ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,636 รายการ


ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           28/6ประเภทวัสดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                               30 หน้า : กว้าง 4.9 ซม. ยาว 54.7 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


เรื่อง “วันกีฬาแห่งชาติ 16 ธันวาคม” วันกีฬาแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 16 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นตัวแทนของนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯ รัฐบาลได้ทำการส่งเสริมทางด้านการส่งเสริมทางด้านกีฬาไทยด้วยดีเสมอมาเพราะตระหนักถึงคุณค่าและความ สำคัญของการเล่นกีฬา นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง การกีฬายังเป็นเครื่องช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยปรับปรุงในด้านความคิดและอุปนิสัยให้ประชาชนในชาติ เป็นผู้มีความเสียสละ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และมีความสามัคคีต่อกัน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเป็นตัวแทนของนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯ และทรงชนะเลิศได้รับเหรียญทองในการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค. ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางการกีฬาของประเทศไทย พระองค์ทรงมีความรู้แตกฉานในทางเรือใบ และทำให้พระองค์ทรงสามารถคิดค้นออกแบบและต่อเรือที่จะทรงใช้เป็นอุปกรณ์ในการแข่งขันที่เหมาะสมกับพระองค์มากที่สุดด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง เรือใบพระที่นั่งประเภท โอ.เค ที่ทรงใช้ในการแข่งขัน พระราชทานชื่อว่า “นวฤกษ์” นอกเหนือจากกีฬาเรือใบแล้ว แบดบินตันก็เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ทรงโปรดปรานมากเช่นกัน ในหอประชุมวังจิตรลดาฯ ได้ปรับแต่งเป็นสนามแบดมินตันมาตรฐาน ส่วนมากพระองค์จะทรงแบดมินตันในตอนเย็นและวันศุกร์ และเช้าวันอาทิตย์ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ทางการกีฬานี้ เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลกว่า พระองค์ทรงเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริงและทรงสนับสนุนกีฬาจนเป็นที่ปรากฏชัด ดังนั้นในการประชุมใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลครั้งที่ 29 ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยมีนายฮวน อันโตนีโอ ซามาร้านซ์ ประธานคณะโอลิมปิกสากล เป็นประธานการประชุมพร้อมทั้งสมาชิกเข้าร่วมประชุมอีก 87 ประเทศ ได้มีมติเอกฉันท์ให้ทูลเกล้าฯถวายเหรียญดุษฎีกิตติมศักดิ์ของโอลิมปิกสากล คือ "อิสริยาภรณ์โอลิมปิกชั้นสูงสุด" (ทอง) แด่องค์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ณ ศาลาดุสิตาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน นับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลก ที่ทรงได้รับการทูลเกล้าฯถวายเหรียญโอลิมปิกชั้นสูง สมควรที่นักกีฬาและประชาชนชาวไทยควรที่จะเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท อันจะเป็นโอกาสให้สามารถนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติและวงศ์ตระกูล เพื่อเป็นการระลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเป็นนักกีฬาตัวแทนของชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 และเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนชาวไทยเห็นคุณค่าความสำคัญของการกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย จึงได้มีมตินำเสนอคณะรัฐมนตรีลงความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2529 กำหนดให้วันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวัน "วันกีฬาแห่งชาติ"



สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 137/4 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 172/7เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           56/3ประเภทวัดุ/มีเดีย                          คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                                60 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 57.5 ซม.หัวเรื่อง                                       พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           10/5ประเภทวัดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                              42 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 53 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ประหยัด พงษ์ดำ เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2477 ที่จังหวัดสิงห์บุรี เริ่มเรียนศิลปะที่โรงเรียนเพาะช่างเมื่อ พ.ศ. 2492 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่คณะจิตรกรรมและประติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 5 ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้มอบหมายให้ประหยัดสอนวิชาทฤษฎีศิลป์ (Art Theory) และวิชากายวิภาค (Anatomy) ต่อมาในปี 2504 ได้รับทุนไปศึกษาต่อทางด้านศิลปะที่สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งกรุงโรม (L’Accademia di Belle Arti di Roma) ประเทศอิตาลี เป็นเวลา 2 ปี ได้รับประกาศนียบัตร Diploma of Fine Art หลังจากสำเร็จการศึกษา ประหยัดกลับมาเป็นอาจารย์ที่คณะจิตรกรรมฯ จนกระทั่งปี 2523 ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งคณบดีคณะจิตรกรรมฯ ประหยัดเกษียณอายุราชการในปี 2537 แต่ยังคงได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษที่คณะจิตรกรรมฯ และสถาบันการศึกษาอีกหลายแห่ง ประหยัดสร้างสรรค์ผลงานทั้งจิตรกรรมและภาพพิมพ์ ผลงานในระยะแรกเป็นภาพพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ยาง (Lenocut) ไม้อัด (Plywood) และมาโซไนท์ (Masonite) ผลงานจึงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และเป็นเพียงภาพขาว – ดำ หรือภาพที่มีสีเพียงไม่กี่สี แสดงถึงเรื่องราวในบรรยากาศและความรู้สึกของศิลปินเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเร้นลับ ไสยศาสตร์ และโหราศาสตร์ ผ่านภาพสัตว์และทิวทัศน์ในชนบทเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาประหยัดได้ศึกษาเทคนิคการพิมพ์ภาพพิมพ์หลายสี ด้วยแม่พิมพ์ชิ้นเดียวและหลายชิ้น โดยใช้เทคนิคภาพพิมพ์สีน้ำมัน มีการใช้สีสันมากขึ้นเพื่อทำให้ผลงานดูสดใส มีชีวิตชีวา ผลงานจึงมีลักษณะแปลกใหม่ นำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อมในชนบท เรื่องของจิตวิญญาณ ความเชื่อทางศาสนา ความผูกพันกันระหว่างแม่กับลูกทั้งในมนุษย์และสัตว์ โดยเฉพาะรูปกิริยาท่าทางของสัตว์ชนิดต่างๆ ที่ประหยัดนำมาเป็นตัวละครหลักในการสร้างสรรค์ผลงาน เช่น ม้า วัว ตุ๊กแก นกเค้าแมว แมว และไก่ ประหยัดสามารถสร้างภาพพิมพ์รูปสัตว์ให้ดูมีชีวิต มีการเคลื่อนไหว และแสดงลักษณะของสัตว์ในอิริยาบถต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ภาพพิมพ์บางชิ้นมีการติดทองคำเปลวลงไปก่อนการพิมพ์รูป เช่น ดวงตาของแมวในที่มืด และดวงดาวบนท้องฟ้าอันมืดมิด เพื่อทำให้เกิดจุดสนใจและให้กลิ่นอายของความเป็นไทย รู้สึกได้ถึงความลึกลับ วังเวง และน่าค้นหา ถ่ายทอดบรรยากาศแห่งความเงียบสงบในช่วงเช้ามืดที่เงียบสงัด และช่วงโพล้เพล้จวนค่ำ ผลงานจึงแฝงเร้นไปด้วยความลึกลับ เน้นการสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึก มากกว่าการยึดติดในความสวยงามทางกายภาพ ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 12 (พ.ศ. 2504) ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้กล่าวถึงผลงานของประหยัดไว้ว่า “…เห็นได้ว่างานครั้งหลังของประหยัดมีความก้าวหน้าทางเทคนิคมาก ไม่แพ้การออกแบบ ภาพควายขวิดกันและภาพไก่นั้นเขียนอย่างกล้า และมีองค์ประกอบภาพถ่วงกันอย่างพอเหมาะพอดี…” ผลงานชิ้นเด่นของประหยัด เช่น “ยามเช้า” เป็นภาพพิมพ์ที่ใช้เทคนิคการแกะไม้เป็นรูปไก่กำลังโก่งคอขัน องค์ประกอบต่างๆ จัดวางได้อย่างเรียบง่ายและกลมกลืน แสดงความเคลื่อนไหวของไก่อย่างมีพลัง สะท้อนถึงวิถีชีวิตในชนบทได้เป็นอย่างดี พ.ศ. 2524 ประหยัดได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินชั้นเยี่ยม สาขาภาพพิมพ์ จากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรมประกาศเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพพิมพ์) เมื่อ พ.ศ. 2541 ประหยัดถึงแก่กรรมเนื่องจากระบบหายใจและไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557 สิริอายุ 79 ปี #ประหยัดพงษ์ดำ #ศิลปกรรมสมัยรัชกาลที่๙ #ศิลปินแห่งนวสมัย #หอศิลป์แห่งชาติ #หอศิลป์แห่งชาติถนนเจ้าฟ้า ที่มา 1. หนังสือ “ศาสตราจารย์เกียรติคุณประหยัด พงษ์ดำ 2477 – 2557” โดย ครอบครัวพงษ์ดำ 2. หนังสือ “ศิลปวิชาการ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี” โดย วิบูลย์ ลี้สุวรรณ 3. หนังสือ “5 ทศวรรษ ศิลปกรรมแห่งชาติ 2492 – 2541” โดย หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 4. หนังสือ “ศิลปะรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 9” โดย ศาสตราจารย์วิโชค มุกดามณี



เลขวัตถุ ชื่อวัตถุ ขนาด (ซม.) ชนิด สมัยหรือฝีมือช่าง ประวัติการได้มา ภาพวัตถุจัดแสดง 32/2553 (28/2549) ใบหอกมีด้าม สภาพชำรุด ส่วนคมผุกร่อน ส่วนด้ามผุชำรุดเป็นสนิมทั้งอัน ย.21.5 ก.4.7 สำริด สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย อายุราว 2,500-2,000 ปีมาแล้ว   ได้จากบ้านเขาเพิ่ม อำเภอบ้านนา จ.นครนายก เมื่อประมาณ พ.ศ. 2539


เลขทะเบียน : นพ.บ.503/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4 x 56 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 167  (205-215) ผูก 4 (2566)หัวเรื่อง : รามชาตก--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม





องค์ความรู้: สำนักหอสมุดแห่งชาติ เรื่อง: หนังสือรวมเพลง           หนังสือรวมเพลง เริ่มพบว่ามีจัดพิมพ์ออกจำหน่ายตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2480 เป็นหนังสือที่รวบรวมเนื้อเพลงที่ได้รับความนิยมจากสื่อต่าง ๆ เช่น แผ่นเสียง ละคร ภาพยนตร์ รำวง วิทยุ ฯลฯ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป บ้างเรียกสมุดเพลง ชุมนุมเพลง สมุดบทเพลงร้อง เป็นต้น โดยส่วนใหญ่มักเป็นการรวมเพลงเอกที่ได้รับความนิยมของนักแต่งเพลงและศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น เช่น นารถ ถาวรบุตร์, ชลอ ไตรตรองศร, ล้วน ควันธรรม, ป. ชื่นประโยชน์, สมยศ ทัศนพันธ์ เป็นต้น เนื้อหาภายในเล่มนำเสนอเนื้อเพลงและโน้ตเพลง พร้อมชื่อผู้ประพันธ์เพลงและผู้ขับร้อง หากบทเพลงนั้นนำมาจากแผ่นเสียง ละคร หรือภาพยนตร์ก็จะมีรายละเอียดข้อมูลดังกล่าวประกอบด้วย            ต่อมาในช่วงต้น พ.ศ. 2500 หนังสือรวมเพลงได้มีการพัฒนาเนื้อหาภายในเล่มมากขึ้น โดยมีรูปแบบคล้ายสิ่งพิมพ์ต่อเนื่องประเภทนิตยสาร นอกจากจะรวบรวมเนื้อเพลงที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ยังมีการนำเสนอคอลัมน์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น รายงานผลการจัดอันดับเพลงยอดนิยมในรอบเดือน โน้ตเพลงฉบับสมบูรณ์ แนะนำครูเพลงและศิลปิน ปกิณกะด้านดนตรีที่น่าสนใจ ทฤษฎีโน้ตสากลเบื้องต้น ตลอดจนบอกเล่าข่าวสารต่าง ๆ ในแวดวงดนตรี พร้อมภาพประกอบสี่สีสวยงามของนักร้องที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีคอลัมน์ที่ผู้อ่านสามารถมีส่วนร่วมได้ เช่น การตอบปัญหาเพลง การส่งคำถามเกี่ยวกับศิลปินหรือขอให้จัดพิมพ์บทเพลงที่ต้องการถึงกองบรรณาธิการ และการหาเพื่อนทางจดหมายผ่านหนังสือรวมเพลง หนังสือรวมเพลงไทยสากลที่มีรูปแบบดังกล่าว เช่น เพลงกล่อมจิต และชาวเพลง สำหรับหนังสือรวมเพลงสากลมีด้วยกันหลายปก เช่น MR.HITS, CURRRENT SONG HITS, IMPRESSIVE SONGS เป็นต้น            ผู้เขียนขอกล่าวถึงหนังสือรวมเพลงสากล IMPRESSIVE SONGS ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนั้น และพัฒนามาเป็นหนังสือรวมเพลงในปัจจุบัน จัดทำโดย เล็ก วงศ์สว่าง นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง โดยหนังสือเพลงของเล็กแตกต่างจากหนังสือเพลงเล่มอื่น ๆ ที่ขายในท้องตลาด คือ มีเล่มเล็กขนาดเท่าฝ่ามือ สะดวกในการพกพา ต่อมาขยายขนาดเล่มให้ใหญ่ขึ้นตามลำดับ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อหนังสือเป็น I.S. Song Hits เพื่อให้เรียกง่ายขึ้น ปัจจัยที่ทำให้หนังสือรวมเพลงเล่มนี้ได้รับความนิยม คือ คุณภาพและความรวดเร็วในการจัดทำ นอกจากนี้ยังใช้กลยุทธ์การแจกโปสเตอร์ศิลปินตามปกหนังสือ เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับผู้ซื้อ ต่อมาได้เริ่มมีการนำคอร์ดกีตาร์เข้ามาใส่ในเนื้อเพลง จนถึง พ.ศ. 2512 เมื่อกระแสเพลงป๊อปของไทยเริ่มได้รับความนิยม เกิดวงสตริงใหม่ ๆ หลายวง จึงได้เปิดตัว THE GUITAR ซึ่งเป็นหนังสือรวมเนื้อเพลงไทยพร้อมคอร์ดกีตาร์ ภายในเล่มมีวิธีการจับคอร์ดขั้นพื้นฐานสำหรับการฝึกด้วยตนเอง หนังสือเล่มนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นครูดนตรีฉบับกระเป๋าที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นมายาวนานหลายทศวรรษจนถึงปัจจุบัน            หนังสือรวมเพลง นอกจากจะช่วยให้คนรักดนตรีสามารถนำไปฝึกร้องหรือเล่นดนตรีได้ด้วยตนเอง ทำให้เกิดความรื่นรมย์และความเพลิดเพลินใจแล้ว ยังเป็นสิ่งที่บันทึกความเป็นไปของวงการเพลงไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในบทเพลงของแต่ละยุคสมัย ตลอดจนความเคลื่อนไหว และข่าวสารในแวดวงดนตรีของไทยอีกด้วย ------------------------------------------------ เอกสารอ้างอิง ปรมาจารย์หนังสือเพลง...เบื้องหลังนักสร้างคนดนตรี : เล็ก วงศ์สว่าง – เพจยอดมนุษย์คนธรรมดา.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ 30 พฤษภาคม 2566, จาก: https://today.line.me/th/v2/article/3YlnOB    เรียบเรียงโดย: นางสาวปริศนา ตุ้มชัยพร บรรณารักษ์ชำนาญการ  ถ่ายภาพประกอบโดย: นายเอก เจียมพุก นักวิชาการโสตทัศนศึกษา หอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และห้องสมุดดนตรีทูลกระหม่อมสิรินธร สำนักหอสมุดแห่งชาติ  


black ribbon.