ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 40,767 รายการ
เลขทะเบียน : นพ.บ.161/5ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 38 หน้า ; 4.5 x 57.5 ซ.ม. : ทองทึบ-ล่องชาด ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 97 (35-48) ผูก 5 (2565)หัวเรื่อง : สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (พระอภิธรรมสังคิณี-พระมหาปัฎ) --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺมเทศนา (เทศนาสังคิณี-มหาปัฎฐาน)
ชบ.บ.46/1-5ค
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
มงฺคลตฺถทีปนี (มงฺคลตฺถทีปนี เผด็จมงคลสูตร)
ชบ.บ.88ข/1-29
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
เลขทะเบียน : นพ.บ.206/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 84 หน้า ; 5 x 55 ซ.ม. : ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 110 (148-158) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : ปฐมกัปป์--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.355/ข/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 60 หน้า ; 5 x 58 ซ.ม. : ทองทึบ-ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 136 (388-396) ผูก 1ข (2565)หัวเรื่อง : มหานิปาตวณฺณนา (ทศชาติ)ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฐกถา (นารทพรหม)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อผู้แต่ง ศิลปากร , กรม
ชื่อเรื่อง ราชพิพิธภัณฑ์
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์พระจันทร์
ปีที่พิมพ์ ๒๔๘๓
จำนวนหน้า ๓๖ หน้า
หมายเหตุ กรมศิลปกร พิมพ์ถวายพระภิกษุสามเณรในเทศการเข้าพรรษา พ.ศ. ๒๔๘๓
ราชพิพิธภัณฑ์เป็นสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง ซึ่งได้จัดตั้งเสร็จในงานวันชาติ พ.ศ. ๒๔๘๓ สมุดเล่มนี้ไม่ใช่คำอธิบายที่สมบูรณ์เป็นแต่ทำขึ้นสำหรับใช้ชั่วคราว
ชื่อเรื่อง : ประกาศการพระราชพิธี เล่ม 2 ชื่อผู้แต่ง : สมมตอมรพันธุ์ฯ, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ ปีที่พิมพ์ : 2508สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์คุรุสภา จำนวนหน้า : 356 หน้าสาระสังเขป : หนังสือประกาศการพระราชพิธี เล่ม 2 ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ฯ เล่มนี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมติอมรพันธุ์ ได้ทรงรวบรวมขึ้นจากได้ทรงรวบรวมขึ้นจากประกาศ และประกาศพระราชพิธีต่าง ๆ มีคำอธิบายเรื่องในบางฉบับด้วย อาทิ ประกาศพระราชพิธีรัชฎาภิเศก ประกาศเทวดาบรมราชาภิเศก รัชกาลที่ 4 ประกาศเทวดาบรมราชาภิเศก รัชกาลที่ 5 ประกาศสังเวยพระเจ้าแผ่นดินกรุงเก่า อย่างเก่า ประกาศสังเวยเทวดาและพระเจ้าแผ่นดินกรุงเก่าครั้งรัชกาลที่ 4 ประกาศสังเวยเทวดาและพระเจ้าแผ่นดินกรุงเก่าครั้งรัชกาลที่ 5 เป็นต้น
ชื่อเรื่อง นสพ. เล่ม 3 (เมย-มิย 2505 ฉ.264-281)ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือพิมพ์สำนักพิมพ์ คนสุพรรณปีที่พิมพ์ 2505ลักษณะวัสดุ 160 หน้า.ภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก
แนะนำหนังสือน่าอ่าน เรื่อง จันทบูร Shining moon.
เมธี จึงสงวนสิทธิ์. จันทบูร Shining moon. จันทบุรี: ไชน์นิ่งมูน , 2560. 264 หน้า. ภาพประกอบ.
จังหวัดจันทบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 240 กม. ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย ด้วยภูมิประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ป่าไม้ ภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบลุ่มน้ำ ที่ราบชายฝั่งทะเล โดยมีเทือกเขาหลายแห่ง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกที่มีชื่อเสียง เช่น น้ำตกพลิ้ว น้ำตกเขาสอยดาว น้ำตกกระทิง น้ำตกตรอกนอง น้ำตกคลองนารายณ์ อันเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำหลายสาย ที่ให้ความชุ่มชื้นตลอดทั้งปีเนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ทำให้จันทบุรีที่ไม่ร้อนเกินไปไม่หนาวเกินไป สามารถปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าว พืชไร่หลายชนิด และผลไม้เมืองร้อนเกือบทุกชนิด เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ กล้วยไข่ เป็นต้น ซึ่งผลไม้เศรษฐกิจสามารถส่งออกไปให้ผู้บริโภคได้ทั่วโลก โดยมีผลผลิตนับล้านตันต่อปี
ประวัติศาสตร์อันยาวนานของจังหวัดจันทบุรี ปรากฏหลักฐานเป็นเมืองเก่าแก่นับแต่สมัยเมืองเพนียด ร่องรอยทางอารยธรรมของโบราณสถานยังคงเล่าขานเรื่องราวความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ผ่านกาลเวลามาถึงยุคสำคัญในฐานะเมืองที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงยึดเป็นฐานที่มั่น รวบรวมกำลังไพร่พลเพื่อกอบกู้เอกราช และดำรงอยู่อย่างมั่นคงจวบจนปัจจุบัน ด้วยความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อ 2 ศาสนาหลัก คือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท นิกายมหายาน และศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ทำให้กระแสแห่งความศรัทธาที่ไหลหลั่งของศาสนิกชนชาวจันทบุรีก่อเกิด ศาสนสถานที่สำคัญทั้งวัดวาอาราม โบสถ์รอยพระพุทธบาท ล้วนรังสรรค์ด้วยความวิจิตรบรรจงทางสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และประติมากรรม ท่ามกลางวิถีวัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรมทางศาสนาและสังคมของชาวจันทบุรีที่ทรงพลังและงดงาม สิ่งเหล่านี้คือมนต์เสน่ห์ที่ทำให้จังหวัดจันทบุรีเป็นเมืองที่มีความสงบสุข ชวนให้หลงใหลที่จะมาเยี่ยมเยียน ครั้งแล้ว ครั้งเล่า
ท
915.9326
ม738จ
(ห้องจันทบุรี)
1. วิเคราะห์ประเมินเหตุการณ์2. ศึกษาภูมิหลังเเละประวัติ3. ลงมือบันทึกเหตุการณ์4. รวบรวมเอกสารและโสตทัศน์5. เรียบเรียงต้นฉบับบันทึกเหตุการณ์สำคัญ6. การจัดพิมพ์7. เผยเเพร่8. ประเมินคุณค่าเเละคัดเลือกเอกสารโสตทัศน์9. การทำลาย จัดหมวดหมู่เเละทำเครื่องมือช่วยค้นคว้า 10. ส่งมอบกลุ่มอนุรักษ์เอกสารและกลุ่มเอกสาร จดหมายเหตุและบริการศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ : คู่มือวิชาการพื้นฐานการบริหาร และจัดการงานจดหมายเหตุหน้า 239-281ที่มา : คู่มือวิชาการพื้นฐานการบริหารและจัดการงานจดหมายเหตุ
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 28/4ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 38 หน้า : กว้าง 4.9 ซม. ยาว 54.7 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
องค์ความรู้ ส่งเสริมการอ่านผ่านออนไลน์ เรื่อง “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 28 ธันวาคม”
วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม วันนี้มีความสำคัญต่อภาคตะวันออก เพราะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในขณะดำรงตำแหน่งเป็นพระยาวชิรปราการ ได้รวบรวมไพร่พล 500 คน ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกจากกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียกรุง มาตามหัวเมืองภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ตั้งมั่นที่จันทบุรีเพื่อรวบรวมกำลังไปกอบกู้เอกราช หลังจากนั้นได้ปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ในวันที่ 28 ธันวาคม
วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2311 เป็นวันปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระบรมราชาที่ 4” ซึ่งประชาชนเรียกพระนามว่า “พระเจ้าตากสิน” และได้สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชจากพม่าให้คืนมาแก่ประเทศไทย และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรีเพียงพระองค์เดียว
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงมีพระนามเดิมว่า "สิน” (ชื่อจีนเรียกว่า "เซิ้นเซิ้นซิน) พระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2277 ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล บิดาเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ชื่อ "นายไหฮอง” มารดาเป็นหญิงไทยชื่อ”นางนกเอี้ยง” ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (สมเด็จพระธรรมราชาธิราช ที่ 3) ซึ่งเจ้าพระยาจักรีได้ขอไปอุปการะเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย
ต่อมาเมื่ออายุครบ 13 ปี เจ้าพระยาจักรีได้นำตัวเด็กชายสิน ไปถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ครั้น พ.ศ. 2301 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทุมพรเสด็จขึ้นครองราชย์ได้ 3 เดือนเศษ ก็ถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเชษฐาธิราช "สมเด็จพระบรมราชาที่ 3” (สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์) สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นายสินมหาดเล็กรายงาน เป็นข้าหลวงเชิญท้องตราพระราชสีห์ไปชำระความที่หัวเมืองฝ่ายเหนือซึ่งปฏิบัติราชการได้รับความดีความชอบมากจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหลวงยกกระบัตร เมืองตาก ช่วยราชการพระยาตากครั้นพระยาตากถึงแก่กรรม ก็ทรงโปรดให้เลื่อนเป็น "พระยาตาก ปกครองเมืองตาก”
เมื่อปี พ.ศ. 2309 พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา ในสมัยพระเจ้าเอกทัศ และได้เสียกรุงแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 เหตุการณ์ในกรุงศรีอยุธยาขณะนั้นเกิดความระส่ำระสาย ทหารพม่าได้ล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ พระยาตากเห็นว่าคงสู้พม่าไม่ได้แล้ว จึงนำทหารจำนวนหนึ่งตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมาทางหัวเมืองภาคตะวันออก จนเข้ายึดเมืองจันทบุรี โดยใช้ช้างพังคีรีกุญชรพังประตูเมือง เข้ายึดเมืองจันท์ได้สำเร็จ เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 7 แรม 3 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เพลา 3 ยามเศษ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 03.00 น. หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือน และได้รวบรวมกำลังอยู่ที่เมืองจันทบุรี พระยาตากสามารถรวบรวมผู้คนกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาจากพม่าได้ภายในเวลา 7 เดือน
หลังจากได้กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนจากพม่าได้แล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าทางกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาผลาญเสียหายมากและยากที่จะ ฟื้นฟูให้เจริญเหมือนเดิมได้ พระองค์จึงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่กรุงธนบรี แล้วทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า “พระบรมราชาธิราชที่ 4” ต่อจากนั้นพระองค์ได้ยกกองทัพไปปราบปรามก๊กต่างๆ จนราบคาบ ทรงใช้เวลารวบรวมอาณาเขตอยู่ 3 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. 2311 - พ.ศ. 2313 จึงได้อาณาเขตกลับคืนมา รวมเป็นพระราชอาณาจักรเดียวกันดังเดิม
สมเด็จพระเจ้าตากสิน เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2325 สิริพระชนมายุได้ 48 พรรษา ทรงครองราชย์เป็นเวลา 15 ปี นับว่าเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ปกครองกรุงธนบุรี พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถกอบกู้ประเทศ ชาติให้เป็นเอกราชอิสรภาพตราบเท่าทุกวันนี้ ประชาราษฎร์ผู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงยกย่องถวายพระเกียรติพระองค์ท่านว่า“มหาราช”
คณะรัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่พระองค์ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เป็น "วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" และถวายพระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" เพื่อยกย่องพระองค์เป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ผู้กอบกู้เอกราชให้ชาติไทย และได้สร้างอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงเครื่องขัตติยาภรณ์ ประทับเหนืออัศวราชพาหนะ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ ประดิษฐานบนแท่งคอนกรีตเสริมเหล็ก ณ บริเวณวงเวียนใหญ่ ฝั่งธนบุรี
ส่วนที่จันทบุรี มีพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ สวนสาธารณะทุ่งนาเชย อำเภอเมืองจันทบุรี มีรูปลักษณะพระบรมรูปทรงม้าพระที่นั่งออกศึก ทรงเครื่องกษัตริย์นักรบ ขนาดสองเท่าครึ่งพระองค์จริง รอบพระบรมรูปเป็นทหารคู่พระทัยทั้งสี่ คือพระเชียงเงิน หลวงพิชัยอาสา หลวงพรหมเสนา หลวงราชเสน่หา ที่คอยอารักขาอยู่ 4 ด้าน
โดยทางกรมศิลปากรนำศิลาจารึกพระนาม สมเด็จพระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี มาประทับที่พระบรมราชานุสาวรีย์ แต่ถูกชาวจันทบุรีร่วมกันคัดค้าน ขอให้เปลี่ยนเป็นจารึกพระราชสมัญญานามเสียใหม่ว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา
อ้างอิง : ประชิด สกุณะพัฒน์, อุดม เชยกีวงศ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : ภูมิปัญญา, 2549.
บุญเติม แสงดิษฐ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : พัชรการพิมพ์. 2541.
ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้
นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี