ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,754 รายการ
15 พฤษภาคม 2565 วันวิสาขบูชา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาในเดือนพฤษภาคมนี้ คือ วันวิสาขบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565
วันวิสาขบูชา เป็นวันที่แสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า ซึ่งมีชื่อเต็มว่า “วิสาขปุรณมีบูชา” แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน 6 ในวันนี้ตรงกับวันประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ที่เวียนมาบรรจบในวันและเดือนเดียวกัน คือวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
ต่อมาองค์การสหประชาชาติได้เล็งเห็นความสำคัญของวันนี้ จึงประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็น “วันสำคัญสากลโลก” (Vesak Day)
หลักธรรมสำคัญในวันวิสาขบูชาอันเกี่ยวเนื่องจากการประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพาน คือ ความกตัญญู อริยสัจ 4 และความไม่ประมาท
ความกตัญญู คือ รู้บุญคุณ คู่กับความกตเวที คือตอบอทนผู้มีพระคุณ อริยสัจ 4 คือ ความจริงอันประเสริฐ หมายถึง ความจริงที่ไม่ผันแปร เกิดมีขึ้นได้แก่ทุกคนมี 4 ประการ คือ ทุกข์ (ปัญหาของชีวิต) สมุทัย (เหตุแห่งปัญหา) นิโรธ (การแก้ปัญหาได้) มรรค (ทางหรือวิธีแก้ปัญหา มรรคมีองค์ ส่วนความไม่ประมาท คือ การมีสติทั้งขณะทำ ขณะพูดและขณะคิด สติ คือการระลึกรู้ทันที่คิด พูดและทำ กล่าวคือ ระลึกรู้ทันทั้งในขณะ ยืน เดิน นั่ง นอน รวมทั้งระลึกรู้ทันในขณะพูดขณะคิด และขณะทำงานต่างๆ
พระพุทธเจ้าประสูติ ณ สวนลุมพินีวัน อยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ แคว้นสักกะ (ปัจจุบันอยู่ในเมืองลุมมินเด ประเทศเนปาล) เช้าวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ต่อมาพระองค์ได้เสด็จออกผนวชและทรงบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก จนได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ (ปัจจุบันอยู่ในเขตเมืองพุทธคยา แคว้นพิหาร ประเทศอินเดีย) เช้ามืดวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 45 ปี
หลังจากตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงบำเพ็ญพุทธกิจโปรดผู้ที่ควรแนะนำสั่งสอนใหได้บรรลุมรรคผลจนนับไม่ถ้วน และเสด็จดับขันธปรินิพพาน วันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยานของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเขตเมืองกุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย สิริรวมพระชนมายุได้ 80 พรรษา
ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้
นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี
การสำรวจการเพาะปลูกกัญชาในจันทบุรี พุทธศักราช ๒๔๗๔-๒๔๗๕
กัญชา เป็นพืชที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากรัฐบาล ให้มีการแก้ไขกฏหมายเกี่ยวกับกัญชา ให้ประชาชนสามารถปลูกและใช้ประโยชน์ได้เสรีมากขึ้น ซึ่งในอดีตนั้นมีการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์มาอย่างยาวนานปรากฎหลักฐานมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยาและปรากฎในตำรายาหลายฉบับ ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พุทธศักราช ๒๔๖๕" ออกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อปราบปราม "ฝิ่น" แต่อีก ๓ ปีถัดมา เจ้าพระยายมราช เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ได้เห็นชอบคำแนะนำของอธิบดีกรมสาธารณสุข ให้เพิ่มชนิดยาเสพติดให้โทษในบัญชี โดยระบุว่า "ยาที่ปรุงด้วยกันชา (กัญชา) ก็ดี ยาผสมฤาของปรุงใดๆ ที่มีกันชาก็ดี กับทั้งยางกันชาแท้ฤาที่ได้ปรุงปนกับวัตถุใดๆ เหล่านี้ ให้นับว่าเปนยาเสพย์ติดให้โทษทั้งสิ้น" ด้วยเหตุนี้นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๖๘ กัญชาจึงเป็นของผิดกฎหมาย ก่อนที่ต่อมาจะมีพระราชบัญญัติกัญชา(กันชา) ในพุทธศักราช ๒๔๗๗ ซึ่งห้ามผู้ใดปลูก นำเข้า ซื้อขาย หรือครอบครองกัญชาโดยเด็ดขาด จึงเป็นจุดที่ทำให้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสังคมไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ก่อนที่จะออกพระราชบัญญัติกัญชา ๒๔๗๗ กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม โดยกรมตำรวจกสิกรรม ได้มีการสำรวจการเพาะปลูกกัญชา ในจังหวัดต่างๆขึ้นในปี ๒๔๗๔ โดยสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อที่การเพาะปลูกในจังหวัด จำนวนผู้ปลูก จำนวนผลผลิตกัญชาต่อไร่ ฤดูกาลปลูกกัญชาในจังหวัด มีการใช้ประโยชน์จากกัญชาส่วนใดบ้าง และราคาของกัญชา เป็นต้น
พระพิสิฐสุทธเลขา ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ในสมัยนั้นได้แจ้งไปยังอำเภอต่างๆ ให้สำรวจการเพาะปลูกกัญชาในพื้นที่ต่างๆ เพื่อรายงานไปยังกระทรวงพาณิชย์และคมนาคมต่อไป ซึ่งพบว่า ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๔-๒๔๗๕ มีเพียงอำเภอมะขามเท่านั้นที่มีการเพาะปลูกกัญชา โดยปลูกกัญชากันในท้องที่กิ่งกำพุช มีประมาณ ๑ ไร่ ผู้ปลูกมีประมาณ ๑๐ คน จำนวนกัญชาที่ได้ต่อไร่ ประมาณ ๑ หาบ ซึ่งจะเริ่มเพาะปลูกในเดือนพฤษภาคม และเก็บเกี่ยวในเดือนธันวาคม การใช้ประโยชน์ในพื้นที่นิยมใช้ต้นกัญชาและกะหรี่กัญชาหั่นและตำให้ละเอียด มวนปนกับยาสูบหรือใช้กล้องสูบ โดยหากเหลือขายจะขายอยู่ที่ ชั่งละ ๕๐ สตางค์
อดิศร สุพรธรรม
นักจดหมายเหตุชำนาญการ
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี
เอกสารอ้างอิง
หอจดหมายเหตุแห่งชาติจันทบุรี. (๑๓)มท ๑.๒.๕/๓๘ เอกสารกระทรวงมหาดไทย ชุดมณฑลจันทบุรี เรื่องกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม ส่งคำถามของกรมตรวจกสิกรรม เรื่องขอทราบการเพาะปลูกกัญชามาให้สอบสวน (๑๕ มีนาคม ๒๔๗๔ – ๒๒ เมษายน ๒๔๗๕)
สรวลเฮฮา เล่าเรื่องกัญชาในประวัติศาสตร์ สืบค้นออนไลน์จาก https:/ /voicetv.co.th/read/B1Id7u_9X
อ้างอิงภาพจาก
https: //voicetv.co.th/read/B1Id7u_9X
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 31/5ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 48 หน้า : กว้าง 4.9 ซม. ยาว 53.2 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 45/4ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 38 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง ดาวเรือง
ชื่อผู้แต่ง กรมศิลปากร
พิมพ์ครั้งที่ พิมพ์ครั้งที่ 4
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ กรมศิลปากร
ปีที่พิมพ์ 2529
จำนวนหน้า ๑๐๗ หน้า
รายละเอียด
หนังสือเรื่อง “ดาวเรือง” พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นางบาง เวมลาน ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ 14 ธันวาคม พุทธศักราช 2529 ดาวเรืองนี้ เป็นวรรณกรรมที่มีลักษณะคำประพันธ์ประกอบด้วยกาพย์ยานี สุรางคนางค์ และฉบัง เนื้อเรื่องกล่าวถึงอดีตชาติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นมนุษย์มีนามว่าดาวเรือง
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 142/5 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 177/1ช เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 13/5ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 30 หน้า : กว้าง 4.6 ซม. ยาว 54.8 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
วันพุธที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๙ น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบวรราชเจ้าและบำเพ็ญกุศลในโอกาสปรับปรุงโรงละครแห่งชาติ โดยมีนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นางสาวเพชรรัตน์ สายทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายลสิต อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต นายสุรัฐกิจ พีรพงศ์ศิลป ผู้อำนวยการสำนักช่างสิบหมู่ นางพูนทิพย์ สร้อยสุวรรณ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ร่วมในพิธี ณ โรงละครแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร