ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,783 รายการ
องค์ความรู้หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
เรื่อง โรคภูมิแพ้ โรคใกล้ตัวยอดฮิต
ผู้เรียบเรียง : นางสาวทิพย์สุดา อาจดี เจ้าพนักงานห้องสมุดปฏิบัติงาน
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี, ธาตุกถา-มหาปฏฐาน) อย.บ. 100/7หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 22 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 55 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก วัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน)อย.บ. 130/2ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 40 หน้า กว้าง 5.27 ซม. ยาว 54.5 ซม..หัวเรื่อง พระอภิธรรมปิฎก พระวิภังค์บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดขนอน ตั้งอยู่ในตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ทางเหนือของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมบริเวณนี้เป็นขนอน หรือ ด่านเก็บภาษี เรียกกันว่า “ขนอนปากคู” หนึ่งในสี่ขนอนหลวงของกรุงศรีอยุธยา ประจำทิศตะวันตก สำหรับตรวจผู้คน สิ่งของต้องห้าม และเก็บภาษีซึ่งจะเข้าออกทางเชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย
อุโบสถของวัดขนอนล้อมรอบด้วยใบเสมาทำจากหินทรายสีน้ำตาลสลักลายทั้งสองหน้า เป็นลายก้านต่อดอกพุ่มข้าวบิณฑ์ ที่ซ้อนลดหลั่นกันตรงสันกลางใบ ล้อมรอบลายด้วยกระหนกผักกูดบริเวณกรอบใบ นับเป็นลวดลายสำคัญที่สะท้อนให้เห็นเค้าวิวัฒนาการของลายไทยผสมผสานกับศิลปะเขมรในสมัยก่อนอยุธยา หรือช่วงอยุธยาตอนต้น
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จึงจัดนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี ๒๕๖๘ เรื่อง “ลวดลายที่ซ่อนอยู่ในใบเสมาวัดขนอน Hidden patterns in boundary stone of Khanon temple” นำเสนอภาพคัดลอกลวดลายใบเสมาวัดขนอน โดยนายทรงยศ วงศ์ประพฤติดี นายช่างศิลปกรรมทักษะพิเศษ สำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา โดยใช้เทคนิคเฉพาะทาง เพื่อช่วยในการแปลความจากลวดลายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และสามารถใช้เป็นต้นแบบในการศึกษาต่อไป
ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการพิเศษได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๘ ณ ห้องนิทรรศการชั่วคราว อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา เปิดทำการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางเฟซบุ๊ก เพจ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา หรือโทร. ๐ ๓๕๒๔ ๑๕๘๗
เอกสารประกอบการสัมนาทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับอีสานศึกษา ประวัติศาสตร์และวรรณกรรม. นครราชสีมา: โคราชออฟเซ็ทการพิมพ์, 2527.เลขทะเบียน 0800
เลขทะเบียน : นพ.บ.702/5ฆห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 28 หน้า ; 5 x 57 ซ.ม. : ชาดทึบ-ทองทึบ-รักทึบ-ลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 224 (280-289) ผูก 5ฆ (2568)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ผู้แต่ง : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตาก ปีที่พิมพ์ : ม.ป.ป. สถานที่พิมพ์ : ตาก สำนักพิมพ์ : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตาก กะเหรี่ยงหรือปกาเกอะญอ เป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่บรรพบุรุษอพยพมาตั้งถิ่นฐานในแถบภาคเหนือของไทย ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้มีวิถีชีวิตที่ต่างจากชนเผ่าอื่นๆ ใช้ชีวิตอิงกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีและสังคมวัตถุนิยมในปัจจุบัน ทำให้ปกาเกอะญอต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว จนตั้งตัวไม่ทัน ทำให้เกิดการสับสนในการเลือกรับและปฏิเสธ โดยเฉพาะด้านประเพณีวัฒนธรรมและความเชื่อที่ถูกปรับเปลี่ยนไปตามอิทธิพลของการพัฒนา
พิพิธิภัณฑสถานแห่งชาติเสมือนจริง พระปฐมเจดีย์: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/phrapathomchedi
ความเป็นมาของการก่อตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ นั้นมีมูลเหตุมาจากความพยายามในการรวบรวมโบราณวัตถุที่กระจัดกระจายอยู่ภายในแขวงมณฑลนครชัยศรี กล่าวคือ ในราวปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) พระองค์ทรงโปรดให้มีการย้ายเมืองนครชัยศรีจากตำบลบ้านท่านา มายังบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ โดยขณะนั้นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการรวบรวมโบราณวัตถุที่กระจัดกระจายอยู่ภายในแขวงมณฑลนครชัยศรี เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ได้มีการรื้อทำลายโบราณสถานและโบราณวัตถุโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ตัดผ่านจังหวัดนครปฐม จึงเกิดการรื้อทำลายโบราณสถานเพื่อปรับหน้าดิน รวมถึงการนำเอาเศษอิฐจากโบราณสถานไปถมสร้างรางรถไฟด้วย ฯลฯ
ดังนั้น ในปี พ.ศ.2438 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ จึงทรงมีพระดำริให้ทำการรวบรวมโบราณวัตถุ ในแขวงมณฑลนครชัยศรี โดยขณะนั้นเจ้าพระยาศรีวิไชยชนินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครชัยศรี จึงมอบให้หลวงพุทธเกษตรานุรักษ์ (จร จรณี) กับหลวงไชยราษฎร์รักษา (โพธิ์ เคหะนันท์) เป็นผู้ดำเนินการรวบรวมโบราณวัตถุ
โบราณวัตถุที่รวบรวมได้ในระยะแรก ได้ถูกนำมาเก็บรักษาไว้บริเวณระเบียงคดรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ต่อมาได้มีการเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุดังกล่าวเข้าไปไว้ในวิหารด้านตรงข้ามพระอุโบสถ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2454 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงรามชานุภาพ โปรดประทานชื่อวิหารหลังนี้ว่า “พระปฐมเจดีย์พิพิธภัณฑสถาน”
ในปี พ.ศ.2477 กรมศิลปากรได้รับ พระปฐมเจดีย์พิพิธภัณฑสถาน เข้ามาเป็นสาขาหนึ่งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504” นั้น บทบัญญัติในพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้กำหนดให้พิพิธภัณฑสถานในความดูแลของกรมศิลปากร เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติด้วย ดังนั้น พระปฐมเจดีย์พิพิธภัณฑสถาน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์”
นับตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) งานสำรวจและขุดค้นทางโบราณคดี ตลอดจนงานขุดแต่งบูรณะโบราณสถานภายในจังหวัดนครปฐม ได้ดำเนินไปอย่างกว้างขว้าง เป็นผลให้มีโบราณวัตถุเพิ่มเข้ามายังพิพิธภัณฑ์ฯเป็นจำนวนมาก ทำให้อาคารจัดแสดงหลังเดิม (อาคารจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์วัดพระปฐมเจดีย์ ในปัจจุบัน) นั้นมีขนาดไม่เพียงพอต่อการจัดแสดงโบราณวัตถุ ที่นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี พ.ศ.2510 กรมศิลปากร จึงได้อนุมัติงบประมาณเพื่อใช้ก่อสร้างอาคารจัดแสดงหลังปัจจุบันของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ จึงได้เคลื่อนย้ายโบราณวัตถุจากอาคารจัดแสดงหลังเดิม มายังอาคารจัดแสดงหลังใหม่และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2514 โดยใช้ชื่ออาคารหลังใหม่นี้ว่า “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์” โดยโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่จัดแสดง ส่วนใหญ่นั้นเป็นโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เนื่องในวัฒนธรรมทวารวดี