ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,831 รายการ
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ตามที่กรมศิลปากรจัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย “แต่งไทย ชมวัดไชยฯ ยามราตรี” เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการแต่งชุดไทยเที่ยวชมโบราณสถาน โดยเป็นภาพถ่ายบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ถ่ายทอดสาระ คุณค่า ความงามของการแต่งกายด้วยชุดไทยยุคต่างๆ ในพื้นที่โบราณสถานวัดไชยวัฒนารามยามค่ำคืน ซึ่งเป็นกิจกรรมในงาน "ราตรีนี้...ที่วัดไชยวัฒนาราม"
มีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจำนวนมาก และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของกรมศิลปากร ได้พิจารณาตัดสินผลงานภาพถ่ายเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 มีผู้ได้รับรางวัล ดังนี้
1. รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล จำนวน 20,000 บาท ได้แก่ ภาพ "ท่องราตรี ที่วัดไชยวัฒนาราม งดงามดั่งมีมนต์ขลัง" โดย นางสาวจิรา ชุมศรี
2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท ได้แก่ ภาพ "ราตรีศรีโสภา" โดย นายพรพรต สหกิจ
3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท ได้แก่ ภาพ "พ.ศ. 2310" โดย นายนาวี ผาจันทร์
4. รางวัลพิเศษภาพถ่ายวัยเกษียณสำราญ เงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท ได้แก่ ภาพ "แสงเทียน ณ วัดไชย" โดย นางโสภา ทองอ่อน
ผู้ได้รับรางวัลสามารถติดต่อเพื่อขอรับรางวัลได้ที่ สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 3524 2501 และ 0 3524 2448
สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังการเสวนาทางวิชาการ ทศวรรษแห่งการค้นพบใหม่ เนื่องในงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พ.ศ. ๒๕๖๗ หัวข้อ “๑๐ สุดยอดโบราณวัตถุหายากที่สูญหายไปจากความทรงจำ” พร้อมกับ Mini Exhibition และลุ้นรับของที่ระลึกจากสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ณ ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วิทยากรโดย นางสาวโสภิต ปัญญาขันธ์ นายอริย์ธัช นกงาม นายศรัญ กลิ่นสุคนธ์ นางสาวพลอยไพลิน ปุราทะกา ดำเนินรายการโดย นายณัฐชัย ลลิตพิพัฒน์
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานรับฟังการเสวนาโดยแสกน QR Code หรือลิงค์แบบฟอร์ม : https://forms.gle/7iBrr6qqwqtdkbGB9
สืบเนื่องจากที่สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้กำหนดจัดกิจกรรมเสวนาทางวิชาการเนื่องในงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๗ หัวข้อ “๑๐ สุดยอดโบราณวัตถุหายากที่สูญหายไปจากความทรงจำ” พร้อมกับนำโบราณวัตถุเหล่านั้นไปจัด Mini Exhibition ขอเชิญชวนทุกท่านมาทายของชิ้นที่สอง ที่จะนำไปจัดแสดงในนิทรรศการดังกล่าว โดยมีของรางวัลมาสุ่มแจก เพียงทำตามกติการ่วมสนุก ดังนี้
๑. กดไลก์เพจ Central Storage of National Museums : คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
๒. กดไลก์และแชร์โพสต์นี้
https://www.facebook.com/centralstorageofnationalmuseums/posts/pfbid022tY7cfBxJGCT1EqeGTJ5AP2Ac3bzE9bkKrr2bVs7o1hMj1XHUAgLDqCxMcs9LJYJl
บนหน้า Facebook ของท่าน โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมติดแฮชแท็ก #๑๐สุดยอดโบราณวัตถุหายากที่สูญหายไปจากความทรงจำ
๓. ตอบคำถามใต้โพสต์นี้ว่า "เงาที่ท่านเห็น เห็นโบราณวัตถุชิ้นใด" พร้อมคำอธิบายประกอบ
ผู้สนใจร่วมกิจกรรม สามารถตอบคำถามได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๒.๐๐ น. ทั้งนี้ ท่านใดตอบได้ครบถ้วนและถูกใจทีมงานที่สุดรับรางวัลไปเลย ๑ รางวัล แต่หากพลาดรางวัลรอบนี้ สามารถติดตามเพจ Central Storage of National Museums : คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไป
ชื่อเรื่อง เทวทูตสุตฺต (เทวทูตสูตร)
สพ.บ. 436/2ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 46 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 40 ซม.หัวเรื่อง พระสูตร
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ทองทึบ ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
พระเจดีย์จุฬามณี
ลักษณะ : เจดีย์ทรงเครื่องตั้งอยู่บนฐานไพทีแปดเหลี่ยมมีพนักราวลูกกรงล้อมรอบประดับเสาเม็ด เว้นช่องเปิด 4 ด้าน ส่วนฐานรองรับองค์ระฆังเป็นฐานหน้ากระดาน และฐานสิงห์ย่อมุมไม้สิบสอง ต่อด้วยชั้นเชิงบาตร และฐานบัวคลุ่มรองรับองค์ระฆัง ประดับด้วยทับทรวงและสังวาล ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังก์ ก้านฉัตร บัวฝาละมี บัวคลุ่มเถา ปลียอดและลูกแก้ว เจดีย์ถอดประกอบได้ 3 ส่วน คือ ส่วนฐานไพที องค์ระฆัง และส่วนก้านฉัตร ฐานหน้ากระดานด้านหนึ่งลงรักปิดทองเป็นแผ่นหนา สำหรับจารอักษรไทย ภาษาไทยระบุปีที่สร้าง วัตถุประสงค์การสร้าง แต่ชำรุดแตกกะเทาะ ใจความสำคัญหายไป แต่สามารถกำหนดอายุจากรูปแบบศิลปกรรมได้ว่าเป็นงานช่างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 24 ที่สืบทอดมาจากสมัยอยุธยาตอนปลาย มีการพัฒนาทั้งรูปแบบและลวดลายตกแต่งให้งดงามวิจิตรยิ่งขึ้น
คติการบูชาพระเจดีย์จุฬามณีมีมาช้านานแล้ว ด้วยเชื่อว่าเป็นสถานที่บรรจุพระเกศโมลีและพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวพุทธล้วนปรารถนาจะได้ขึ้นไปสักการะบูชาพระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ดังนั้น ผู้มีกำลังทรัพย์จึงนิยมสร้างเจดีย์จำลองอุทิศถวายเป็นพุทธบูชาแทนเจดีย์จุฬามณี ถือว่าเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ส่วนผู้มีกำลังทรัพย์น้อย หากปรารถนาจะได้สักการะพระเจดีย์จุฬามณี ให้ตั้งจิตอธิษฐานก่อนสิ้นลม ญาติจะแต่งกรวยดอกไม้ธูปเทียนใส่ในมือผู้ตายไว้ เพื่อนำไปนมัสการพระเจดีย์จุฬามณีเมื่อล่วงลับไปแล้ว
ขนาด : กว้าง 44.5 เซนติเมตร ยาว 47 เซนติเมตร สูงรวมฐาน 94 เซนติเมตร
ชนิด : โลหะผสม ลงรักปิดทอง
อายุ/สมัย : รัตนโกสินทร์พุทธศตวรรษที่ 24 (ประมาณ 200 - 220 ปีมาแล้ว)
ประวัติ/ตำนาน : คุณทิพย์สุดา ลัดพลี และนางสาวพลิพร ลัดพลี ทายาทของศาสตราจารย์ธรรมนูญ ลัดพลี มอบให้กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2553
แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=53057
ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th
ชื่อเรื่อง : หนังสือค่าวซอเรื่องธัมม์พุทธเสนะกะ ผู้แต่ง : บุญลือ ประทุมรัตน์ปีที่พิมพ์ : ๒๔๘๑สถานที่พิมพ์ : เชียงใหม่ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์เจริญเมืองจำนวนหน้า : ๒๑๐ หน้าเนื้อหา : หนังสือเล่มนี้ชื่อ พุทธเสนะกะ พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์อักษร ที่โรงพิมพ์เจริญเมือง ถนนเจริญเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ นายบุญลือ ประทุมรัตน์ ผู้แต่ง อักษรล้านนา ภาษาล้านนา พุทธเสนะกะเล่มนี้ มี ๑๕ บท เนื้อเรื่องโดยย่อว่า “เศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนตระหนี่มาก เขามี ลูกสาว ๑๒ คน เขาคิดว่าลูกทั้ง ๑๒ คนนำมาซึ่งความยากจนจึงนำไปปล่อยไว้ในป่า นางยักษ์ผ่านมาเห็นจึงได้พาไปอยู่ด้วยและก็ได้ให้เด็กหญิงทั้ง ๑๒ คนช่วยเหลือทำงานต่าง ๆ เวลาผ่านไปเด็กโตขึ้นทราบว่าคนที่รับเลี้ยงดูเป็นยักษ์จึงได้พากันหนี เร่ร่อนไปจนไปพบเสนาอำมาตย์ซึ่งกำลังตามสตรีผู้มีบุญไปเป็นมเหสีของพระราชา นางยักษ์แปลงร่างเป็นสตรีรูปงามและกลายเป็นมเหสีเอก นาง ๑๒ เป็นสนม นางยักษ์ออกอุบายควักลูกตานาง ๑๒ และขังไว้ที่ถ้ำ นาง ๑๒ ได้ให้กำเนิดลูก คนที่ ๑-๑๑ ถูกนางยักษ์กิน เหลือคนสุดท้ายคือ พุทธเสนะกะ ลูกของน้องคนสุดท้อง พุทธเสนกะเล่นสกากับพระบิดาเป็นที่โปรดปราน นางยักษ์ออกอุบายให้พุทธเสนกะไปเมืองยักษ์เพื่อจะให้ลูกเลี้ยงจับกิน แต่พระฤาษีแผลงสารให้แต่งงานกัน พุทธเสนกะขโมยของวิเศษและตาของป้าและแม่ ลูกสาวยักษ์อกแตกตาย พุทธเสนะกะฆ่ายักษ์ และช่วยป้ากับแม่เรียบร้อยแล้วจึงกลับไปหาภรรยา แต่พบว่านางได้ตายเสียแล้วจึงตรอมใจตายตาม ตัวอย่างข้อความ
คำปรารภ
ท่านนักอ่านทั้งหลาย หนังสือซึ่งท่านถืออยู่ในมือของท่านเดี๋ยวนี้ เป็นหนังสือที่ได้แต่งขึ้นมาใหม่ๆ อีก เรื่องหนึ่ง การที่โรงพิมพ์พยายามนักหนาเอาคัมภีร์ที่เป็นแก่นของพระธรรมมาแต่งเป็นกลอนซอนี้ ก็เพราะอยากหื้อท่านผู้ที่สดับพระธรรมได้สดับในเวลาว่าง เมื่อตนบ่มีโอกาสได้สดับในวิหาร เพราะเหตุว่าคนเราย่อมมีอาชีพแตกต่างหัน หาเวลาว่างได้ยากนัก เมื่อมีติดตัวนำไปสู่ที่ใดแล้วต้องการฟังเมื่อใดก็ได้ แต่หื้อถือเสียเป็นดั่งได้สดับพระธรรมอันนี้เรื่องนี้
เรื่องพุทธเสนะกะนี้ เป็นพระธรรมที่หายากอยู่เล่มหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็บ่หนีจากการค้นคว้าได้ จิ่งได้ถูกน้ำเอามาแปลแลแต่งเป็นกลอนคร่าวซอขึ้น การที่ได้นำมาตกแต่งหื้อมีสำนวนโวหารอันไพเราะเช่นนี้ขึ้นแล้วก็กระทำหื้อพระธรรมมีน้ำหนักขึ้นอีก ซึ่งกระทำหื้อเกิดความเลื่อมใสต่อพระธรรมมากขึ้นไป ก็เท่าเป็นการเผยแผ่พระศาสนาไปอีกเหมือนกัน ท่านที่สนใจในเรื่องพระธรรมควรหามาไว้อ่านเพื่อประดับความรู้ในส่วนวิณญานของท่านหื้อเจริญมากขึ้นไป การอ่านมากเท่าใดก็ยิ่งนำความรู้มาสู่ตัวท่านมากขึ้นทุกที
นายเมืองใจ ไชยนิลพันธ์
๕๑ วังสิงห์คำ อำเภอเมือง เชียงใหม่
๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๑
เลขทะเบียนหนังสือหายาก : ๖๑๘ เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : E-book_๒๕๖๗_๐๐๒๗หมายเหตุ : โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗
ชื่อเรื่อง : เบ็ญจภาคี
หัวเรื่อง : พระเครื่อง
คำค้น : พระเครื่อง
รายละเอียด : อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพนางศิริ ดิษยทัต ณ เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พุทธศักราช 2516
ผู้แต่ง : ไพบูลย์ ดิษยทัต
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : โรงพิมพ์เอเชีย
ปีที่พิมพ์ : 2516
วันที่เผยแพร่ : 29 มกราคม 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสืออนุสรณ์งานศพ
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับพระเครื่อง ในชุดเบ็ญจภาคี ซึ่งมีรายละเอียดครบถ้วน
เลขทะเบียน : น. 32 บ. 2958 จบ.
เลขหมู่ : 294.312 พ978พศ
ชื่อผู้แต่ง หอสมุดแห่งชาติ
ชื่อเรื่อง จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 อักษรปัลลวะ หลังปัลลวะ พุทธศตวรรษที่ 12-14
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ 1
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพมหานคร
สำนักพิมพ์ ภาพพิมพ์
ปีที่พิมพ์ 2529
จำนวนหน้า 311 หน้า : ภาพประกอบ
ISBN 974-7920-74-3
เลขเรียกหนังสือ 417 ศ587จ ล.1
เลขทะเบียนหนังสือ 012595
หมายเหตุ -
จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 อักษรปัลลวะ หลังปัลลวะ พุทธศตวรรษที่ 12-14 มีเนื้อหาสาระในทางวิชาการอันสำคัญเป็นหลักฐานทางเอกสารในรูปลายลักษณ์อักษรซึ่งบ่งบอกถึงเรื่องราวของบรรพชนเป็นกระจกเงาที่ส่องสะท้อนให้เห็นอารยธรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตนับพันปีล่วงมา จารึกเป็นหลักฐานที่สามารถนำไปใช้ประกอบในวิชการด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปกรรม อารยธรรมและวัฒนธรรมของไทยในยุคสมัยต่าง ๆ จึงเป็นมรดกวัฒนธรรมที่ควรอนุรักษ์และเผยแพร่ให้กว้างขวาง
ชื่อผู้แต่ง -
ชื่อเรื่อง ศตวรรษ ๒๐ ฉบับพิเศษ (ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๙ ,๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๗)
พิมพ์ครั้งที่ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ฟาร์อีสต์เพรสส์
ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๗
จำนวนหน้า ๖๔ หน้า
รายละเอียด
ศตวรรษ ๒๐ ฉบับพิเศษ ฉบับนี้ มีบทความพิเศษ รายงานข่าวด่วนพิเศษเนื่องในวันพระราชพิธีเพลิงศพวีรชน วันที่ ๑๔ ตุลาคม ณ ท้องพระสุเมรุ สนามหลวง บทความเกี่ยวกับวิกฤติการณ์น้ำมัน “สงครามน้ำมัน เมื่อไหร่?” และ “สนามหลวง-โฉมหน้าที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย”