕ ชั้น                                    ซึ่งในแต่ละส่วนล้วนมีจารึกระบุปีที่สร้าง ในปี พ.ศ.๒๔๖๗-๒๔๖๘                                                       เมื่อแล้วเสร็จคงนำมาประกอบกันแล้วถวายแก่วัดพระธาตุหริภุญชัยเพื่อเป็นพุทธบูชา ช้างทรงเครื่องพร้อมสับคัปประดิษฐานพระพุทธรูปเชือกนี้ ปรากฏจารึกอักษรธรรมล้านนาอยู่หลายแห่งที่ระบุถึงผู้สร้างถวาย ในแต่ละส่วนมีรายละเอียดดังนี้ แผ่นเงินที่ฐาน มีจารึกความว่า “จุลสักราชได้ ๑๒๘๖ ตั๋วปี กาบไจ้ เดือน ๖ เหนือ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เม็งวัน ๑ ไตยรวงเหม้า ตรงกับวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ ปะถะมูลศรัทธา แม่เจ้าบัวติ๊บเป๋นเค้า พร้อมกับด้วยลุกหลาน ปี่น้อง จุผู้จุคน ก็ได้สร้างยังรูปจ๊างเงินตั๋ว ๑ มาถวายเปนตานกับพระวิหารวัดหลวงลำพูนตราบ ๕,๐๐๐ พระวัสสาดีหลี ขอจุ่งจักเป็นพระก้ำยังศรัทธาผู้ข้าทั้งหลาย ตราบถึงยัง แก้วยอดพระนิปปานเจ้าจิ่ม เต๊อะ เรียบเรียงเป็นข้อความปัจจุบันได้ว่า เจ้าแม่บัวทิพย์พร้อมด้วยลูกหลานและพี่น้องทุกคน สร้างช้างเงิน ๑ ตัวถวายวัดพระธาตุหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ไว้ตราบเท่าพระพุทธศาสนาได้ ๕,๐๐๐ ปี และขอเป็นปัจจัยไปสู่ยังพระนิพพาน สัปคับ ฉลุจากแผ่นเงิน ประดิษฐานพระพุทธรูป จำนวน ๒ องค์ กางกั้นด้วยฉัตรเงิน ๕ ชั้น พระพุทธรูปแต่ละองค์นั้น มีจารึกดังต่อไปนี้ องค์ที่ ๑ ด้านซ้าย ความว่า “ศรัทธาเจ้าสายแก้วเป็นเก๊า พร้อมด้วยแม่ปี่น้องจุคน ก็ได้สร้างพุทธรูปเจ้าองค์นี้ไว้ก้ำจ๊ะตะกะ ๕,๐๐๐ วัสสา องค์ที่ ๒  ด้านขวา ความว่า “ศรัทธาเจ้ากาบคำเป็นเก๊า พร้อมด้วยแม่ปี่น้องจุกคน ก้ได้สร้างพุทธรูปเจ้าองค์นี้ไว้ก้ำจูจ๊ตะกะ ๕,๐๐๐ พระวัสสา ดีหลีแด่เต๊อะ อ้างอิง ณัฏฐภัทร จันทวิช (บรรณาธิการ). โบราณวัตถุและศิลปวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย . กรุงเทพฯ :ส.พิจิตรการพิมพ์, ๒๕๔๘.


ขอเชิญชวนบรรณารักษ์ ผู้ปฏิบัติงานห้องสมุด และผู้สนใจ รับชมการเสวนาในกิจกรรมการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ของหอสมุดแห่งชาติ ภายใต้โครงการพัฒนาหอสมุดแห่งชาติเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ (ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค)  จัดโดย หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่            หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ             หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี  ร่วมกับ เครือข่ายห้องสมุดประชาชนในอาเซียน (ASEAN Public Libraries Information Network, APLiN)  วันที่ ๑๕–๑๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖   เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.  ณ  ห้องประชุมใหญ่ ถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุค LIVE หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ NL.CNX, เฟสบุค philippine public libraries และเฟสบุค APLiN


(๕ พฤศจิกายน) เป็นวันคล้ายวันพิราลัยในเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ (พระนามเดิม เจ้าน้อยจักรคำ ณ ลำพูน) เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้าย ทางเพจเราจึงขอหยิบยกเกร็ดประวัติเจ้านายท่านนี้มาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งว่ากันตามการรับรู้ถึงพระประวัติของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ นอกจากจะสืบวงศ์มาแต่เชื้อเจ้าเจ็ดตนในราชวงศ์ทิพย์จักรแล้ว ท่านยังสืบพงศาวลีได้ถึงสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มีเชื้อสายในราชวงศ์จักรี คือเป็นหลานตาทวดของเจ้านายสายสกุลอิศรเสนา ณ อยุธยา อีกด้วย สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าจักรคำขจรศักดิ์กับราชสำนักสยาม อาจกล่าวได้ว่าท่านเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือที่มีความผูกพันทางสายเลือดกับราชวงศ์จักรี คือมีมารดาเป็นหม่อมราชวงศ์ในสายวังหน้า (แม่เจ้าหม่อมราชวงศ์รถแก้วราชเทวี) ผู้สืบเชื้อสายจาก “พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพงษ์อิศเรศร์ กรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช” พระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสำลี (พระธิดาในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) ทั้งนี้ เสด็จในกรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช ยังถือเป็นเจ้านายวังหน้าพระองค์สำคัญ ถึงที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า “ควรตำแหน่งเจ้าฟ้าในพระบวรราชวัง” (ราชสกุลวงศ์ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, หน้า ๑๑๗) อนึ่ง เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ อรรคสัตยาทิคุณ หริภุญไชยรัษฎาธิวาส ประชาราษฎร์บริบาล ธาตุเจติยสถานบูชากร ลำพูนนครเชษฐกุลวงษ์ จำนงภักดีนราธิปก เอกัจโยนกชนาธิบดี เจ้าผู้ครองนครลำพูน พระองค์ที่ ๑๐ ยังถือเป็นเจ้าหัวเมืองประเทศราชที่ดำรงพระชนม์ชีพเป็นองค์สุดท้าย (พิราลัยเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๖) ภายหลังการยกเลิกตำแหน่งเจ้าหลวงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ท้ายที่สุดแอดมินขอปิดท้ายด้วยพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะหริภุญชัย เพียงหนึ่งเดียวในคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่มีลักษณะเด่น คือ มีเม็ดพระศกแหลม พระพักตร์สี่เหลี่ยม พระขนงยาวจรดกันเป็นรูปปีกกา ชายสังฆาฏิตัดตรงยาวจรดพระนาภี ฐานด้านหน้ามีจารึกเป็นอักษรมอญโบราณ โดยสมุดทะเบียนระบุอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ ภาพที่ ๑ เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ คลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ภาพที่ ๒ พระพุทธรูปปางมารวิชัย (หน้า) ภาพที่ ๓ พระพุทธรูปปางมารวิชัย (หลัง) ภาพที่ ๔ จารึกอักษรมอญ คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ Post by Admin Sarun / Photo by Nai9Kob




             นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตามที่กรมศิลปากร โดยสำนักสังคีตได้จัดการแสดงละครเรื่อง เลือดสุพรรณ ระหว่างวันที่ 6 และ 7 กรกฎาคม 2567 ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นการนำกลับมาจัดแสดงใหม่ในรอบ 20 ปี ปรากฏว่าบัตรเข้าชมการแสดง จำนวน 800 ที่นั่ง ถูกจองเต็มทุกที่นั่งทั้ง 2 รอบ แสดงถึงการตอบรับจากประชาชนที่ต้องการชื่นชมนาฏดุริยางคศิลป์อันเป็นมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ มั่นใจการแสดงในครั้งนี้จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างแน่นอน               ทั้งนี้ รมว. สุดาวรรณ ได้มอบนโยบายด้านการบริหารจัดการโรงละครแห่งชาติแก่กรมศิลปากร ในช่วงที่โรงละครแห่งชาติ กรุงเทพฯ ปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ไปจนถึงปลายปี 2568 ให้กรมศิลปากรจัดการแสดงสังคีตสัญจร  นำศิลปินของสำนักการสังคีตไปจัดการแสดงนอกสถานที่ โดยเฉพาะโบราณสถานสำคัญให้ครบทั้งสี่ภูมิภาคภายในหนึ่งปี สำหรับโรงละครแห่งชาติในภูมิภาคสองแห่ง ได้แก่  ขอให้มีการวางแผนจัดการแสดงที่น่าสนใจและหลากหลายรูปแบบ ทั้งการแสดงโขน ละคร ดนตรีไทย และดนตรีสากล โดยมีการจัดแสดงตลอดทั้งปี และอยากให้วิทยาลัยนาฏศิลป์ในพื้นที่มีส่วนร่วมในการแสดงกับทางสำนักการสังคีต กรมศิลปากร รวมทั้งเปิดโอกาสให้หน่วยงานภายนอกใช้สถานที่จัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์จากโรงละครแห่งชาติภูมิภาคอย่างคุ้มค่า และเป็นการสร้างความสุขให้กับแฟนละครของกรมศิลปากร ทั้งนี้ จากความสำเร็จของละครเรื่อง เลือดสุพรรณ จึงได้มอบให้กรมศิลปากรจัดการแสดงละครสดุดีวีรสตรี “ท้าวสุรนารี” ในเดือนตุลาคมนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 197 ปีแห่งการสถาปนาตำแหน่งท้าวสุรนารี โดยร่วมมือกับทางจังหวัดนครราชสีมาต่อไป คาดว่าจะเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของกรมศิลปากร ภาพ : การแสดงละครเรื่อง เลือดสุพรรณ ที่จะจัดขึ้นวันที่ 6 - 7 กรกฎาคม 2567 ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรีภาพ : โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก สุพรรณบุรี ภาพ : โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมาภาพ : การแสดงโขน ณ โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยาภาพ : การแสดงระบำศรีเทพ ณ โบราณสถานเขาคลังนอก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์





black ribbon.