ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,683 รายการ
องค์ความรู้ ส่งเสริมการอ่านผ่านออนไลน์ เรื่อง “วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม”
เพลง “ค่าน้ำนม” คงได้ยินได้ฟังกันมาตั้งแต่เด็ก หลายยุคหลายสมัยยังเป็นเพลงอมตะที่ฟังแล้วทำให้นึกถึงพระคุณของแม่ ที่มีเนื้อหากินใจว่า “แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง แม่เฝ้าหวงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล...” ทำให้เห็นถึงความรักของแม่ที่รักลูกถนอมลูก สงสารลูก จะไปไหนก็เป็นห่วง รับประทานอะไรก็คิดถึงลูก ลักษณะเหล่านี้ย่อมตรึงใจเรามิรู้วาย
วันแม่แห่งชาติ ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของไทย ที่ถือเอาวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นวันแม่แห่งชาติ
แต่เดิมนั้น วันที่ 12 สิงหาคม มิได้เป็นวันแม่แห่งชาติอย่างเช่นในปัจจุบัน แต่ได้มีการกำหนดเอาวันที่ 15 เมษายนของทุกๆ ปีเป็น วันแม่แห่งชาติ โดยเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 โดยสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นผู้จัดงานวันแม่มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2493 เป็นต้นมา เพราะเห็นว่าเป็นเดือนที่ฝนยังตกไม่ชุกนัก จะมีคนมาร่วมงานได้สะดวก โรงเรียนอยู่ระหว่างการหยุดเทอม นักเรียนว่างพอจะเข้าร่วมงานวันแม่ได้ การจัดงานไม่เพียงแต่มีการจัดพิธีทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น ยังมีการประกวดแม่ของชาติ การประกวดคำขวัญวันแม่ เพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ และเป็นการเพิ่มความสำคัญของงานวันแม่ให้มีมากยิ่งขึ้น
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2519 ทางราชการได้เปลี่ยนแปลงวันแม่ใหม่ ให้ถือเอาวันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวไทย เปรียบเสมือนแม่ของชาติ โดยมติเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมศีลธรรมและจิตใจ โดยพิจารณาว่าแม่เป็นผู้มีพระคุณและมีบทบาทอย่างสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่จะได้รับการเทิดทูนและตอบแทนบุญคุณด้วยความกตัญญูกตเวที
การที่ทางราชการได้ประกาศกำหนดให้วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปีเป็น วันแม่แห่งชาติ ย่อมก่อให้เกิดวันอันเป็นที่ระลึกที่สำคัญยิ่งของไทยเราวันหนึ่ง และกำหนดให้ถือว่า ดอกมะลิ สีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอม ที่ใช้ได้ตั้งแต่เป็นดอกไม้สด จนกระทั่งแห้งเสมือนดั่งความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่เสื่อมคลาย เป็นสัญญลักษณ์แห่งความดีงามของแม่ผู้ให้กำเนิดแก่ตัวเรา
อ้างอิง : บุญเติม แสงดิษฐ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : พัชรการพิมพ์. 2541.
ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้
นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๖.๐๐ น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานแถลงข่าวกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแหล่งโบราณสถานและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติยามค่ำคืน ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้จัดโครงการ Thailand Winter Festival ประกาศความพร้อมและแสดงศักยภาพการเป็นฮับแห่งเฟสติวัลโลก ตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแหล่งมรดกวัฒนธรรม ประกอบด้วย
กิจกรรมเปิดแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานในยามราตรี เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสความสวยงามของโบราณสถานในยามค่ำคืน ให้ได้เห็นภาพของโบราณสถานยามที่กระทบแสงไฟสาดส่อง ซึ่งเป็นภาพสวยงามที่สร้างความประทับใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยแหล่งโบราณสถานที่จะเปิดให้เข้าชมยามราตรี ได้แก่
วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดไชยวัฒนาราม ผ่าน แสง สี จากการประดับไฟโบราณสถาน ภายใต้ชื่องาน "ราตรีนี้...ที่วัดไชยวัฒนาราม" ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และเทศกาลสำคัญ ในเวลา ๑๘.๐๐ – ๒๒.๐๐ น. ตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๖๖ ภายในงานยังมีการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี การเสวนา การสาธิตหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยเปิดพื้นที่ให้หน่วยงาน องค์กร ภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมแสดงกิจกรรมทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย “แต่งไทย ชมวัดไชยฯ ยามราตรี” เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการแต่งชุดไทยเที่ยวชมโบราณสถานอีกด้วย
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เปิดให้เข้าชมโบราณสถานเขตในกำแพงเมือง (วัดพระแก้ว - วัดพระธาตุ) ตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๖๖ เปิดให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา ๑๘.๓๐ – ๒๐.๐๐ น. โดยมีวิทยากรบรรยายนำชมโบราณสถานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมปราสาทพิมายยามค่ำคืน (Phimai Night : Light Up) ทุกวันศุกร์ วันเสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ ถึง ๒๗ มกราคม ๒๕๖๗ ระหว่างเวลา ๑๘.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. โดยเปิดให้เข้าชมถึงพื้นที่ชั้นในสุดของโบราณสถานในยามค่ำคืนเป็นครั้งแรก (ปราสาทพิมาย เมรุพรหมทัต ประตูชัยเมืองพิมาย) นอกจากนี้ ยังเปิดให้สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาสนสถาน “พระกมรเตงชคตวิมาย” พระพุทธรูปนาคปรก และประติมากรรมพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ มหาราช รวมถึงการเปิดพื้นที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงามของโบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์ยามค่ำ ตั้งแต่เวลา ๑๘.๓๐ – ๒๑.๐๐ น. ระหว่างเดือนธันวาคม ๒๕๖๖ - มกราคม ๒๕๖๗ ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
โบราณสถานเวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมพิเศษ “แอ่วกุมกามยามแลง” ในวันที่ ๑ – ๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๖.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ณ ลานกิจกรรมวัดอีก้าง - วัดหนานช้าง เยี่ยมชมโบราณสถานสำคัญของเวียงกุมกาม อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาสมัยพญาเม็งรายที่มีอายุเก่าแก่กว่า ๗๐๐ ปี ชมกาดกุมกาม @ Night เลือกซื้ออาหารและสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน และชมบูธกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งรับชมการแสดงจากสำนักการสังคีต ภายใต้แนวคิด “กิจกรรมโขนในเวียง” ด้วยการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด ทูษณ์ - ขร - ตรีเศียร – ยกรบ โดยมีการออกแบบ แสง สี เสียงประกอบการแสดงด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อให้เข้ากับฉากหลังที่เป็นโบราณสถานเวียงกุมกาม
กิจกรรมเปิดพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน : Night at the Museums เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในบรรยากาศที่แตกต่าง ตลอดจนได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมไทย โดยมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ร่วมสัมผัสความงดงามของโบราณสถานวังหน้า ที่ประทับของพระมหาอุปราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในยามค่ำ พร้อมทั้งชมห้องจัดแสดงนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ (ยกเว้นวันจันทร์ - อังคาร) ระหว่างวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจัดแสดงเครื่องทอง สมัยอยุธยาที่สวยงามและมีจำนวนมากที่สุดของประเทศไทย ขยายเวลาการเปิดพิพิธภัณฑ์จนถึงเวลา ๑๘.๓๐ น. ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ เพื่อให้มีความต่อเนื่องสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมโบราณสถานในยามค่ำคืนที่วัดไชยวัฒนาราม
นอกจากนี้ กรมศิลปากร ได้จัดกิจกรรมพิเศษให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรมศิลปากร (Thailand Winter Festival) ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ สะสมบัตรเข้าชมที่มีตราประทับกิจกรรมไม่น้อยกว่า ๕ สถานที่ (เจ้าหน้าที่จะประทับตราในบัตรเข้าชม ณ จุดจำหน่ายบัตร) นำมารับของที่ระลึก ได้แก่ เหรียญพระพุทธสิหิงค์ รุ่นครบรอบ ๑๑๒ ปีกรมศิลปากร, สมุดภาพ (ไดอารี่) และภาพชุด (ปฏิทิน) มรดกเรืองรอง เครื่องทองอยุธยา จำนวนจำกัดเพียง ๑๐๐ ชุด ได้ที่อาคารกรมศิลปากร (เทเวศร์) ชั้น ๓ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป (วันและเวลาราชการ) จนกว่าของที่ระลึกจะหมด ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ก เพจ กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร
หนังสือ : วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2566
"รางวัลพานแว่นฟ้า" เป็นรางวัลที่มอบให้กับผลงานเรื่องสั้นและบทกวีการเมืองที่ทรงคุณค่าซึ่งผ่านการคัดเลือกและตัดสินจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในแวดวงวรรณกรรมและวิชาการหลากหลายท่าน
โดยผลการตัดสิน ประจำปี 2566 ประเภทเรื่องสั้น รางวัลชนะเลิศ คือผลงานเรื่อง การปรากฎตัวของเงาดำข้างศาลเจ้า โดย คิรากร คัมคุณ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ มี 2 รางวัล ได้แก่ ผลงานเรื่อง ฝนพฤษภา โดย รตี รติธรณ และผลงานเรื่อง พัง พัง โดย ฮีม พารา พิพัฒน์ และมีรางวัลชมเชยอีก 10 รางวัล
ขณะที่ผลการตัดสิน ประเภทบทกวี รางวัลชนะเลิศ คือ ผลงานเรื่อง เฮือกสุดท้ายของบทผญา โดย องอาจ สิงห์สุวรรณ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ มี 2 รางวัล ได้แก่ ผลงานเรื่อง ไม้แขวนเสื้อ และผลงานเรื่อง อัตตาอวตาร โดย สงกาสังข์ และมีรางวัลชมเชยอีก 10 รางวัล
ห้องบริการ 1 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
เลขหมู่ : 895.911 ว242
เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๒
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้ำแม่เริมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ้านเป้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
รหัสเอกสาร ภ หจภ กษ ๑.๑/๑๐๒
ผู้สนใจสามารถสืบค้นเอกสารจดหมายเหตุเพิ่มเติมได้ที่ https://archives.nat.go.th/Home/
หรือสนใจสั่งซื้อหนังสือออนไลน์
https://shorturl.asia/nQ5WZ
ชื่อเรื่อง ปฐมกับ (ปฐมกัป)สพ.บ. 478/1ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 70 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ไม่มีไม้ประกับ ได้รับบริจาคมาจากวัดด่านช้าง ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
ชื่อเรื่อง อนัตตลักขณสูตร (อนัตตลักขณสูตร)สพ.บ. 449/1หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี-ไทยอีสานหัวเรื่อง พุทธศาสนา พระอภิธรรมประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 42 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 37 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด ไม่มีไม้ประกับ ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
กรมศิลปากร โดยสำนักการสังคีต ขอเชิญชมการแสดงโครงการดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ 68 “เหมันต์สุขสันต์ หฤหรรษ์สังคีต” ทุกวันอาทิตย์ ระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม 2568 เวลา 17.30 – 19.30 น. ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร บัตรเข้าชมการแสดงคนละ 20 บาท นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า โครงการดนตรีสำหรับประชาชน เป็นการแสดงประจำปีของสำนักการสังคีต กรมศิลปากร นำเสนอความบันเทิงและความรู้สู่ประชาชน มาเป็นเวลาถึง 68 ปี เพื่อเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม สำหรับปีนี้ กำหนดจัดการแสดงทุกวันอาทิตย์ รวม 7 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา 17.30 – 19.30 น. ซึ่งในวันเปิดโครงการฯ วันที่ 26 มกราคม 2568 สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ได้เตรียมการแสดงชุดพิเศษต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ประกอบด้วย การแสดงชุดมะเส็งหรรษา เริงร่าเภรี ปีใหม่ไทยจีน การแสดงละคร เรื่องเอียฮู ผู้กตัญญู และละคร เรื่องสามก๊ก ตอน จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า นอกจากนี้ ยังได้เตรียมรายการแสดงที่หลากหลายสลับสับเปลี่ยนกันไป ทั้งการแสดงโขน ละคร ระบำ รำ ฟ้อน การบรรเลงดนตรีไทย และดนตรีสากล โดยศิลปินของสำนักการสังคีต ดังนี้
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 การบรรเลงดนตรีไทย “ชุดร้อยเรียงเสียงดนตรี”
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 การแสดงวิพิธทัศนา ประกอบด้วย การบรรเลงดนตรีไทย ระบำสวัสดิรักษา ระบำอัศวลีลา การแสดงชุดจับม้ามังกร (แนวตลก) และการแสดงละคร เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนหึงนางลาวทอง – ลักพานางวันทอง ซึ่งเป็นการแสดงที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ดำเนินเรื่องตามบทพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ เพื่อเฉลิมพระเกียรติกรมพระราชวังบวรสถานมงคลที่ทรงมีคุณูปการต่อศิลปวัฒนธรรมของชาติ
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 การบรรเลง – ขับร้องวงดุริยางค์สากล “ลิเกออร์เคสตรา”
วันที่ 2 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีไทย และการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด ร่มโพธิสมภารมารซื่อ
วันที่ 9 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีไทย การแสดงระบำนาฏดุริยะแห่งภูพระบาท รำฉุยฉายนางวิฬาร์แสนรู้ การแสดงสร้างสรรค์ ชุดสกุณกินรีศรีสำอาง และละครนอก เรื่องแก้วหน้าม้า ตอนถวายลูก
วันที่ 16 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีสากล ฟ้อนลาวคำหอม ออกฟ้อนแพน ละคร เรื่องพระลอ ตอนตามไก่ และละคร เรื่องสุวรรณหงส์ ตอนกุมภณฑ์ถวายม้า ขอเชิญผู้สนใจชมการแสดงรายการ “เหมันต์สุขสันต์ หฤหรรษ์สังคีต” ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ค่าเข้าชมการแสดงคนละ 20 บาท นำส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดิน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุริยางคศิลป์ของชาติ ให้คงอยู่และแพร่หลายอย่างกว้างขวางต่อไป
ชื่อผู้แต่ง จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, ๒๓๙๖ - ๒๔๕๓.
ชื่อเรื่อง บทละครเรื่องเงาะป่า
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ ๑
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์หัตถศิล์ป
ปีที่พิมพ์ ๒๕๐๘
จำนวนหน้า ก - ช , ๑๓๒ หน้า : ภาพประกอบ.
ISBN -
เลขเรียกหนังสือ ๘๙๕.๙๑๒๒ จ ๕๖๗ บฉ
เลขทะเบียนหนังสือ -หมายเหตุ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางฉวี ฤาชัย ณ เมรุวัดสัตตนารถปริวัตร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๐๘
หนังสือเล่มนี้แต่งขึ้นสำหรับจะเล่นละครและไม่รู้ว่าจะดี เพราะแต่งเรื่องชาวป่า ซึ่งกันดารเหลือประมาณพระราชนิพนธ์เรื่องเงาะป่านี้เป็นวรรณคดีเอกเรื่องหนึ่งมีแนวเรื่องและฉากเหตุการณ์แตกต่างจากเรื่องอื่นๆแปลกออกไปและยังให้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับบุคคลประเภทที่เราเรียกว่า "เงาะ" ตลอดจนภาษาของเขา ทั้งสำนวนกลอนก็ไพเราะลึกซึ้ง ผู้อ่านจะได้รับทั้งความรู้ ความเพลิดเพลินและความรู้สึกสะเทือนใจตามลักษณะของวรรณคดีเอกครบถ้วน
ชื่อผู้แต่ง ประพัฒน์ ตรัณรงค์
ชื่อเรื่อง ประวัติวัดเสาธงทอง และ งานของกรมศิลปากร
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ ๑
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว
ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๓
จำนวนหน้า ก-ข , ๑-๒ , ๑๐๕ หน้า : ภาพประกอบ
ISBN -
เลขเรียกหนังสือ 294.3135 ป315ป
เลขทะเบียนหนังสือ 003550
หมายเหตุ กรมศิลปากรพิมพ์แจกในงานกฐินพระราชทาน ณ วัดเสาธงทอง จังหวัดลพบุรี วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๑๓
กรมศิลปากรได้รับพระราชทานผ้าพระกฐินไปทอด ณ พระอารามใด โดยปกติก็ได้รับมอบให้เจ้าหน้าที่ เรียบเรียง จัดพิมพ์ประวัติของพรอารามนั้น ตลอดทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับผู้สร้างและปฏิสังขรณ์ของพระอารามนั้น ๆ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ นี้ กรมศิลปกรได้รับพระราชทานผ้ากฐินไปทอด ณ วัดเสาธงทอง จังหวัดลพบุรี ในระยะ ๑๒ ปีที่ผ่านมา ปีนี้นับเป็นครั้งที่ ๒ ที่ออกต่างจังหวัด
ได้มาจากวัดบ้านถ้ำ ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2533