ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,774 รายการ

ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           22/2ประเภทวัดุ/มีเดีย                          คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                                34 หน้า : กว้าง 4.7 ซม. ยาว 54.5 ซม.หัวเรื่อง                                       พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ชื่อเรื่อง                                    นิสฺสคฺคิย-ปาจิตฺติวณฺณนา สมนฺตปาสาทิกา วินยฏฺฐกถา (นิสสัคคิยปาจิตตีย์)อย.บ.                                      16/13ประเภทวัสดุมีเดีย                  คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                          70 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 54.5 ซมหัวเรื่อง                                   พุทธศาสนา                                                 วินัยปิฎก -- อรรถกถา                                                นิสสัคคิยปาจิตตีย์บทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


         ภาพเหมือน ‘สุวรรณี สุคนธา’ โดย ทวี นันทขว้าง          100 ปี ศิลปสู่สยาม สุนทรีศิลปแห่งนวสมัย          วันนี้เมื่อ 39 ปีที่แล้ว สุวรรณี สุคนธ์เที่ยง นักเขียนชื่อดัง เจ้าของนามปากกา สุวรรณี สุคนธา เสียชีวิตจากการฆาตกรรมเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2527 ก่อนที่สุวรรณีจะเป็นที่รู้จักในฐานะนักเขียน เธอมีความสนใจในด้านศิลปะ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาจากจังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเพาะช่างและคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และได้กลายมาเป็นอาจารย์ประจำคณะจิตรกรรมฯ หลังจบการศึกษา นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สุวรรณีได้รู้จักกับ ทวี นันทขว้าง ศิลปินชั้นเยี่ยม (สาขาจิตรกรรม) พ.ศ. 2499 และอาจารย์ประจำคณะจิตรกรรมฯ ซึ่งต่อมาทั้งสองได้สมรสและหย่าร้างกันในภายหลัง โดยมีบุตรธิดารวม 4 คน           ผลงานส่วนใหญ่ของทวีมักเป็นภาพหุ่นนิ่งและภาพทิวทัศน์ (ดูภาพประกอบได้ในคอมเมนต์) ภาพเหมือน ‘สุวรรณี สุคนธา’ นับเป็นภาพเหมือนบุคคลเพียงไม่กี่ภาพที่ทวีได้เขียนไว้ ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพเหมือน แต่ก็มิได้เขียนในรูปแบบเหมือนจริงทั้งหมด กลับมีลักษณะที่คลี่คลายไปสู่งานศิลปะแบบสมัยใหม่ ทวีเลือกใช้สีและเน้นฝีแปรงเพื่อสร้างสรรค์รายละเอียดภายในภาพให้เกิดมิติ โดยเฉพาะการใช้สีโทนเย็น เน้นความกลมกลืนกันขององค์ประกอบต่างๆ ตัดกับสีสันสดใสเพียงเล็กน้อย ทำให้บรรยากาศโดยรวมของภาพเขียนมีความสงบ เยือกเย็น แต่ในขณะเดียวกันก็ดูลึกลับ กึ่งจริงกึ่งฝัน          ภาพเหมือน ‘สุวรรณี สุคนธา’ โดย ทวี นันทขว้าง จัดแสดงอยู่ในนิทรรศการพิเศษ “100 ปี ศิลปสู่สยาม สุนทรียศิลปแห่งนวสมัย” ระหว่างวันที่ 18 มกราคม – 9 เมษายน 2566 ณ อาคารนิทรรศการ 4 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดให้เข้าชมวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 น. (ปิดวันจันทร์ – วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)   อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทวี นันทขว้าง ได้ที่ https://www.facebook.com/.../a.242467477.../2469946963136645  


ชื่อเรื่อง : วรรณคดีไทย เรื่อง พระอภัยมณี ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2505 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : ศึกษาภัรฑ์พาณิชย์จำนวนหน้า : 1,328 หน้าสาระสังเขป : เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้ เริ่มต้นด้วยประวัติสุนทรภู่ ตั้งแต่ก่อนรับราชการ ตอนรับราชการ ตอนออกบวช ตอนตกยาก ตอนสิ้นเคราะห์ ว่าด้วยหนังสือที่สุนทรภู่แต่ง ว่าด้วยเกียรติคุณของสุนทรภู่ บันทึกเรื่องผู้แต่ง นิราศพระแท่นดงรัง อธิบายว่าด้วยเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ ทั้งหมด 64 ตอน มีนิทานเรื่องพระอภัยมณีต่อจากคำกลอน


ส่งเสริมการอ่านผ่าน Facebook กับหอสมุดแห่งชาติชลบุรี เรื่อง วันสตรีสากล


เลขทะเบียน : นพ.บ.463/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 62 หน้า ; 5 x 52 ซ.ม. : ทองทึบ-ชาดทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 160  (174-182) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : เวสฺสนฺตรชาตก--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.604/7                   ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 50 หน้า ; 4 x 55 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 193  (399-407) ผูก 7 (2566)หัวเรื่อง : อภิธัมมา--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และ วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ หรือ วันจักรี เป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและมหาจักรีบรมราชวงศ์ ตรงกับวันที่ 6 เมษายน เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า วันจักรี นั้น สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชดำริว่าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีทรงหล่อพระบรมรูปลักษณะเหมือนพระองค์จริงฉลองพระองค์แบบไทย ณ โรงหล่อหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (บริเวณศาลาสหทัยสมาคมในปัจจุบัน) เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระปฐมบรมราชบุพการี แล้วโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เชิญพระบรมรูปทั้ง 4 รัชกาลนั้น ประดิษฐานเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์ สำหรับถวายบังคมสักการะในงานพระราชพิธีฉัตรมงคลและพระราชพิธีพระชนมพรรษา ครั้นถึงสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสืบราชสันติวงศ์ ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบรมชนกนาถ จากต่างประเทศ แล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานร่วมกับพระบรมรูปทั้ง 4 รัชกาลนั้น ต่อมาทรงพระราชดำริว่าพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทยังไม่เหมาะสมที่จะมีงานถวายบังคมสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแปลงพระพุทธปรางค์ปราสาทในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชทั้ง 5 รัชกาล พระราชทานนามใหม่ว่า ปราสาทพระเทพบิดร โดยทรงคำนึงถึงอนุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งได้ประดิษฐานพระบรมราชวงศ์จักรี ทรงมีพระเดชพระคุณต่อประเทศ เมื่อมีโอกาสก็ควรแสดงความเชิดชูและระลึกถึง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีเชิญพระบรมรูปจากพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทมาประดิษฐานที่ปราสาทพระเทพบิดร เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2561 อันเป็นดิถีคล้ายวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จกรีธาทัพถึงพระนคร ได้รับอัญเชิญขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบรรจุพระกรัณฑ์ทองคำลงยาราชาวดีซึ่งบรรจุพระบรมทนต์(ฟัน) พระสุพรรณบัฏจารึกพระปรมาภิไธย พระดวงพระบรมราชสมภพ พระดวงบรมราชาภิเษก พระดวงสวรรคต ลง ณ เบื้องสูงของพระเศียรพระบรมรูปทั้ง 5 รัชกาล ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชปรารภว่า ในปี 2475 อายุพระนครจะบรรจบครบ 150 ปี สมควรมีการสมโภชและสร้างปฐมบรมราชานุสรณ์ 2 สิ่งประกอบกัน คือ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ปฐมกษัตริย์ และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมพระนครธนบุรี พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก นั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงออกแบบ ให้ศาสตรจารย์ศิลปะ พีระศรี ปั้นหุ่นหล่อ ส่วนสะพานทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยากำแพงเพชรอัครโยธินอำนวยการสร้าง และพระราชทานนามว่า สะพานพระพุทธยอดฟ้า พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดปฐมบรมราชานุสรณ์ โดยกระบวนพยุหยาตรา เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2475 ซึ่งเป็นวันครบ 150 ปี และมีการพระราชพิธีเฉลิมฉลองกรุงเทพมหานคร ในปีต่อมาทางราชการได้ประกาศให้ถือวันที่ 6 เมษายน เป็นวันที่ระลึกมหาจักรีฯ และเป้นวันสำคัญของชาติวันหนึ่งที่กำหนดให้เป็นวันหยุดราชการและให้ชักธงชาติ กำหนดให้มีการถวายบังคมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ที่ปฐมบรมราชานุสรณ์ สำนักพระราชวังได้ออกหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปถวายสักการะพระบรมรูปที่ปฐมบรมราชานุสรณ์ และถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร



          “ดินเหนียว” สำหรับใช้ในการปั้นงานประติมากรรม  โดยเฉพาะการปั้นรูปเหมือนบุคคล และอนุสาวรีย์ของกลุ่มงานประติมากรรม  สำนักช่างสิบหมู่  กรมศิลปากร  มีคุณสมบัติเป็นดินเนื้อละเอียด มีความหนาแน่นของเนื้อดินสูง  มีความเหนียว  ได้มาจากแหล่งธรรมชาติซึ่งอยู่ในชั้นดินที่ลึกจากหน้าดินลงไป  ชั้นดินที่ลึกนั้นมีคุณสมบัติเหนียว และปราศจากกรวดทรายปะปน  ถ้ามีก็ถือว่าน้อยมาก  ทางกลุ่มประติมากรรมจึงได้นำมาใช้กับงานประติมากรรม  โดยดินเหนียวที่ทางกลุ่มงานนำมาใช้นั้นจะมีลักษณะเป็นดินที่มีความแห้ง  รูปทรงเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม  มีขนาดหนา 1 นิ้ว  ยาว 10 นิ้ว  กว้าง 5 นิ้ว  เป็นวัตถุดิบที่ยังไม่สามารถนำมาใช้ในการปั้นได้  ดังนั้น ก่อนการนำไปปฏิบัติงานต้องมีขั้นตอนการเตรียมดิน โดยขออธิบายด้วยวิธีเบื้องต้น  ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถนำไปปฏิบัติตามได้  ดังนี้ ที่มา: https://datasipmu.finearts.go.th/academic/57


          หอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราช ชวนเชิญน้องๆ นักเรียนระดับประถามศึกษาตอนปลาย ร่วมกิจกรรมสอนศิลปะสำหรับเด็ก ครั้งที่ 3 ฝึกทักษะการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ ในหัวข้อเรื่อง "ศิลปะพับกระดาษ วาดภาพ 3 มิติ" ในวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ ห้องศิลปะและวรรณคดี หอสมุดแห่งนครศรีธรรมราช          สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ "ฟรี" ไม่เสียค่าใช้จ่าย (รับจำนวนจำกัด) สอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Facebook หอสมุดแห่งชาติ นครศรีธรรมราช หรือ โทร. 0 7532 4137 




         พระพุทธรูปไสยาสน์          ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔          กรมศิลปากรซื้อจากพิพิธภัณฑ์ของหม่อมเจ้าปิยะภักดีนาถ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙          ปัจจุบันจัดแสดง ณ พระที่นั่งวสันตพิมาน (ชั้นบน) หมู่พระวิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร          พระพุทธรูปไสยาสน์แกะสลักด้วยงา ลงสีตามเส้นขอบจีวร ส่วนฐานเป็นไม้แกะสลักลงรักปิดทองลงสีในผังยกเก็จ ประกอบด้วยฐานหน้ากระดานล่างจำหลักลายประจำยามลูกฟัก ฐานสิงห์ และฐานบัวหงายตามลำดับ พระพุทธรูปมีพุทธลักษณะสำคัญได้แก่ พระรัศมีเป็นเปลว อุษณีษะนูน ขมวดพระเกศาจำหลักเป็นลายตารางสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก พระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่ง พระเนตรปิด ปลายพระเนตรตวัดโค้งลง พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เล็ก พระวรกายครองจีวรห่มเฉียง สังฆาฏิยาวจรดพระนาภี ประทับไสยาสน์เบื้องขวา (สีหไสยาสน์) พระหัตถ์ขวารองรับพระเศียรบนพระเขนยกลม (หมอน) ซ้อนกันสองชั้น พระหัตถ์ซ้ายวางแนบพระวรกายเบื้องซ้าย          พระพุทธรูปไสยาสน์ในสังคมไทยนิยมสร้างขึ้นเพื่อสื่อถึงหนึ่งในอิริยาบถของพระพุทธเจ้า (ประกอบด้วย อิริยาบถ นั่ง นอน เดิน (ลีลา) และยืน) อีกทั้งสัมพันธ์กับพุทธประวัติ อาทิ ตอนโปรดอสุรินทราหู ตอนปรินิพพาน ขณะเดียวกันพุทธประวัติที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าในอิริยาบถไสยาสน์นั้นพบว่ามีอีกหลายเหตุการณ์ เช่น ตอนทรงสุบินในคืนก่อนวันตรัสรู้ ตอนทรงพยากรณ์ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ตอนโปรดสุภัททปริพาชกสาวกองค์สุดท้าย เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มักปรากฏในงานจิตรกรรมไทยมากกว่าการสร้างเป็นประติมากรรม          พระพุทธไสยาสน์องค์นี้เป็นตัวอย่างของงาที่มีรอยแตกเรียกว่า “แตกลายงา” ซึ่งงาช้าง เป็นวัสดุที่หายาก เป็นของศักดิ์สิทธิ์ ป้องกันภัยหรือสิ่งชั่วร้ายได้ จึงนิยมนำมาแกะเป็นพระพุทธรูปเพื่อเป็น พุทธบูชา ในสังคมล้านนา เชื่อว่างาช้างที่กะเทาะหรือหักจากการชนช้างตัวอื่น เรียกว่า “งาสะเด็น” นั้นมีอานุภาพขับไล่วิญญาณร้ายหรือโรคร้ายได้     อ้างอิง กรมศิลปากร. ประณีตศิลป์ไทย. กรุงเทพฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์, ๒๕๓๖. กรมศิลปากร. มงคลพุทธคุณ เทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๖. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๖๕. สนั่น ธรรมธิ. โชค ลาง ของขลัง อารักษ์. เชียงใหม่ : สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๕๐.


            หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ขอเชิญร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่านผ่านสื่อดิจิทัล ของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 กุมภาพันธ์ 2567โดยค้นหาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (Ebook) ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.finearts.go.th/chiangmai.../categorie/dept-ebook           ทั้งนี้ หอสมุดแห่งชาติฯ เชียงใหม่ มีหนังสือดีที่น่าสนใจให้เลือกอ่านได้ตามความต้องการ 2 ประเภท คือ หนังสือหายากและหนังสือท้องถิ่น จำนวน 290 เล่ม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอ่าน Ebook แล้ว สามารถสแกน QR code หรือ คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ https://forms.gle/UjVhAZsC6LdkyJw19


black ribbon.