ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,757 รายการ
อัปสร หรือนางอัปสร เป็นชื่อเรียกสิ่งวิเศษอย่างหนึ่งซึ่งดินแดนต่าง ๆ ที่ได้รับอิทธิพลศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูจากชมพูทวีปจะคุ้นเคยกันในรูปของ “เทวดาผู้หญิง” รูปร่างงดงามแต่งกายด้วยถนิมพิมพาภรณ์อันมีค่าโดยทำเป็นประติมากรรมประดับอยู่ตามศาสนสถานบ้าง พบในจิตรกรรมฝาผนังเขียนประดับอยู่ภายใน
ศาสนสถานบ้าง หรือในภาพวาดทางศาสนาบ้าง กำเนิดของนางอัปสรมีกล่าวถึงในคัมภีร์หลายฉบับ อาทิ วิษณุปุราณะ อัคนิปุราณะ หรือแม้แต่รามายณะ ต่างระบุตรงกันว่านางอัปสรเป็นของวิเศษหนึ่งที่เกิดจากการกวนเกษียรสมุทร (มหาสมุทรน้ำนม) โดยในคราวนั้น พระอินทร์ทรงต้องคำสาปจากฤๅษีทุรวาสทำให้ทรงอ่อนแอลง จำเป็นต้องเสวยน้ำอมฤตที่ได้จากการกวนเกษียรสมุทรเพื่อฟื้นฟูพละกำลัง แต่การกวนเกษียรสมุทรเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้กำลังมากมายมหาศาล จึงมีการเจรจาสงบศึกระหว่างเทพกับอสูรเป็นการชั่วคราวเพื่อขอให้เหล่าอสูรมาช่วยในการกวนเกษียรสมุทรโดยสัญญาว่าจะแบ่งน้ำอมฤตให้ ทว่าในระหว่างการกวนเกษียรสมุทรนอกจากได้น้ำอมฤตแล้วยังเกิดของวิเศษต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพชรพลอย ต้นกัลปพฤกษ์ หรือต้นปาริชาติ เป็นต้น ผุดขึ้นมาจากเกษียรสมุทรซึ่งรวมถึงนางอัปสรด้วย บางตำนานยังได้กล่าวว่าพระนางลักษมี พระชายาของพระวิษณุก็ถือกำเนิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อที่ใช้เรียกเหล่านางวิเศษที่ผุดขึ้นมาจากการกวนเกษียรสมุทรนี้ว่า อัปสร ซึ่งเป็นคำภาษาสันสกฤตที่เกิดจากการผสมคำว่า อัป (น้ำ) เข้ากับคำว่า สรา (เคลื่อนไหว) แปลได้ว่า ผู้เคลื่อนไหวในน้ำ หรือผู้
ที่อาศัยในน้ำ นั่นเอง
แม้นางอัปสรที่ผุดขึ้นมาจะมีรูปร่างหน้าตางดงาม สามารถร่ายรำและขับร้องได้อย่างไพเราะ จนได้รับหน้าที่สร้างความรื่นรมย์ให้กับเหล่าเทวดาและชาวสวรรค์ แต่นางอัปสรก็ยังมีบทบาทปรากฏในตำนานมากมาย เช่น เรื่องราวของฤๅษีวิศวามิตร ที่บำเพ็ญเพียรแก่กล้าจนพระอินทร์ทรงต้องส่งนางอัปสรชื่อ "เมนกา" ลงมารบกวนการบำเพ็ญเพียรและให้กำเนิดนางศกุนตลา มเหสีของท้าวทุษยันต์และมารดาของท้าวภรต บรรพบุรุษของเหล่าปาณฑพและเการพในมหากาพย์มหาภารตะ นอกจากนี้ เรายังพบว่าในงานศิลปกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูมีการใช้ภาพลักษณ์ของนางอัปสรเป็นตัวแทนของสวรรค์ เช่น การประดับนางอัปสรตามส่วนต่าง ๆ ของปราสาทหิน อาทิ ผนัง ทับหลัง เสากรอบประตู กระเบื้องเชิงชาย ซึ่งเป็นการประดับในเชิงสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าศาสนสถานนั้นเปรียบเสมือนสรวงสวรรค์และแนวคิดดังกล่าวก็ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
----------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก
https://www.facebook.com/profile/100068573273249/search/?q=%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%A3
วัดมหาธาตุวรวิหาร ราชบุรี หรือเดิมเรียกว่า วัดหน้าพระธาตุ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๗ ถนนเขางู ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญของเมืองราชบุรีตั้งอยู่บริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง
วัดมหาธาตุ พบหลักฐานที่น่าสนใจ และสร้างความประหลาดใจต่อผู้ที่พบเห็น คือ บริเวณด้านหน้าองค์พระปรางค์มีวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ชนกัน จำนวน ๕ หลังวิหารทั้ง ๕ หลัง ประกอบด้วย
๑. วิหารหลวง ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าพระปรางค์ วางตัวในแนวแกนทิศตะวันออก - ตะวันตก ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ชนกัน ๒ องค์ คือ พระมงคลบุรี และพระศรีนัคร์ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นแกนด้านในทำจากหินทรายสีแดง ขนาดเท่ากันวางตัวในแกนทิศตะวันออก - ตะวันตก เช่นเดียวกับตัวอาคาร
๒. วิหารราย ๒ หลัง ตั้งอยู่ขนาบกับวิหารหลวงทั้งสองด้าน วางตัวแนวแกนทิศตะวันออก – ตะวันตก เช่นเดียวกับวิหารหลวง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ชนกัน ในขนาดที่ต่างกัน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานด้านหน้า พระพุทธรูปองค์เล็กประดิษฐานด้านหลัง หันพระพักตร์ทางทิศตะวันออก - ตะวันตก ตามแนวแกนวิหาร
๓. วิหารราย ๒ หลัง ตั้งอยู่ด้านหน้าถัดออกไปจากวิหารรายในข้อ ๒ วางตัวแนวแกนทิศเหนือ – ใต้ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ชนกัน ในขนาดที่ต่างกัน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานด้านหน้า พระพุทธรูปองค์เล็กประดิษฐานด้านหลัง หันพระพักตร์ทางทิศเหนือ - ใต้ ตามแนวแกนวิหาร
พระพุทธรูปเหล่านี้ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างแน่ชัด แต่ด้วยรูปแบบทางศิลปะของพระพุทธรูปทั้งหมดในวิหารแต่ละหลัง มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยา อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๐ - ๒๒ พระพุทธรูปเหล่านี้ถูกเคลื่อนย้ายมาจากวัดร้างที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงวัดมหาธาตุ เช่น วัดลั่นทมที่อยู่ทางทิศใต้ วัดอุทัยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วัดโพธิ์เขียวหรือวัดเพรงที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เป็นต้น การประดิษฐานให้พระพุทธรูปสององค์ให้นั่งหันหลังชนกันนั้น ก็ไม่ปรากฏมูลเหตุแน่ชัด อาจจะเป็นความตั้งใจที่ต้องการให้ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองบ้านเมืองทั้งสี่ทิศ เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่บ้านเมืองมีศึกสงครามอยู่บ่อยครั้งก็เป็นได้
--------------------------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี
https://www.facebook.com/ilove.ratchaburi.national.museum/posts/pfbid02Ncda16WY8AwtmWLF3omd2XLc2Zn1eGsQZLDSJp4HqjsCzf6xZWVXfdkXmXXgM6Vxl*เผยแพร่ข้อมูลทางเว็บไซต์ โดยกลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท มีพระนามเดิมว่า บุญมา ประสูติเมื่อ วันพฤหัสบดี เดือน ๑๑ ขึ้น ๑ ค่ำ ปีกุน จ.ศ. ๑๑๐๕ (ตรงกับวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๒๘๖) พระราชบิดารับราชการในราชสำนักกรุงศรีอยุธยามีบรรดาศักดิ์เป็นพระพินิจอักษร (ทองดี) ส่วนพระชนนีมีพระนามว่า ดาวเรือง (บางเอกสารกล่าวว่าชื่อ หยก) ทรงเป็นพระอนุชาของ นายทองด้วง (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี) เมื่อเจริญพระชนมพรรษาได้รับราชการอยู่กรมมหาดเล็กในราชสำนักอยุธยา ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พระองค์หลบหนีทหารพม่าไปเข้าร่วมเป็นทหารในกองทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินตีเมืองจันทบุรีและขับไล่พม่าที่เมืองธนบุรี พระองค์ได้ดำรงตำแหน่งเป็นพระมหามนตรีเจ้ากรมตำรวจ ตลอดสมัยกรุงธนบุรีพระองค์เป็นทหารเอกคนสำคัญของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้รับการเลื่อนยศหลายครั้งในตำแหน่ง พระยาอนุชิตราชา พระยายมราช และพระยาสุรสีห์พิษณุวาธิราชผู้สำเร็จราชการเมืองพิษณุโลก ตามลำดับ ด้วยพระอัธยาศัยที่กล้าหาญ เข้มแข็งและเด็ดขาด จึงมีพระสมัญญานามว่า “พระยาเสือ” พ.ศ. ๒๓๒๕ เมื่อสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) พระเชษฐาของพระองค์ พระราชทานอุปราชาภิเษกเจ้าพระยาสุรสีห์ สมเด็จพระอนุชาธิราช เป็นพระมหาอุปราช ตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ประทับ ณ พระราชวังบวรสถานมงคล ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพระบรมมหาราชวัง โดยเป็นพระราชวังที่ถ่ายแบบมาจากพระราชวังจันทรเกษม กรุงศรีอยุธยา และมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่แตกต่างไปจากวังหลวง อาทิ หลังคาชั้นเดียวเป็นหลังคาทรงจั่ว มุงด้วยกระเบื้องดินเผา คันทวยรองรับหลังคาเป็นรูปนาคประดับพันธุ์พฤกษา หมู่พระวิมานไม่ทำซุ้มประตูหน้าต่าง (ยกเว้นพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์) รูปแบบเช่นนี้ต่างจากงานสถาปัตยกรรมในพระบรมมหาราชวังที่นิยมทำอาคารที่แสดงฐานันดรชั้นสูง อาทิ การทำซ้อนชั้นหลังคา ทรงยอดปราสาท ประตูหน้าต่างประดับด้วยซุ้มปูนปั้นอย่างไทยประเพณี เช่น ซุ้มบันแถลง ซุ้มยอดมงกุฎ เป็นต้น ตลอดสมัยรัชกาลที่ ๑ พระองค์ยังคงมีบทบาทในการทำสงครามอยู่หลายครั้ง ได้แก่ สงครามเก้าทัพที่ตำบลลาดหญ้า (พ.ศ. ๒๓๒๘) สงครามขับไล่พม่าที่ท่าดินแดง (พ.ศ. ๒๓๒๙) สงครามตีเมืองทวาย (พ.ศ. ๒๓๓๐) สงครามขับไล่พม่าที่เมืองเชียงใหม่ (พ.ศ. ๒๓๓๘) ภายหลังเสร็จศึกกับพม่า เจ้าเมืองเชียงใหม่ได้ทูลเกล้าฯ ถวาย พระพุทธสิหิงค์ พระองค์ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ลงมาประดิษฐานไว้ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในคราวสงครามป้องกันพม่าที่เมืองเชียงใหม่ (พ.ศ. ๒๓๔๕) สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงยกทัพออกไปรบร่วมกับสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ แต่ระหว่างทางที่พระองค์เสด็จ พระองค์เกิดประชวรด้วยพระโรคนิ่วที่เมืองเถิน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงทรงมีรับสั่งให้กรมพระราชวังหลังเสด็จขึ้นไปช่วยในการศึกจนกระทั่งสามารถชนะทัพฝ่ายพม่าได้ในที่สุด ขณะเดียวกันสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาททรงใส่พระทัยในพระราชกรณียกิจด้านศาสนา โดยเฉพาะการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดหลายแห่งในพื้นที่ฝั่งพระนคร ได้แก่ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ (พระองค์พระราชทานนามว่า วัดนิพพานาราม) วิหารคดวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) หอมณเฑียรธรรมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดชนะสงคราม (วัดตองปุ) วัดสังเวชวิศยาราม (วัดบางลำพู) วัดเทวราชกุญชร (วัดสมอแครง) วัดราชาธิวาส (วัดสมอราย) และวัดปทุมคงคา (วัดสำเพ็ง) วัดในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ได้แก่ วัดครุฑ วัดสุวรรณคีรี (วัดขี้เหล็ก) ส่วนวัดในหัวเมือง เช่น วัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี นอกจากนี้พระองค์ยังมีงานวรรณกรรมที่ทรงพระนิพนธ์ไว้หลายเรื่อง ได้แก่ เพลงยาวถวายพยากรณ์ (พ.ศ. ๒๓๓๒) พระนิพนธ์ในคราวที่เกิดอัสนีบาตตกมาหน้าบันมุขเด็จพระที่นั่งอินทราภิเษก (ต่อมาถูกรื้อลงแล้วสร้างพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นแทน) เพลงยาวรบพม่าที่นครศรีธรรมราช (พ.ศ. ๒๓๒๙) พระนิพนธ์เมื่อครั้งยกทัพไปรบพม่าที่ตั้งทัพอยู่ทางหัวเมืองภาคใต้ เพลงยาวเรื่องตีเมืองพม่า (พ.ศ. ๒๓๓๐) พระนิพนธ์ในคราวยกทัพไปตีเมืองทวาย ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) ได้กล่าวว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ประชวรเป็นโรคนิ่วนับตั้งแต่ที่พระองค์ยกทัพขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ แต่ใน พระนิพนธ์เรื่อง “นิพานวังน่า” ของ พระองค์เจ้าหญิงกัมพุชฉัตร ซึ่งเป็นพระธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้บันทึกไว้ว่าสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท มีพระประชวรด้วยโรควัณโรคอย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๔๕ พระอาการก็ทรุดลงตามลำดับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมและทอดพระเนตรการรักษาเป็นเวลา ๖ วัน ถึงวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ แรม ๔ ค่ำ จ.ศ.๑๑๖๕ (ตรงกับวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๔๖) สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งบูรพาภิมุข พระราชวังบวรสถานมงคล พระชนมายุได้ ๖๐ พรรษา ทรงดำรงพระอิสริยยศกรมพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นเวลา ๒๑ ปี------------------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล: องค์ความรู้ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร https://www.facebook.com/fineartskm/photos/a.101668655251661/255099879908537/-----------------------------------------------------------อ้างอิง กรมศิลปากร. กรมพระราชวังบวรสถานมงคลสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์, ๒๕๕๕. . สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๔๗. กัมพุชฉัตร, พระองค์เจ้าหญิง. นิพานวังน่า. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: มติชน, ๒๕๔๓. ทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค), เจ้าพระยา. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑. (กรุงเทพฯ : บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), ๒๕๓๙.
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 26/6ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 28 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 55 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
องค์ความรู้ : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่เรื่อง "ช่างล้านนา" หลักฐานจากเอกสารโบราณ “ล้านนา” ดินแดนที่มีอาณาเขตอยู่บริเวณแถบภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมขอบเขต ๘ จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน เป็นอาณาจักรที่มีความเป็นมาและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถือเป็นแหล่งอารยธรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ด้วยพบหลักฐานวัตถุทางวัฒนธรรม ทั้งเครื่องมือเครื่องใช้และผลงานศิลปกรรมตามแหล่งโบราณคดีต่างๆ รวมถึงมีวัฒนธรรมและประเพณีพื้นเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท้องถิ่น หรือที่เรียกว่า ศิลปวัฒนธรรมล้านนา อันเป็นภูมิปัญญาของคนล้านนา ด้วยความเจริญรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรมล้านนาจากอดีตกาลจนถึงปัจจุบัน เอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่นอย่างหนึ่งที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งนับว่าเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาติคือ งานช่างล้านนา จากการศึกษาเอกสารโบราณทางประวัติศาสตร์ กฎหมาย ศาสนา ภาษาและวรรณกรรม ทั้งจารึก พงศาวดาร ตำนาน คัมภีร์ใบลาน และวรรณกรรมพื้นบ้าน ปรากฏหลักฐานว่ามีการกล่าวถึงวิชาชีพช่างและงานช่างฝีมือหลายแขนงของล้านนาโบราณ "ช่างล้านนา" ถือเป็นวิชาชีพที่มีมาตั้งแต่โบราณ ดังจะเห็นได้จากหลักฐานที่ปรากฏในเอกสารโบราณ ทั้งจารึก พงศาวดาร ตำนาน คัมภีร์ใบลาน และวรรณกรรมพื้นบ้านมากมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของช่างในสังคมล้านนาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน นับเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันเป็นสมบัติล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ สั่งสม และสืบทอดมาถึงคนรุ่นต่อรุ่น ที่ควรค่าแก่การสืบทอดและรักษาให้องค์ความรู้ภูมิปัญญาของช่างล้านนาทั้งในอดีตและปัจจุบันนี้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน เพราะงานช่างล้านนาไม่ได้แค่อาชีพของคนในท้องถิ่นเท่านั้น หากแต่ยังเป็นองค์ความรู้และภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สะท้อนอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมเฉพาะของท้องถิ่นและประเทศชาติด้วยเช่นกัน ผู้เรียบเรียง นางสาวสุคนธ์ทิพย์ จันทะลุน บรรณารักษ์ชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ดาวน์โหลดเอกสารฉบับเต็ม (Full text) http://www.finearts.go.th/.../gmwkArCrf1IKN59cz2gma8mSLqw...สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 34/6ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 24 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 53.5 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 129/6 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 165/5 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 19/6ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 32 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
เรียกว่าเป็นเกม Singleplayer ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ณ ขณะนี้ ที่เหล่าสตรีมเมอร์ชื่อดังหลาย ๆ คน เลือกที่จะไม่พลาดการเล่น กับเกมในจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์ล่าสุดในชื่อ “HOGWARTS LEGACY” โดยเว็บไซต์ SteamDB รายงานว่า ในช่วง ๖ ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดถึง ๘๐๗,๑๑๒ คน ถือเป็นเกมที่มีกระแสตอบรับดีมากเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี เกมนี้ยังมีกระแสดราม่า เนื่องจากกลุ่ม Woke และผู้ต่อต้านนักเขียนนิยายแฟนตาซีจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์ – คุณเจ. เค. โรว์ลิ่ง ได้รวมตัวกันประกาศคว่ำบาตรเกมนี้ รวมถึงคนในกลุ่มดังกล่าวจำนวนหนึ่ง ยังตามก่อกวนซึ่งส่งผลกระทบถึงสตรีมเมอร์ที่ออกมาไลฟ์เกมนี้กันถ้วนหน้า ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น หอสมุดขอสรุปเรื่องราวประเด็นดราม่านี้กันค่ะ
เริ่มจากเดือนธันวาคม ๒๐๑๙ Maya Forstater นักวิจัยวัย ๔๕ ปี ทวีตข้อความในเชิงแสดงความเห็น ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของ Trans (หนึ่งในตัวย่อของชื่อย่อ LGBTQ+ โดยตัวอักษร T ย่อจาก Trans ที่แปลว่าคนข้ามเพศ หมายถึง ผู้ชายที่ต้องการแสดงออกเป็นหญิง และผู้หญิงที่ต้องการแสดงออกเป็นชาย) เพราะเชื่อว่าเพศต้องถูกแบ่งตามโครโมโซม ตามหลักชีววิทยา ไม่ใช่แบ่งตามความรู้สึก หลังจากที่เธอเผยแพร่ทวีตออกไป ก็โดนโลกออนไลน์โจมตีว่าเป็นพวกเหยียดเพศ สุดท้ายไม่ได้รับการต่อสัญญาจากองค์กรที่ทำงานอยู่
จากนั้น เจ. เค. โรว์ลิ่ง ผู้เขียนนิยายแฟนตาซีชื่อดังแฮร์รี่ พอตเตอร์ ออกมาตอบโต้ เธอทวีตข้อความในเชิงตั้งคำถามที่สรุปได้ว่า “Trans มีสิทธิ์ที่จะดำรงชีวิตอย่างไรก็ได้ แต่การที่ไปทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องโดนไล่ออกจากงาน เพราะเธอแสดงความเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับ Trans มันไม่ถูกต้องหรือเปล่า ?” เมื่อแสดงความเห็นแบบนั้น แน่นอนว่าทำให้เธอโดนวิจารณ์อย่างหนัก ว่าเป็นเธอเป็น TERF หรือที่แปลว่า ผู้นิยมสิทธิสตรีหัวรุนแรงที่กีดกันบุคคลข้ามเพศ ซึ่งการทวีตของเธอ สร้างความผิดหวังให้แฟนหนังสือที่เป็นกลุ่ม Trans อย่างมาก
ต่อมาในเดือนมิถุนายน ๒๐๒๐ เธอไปเห็นข่าวหนึ่งที่ใช้พาดหัวว่า People who menstruate หรือ “คนที่มีประจำเดือน” ซึ่งผู้เขียนนั้นเลือกใช้คำนี้ เพราะมองว่าคนที่มีประจำเดือน ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้ชายข้ามเพศก็ยังสามารถมีประจำเดือนได้ เธอจึงออกมาทวีต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอมีความเชื่อ “Sex is real” หมายถึง เพศต้องแบ่งเป็นเชิงชีววิทยา คือมีแค่ชายกับหญิงเท่านั้น ซึ่งเธอก็โดนต่อว่า ว่าเป็น Transphobia คือพวกที่ไม่ต้องการให้คนข้ามเพศมีสิทธิเทียบเท่ากับชายหรือหญิง
แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานแล้ว แต่เจ. เค. โรว์ลิ่ง ยังคงถูกต่อต้านจากกลุ่ม Trans มาตลอด โดยจะคว่ำบาตรทุก ๆ ผลงานที่เธอสรรสร้าง
และในปี ๒๐๒๓ นี้ ค่ายเกม Avalance Software เปิดตัวเกมชื่อ Hogwarts Legacy ลงขายทั้งในแพลตฟอร์ม PlayStation, XBOX และใน PC เป็นเกมที่จะเล่าเรื่องราวของโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา ๑๐๐ ปีก่อนหน้าที่นิยายแฟนตาซีแฮร์รี่ พอตเตอร์ จะเริ่มต้นขึ้น
โดยเกมนี้ได้รับคำชื่นชมจากสื่อสายเกมต่าง ๆ แทบทั้งหมดว่า เป็นเกมในจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่ดีที่สุด พร้อมเรตติ้งคะแนน ๙ เต็ม ๑๐ เป็นส่วนใหญ่ จากกระแสตอบรับที่ดีของเกม ทำให้กลุ่มสตรีมเมอร์ทั่วโลก ต่างพากันแคสต์เกมนี้อย่างพร้อมเพรียง และยอดขายของเกมก็พุ่งทะยานเป็นอันดับ ๑ ในปีนี้ แต่ก็มีดราม่าเกิดขึ้น เพราะเกม Hogwarts Legacy ถือเป็นส่วนหนึ่งในจักรวาลของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ต้องได้รับการอนุมัติจากเจ. เค. โรว์ลิ่ง ในการสร้าง ทำให้กลุ่ม Woke ที่สนับสนุนความเท่าเทียม และสนับสนุน Trans จึงรวมตัวกันต่อต้าน และคว่ำบาตรเกมนี้
ดราม่ารุนแรงมากขึ้น โดยกลุ่ม Woke นั้นได้โจมตีทั้งสำนักข่าวเกม และกลุ่มสตรีมเมอร์ที่แคสต์เกมนี้ในต่างประเทศ เช่นเดียวกับที่ประเทศไทย คุณ “เอก Heartrocker” สตรีมเมอร์ชื่อดัง ก็ถูกโจมตีด้วยถ้อยคำหยาบคาย ระหว่างที่เล่นเกม Hogwarts Legacy อยู่นั้น ว่าเป็นพวกสนับสนุนคนเหยียดเพศ ซึ่งทำให้เจ้าตัวประกาศออกมาว่า จะรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อดำเนินการทางกฏหมายอย่างจริงจังกับผู้ที่จงใจฉวยโอกาสด่าทอจากการเล่นเกมนี้
นี่เป็นเพียงการสรุปประเด็นดราม่านี้จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ที่หอสมุดหยิบยกเรื่องนี้มากล่าวถึงเพราะที่หอสมุดเอง ก็มีนิยายแฟนตาซีจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์ ของคุณเจ. เค. โรว์ลิ่ง มีให้บริการอยู่ ณ ห้องหนังสือทั่วไป, หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา หากผู้ใดสนใจแนวคิดของนักเขียนเจ. เค. โรว์ลิ่ง ก็สามารถมาใช้บริการศึกษาอ่านหนังสือได้นะคะ
อ้างอิง
Jordan Moreau. J.K. Rowling Gets Backlash Over Anti-Trans Tweets. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2566, จาก: https://variety.com/.../jk-rowling-transphobic-tweets.../
Fiona Ward. A breakdown of the J.K Rowling transgender comments and why the Hogwarts Legacy video game is so controversial. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2566, จาก: https://www.glamourmagazine.co.uk/.../jk-rowling...
Gemma Stone. The Maya Forstater case, what happened?. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2566, จาก: https://medium.com/.../the-maya-forstater-case-what...
Helen-Ann Smith. Maya Forstater: Woman who lost job over transgender views warns of 'scary' precedent if her tribunal appeal fails. [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2566, จาก: https://news.sky.com/.../maya-forstater-woman-who-lost...
จัดทำโดย
พัชมณ ศรีสัตย์รสนา
บรรณารักษ์ชำนาญการ
ชื่อเรื่อง : จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวภาค 23 นางฉอ้อน รักวานิช และ บุตร,ธิดา พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นายขันลือ รักวานิช ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2510 ชื่อผู้แต่ง : จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จ ปีที่พิมพ์ : 2510 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์เลี่ยงเซียงจงเจริญจำนวนหน้า : 124 หน้า สาระสังเขป : หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้น เนื่องด้วย นางฉอ้อน รักวานิช และบุตร ธิดา พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นายขันลือ รักวานิช ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2510 เป็นเรื่องของทรงบันทึกพระราชกรณียกิจประจำวันตั้งแต่วันศุกร์ แรม 13 ค่ำ เดือนยี่ ปีจออัฐศก จุลศักราช 1248 ถึงวันอังคาร ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 7 ปีกุนนพศก ศักราช 1249