ค้นหา


รายการที่พบทั้งหมด 34,643 รายการ

ชื่อเรื่อง                                มหานิปาตวณฺณนา (เวสฺสนฺตรชาตก) ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (หิมพานต์-นครกัณฑ์) สพ.บ.                                  415/2ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           66 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           เทศน์มหาชาติ                                           คาถาพัน                                           ชาดก บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ-ลานดิบ-ล่องชาด  ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี



พระคง พระคง เป็นหนึ่งในพระพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองลำพูน วัสดุเป็นดินเผา รูปทรงมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปแสดงปางมารวิชัย พระเศียรโล้น ไม่มีพระเกตุมาลา ครองจีวรห่มคลุมเรียบบางแนบพระวรกาย  ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรบนฐานมีกลีบบัวที่คลี่คลายเป็นลายจุดไข่ปลาขนาดเล็ก รองรับด้วยฐานเรียบอีกชั้นหนึ่ง รอบพระวรกายมีประภาวลี หรือรัศมีที่เป็นเส้นรอบพระวรกาย เหนือขึ้นไปเป็นซุ้มปรกโพธิ์ ลักษณะรูปแบบของพระคง เป็นพระพิมพ์ขัดสมาธิเพชรที่อาจได้รับอิทธิพลจากพระพุทธรูปในศิลปะพุกามที่มีอิทธิพลจากพระพุทธรูปในศิลปะอินเดียแบบปาละและคุปตะปรากฏในงานศิลปกรรม เช่น พระพุทธรูป และพระพิมพ์ชนิดอื่นๆในวัฒนธรรมหริภุญไชย กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ พระคง ตามประวัดิที่กล่าวถึงส่วนใหญ่ต่างกล่าวว่า พบที่วัดพระคงฤๅษี อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน นอกกำแพงเมืองลำพูนไปทางทิศเหนือ ตามตำนานที่เขียนขึ้นในสมัยหลัง กล่าวถึงการสร้างอารามของพระนางจามเทวี คือวัดอาพัทธาราม ด้านทิศเหนือของเมืองหริภุญไชย แต่จากสภาพปัจจุบันของวัดได้รับการบูรณะใหม่แล้ว ในบริเวณวัดแห่งนี้เคยมีการขุดพบพระพิมพ์ดินเผาเป็นจำนวนมากในปี พ.ศ.๒๔๘๕ ที่บริเวณฐานเจดีย์ประธาน และปี พ.ศ. ๒๔๙๙ พบเป็นจำนวนมากที่บริเวณหลังวัด นอกจากการพบพระคงในบริเวณวัดนี้แล้ว ยังมีการขุดพบในแหล่งโบราณสถานเวียงกุมกาม วัดกานโถมหรือวัดช้างค้ำ ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ราว พ.ศ.๒๕๒๗  ร่วมกับพระพิมพ์ศิลปะหริภุญไชยรูปแบบอื่นๆ อ้างอิง บัณฑิต  เนียมทรัพย์. “พระพิมพ์ที่พบในจังหวัดลำพูน” สารนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๙.ผาสุข อินทราวุธ. รายงานการวิจัยเรื่องการศึกษาร่องรอยอารยธรรมโบราณจากหลักฐานโบราณคดีในเขต จ.ลำพูน ก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑๙. กรุงเทพฯ: ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๓๖.                                             สุรพล ดำริห์กุล. ประวัติศาสตร์และศิลปะหริภุญไชย. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, ๒๕๔๗           อัศวี ศรจิตติ. “พระพิมพ์สกุลลำพูน”. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปบัณฑิต (โบราณคดี) คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร,๒๕๕๑.


เลขทะเบียน : นพ.บ.178/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  52 หน้า ; 4 x 51.5 ซ.ม. : ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 101 (80-85) ผูก 2 (2565)หัวเรื่อง : สังฮอมธาตุ--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ปพฺพชฺชานิสํสกถา (ปพฺพชฺชานิสํสงฺข)  ชบ.บ.53/1-1  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง                                สลากริวิชาสุตฺต (สลากวิชาสูตร) สพ.บ.                                  319/1ก ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลาน หมวดหมู่                               พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                           20 หน้า กว้าง 5.5 ซม. ยาว 57.7 ซม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                            บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจาก วัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


เลขทะเบียน : นพ.บ.271/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 82 หน้า ; 5 x 54.5 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 117  (232-239) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : ภิกฺขุปาติโมกฺข(ปาฬีปาฎิโมกข์)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


         นายปอล เปลลิโยต์ (Paul Pelliot) นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส ที่เข้ามาดําเนินการขุดค้นทางโบราณคดีร่วมกับสมเด็จฯ กรมพระยาดํารง ราชานุภาพ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ ได้ให้ข้อสันนิษฐานเป็นบุคคลแรกว่าเจ้าของ วัฒนธรรมทวารวดีเป็นชาวมอญ ทําให้ ศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ (G. Cedes) ซึ่งให้ความสนใจและศึกษาเกี่ยวกับชนชาติมอญในอินโดจีน ได้ ทําการศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งค้นพบหลักฐานจารึก ภาษามอญโบราณ ที่วัดโพธิ์ (ร้าง) จังหวัดนครปฐม อันเป็นจารึกภาษามอญ ที่เก่าที่สุดเท่าที่สํารวจพบในปัจจุบัน มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ จึงมี ความมั่นใจและสรุปว่า ชนชาติมอญที่เคยมีความสําคัญทางด้านประวัติ ศาสตร์พม่านั้น น่าจะเป็นผู้เผยแผ่วัฒนธรรมอินเดียทางตอนกลางของ อุษาคเนย์ รวมถึง ศาสตราจารย์ปิแอร์ ดูปองต์ (Pierre Dupont) ภัณฑารักษ์ และนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส ผู้ทําการขุดค้นโบราณสถานสําคัญสมัย ทวารวดีที่นครปฐม ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๓ จํานวน ๓ แห่งคือ เนิน พระ วัดพระเมรุ และเจดีย์จุลประโทน ก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน จึงนําเสนอ ผลการศึกษาค้นคว้าเป็นวิทยานิพนธ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ และตีพิมพ์เผยแพร่ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ในชื่อเรื่อง โบราณคดีมอญแห่งอาณาจักรทวารวดี (L'Archéologie Mône de Dvâravatî)                    นักวิชาการรุ่นหลังบางท่านให้ความเห็นว่า แม้ประชาชนชาวทวารวดี ที่ตั้งถิ่นฐานในบริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศไทย จะใช้ภาษามอญโบราณควบคู่ไปกับภาษาบาลีและสันสกฤต แต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าจะเป็นชนกลุ่มเดียวกับชาวมอญที่ตั้งถิ่นฐานในประเทศ พม่าตอนล่างหรือไม่ เนื่องจากรัฐทวารวดีมีความเก่าแก่กว่ารัฐมอญในพม่า และมีพัฒนาการมาจากชุมชนโบราณที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณภาคกลาง ตอนล่างของประเทศไทยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยอ้างถึงคําอธิบาย ของนักภาษาศาสตร์ว่า กลุ่มภาษามอญ-เขมรที่เป็นสาขาหนึ่งของภาษา ตระกูลออสโตรเอเชียติคนั้น เป็นภาษาเก่าแก่ของชุมชนในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ จึงพบว่ามีการใช้กันอยู่ในกลุ่มชนหลายกลุ่มในภูมิภาคนี้ รวมถึง กลุ่มชนในรัฐทวารวดีด้วย อย่างไรก็ดีนักวิชาการบางท่านกลับเสนอแนวคิด อีกประเด็นหนึ่งว่า วัฒนธรรมทวารวดีอาจเป็นอารยธรรมระยะต้นของกลุ่ม ชนชาวมอญ ที่ขยายตัวเข้าไปยังตอนกลางของประเทศพม่า ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๕ - ๑๖ เรื่องของกลุ่มชนผู้เป็นเจ้าของวัฒนธรรมทวารวดีจึง ยังไม่เป็นที่ยุติในปัจจุบัน  


ชื่อผู้แต่ง         ภาณุรังษีสว่างวงศ์, สมเด็จเจ้าฟ้า ชื่อเรื่อง          ชีวิวัฒน์เที่ยวที่ต่าง ๆ ภาค ๗ ครั้งที่พิมพ์      พิมพ์ครั้งที่ ๔ สถานที่พิมพ์    - สำนักพิมพ์      โรงพิมพ์คุรุสภาพระสุเมรุ ปีที่พิมพ์          ๒๕๑๑ จำนวนหน้า      ๑๔๕ หน้า หมายเหตุ        พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ คุณแจ่ม ยงใจยุทธ ณ สุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาส ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๑๑                       หนังสือเล่มนี้ กล่าวถึงคุณความดีแห่งการท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ และรายงานระยะทางที่เสด็จไปยังหัวเมืองชายทะเลตะวันตก บริเวณอ่าวไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๗


          วันศุกร์ที่ ๑๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๖.๐๐ น. นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร ลงพื้นที่ตรวจราชการโบราณสถาน ณ วัดวรเชษฐาราม พระราชวังโบราณ วัดไชยวัฒนาราม ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา นายสมพจน์ สุขาบูลย์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ทั้งนี้ท่านอธิบดีได้ให้แนวทาง ทิศทางในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ ร่วมกัน



ชื่อเรื่อง                    หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหารครั้งที่พิมพ์                 -ผู้แต่ง                      -ผู้แต่งเพิ่ม                  -ประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                   พระพุทธศาสนาเลขหมู่                      294.31218 ห313สถานที่พิมพ์               กรุงเทพฯ   สำนักพิมพ์                 พิมพ์สวยปีที่พิมพ์                    2550ลักษณะวัสดุ              21 ซ.ม. 180 หน้า : มีภาพประกอบหัวเรื่อง                     วัดป่าเลไลยก์วรวิหารภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                             วัดป่าเลไลยก์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง คือองค์หลวงพ่อโตที่บรรพบุรุษได้สร้างและช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์มาหลายชั่วอายุ


กว่า ๒ ปี ท่ามกลางสภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมอย่างต่อเนื่อง ภาครัฐได้ประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคออกมาหลายฉบับเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อของคนหมู่มาก การปิดสถานที่ที่มีการชุมนุมของคนเช่นพิพิธภัณฑ์เป็นแนวทางหนึ่งที่กรุงเทพมหานครได้บังคับใช้ ส่งผลให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในสังกัดสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในเขตกรุงเทพมหานครต้องปิดให้บริการรวมระยะเวลานานเกือบ ๔ เดือน      สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติได้ปรับแผนการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการใช้สื่อสังคมออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในการทำกิจกรรมโครงการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โครงการปรับปรุงพัฒนาทางกายภาพเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการหลายโครงการที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาหลายปีได้แล้วเสร็จ ได้แก่ นิทรรศการถาวรภายในหมู่พระวิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี ถือเป็นความสำเร็จอีกระดับหนึ่งของการทำงานในปีงบประมาณนี้     สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมุ่งหวังว่า “รายงานประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ” ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการตรวจสอบความก้าวหน้าและสืบค้นข้อมูลการดำเนินงานของสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในรอบปีที่ผ่านมาได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์




สวัสดิ์  จันทนี, นาวาเอก.  นิทานชาวไร่.  พิมพ์ครั้งที่ 1.  กรุงเทพฯ: ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์, 2515.      นิทานชาวไร่เป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ที่สอดแทรกอารมณ์ขันไว้บ้างในบางตอนเพื่อให้การอ่านมีอรรถรสมากยิ่งขึ้นที่ไม่เหมือนกับอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ทั่วไป เล่าไปเรื่อย ๆ แต่ก็ชวนให้อ่านและอ่านแล้วสนุกชวนติดตามยิ่งนัก ซึ่งจะขอยกเป็นตัวมาอ่านพอเป็นสังเขป เช่น การใช้คำของคนโบราณใช้พูดกันให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ เช่น “ไข้บิดหัวลูก” ซึ่งเป็นโรคบิดที่เป็นแก่หญิงมีครรภ์แก่จวนจะคลอด  “อากรตือ” คือ คนขายหมู  “เสียโป” คือ ข้าวสุกกับเป็ดย่าง การจะฆ่าช้างที่อาละวาดสักตัวจะต้องใช้ยัดเข้าในกล้วยให้กิน มีเรื่องของคะนังที่พระพุทธเจ้าหลวงได้นำตัวไปจากปักษ์ใต้ที่มีตัวดำเจือแดงผมยาวเป็นสปริง เป็นคนชอบสีแดง โชคดีเคยได้เชิญธงนำเสด็จในหลวงรัชกาชลที่ 6 แต่ต้องตายด้วยโรคผู้หญิง ในกดายุค หรือสัตยยุคนั้นพระนารายณ์ อวตารมา 4 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 เป็นปลา ครั้งที่ 2 เป็นเต่า ครั้งที่ 3 เป็นหมู และครั้งที่ 4 เป็น นรสิงห์ และมีเรื่องราวอื่น ๆ อีกมากมาย