ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
ชื่อผู้แต่ง อาจินต์ ปัญจพรรค์
ชื่อเรื่อง จุฬา ฯ ปฏิเสธข้าพเจ้า
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ บรรณกิจเทรดดิ้ง
ปีที่พิมพ์ 2519
จำนวนหน้า 196 หน้า
รายละเอียด
“จุฬา ฯ ปฏิเสธข้าพเจ้า” เนื้อหาในเล่มมีอยู่ 3 ภาค ภาค 1 ความล้มเหลวจากจุฬา ภาค 2 เรื่องสั้นที่เอ่ยพระนามจุฬาลงกรณ์ และภาค 3 โลกยังไม่ปฏิเสธข้าพเจ้า เป็นงานเขียนที่เกี่ยวพันกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเขาเคยเป็นศิษย์เก่าและชีวิติที่เกี่ยวพันกับเหมืองแร่ เมื่อครั้งยังไม่ทันสำเร็จการศึกษา พ่อก็พาลงไปปักษ์ใต้เพื่อทำงานในเหมืองแร่ที่จังหวัดพังงา 4 ปีเต็ม ซึ่งเคยเป็นเบ้าหลอมชีวิตหลังถอดเครื่องแบบนักเรียนมหาวิทยาลัย การเป็นนิสิตรีทายร์กับการเป็นกรรมกรเหมืองแร่แม้จะเป็นความขมขื่น เป็นรอยแผลที่ตราอยู่บนความทรงจำแต่ก็มิได้อับอาย เขากลับมาอีกครั้งในฐานะนักเขียนของเมืองไทยคือ “อาจินต์ ปัญจพรรค์” ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้
ศิริรัตน์ ทวีทรัพย์. หุ่นวังหน้า. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, 2551.
กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ พระมหาอุปราชหรือวังหน้าในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงประดิษฐ์หุ่นขึ้น 2 สำรับ คือ หุ่นจีนและหุ่นไทยเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งหุ่นทั้ง 2 สำรับประกอบด้วยตัวพระ ตัวนาง ตัวยักษ์ และตัวลิง ใช้เป็นเครื่องบันเทิงอยู่ในพระราชวังบวรสถานมงคลและนำออกแสดงภายนอกในงานสมโภชต่างๆ เป็นครั้งคราว และสันนิษฐานว่าหุ่นดังกล่าวคงเลิกเล่นตั้งแต่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญเสด็จทิวงคต เมื่อปีพุทธศักราช 2428 ในปีพุทธศักราช 2536 กรมศิลปากรและมูลนิธิซีเมนต์ไทย ได้ขอให้อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต เป็นผู้ซ่อมแซม หุ่นวังหน้าจึงมีสภาพสมบูรณ์งดงาม ดังที่ได้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครในปัจจุบัน
แนะนำหนังสือหายากคำจารึกที่ฐานพระพุทธรูปในนครเชียงใหม่ เป็นโครงการวิจัยโดย ดร.ฮันส์ เพนธ์ เป็นผู้ค้นคว้าและรวบรวมขึ้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาจารึกที่ฐานพระพุทธรูป และที่ฐานรูปพระสาวก ซึ่งพบในภาคเหนือของประเทศไทย และเป็นคำจารึกที่มิได้ใช้อักษรและภาษาไทยในปัจจุบัน โดยเลือกศึกษาพระพุทธรูปในวัดบริเวณตำบลศรีภูมิ และตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของนครเชียงใหม่ และรวบรวมเป็นบัญชีพระพุทธรูปที่มีคำจารึก จำนวน 312 รายการ นับว่าเป็นเรื่องที่ให้ความรู้ในทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอย่างดี
สำนักหอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญรับชมการถ่ายทอดสด Facebook live การประชุมวิชาการหอสมุดแห่งชาติประจำปี ๒๕๖๕ หัวข้อ “บทบาทและการปรับตัวของห้องสมุดในยุคดิจิทัล” ในวันที่ ๑๙ – ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. – ๑๖๐๐ น. ติดตามชมผ่านทางเพจ Facebook National Library of Thailand ทั้งนี้ ทางสำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้ปิดรับลงทะเบียนผ่านระบบ zoom แล้ว เนื่องจากมีผู้ลงทะเบียนเต็มจำนวนแล้ว จึงขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกรมศิลปากร ครั้งที่ ๑๐/งป.๒๕๖๕ (สัญจร) ณ โรงแรมฟอร์จูนวิวโขง อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมนี้ อธิบดีกรมศิลปากรได้แสดงความยินดีและมอบของที่ระลึกให้แก่นายสถาพร เที่ยงธรรม นางรักชนก โคจรานนท์ นายบพิตร วิทยาวิโรจน์ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรองอธิบดีกรมศิลปากร
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 – 16 ราชสำนักจีนราชวงศ์หมิงได้มีนโยบายห้ามคนจีนออกนอกประเทศ ทำให้การค้าเครื่องปั้นดินเผาของจีนต้องหยุดชะงักลง จึงเป็นช่วงที่เครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งเตาในประเทศไทยเข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นสินค้าที่ถือได้ว่าเป็นที่นิยมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควบคู่ไปกับเครื่องปั้นดินเผาเวียดนามแทนที่เครื่องปั้นดินเผาจากประเทศจีน
หนึ่งในดินแดนที่มารายงายการพบเครื่องปั้นดินเผาไทยมากแห่งหนึ่ง คือ ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะจากแหล่งเรือจม ในโพสต์นี้เราจะนำเสนอข้อมูลหลักฐานการค้าทางทะเลที่บ่งชี้ว่าสินค้าเครื่องปั้นดินเผาไทย มีบทบาทสำคัญในประเทศฟิลิปปินส์ผ่านแหล่งเรือจม 2 แหล่ง คือ แหล่งเรือจมซานตาครูซ (Santa Cruz) และ แหล่งเรือจมลีนาโชล (Lena Shoal)
ในประเทศฟิลิปปินส์ มีรายงานการพบเครื่องปั้นดินเผาไทยในแหล่งเรือจมหลายแห่ง เป็นผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องเคลือสีเขียวไข่กาจากแหล่งเตาเมืองศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย และไหเคลือบสี่หูเนื้อแกร่งจากแหล่งเตาแม่น้ำน้อย จังหวัดสิงห์บุรี โดยเฉพาะไหจากแหล่งเตาแม่น้ำน้อยมีรายงานว่าพบในแหล่งเรือจมหลายแห่ง ประกอบด้วยแหล่งเรือจมปันดานัน ลีนาโชล ซานตาครูซ ซานอซิโดร และ กันดูลี ประเภทที่พบมากที่สุด คือ ไหลำตัวกว้างขนาดใหญ่ ไหลำตัวกว้างขนาดกลางกลาง และไหทรงสูงขนาดเล็ก
ไหลำตัวกว้างขนาดใหญ่ ประกอบด้วยไหปากกว้างคอสั้นมีขอบปากผายออก ไหคอสั้นแคบปากกลม ไหคอสูงและขอบปากคล้ายแตรหรือคอยาวมีขอบเว้าออกขนาดใหญ่ ไหลำตัวกว้างขนาดกลางมีหู 2 ข้างที่ไหล่ คอสั้นมีขอบปากผายออกและมีรอยบากรอบไหล่และลำตัว ไหทรงสูงขนาดเล็กคอสั้นและมีหูแนวนอนสี่หูที่ไหล่ ส่วนเคลือบปกติจะเคลือบตั้งแต่ปากจนถึงครึ่งล่างของลำตัว
ส่วนเครื่องสังคโลกเคลือบสีเขียวไข่กา (celadon) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากแหล่งเตาเมืองศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย พบที่แหล่งเรือจมซานตาครูซ ประกอบด้วย ขวดทรงกลม ขวดทรงยาวมีหูหิ้วสองอัน ขวดแบบมีหู และขวดขาดเล็กทรงน้ำเต้า
ขวดทรงยาวตกแต่งด้วยลายขุดเป็นวงกลมรอบไหล่และบางใบมีร่องหรือลายตาข่ายรอบลำตัว ส่วนไหทรงน้ำเต้าตกแต่งด้วยการขูดที่ไหล่ ขวดทรงกลมมีหลายขนาดและตกแต่งด้วยลายขุดรูปวงกลมและลายขุดเป็นรอยบากหรือลายตาข่ายรอบไหล่
------------------------------------------------------
อ้างอิง : National Museum of the Philippines. (2021). Thailand Sawankhalok Ceramics Found in Philippine Shipwrecks [dated from the 15th to 16th centuries CE]. Retrieved from www.yodisphere.com: https://www.yodisphere.com/2021/02/Sawankhalok-Ceramics.html"
------------------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล : กองโบราณคดีใต้น้ำ
https://www.facebook.com/UADThailand/posts/330903885892852
------------------------------------------------------
*เผยแพร่ข้อมูลทางเว็บไซต์ โดยกลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร
✦เมืองพิชัย หมู่ ๒ บ้านหน้าพระธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ .#โบราณคดีจังหวัดอุตรดิตถ์ #พี่โข่ทั๋ยมี๋เรื๋องเล๋า.::: เรียบเรียงเนื้อหา โดย :::นางรัตติยา ไชยวงศ์ นักโบราณคดีชำนาญการ .::: ออกแบบศิลป์ :::นายสรธัช โรจนารัตน์ นักโบราณคดีชำนาญการ.เผยแพร่ โดย กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๖ สุโขทัย..#โบราณคดีจังหวัดอุตรดิตถ์ #พี่โข่ทั๋ยมี๋เรื๋องเล๋า#โบราณคดีภาคเหนือตอนล่าง #เมืองพิชัย#องค์ความรู้ออนไลน์.☆ ช่องทางออนไลน์ : สำนักศิลปากรที่ ๖ สุโขทัย ☆กดไลก์ กดแชร์ กดกระดิ่ง และกดติดตาม เพื่อไม่พลาดข่าวสารกันได้ที่Facebook Fanpage https://www.facebook.com/fad6sukhothaiYoutube Channel https://www.youtube.com/channel/UCD2W0so8kn4bL-WOu8Doqnw
อิติปิโส พาหุ (อิติปิโส พาหุ) ชบ.บ 127/1
เอกสารโบราณ
(คัมภีร์ใบลาน)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 163/6เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
พัชนีด้ามงา
สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒
วัสดุ ผ้า และ งา
ขนาด สูง ๙๒ เชนติเมตร
ประวัติ เป็นของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงถือเมื่อทรงผนวช เดิมอยู่ที่วัดบวรนิเวศ
ปัจจุบันเก็บรักษา พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พัชนีหุ้มด้วยผ้าไหม บัวงาจำหลักรูปพานผลไม้ ด้ามงา ตามประวัติระบุว่าพระบาท สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงถือพัชนีด้ามงาเล่มนี้ขณะทรงผนวชเป็นสามเณร ในแผ่นดินพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๖๕)
พัดเล่มนี้เดิมเก็บรักษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวชเป็นสามเณร สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ประทานพัชนีเล่มนี้ให้ทรงถือ ครั้นเมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ทรงผนวชเป็นสามเณร ได้ทรงถือพัชนีเล่มนี้เช่นเดียวกัน ต่อมาในพ.ศ. ๒๔๔๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานมาเก็บรักษาในหอพุทธสาสนสังคหะ ต่อมาได้เคลื่อนย้ายมาเก็บรักษา ณ หอพิพิธภัณฑสถาน (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในปัจจุบัน)
พัชนี เดิมเป็นเครื่องยศสำหรับคฤหัสถ์ ตั้งแต่ชั้นพระเจ้าแผ่นดิน เจ้านาย และขุนนาง ต่อมาถวายให้แก่พระสงฆ์ใช้เป็นสมณบริขาร สำหรับลูกศิษย์พัดวีปรนนิบัติ หรือถือแทนตาลปัตร จึงเกิดเป็นธรรมเนียมพระสงฆ์ผู้มียศชั้นพระราชาคณะ ฐานานุกรม และเจ้าอธิการ ต่างก็ถือพัชนีเป็นเครื่องยศแทนตาลปัตรสืบมาทุกแห่ง รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยู่หัวไม่โปรดใช้พัชนี เพราะมีลักษณะคล้ายจวักเป็นอัปมงคล โปรดให้เลิกใช้พัชนีและใช้พัดขนนกถวายงานแทน พัชนีของหลวงจึงเลิกใช้ไป ต่อมาทอดพระเนตรเห็นพระสงฆ์ยังใช้พัชนีกันอยู่ จึงมีพระบรมราชโองการประกาศให้บรรดาพระสงฆ์ทั้งปวงเลิกใช้พัชนี พร้อมกับทรงพระราชดำริจัดสร้างพัดรองขึ้นสำหรับแทนพัชนีใช้โดยทั่วไป
อ้างอิง
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระดำรงราชานุภาพ. ตำนานหอพระสมุด หอพระมณเฑียรธรรม หอวชิรญาณ หอพุทธสาสนสังคหะ แลหอสมุดสำหรับพระนคร. พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๕๙. (เรียบเรียงทูลเกล้าถวายเมื่อเสด็จเปิดหอพระสมุดสำหรับพระนคร ณ วันเสาร์ที่ ๖ มกราคม ปีมโรง พ.ศ. ๒๔๖๙)
ราชบัณฑิตยสภา. อธิบายว่าด้วยหอพระสมุดวชิรญาณแลพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร. พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๖๙.
จารุณี อินเฉิดฉาย. บรรณาธิการ. เมื่อตะวันออกพบตะวันตก: พิพิธสมบัติพระราชา ณ วังหน้า. กรุงเทพฯ: สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ, ๒๕๕๗. (หนังสือประกอบนิทรรศการพิเศษ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ ๒ กรกฎาคม - ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๗)
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 18/1ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 38 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชุมนุมเรื่องเกี่ยวกับกรุงสุโขทัย (ภาค1). พระนคร: โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม, 2498.
ชื่อผู้แต่ง มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว , พระบาทสมเด็จพระ
ชื่อเรื่อง เบ็ดเตล็ดเจ็ดเรื่อง
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ ๘
สถานที่พิมพ์ -
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ไทยเขษม
ปีที่พิมพ์ ๒๕๒๒
จำนวนหน้า ๓๖ หน้า
เบ็ดเตล็ดเจ็ดเรื่อง คณะอนุกรรมการรวบรวมและค้นคว้าเกี่ยวกับพระราชนิพนธ์ ฯลฯ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และเห็นว่าอยู่ในระยะของการฉลองพระบรมราชสมภพครบ ๘ รอบ และ๑๐๐ ปี ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เลือกบทพระราชนิพนธ์รวม ๗ เรื่อง เพื่อจัดพิมพ์เฉลิมพระเกียรติฯ ในโอกาศนี้ได้ชื่อว่า เบ็ดเตล็ดเจ็ดเรื่อง ดังนี้ มนุษยสรวยหรือไม่สรวย? โรงเรียนเรียนในฟากฟ้า เรื่องหงส์ทอง(หงส์) นักเลงฟุตบอลแสดงความกล้าหาญ ต้นหมาปลายหมา ทำให้ฟุตบอลสนุกขึ้น ยาตัวเบา
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมสดับพระธรรมเทศนา เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา ตามรอยธรรมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันธรรมสวนะ ตลอดเดือนมีนาคม ๒๕๖๖