ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 40,813 รายการ



เรื่องอ่านเล่น และเรื่องเบ็ดเตล็ดบางเรื่อง ได้คัดมาจาหนังสือวชิรญาณ บางเรื่องสำนักพิมพ์บรรณาการได้เคยขออนุญาตพิมพ์เป็นครั้งแรกเพื่อจำหน่ายเผยแพร่เมื่อ พ.ศ. 2508 เรียกชื่อว่า"นิทานวชิรญาณ"


สาระสังเขป  :  เรื่องประวัติชีวิตและงานของบรมครูแพทย์ชีวกโกมารทัตผู้แต่ง  :  สิบพันการเสนอ โสณกุล, ม.จ.โรงพิมพ์  :  ม.ป.พ.ปีที่พิมพ์  :  2502ภาษา  :  ไทยรูปแบบ  :  PDFเลขทะเบียน  :  บ197320เลขหมู่  :  926.1            อ116ช


สำนักการสังคีต  กรมศิลปากร ขอเชิญชม รายการศรีสุขนาฏกรรม วันศุกร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑  เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ  โรงละครแห่งชาติ                      รายการแสดง ๑.   ละครเบิกโรง เรื่องพระไพศรพณ์ เทพเจ้าแห่งธัญญะชาติ ๒.   ละครเสภา เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอน พลายบัวเกี้ยวนางตานี ๓.   ระบำดอกบัวไทย ๔.   โขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด “ถวายลิง” นำแสดงโดย                ศิลปินสำนักการสังคีต กำกับการแสดง             ปกรณ์  พรพิสุทธิ์             อำนวยการแสดงโดย       เอนก  อาจมังกร    ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต            b            บัตรราคา  ๒๐๐, ๑๕๐, ๑๐๐ บาท  (เปิดสำรองที่นั่ง และจำหน่ายบัตรก่อนการแสดง ๑ สัปดาห์)              วันแสดง (จำหน่ายบัตรก่อนการแสดง ๒ ชั่วโมง) สอบถามและสำรองที่นั่ง (วันและเวลาราชการ) โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๔๒


เลขทะเบียน : นพ.บ.14/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  28 หน้า  ; 5 x 55 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 10 (105-113) ผูก 1หัวเรื่อง : จตุรารกฺขปาลิ --เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


นิตยสารรายสองเดือน กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม วัตถุประสงค์ : เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในสาระสำคัญต่าง ๆ และ เพื่ออนุรักษ์สืบทอดมรดกวัฒนธรรมของชาติ


ชื่อผู้แต่ง      :   จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว , พระบาทสมเด็จพระชื่อเรื่อง        :   พระบรมราโชวาทในรัชกาลที่ ๕ครั้งที่พิมพ์     :   -สถานที่พิมพ์   :   พระนครสำนักพิมพ์     :   โรงพิมพ์อักษรศาสน์ปีที่พิมพ์        :   ๒๕๐๙จำนวนหน้า    :  ๖๘ หน้าหมายเหตุ       :   พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ  คุณพ่อศุข  สงวนน้อย ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ ๑๓  มกราคม ๒๕๐๙                     พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ได้จัดพิมพ์ในเล่มนี้ เป็นพระบรมราโชวาทซึ่งมีไปพระราชทานพระบรมโอรสาธิราช และอีกภาคหนึ่งมีพระราชทานพระเจ้าลูกยาเธอ เนื่องในโอกาสเสด็จออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ เพื่อพุทธศักราช ๒๔๒๘ แต่เนื้อความล้วนเป็นคติสอนใจที่เป็นผลได้แก่ผู้อ่านทั่วไป



นิดดา หงษ์วิวัฒน์.ออริกาโน oregano.ครัว.(9):100;ตุลาคม 2545.           ออริกาโน (oregano) เป็นเครื่องเทศประเภทใบแห้งที่ใช้โรยหน้าพิซซ่า จนได้ชื่อว่า “เครื่องเทศแห่งพิซซ่า” ทั้งนี้เพราะกลิ่นหอม รสเผ็ดซ่าอ่อน ๆ ไปได้ดีกับซอสมะเขือเทศทุกชนิด แต่ เดิมออริกาโนมีบทบาทเฉพาะครัวอิตาเลียนและครัวเมดิเตอร์เรเนียน กระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ สอง ออริกาโนจึงเริ่มเป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกา เพราะทหาร จี.ไอ. ที่กลับจากสนามรบติดใจในรสชาติ กลิ่นหอมของออริกาโนในพิซซ่านั่นเอง ดังนั้นพร้อมกับการแพร่หลายของออริกาโน ร้านอาหารพิซซ่า ก็แพร่ตามมาเช่นกัน


นิตยสารรายสองเดือน กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม วัตถุประสงค์ : เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ในสาระสำคัญต่าง ๆ และเพื่ออนุรักษ์สืบทอดมรดกวัฒนธรรมของชาติ


องค์ความรู้ เรื่อง ภาพเขียนสีภูตะเภาทอง อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานีจัดทำข้อมูลโดย สำนักศิลปากรที่ ๘ ขอนแก่น


ชื่อเรื่อง : เล่าเรื่องในไตรภูมิ ผู้แต่ง : เสฐียรโกเศศ ปีที่พิมพ์ : 2512 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : อักษรเพชรเกษม




ป้อมรูปดาว (Star Fort) สมัยกรุงศรีอยุธยาที่เขาชัยบุรี ตำบลชัยบุรี อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เมืองพัทลุงที่เขาชัยบุรี           เมืองพัทลุงได้ย้ายมาตั้งที่เขาชัยบุรีหรือเขาเมืองตั้งแต่พ.ศ. ๒๑๗๒ - พ.ศ.๒๓๑๐ ตัวเมืองตั้งอยู่ในที่ราบด้านทิศเหนือของเขาชัยบุรีและมีการสร้างกำแพงเป็นระเนียดไม้ปิดช่องเขาด้านตะวันตกระหว่างเขาเมืองกับเขาบ่อฬา แล้วทำกำแพงด้านทิศเหนือต่อจากเขาบ่อฬามาจนถึงเขาเจดีย์ จากนั้นทำกำแพงด้านทิศตะวันออกจากเขาเจดีย์ไปถึงเขาพลู และทำกำแพงปิดช่องเขาระหว่างเขาพลูกับเขาเมือง โดยใช้เขาเมืองซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นกำแพงเมืองด้านทิศใต้ รวมระยะเวลาที่เมืองพัทลุงตั้งอยู่ ณ ที่แห่งนี้เป็นเวลา ๑๓๘ ปี มีเจ้าเมืองปกครองตามที่ปรากฏในพงศาวดารเมืองพัทลุงทั้งสิ้น ๙ ท่าน การดำเนินงานทางโบราณคดี           สำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา ดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดีในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ โดยได้ดำเนินการขุดค้นต่อจากการขุดค้นของสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราชที่ได้ดำเนินการไว้ในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ โดยได้กำหนดหลุมขุดค้นขนาด ๔ x ๔ เมตร ทั้งนี้ได้ดำเนินการขุดค้นเป็นจำนวน ๙๑ กริดคิดเป็นพื้นที่ ๑,๔๕๖ ตารางเมตร ป้อมรูปดาว (Star Fort) คืออะไร?           ป้อมรูปดาว (Star Fort) เป็นระบบป้อมปราการที่ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในคาบสมุทรอิตาลี ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ เพื่อต่อสู้กับปืนใหญ่แบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพร้ายแรงขึ้น จนส่งผลให้ป้อมแบบเดิมไม่อาจต้านทานพลังการทำลายได้ โดยป้อมลักษณะนี้ได้รับความนิยมไปทั่วยุโรปเป็นระยะเวลาประมาณ ๓๐๐ ปี ทั้งนี้ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๓ เซบาสเตียง เลอ เพรส์เทรอ เดอ โวบอง และเม็นโน ฟาน โคฮูร์น สถาปนิกทางสถาปัตยกรรมทหารในราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งฝรั่งเศส ได้พัฒนารูปแบบของป้อมรูปดาว จนกลายเป็นระบบป้องกันอันซับซ้อน ป้อมรูปดาว (Star Fort) ที่เขาชัยบุรี           ป้อมรูปดาวที่ขุดพบนี้เป็นป้อมประจำมุมเมืองด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเป็นแนวกำแพงป้อมที่มีการหักมุมกำแพงเป็นดาว ๕ แฉก โดยมีจุดเริ่มของแนวกำแพงป้อมบริเวณด้านตะวันตกค่อนไปทางทิศเหนือก่อแนวต่อเนื่องไปจนถึงมุมภูเขาด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ โดยแนวกำแพงป้อมมีความยาวรวมกัน ๑๒๖.๗๒ เมตร และมีความกว้างเฉลี่ยอยู่ที่ ๑๔๐-๑๕๐ เซนติเมตร //การวางฐานรากของป้อมรูปดาวที่ขุดพบนั้น เป็นการวางฐานรากบนพื้นธรรมชาติ โดยในส่วนของพื้นที่ปกติจะพบการวางอิฐชั้นแรกอยู่บนผิวดินในระดับที่เป็นพื้นปูนมาร์ล ในขณะที่ในอีกหลายบริเวณซึ่งพบหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ฐานรากในส่วนดังกล่าวจะวางบนหินเหล่านั้น โดยบางส่วนวางคร่อมหินทั้งหมดโดยใช้ปูนสอประสาน ในขณะที่บางส่วนมีการตัดแต่งยอดหินก่อนที่จะวางอิฐคร่อมหินในส่วนที่เหลือ           ตัวกำแพงป้อมนั้น วัดระดับสูงจากพื้นดินได้ ๕.๖๘ เมตร ลักษณะของกำแพงก่อด้วยอิฐสอปูน กำแพงตันไปตลอดแนวไม่มีการสอดไส้กำแพง โดยอิฐก่อกำแพงมีขนาดกว้าง ๑๓ เซนติเมตร ยาว ๒๖ เซนติเมตร หนา ๕ เซนติเมตร อย่างไรก็ตามพบว่าตัวกำแพงไม่ได้ตั้งตรง หรือตั้งฉากกับพื้นดิน แต่กลับเอียงเข้าด้านในเล็กน้อย ซึ่งลักษณะนี้ก็พบที่กำแพงเมืองนครศรีธรรมราชและแบบแปลนป้อมเมืองบางกอกและเมืองมะริดซึ่ง เดอ ลามาร์เป็นผู้ออกแบบเช่นเดียวกัน           ส่วนบนของป้อมก่อเป็นใบบังและจากการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับใบบังของป้อมกำแพงเมืองนครศรีธรรมราชที่ออกแบบโดยวิศวกรคนเดียวกันแล้วสามารถกำหนดความสูงของใบบัง ๑๔๘ เซนติเมตร และความยาวของใบบังเท่ากับ ๓.๒๐ เมตร ส่วนแนวช่องประตูหรือบันไดสำหรับขึ้นป้อมนั้น พบแนวอิฐที่แสดงลักษณะของช่องบันไดในพื้นที่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขา ใครคือวิศวกรผู้ออกแบบ?           ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างป้อมแห่งนี้คือวิศวกรชาวฝรั่งเศส ชื่อมองสิเออร์ เดอ ลามาร์ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับคณะราชทูตฝรั่งเศสเชอวาเลีย เดอ โชมองต์ ในพ.ศ.๒๒๒๘ ซึ่งในครั้งนั้นสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ขอตัววิศวกรคนนี้เพื่อดำเนินการปรับปรุงป้อมและกำแพงเมืองสำคัญคือ อยุธยา ลพบุรี บางกอก มะริด นครศรีธรรมราช สงขลา และพัทลุง           ลาร์มา ออกเดินทางจากเมืองบางกอกเพื่อไปยังเมืองพัทลุง เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๒๒๙ จากและปรากฏหลักฐานว่าแผนผังเมืองพัทลุงที่เขียนโดยลามาร์ แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.๑๖๘๗ (พ.ศ.๒๒๓๐) ได้ปรากฏข้อความภาษาฝรั่งเศส ในคำบรรยายท้ายแผนผังกำแพงเมืองพัทลุงความว่า "...ภูเขาทุกแนวสูงชันปีนขึ้นไปไม่ได้ ด้านนอกมีโขดหินแข็งแรง เมืองนี้มีพลเมืองพอประมาณ เส้นประเป็นเครื่องหมายของกำแพงเดิมที่เป็นไม้ ส่วนเส้นทึบเป็นเครื่องหมายที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นกำแพงอิฐไว้ป้องกันเมือง ผังนี้เขียนขึ้นตามคำสั่งของกษัตริย์สยาม ค.ศ.๑๖๘๗..." วิไชยเยนทร์ตะวันออกคือป้อมต้นแบบ?        จากแผนผังที่ลาร์มาออกแบบไว้ พบว่าเดิมได้กำหนดให้ป้อมแห่งนี้มีลักษณะเป็นป้อมหัวลูกศร ดังเช่นป้อมที่ลาร์มาสร้างไว้ที่เมืองนครศรีธรรมราช แต่การขุดค้นทางโบราณคดีกลับแสดงให้เห็นว่ามีการแก้ไขแผนผังของป้อมแห่งนี้ให้กลายเป็นป้อมรูปดาวห้าแฉก และเมื่อนำแผนผังของป้อมวิไชยเยนทร์ตะวันออก(ป้อมเมืองบางกอก) มาซ้อนทับกันก็จะพบว่าป้อมที่เขาชัยบุรีนี้เกือบจะซ้อนทับกับเส้นโครงร่างของป้อมวิไชยเยนทร์ตะวันออกได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าป้อมทั้งสองแห่งนี้ใช้อิฐขนาดเดียวกันคือ ขนาดกว้าง ๑๓ เซนติเมตร ยาว ๒๖ เซนติเมตร หนา ๕ เซนติเมตร ในการก่อสร้างป้อมด้วยปืนใหญ่ประจำเมือง           ปรากฏหลักฐานว่าเมืองแห่งนี้มีการติดตั้งปืนใหญ่เหล็กของฮอลันดา (Finbanker of Dutch Pattern) ซึ่งโรงหล่อปืนที่ Finspang เมือง Ostergotland ประเทศสวีเดน ส่งมาจำหน่ายให้บริษัท V.O.C. และมักพบจารึกรูปตัว F ที่เพลาปืนด้านซ้ายและขวาเป็นสัญลักษณ์ของโรงงาน //ในปัจจุบันยังคงปรากฏปืนใหญ่ประจำเมืองชัยบุรีให้เห็นอยู่ ๒ กระบอก ตั้งอยูที่หน้าเสาธงโรงเรียนพัทลุง ปืนใหญ่ทั้งสองกระบอกนี้ได้ผ่านการยิงทดสอบ(proof firing) แล้ว โดยได้รับการจารึกสัญลักษณ์รูปประภาคารหรือ ที่เรียกว่า Amsterdam light house เพื่อเป็นการรับรองไว้บนกระบอกปืน นอกจากนี้ยังมีการจารึกน้ำหนักของปืนไว้ที่ท้ายกระบอกปืนด้วย โดยปืกระบอกหนึ่งหนัก 2322 Amsterdam Pound และอีกกระบอกหนึ่งหนัก 2306 Amsterdam Pound เทียบเป็นน้ำหนักปัจจุบันราว ๒ ตันเศษ การบูรณะป้อมรูปดาว (Star Fort) ที่เขาชัยบุรี           กรมศิลปากรได้อนุมัติงบประมาณสำหรับบูรณะป้อมแห่งนี้ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ และ ๒๕๖๒ โดยสามารถดำเนินการบูรณะป้อมได้ถึงแฉกดาวที่ ๔ และยังคงเหลืองานบูรณะป้อมในส่วนของแฉกดาวที่ ๕ กำแพงเมืองด้านทิศเหนือที่ติดกับป้อม และงานปรับปรุงภูมิทัศน์ ซึ่งจะได้ดำเนินการต่อไปในอนาคต ......................................................................เรียบเรียงเนื้อหาวิชาการ โดย สารัท ชลอสันติสกุล นักโบราณคดีชำนาญการสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลาลิงค์สำหรับฟังการบรรยาย "การขุดค้นทางโบราณคดีกำแพงเมืองพัทลุงที่เขาชัยบุรี ตำบลชัยบุรี อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง" โดย นายสารัท ชลอสันติสกุล นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา : https://bit.ly/3bUkSBR


Messenger