ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
เลขทะเบียน : นพ.บ.109/9ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 54 หน้า ; 4.6 x 54.5 ซ.ม. : ทองทึบ-ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 61 (179-187) ผูก 9 (2564)หัวเรื่อง : ธมฺมปทวณฺณนา ธมฺปทฎฺฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฺฐกถา (ธมฺมบท) --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.143/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 40 หน้า ; 5 x 52 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 86 (346-361) ผูก 4 (2564)หัวเรื่อง : ธมฺมปปทวณฺณนา ธมฺปฎฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฐกถา (ธรรมบท)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อผู้แต่ง นายหรีด เรืองฤทธิ์
ชื่อเรื่อง ประชุมแหล่เครื่องเล่นมหาชาติ เล่ม1
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งแรก
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์วัฒนพานิช
ปีที่พิมพ์ 2497
จำนวนหน้า 487 หน้า
หมายเหตุ แหล่เครื่องเล่นต่างๆที่รวบรวมเวลานี้เป็นสำนวนแต่งในสมัย ร 1ถึงร 7 อแห่กรุงรัตนโกสินทร์แหล่เครื่องเล่นเป็นแหล่นอกเรื่องมหาชาติแต่งขึ้นเป็นบทกลอนต่างๆสำหรับร้องประกอบแหล่มหาชาติ
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
เลขที่ ชบ.บ.12/1-2
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง : ประมวลพิธีมงคลของไทยชื่อผู้แต่ง : จันทร์ ไพจิตร ปีที่พิมพ์ : 2509 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์เลี่ยงเชียงจำนวนหน้า : 488 หน้า สาระสังเขป : เป็นหนังสือที่ประมวลพิธีต่างๆ ตั้งแต่เกิดตลอดจนมีชีวิต – ตาย และตายไปแล้ว พิธีทั้งหลายมีอยู่ในหนังสือครบบริบูรณ์ จึงเหมาะแก่พ่อบ้าน สมภารเจ้าวัด ภิกษุ สามเณร และบุคลลทั่วไป ในหนังสือนี้ พิธีบางอย่าง นอกจากจะกล่าวจำเพาะเจาะจงแล้ว ข้าพเจ้าพยายามให้ความรู้ในเรื่องเดียวกันกว้างออกไป ตามที่เห็นสมควร บางอย่างก็กล่าวไว้รวบรัด ตามที่เห็นว่า สำเร็จประโยชน์พอต้องการของผู้กระทำ อย่างไรก็ดี หนังสือเล่มนี้ จักเป็นเสมือนผู้ให้ความสะดวกแก่การกระทำพิธีมงคลต่างๆ บ้างมิใช่น้อย
ชื่อเรื่อง วินยสงฺเขป (วินัยฮอม)
สพ.บ. 389/1ก
หมวดหมู่ พุทธศาสนา
ภาษา บาลี/ไทยอีสาน
หัวเรื่อง พุทธศาสนา
พระวินัยปิฎก
ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลาน
ลักษณะวัสดุ 32 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 57.5 ซม.
บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ-ล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
วันศุกร์ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร และคณะ ตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับและรายงานการดำเนินการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับโบราณสถาน ณ วัดไชยวัฒนาราม พร้อมตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์น้ำโบราณสถานหมู่บ้านโปรตุเกส วัดธรรมาราม โบราณสถานวัดกษัตราธิราชวรวิหาร และโบราณสถานป้อมเพชร เนื่องจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มภาคกลาง ที่มีแม่น้ำ ๓ สาย ไหล ผ่าน ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี จึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออุทกภัยมาตั้งแต่อดีต ยังคงปรากฏความเสี่ยงด้านต่างๆ รวมถึงอุทกภัยที่อาจมีผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก กรมศิลปากรจึงได้บรรจุแผนงานมาตรการลดผลกระทบจากภัยพิบัติไว้ในร่างแผนปฏิบัติการการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พุทธศักราช ๒๕๖๕ – ๒๕๗๔ โดยปัจจุบัน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ยังคงดำเนินงานตามมาตรการป้องกันผลกระทบจากภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่มรดกโลกอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรี อยุธยา มีการบริหารจัดการเป็นขั้นตอน การประเมินความเสี่ยง มีการวิเคราะห์ปัญหาและทำแผนการทำงานร่วมกับ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีการดำเนินงานร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในการเตรียมความพร้อมป้องกัน แก้ไขปัญหา และมาตรการบรรเทาภัยพิบัติจากอุทกภัย รวมทั้งซักซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธรณภัยในกรณีอุทกภัย สำหรับมาตรการการป้องกันอุทกภัยในระดับพื้นที่โดยวิธีการสร้างเขื่อน แนวป้องกันน้ำท่วม เป็น ภารกิจที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาดำเนินงานเป็นประจำในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคม - ตุลาคม เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับที่สูงขึ้นเนื่องจากน้ำจากทางเหนือ และน้ำจากเขื่อนสำคัญที่ปล่อยลงมาเพื่อลงสู่ทะเลมีปริมาณที่มากกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่และโบราณสถานสำคัญที่อยู่ใกล้ชิดแม่น้ำและเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยในทุกปีจะมีการซักซ้อมการตั้งแผงป้องกัน น้ำท่วม การตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งานเสมอ นอกจากนี้ยังมีการประสานงานร่วมกับสำนักงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในการเตรียมความพร้อมอุปกรณ์และวิธีการป้องกันภัย และประสานงานร่วมกับกรมชลประทาน และกรมอุตุนิยมวิทยา ในการวางแผนป้องกันพื้นที่ โดยพื้นที่โบราณสถานและสถานที่สำคัญที่มีการดำเนินงานป้องกันอุทกภัย ได้แก่ ๑. โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ใช้วิธีการป้องกันน้ำท่วมโดยวิธีการตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมรูปแบบที่ สามารถยกตั้งขึ้นและพับเก็บได้บริเวณด้านตะวันออกของวัดริมแม่น้ำ แนวป้องกันน้ำท่วมมีความยาว ๑๖๐ เมตร สูงจากผิวบนสุดของขอบตลิ่ง ๑.๘๐ เมตร และสามารถต่อความสูง เพิ่มเติมเป็น ๒.๘๐ เมตร ส่วนด้านใต้ ด้านตะวันตก มีแนวกำแพงป้องกันน้ำถาวรก่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนด้านเหนือใช้แนวทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔๖๙ ๒. วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ใช้วิธีการป้องกันน้ำท่วมโดยวิธีการตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมรูปแบบที่สามารถ ยกตั้งขึ้นและพับเก็บได้ ป้องกันรอบเขตพุทธาวาสและเขตสังฆาวาสของวัด แนวป้องกันน้ำท่วมมีความยาวประมาณ ๓๐๘ เมตร สูงจากพื้นประมาณ ๑.๗๐ เมตร ๓. วัดธรรมมาราม ใช้วิธีการป้องกันน้ำท่วมโดยวิธีการตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมรูปแบบที่สามารถยก ตั้งขึ้นและพับเก็บได้ป้องกันบริเวณด้านตะวันออกของวัด ริมแม่น้ำ แนวป้องกันน้ำท่วมมีความยาวประมาณ ๑๓๐ เมตร สูงจากพื้นประมาณ ๑.๗๐ เมตร ๔. พื้นที่ด้านตะวันตกของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา (บริเวณเจดีย์พระสุริโยทัย) ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ เจ้าพระยามีความแคบ ในช่วงฤดูน้ำหลากของทุกปีระดับน้ำมักขึ้นสูง จนล้นระดับ แนวตลิ่ง ลักษณะของการป้องกันน้ำท่วมโดยตั้งแผงป้องกันรูปแบบที่สามารถยกตั้งขึ้นและพับเก็บได้ ป้องกัน บริเวณด้านตะวันตกของเกาะเมืองพระนครศรี อยุธยา แนวป้องกันน้ำท่วมมีความยาวประมาณ ๕๖๐ เมตร สูงจากพื้นประมาณ ๑.๗๐ เมตร ๕. วัดเชิงท่า ตั้งอยู่ด้านเหนือนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาริมคลองเมือง (แม่น้ำลพบุรี) ในช่วงฤดู น้ำหลากของทุกปีระดับน้ำมักขึ้นสูงจนล้นระดับแนวตลิ่ง ลักษณะของการป้องกันน้ำท่วมใช้วิธีการการตั้งแนวกระสอบทราย ป้องกันบริเวณด้านใต้และด้านตะวันตกของวัด ๖. พื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา (บริเวณหัวรอ) เป็นพื้นที่ชุมชนและ ย่านการค้าสำคัญ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก (คูขื่อหน้า) ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่น้ำล้นเข้าเมือง อีกทั้งยังเคยเป็นจุดแรกในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่น้ำล้นเข้ามาพื้นที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ลักษณะของการป้องกันน้ำท่วมโดยการก่อสร้างแนวตลิ่งคอนกรีตยกสูงบริเวณริมตลิ่ง ป้องกันบริเวณด้านตะวันออกของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ๗. โบราณสถานป้อมเพชร เป็นจุดที่แม่น้ำป่าสักบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงฤดูน้ำหลากของทุก ปีระดับน้ำมักขึ้นสูงจนล้นระดับแนวตลิ่ง ลักษณะของการป้องกันน้ำท่วมใช้วิธีการตั้งแนวกระสอบทราย ป้องกันบริเวณด้านใต้ของพื้นที่ ๘. โบราณสถานบ้านฮอลันดา อยู่ด้านใต้นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ลักษณะของการป้องกันน้ำ ท่วมใช้วิธีการตั้งแนวแผ่นป้องกันน้ำท่วมที่สามารถยกเก็บได้โดยรอบอาคารศูนย์ข้อมูล ๙. โบราณสถานบ้านโปรตุเกส อยู่ด้านใต้นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ลักษณะของการป้องกัน น้ำท่วมใช้วิธีการตั้งแนวแผ่นคอนกรีตที่สามารถยกเก็บได้ ป้องกันบริเวณด้านตะวันออกของพื้นที่ แนวป้องกันน้ำท่วม มีความยาวประมาณ ๓๓ เมตร สูงจากพื้นประมาณ ๒ เมตร ทั้งนี้ หากพื้นที่โบราณสถานได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรี อยุธยา กรมศิลปากรมีมาตรการรองรับตามขั้นตอนและตามหลักการอนุรักษ์ต่อไปภาพ : โบราณสถานวัดไชยวัฒนารามภาพ : โบราณสถานหมู่บ้านโปรตุเกสภาพ : วัดธรรมมารามภาพ : โบราณสถานวัดกษัตราธิราชวรวิหารภาพ : โบราณสถานป้อมเพชร
เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๔๙๘ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเยือนราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระองค์ทรงพบว่าราษฎรส่วนใหญ่ประสบความเดือดร้อนเนื่องจากพืชผลเสียหายทั้งจากฝนแล้งและน้ำท่วม ทำให้ทรงเกิดแนวคิดในการแก้ปัญหาดังกล่าวในขณะนั้นว่า
“...สมควรที่จะสร้างฝายหรือเขื่อนขนาดเล็ก (Check dams) และอ่างเก็บน้ำจำนวนมากขวางทางน้ำ เพื่อป้องกันหรือลดความรุนแรงการไหลบ่า และเก็บกักน้ำไว้ในฤดูแล้งซึ่งเป็นการบรรเทาสภาวะแห้งแล้งได้ทางหนึ่ง”
นอกจากนี้ พระองค์ยังมั่นพระทัยว่าน่าจะนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาช่วยให้เกิดฝนได้ และน่าจะมีวิธีการที่จะรวมเมฆที่กระจายอยู่ในท้องฟ้าให้รวมตัวกันเกิดเป็นฝนตกลงสู่พื้นที่แห้งแล้งได้ อันเป็นเป็นต้นกำเนิดของแนวพระราชดำริที่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนเป็น “โครงการพระราชดำริฝนหลวง” ในปัจจุบัน
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๔๕ ให้วันที่ ๑๔ พฤศจิกายนของทุกปี เป็น “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะ “พระบิดาแห่งฝนหลวง” และเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกายพระราชทานโครงการเพื่อความกินดีอยู่ดีของพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด
เรียบเรียง : นางสาวนัทธมน จิตเจตน์ นักจดหมายเหตุชำนาญการ
ที่มา : ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน. ๑๔ พฤศจิกายน วันพระบิดาแห่งฝนหลวง. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔, จาก: http://huahin.royalrain.go.th/prabidaday.php
ภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ร.๙
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (วิภังค์-มหาปัฏฐาน)
สพ.บ. 377/6ขประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 66 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 58 ซม.หัวเรื่อง ธรรมเทศนา
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทย-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ-ล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี