ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ

       วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สร้างในสมัยอู่ทอง เดิมสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานไว้ว่า น่าจะสร้างขึ้นในสมัยอู่ทองเป็นราชธานี เพราะมีพระพุทธรูปปางประทานปฐมเทศนาแบบทวารวดี เหมือนพระประธานองค์ที่พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ภายหลังมาแปลงเป็นปางป่าเลไลยก์ก่ออิฐถือปูน ที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อโต หรือ หลวงพ่อวัดป่า พระพุทธรูปองค์นี้กว้าง 3 วา 1 ศอก 1 คืบ 6 นิ้ว สูง 11 วา 1 ศอก ส่วนวิหารเดิมเป็นรูปมณฑปครอบเฉพาะองค์พระเท่านั้น       ต่อมาในสมัยอยุธยาโปรดให้พระยาสีหราช เดไชย สร้างเสริมวิหาร สมัยกรุงรัตนโกสินทร์มีการกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนขึ้นเสวยราชสมบัติได้เสด็จมาที่วัด ซึ่งไม่มีหลักฐานบันทึกชัดเจนถึงการเสด็จพระราชดำเนินและเมื่อขึ้นครองราชย์แล้วโปรดให้พระยานิกรบดินทรไปสร้างซ่อมแซม สร้างหลังคา ทำฝาผนังรอบนอกรวมหลังคาพระวิหารแล้วซ่อมองค์หลวงพ่อโต สร้างพระพุทธรูปในวิหาร 2 องค์  และมีการติดตรามงกุฎพระราชลัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่ 4 ที่หน้าบันพระวิหาร       วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร พระอารามหลวงแห่งแรกในจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี จางวางเอก เสนาบดี ลงประกาศแจ้งความยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2462       ในองค์หลวงพ่อโตมีพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า 36 องค์  พงศาวดารเหนือกล่าวไว้ว่า “พระมหาเถรไลยลายองค์หนึ่ง เป็นเชื้อมาแต่พระรามเทพมาก่อน ได้พระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า 650 พระองค์ กับทั้งพระศรีมหาโพธิ์สองต้นมาแต่เมืองลังกาสีหล...” “...จึงเชิญพระบรมธาตุบรรจุไว้ด้วย ๓๖ พระองค์ จึงให้ชื่อวัดพระศรีมหาโพธิลังกา แล้วจึงบรรจุไว้พระเจดีย์บ้าง ในพระพุทธรูปรูปใหญ่บ้างในพระปรางค์บ้าง เป็นพระบรมธาตุ 36 พระองค์ด้วยกัน แล้วบรรจุไว้ในพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมกนั้น 36 พระองค์ ในพระปาเลไลนอกเมืองพันธุมบุรีนั้น 36 พระองค์” จากประชุมพงศาวดาร ภาค 1 หน้า 31  กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดป่าเลไลยก์วรวิหารเป็นโบราณสถานในเขตสำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478       กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะมาหลายครั้ง และเมื่อปี พ.ศ. 2561 สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี จัดสรรงบประมาณบูรณะซ่อมแซมภายในวิหารหลวงพ่อโตอีกครั้งหนึ่ง ทุกๆ ปี จะมีการจัดงานไหว้พระปิดทองหลวงพ่อโตมาแต่โบราณกาลปีละ 2 ครั้ง ทางจันทรคติ  โดยนับตาม คติการโคจรของดวงจันทร์ ครั้งแรกจัดขึ้นในเดือน 5 ขึ้น 5-6-7-8-9 ค่ำ ซึ่งตรงกับช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง ต้นเดือนเมษายน และครั้งที่ 2 จัดขึ้นในเดือน 12 ขึ้น 5-6-7-8-9 ค่ำ ตรงกับช่วงเดือนตุลาคม และในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีประเพณีที่สำคัญอีกอย่างที่ยึดถือกันมาตลอดคือการสรงน้ำ “หลวงพ่อโตทองคำ”พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ    #ข้อมูลอ้างอิง พระธรรมมหาวีรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี 5 ธันวาคม 2540.  สุพรรณบุรี : สุพรรณการพิมพ์, 2540.      เลขหมู่ 959.373 พ335 มนัส โอภากุล.  ประวัติวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี. สุพรรณบุรี : สุพรรณการพิมพ์, 2535.      เลขหมู่ 294.3135 ม164ป สมโภชพระอารามหลวงครบ 100 ปี วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร.  กรุงเทพฯ, : สามลดา, 2562.      เลขหมู่ 294.3135 ส272   ข้อมูลภาพ สำนักจดหมายเหตุแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี ภาพถ่ายเก่า เมืองสุพรรณบุรี โดย เจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ ผู้เรียบเรียง  นางอภิญญานุช เผ่าพงษ์คล้าย บรรณารักษ์ชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ  



ชื่อเรื่อง                         มหานิปาตวณฺณนา (ทสชาติ) ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (มโหสถ)สพ.บ.                           408-3กหมวดหมู่                        พุทธศาสนาภาษา                            บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง                          พุทธศาสนา                                    ธรรมเทศนาประเภทวัสดุ/มีเดีย            คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ                    52 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม. บทคัดย่อ เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด ภาษาบาลี-ไทยอีสาน ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


ชื่อเรื่อง                         มหานิปาตวณฺณนา (ทสชาติ) ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (เตมิยะ-ภูริทัต)      สพ.บ.                           411/ข/3 หมวดหมู่                       พุทธศาสนา ภาษา                           บาลี/ไทยล้านนา หัวเรื่อง                        พุทธศาสนา                                  นิทานชาดก ประเภทวัสดุ/มีเดีย            คัมภีร์ใบลาน ลักษณะวัสดุ                   42 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 58.8 ซม.  บทคัดย่อ เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมล้านนา-ธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ลานดิบ ล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี



ชื่อเรื่อง                     ประเพณีเกี่ยวกับพุทธศาสนาในจังหวัดนครปฐมผู้แต่ง                       ลำพรรณ น่วมบุญลือประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                   ประเพณี ขนบธรรมเนียมเลขหมู่                     390.09593 ล339ปสถานที่พิมพ์               กรุงเทพฯ   สำนักพิมพ์                 พิทักษ์อักษรปีที่พิมพ์                    ม.ป.ป.ลักษณะวัสดุ               54 หน้า : มีภาพประกอบ ; 29 ซม.หัวเรื่อง                     พุทธศาสนา – รวมเรื่อง                              นครปฐม – ความเป็นอยู่และประเพณี                              พุทธศาสนากับวัฒนธรรมภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก          หนังสือประเพณีเกี่ยวกับพุทธศาสนาในจังหวัดนครปฐมเล่มนี้ มีเนื้อหาเฉพาะประเพณีที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาเท่านั้น ส่วนประเพณีที่กระทำนอกเหนือไปจากพุทธศาสนานั้นยังมีอีกส่วนหนึ่ง เช่น ประเพณีของชาวไทยโซ่ง ประเพณีของชาวจีน ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นเดียวกัน


ชื่อเรื่อง                                นิสัยธรรมบท  (นีไสทำบด ) สพ.บ.                                  327/1ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           52 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 54 ซม.หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                          บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องรัก  ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ ขอเชิญชวนทุกท่านเยี่ยมชมนิทรรศการพิเศษ เนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทย เรื่อง "เครื่องถ้วยเวียงแก้ว จากวัตถุสู่พัฒนาการวังหลวงแห่งเวียงเชียงใหม่" โดย พิพิธภัณฑ์ของเราได้รวบรวมเครื่องถ้วยที่พบจากการขุดค้นในแหล่งโบราณคดีเวียงแก้ว ทั้งเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน ราชวงศ์หมิง ราชวงศ์ชิง และสมัยสาธารณรัฐจีน เครื่องถ้วยจากญี่ปุ่นและเวียดนาม รวมถึงเครื่องถ้วยจากแหล่งเตาในภาคเหนือที่ร่วมสมัยกับอาณาจักรล้านนา นำมาจัดแสดงให้ทุกท่านได้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ณ อาคารจัดแสดงชั้น 2 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ ค่ะ.......................................................................................................................................พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่เปิดให้บริการทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) e-mail : cm_museum@hotmail.comสอบถามเพิ่มเติมกรุณาติดต่อผ่านกล่องข้อความ หรือ โทรศัพท์ : 053-221308........................................................................................................................................Chiang Mai National Museum proudly presents a temporary exhibition"Wiang Kaew Potteries: From pieces to palace"Our museum exhibits special pieces of potteries that were found at the Wiang Kaew excavation site, such as Chinese ceramics from the Yuan Dynasty, Ming Dynasty, Qing Dynasty, and the Republic of China. Joined with the Vietnamese, Japanese ceramics, and potteries from northern Thailand's kilns which are contemporary aged in Lan - Na period. This special exhibition starts from 1 September - 31 December 2021 on the second floor of the exhibition building, Chiang Mai National Museum..........................................................................................................................................Chiang Mai National MuseumOpen: Wednesday - Sunday 09.00 AM. - 04.00 PM.Closes: Monday - Tuesday and public holidaysContact us: 053-221308 or inbox to our page's direct message E-mail: cm_museum@hotmail.com




เลขทะเบียน : นพ.บ.182/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  60 หน้า ; 4 x 54.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 104 (101-109) ผูก 4 (2565)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันธ์ขันธ์ --เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


มงฺคลตฺถทีปนี (มงฺคลตฺถทีปนี เผด็จมงคลสูตร)  ชบ.บ.88ก/1-5  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


เลขทะเบียน : นพ.บ.339/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 64 หน้า ; 4.5 x 56 ซ.ม. : รักทึบ-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 133  (359-369) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : นิพฺพาน สุตฺต (มูลมหานิพพาน)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


          มหามกุฏราชสันตติวงศ์ ๒๑ กันยายน ๒๓๑๐ วันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี           สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี มีพระนามเดิมว่า บุญรอด พระราชสมภพเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๓๑๐ ณ ตำบลอัมพวา เมืองราชบุรี (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม) เป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ (พระพี่นางพระองค์เล็กในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) กับเจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน            ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าบุญรอด ในเวลาต่อมาได้มีพระราชปฏิพัทธ์ด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ซึ่งในเวลาได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย           สมเด็จเจ้าฟ้าบุญรอด มีพระประสูติกาลพระราชโอรส สามพระองค์ ๑. สมเด็จเจ้าฟ้าชายสิ้นพระชนม์ในวันประสูติ ๒. สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎ สมมุติเทวาวงศ์ พงศ์อิศรกษัตริย์ ขัตติยราชกุมาร เป็นพระราชโอรสชั้นเจ้าฟ้าในรัชกาลที่ ๒ ต่อมา เสวยราชเป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ๓. สมเด็จเจ้าฟ้าจุธามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ต่อมารับบวราชาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศร มหิศเรศรังสรรค์ฯ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว           ในรัชกาลที่ ๒ แม้จะมิได้โปรดเกล้าฯ สถาปนนาขึ้นเป็นพระอัครมเหสี แต่เป็นที่รู้กันในราชสำนักว่าทรงอยู่ในฐานะดังกล่าว จึงขานพระนามว่า สมเด็จพระพันวษา มาแต่ในรัชกาลนั้นจนตลอดพระชนมายุ            สมเด็จเจ้าฟ้าบุญรอด สวรรคตเมื่อวันเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๓๗๙ ด้วยพระโรคชรา สิริพระชนมายุได๖๙ พรรษา ดังปรากฏในพระราชพงศาวดาร รัชกาลที่ ๓ ความว่า "วันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๘๐ เวลาเช้า ๔ โมง สมเด็จพระพันวัสสาประชวรพระโรคชราสวรรคตในวันนั้น" ส่วนในหนังสือ จดหมายเหตุโหร ฉบับพระยาประมูลธนรักษ์ บันทึกไว้ว่า "ปีวอก จ.ศ. ๑๑๙๘ วันอังคาร ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ พันวษานิพพาน เพลาเช้า ๒ โมงเศษ พระชนมายุได้ ๖๙ พรรษา"          เมื่อเจ้าฟ้ามงกุฎ พระราชโอรส เสด็จขึ้นสืบราชสันตติวงศ์เป็น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระบรมอัฐิพระบรมราชชนนี ขึ้นเป็นกรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ในคราวบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๓๙๔ ถึงรัชกาลที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้ออกพระนามเป็น สมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี   ภาพ : พระแท่นบรรทมของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๒  แท่นเบื้องหน้าพระแท่นบรรทมคือพระแท่นลด จัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร


ชื่อผู้แต่ง              - ชื่อเรื่อง               พระบรมราโชวาท ในรัชการที่ ๕ ครั้งที่พิมพ์           - สถานที่พิมพ์         พระนคร สำนักพิมพ์           โรงพิมพ์รวมมิตรไทย ปีที่พิมพ์              ๒๕๐๕ จำนวนหน้า          ๖๔  หน้า หมายเหตุ            พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ รองอำมาตย์เอกหลวงรักษ์ระเบียบการ (ตาด  ศรีโรจน์)                             พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้จัดพิมพ์ในเล่มนี้ เป็นพระบรมราโชวาทซึ่งมีไปพระราชทานพระบรมโอรสาธิราชขณะประทับศึกษาอยู่ ณ ต่างประเทศ และอีกภาคหนึ่งเป็นพระบรมโชวาท ทรงมีพระราชทานพระเจ้าลูกยาเธอเนื่องในโอกาสเสด็จออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศเมื่อพุทธศักราช ๒๔๒๙ เนื้อความล้วนเป็นคติสอนใจที่เป็นผลได้แก่ผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะกุลบุตร กุลธิดา ที่กำลังอยู่ในวัยเล่าเรียน




black ribbon.