ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,754 รายการ
ชื่อผู้แต่ง แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และแพทยสภา
ชื่อเรื่อง วารสารสุขภาพสำหรับประชาชน (ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๑๗)
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย
ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๗
จำนวนหน้า ๑๒๔ หน้า
รายละเอียด
วารสารสุขภาพสำหรับประชาชน ฉบับนี้ประกอบด้วยบทความทั้งหมด ๑๒ บทความ อาทิ แสงธรรม ความสุขของเราอยู่แล้ว พระบิดาของการแพทย์ไทยแผนปัจจุบัน การสาธารณสุขในสาธารณรัฐประชาชนจีน สุขภาพจิตของสตรีทำงานนอกบ้าน ฯลฯ ท้ายเล่มมี ถาม – ตอบและรายชื่อสมาชิก
เลขทะเบียน : นพ.บ.377/9ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า ; 5 x 54.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 142 (7-25) ผูก 9 (2566)หัวเรื่อง : เวสฺสนฺตรชาตก --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.511/5ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 50 หน้า ; 3.5 x 49 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 171 (243-247) ผูก 5 (2566)หัวเรื่อง : ผ้าอาบน้ำฝน--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงความก้าวหน้าโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน ในพื้นที่โรงเรียนสมานมิตรวิทยา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งกรมศิลปากรดำเนินการเพื่อสนับสนุนโครงการวัฒนธรรมเชื่อมใจชายแดนใต้สันติสุข มาตั้งแต่พ.ศ.๒๕๕๗ ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์และห้องนิทรรศการถาวรแล้วเสร็จ และอยู่ในขั้นตอนงานจัดสร้างส่วนอำนวยความสะดวกและภูมิทัศน์รอบอาคารพิพิธภัณฑ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีพ.ศ.๒๕๖๗ ก่อนส่งมอบอาคารพิพิธภัณฑ์ให้แก่โรงเรียนสมานมิตรวิทยา เพื่อนำคัมภีร์อัลกุรอาน เอกสารในศาสนาอิสลาม เอกสารบันทึกภูมิปัญญาพื้นถิ่นที่สะสมไว้จากห้องพิพิธภัณฑ์ของโรงเรียนเข้าจัดแสดง และดูแลบริหารงานต่อไป
นายพนมบุตรยังได้กล่าวถึงการดำเนินงานสนับสนุนความยั่งยืนด้านการอนุรักษ์โบราณวัตถุในระหว่างการจัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติดำเนินงานโครงการอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอานและศิลปวัตถุด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ควบคู่กันไป ตั้งแต่พ.ศ.๒๕๕๗ ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ประกอบด้วยงานบันทึกทะเบียน งานอนุรักษ์ซ่อมแซมคัมภีร์อัลกุรอาน เอกสารทางศาสนา ศิลปวัตถุในห้องพิพิธภัณฑ์โรงเรียนสมานมิตรวิทยา และงานอบรมความรู้ด้านการอนุรักษ์ ดูแลรักษาเอกสารทางศาสนาแก่บุคลากรโรงเรียนสมานมิตรวิทยา ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินงานพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอานหลังรับมอบอาคารจากกรมศิลปากร และเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคมที่ผ่านมา นายพนมบุตรได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอานและศิลปวัตถุเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุม อาคารพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน โดยนางสาวนิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสสถานแห่งชาติ ได้รายงานรูปแบบกิจกรรมอันเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ และบุคลากรโรงเรียนสมานมิตรวิทยา ในการถ่ายทอดความรู้ด้านการอนุรักษ์ซ่อมแซมเอกสารทางศาสนาแก่นักวิชาการ ผู้นำและบุคลากรทางศาสนาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ รวม ๔๖ คน ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖ กิจกรรมตลอดสามวัน มีทั้งการบรรยายกระบวนการดำเนินงานพิพิธภัณฑ์ การบันทึกทะเบียนวัตถุ การอนุรักษ์ซ่อมแซมเอกสารโบราณ ร่วมกันปฏิบัติการซ่อมสงวนเอกสารทางศาสนา และประเมินผลความรู้ โดยวิทยาการเฉพาะสาขาจากสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สำนักหอสมุดแห่งชาติ สำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา และบุคลากรครูโรงเรียนสมานมิตรวิทยา
ในการนี้ นายมาหะมะลุตฟี หะยีสาแม ผู้จัดการโรงเรียนสมานมิตรวิทยา ได้ขึ้นกล่าวขอบคุณกรมศิลปากรที่ให้การสนับสนุนการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ พร้อมส่งบุคลากรมาเป็นพี่เลี้ยงในการอนุรักษ์และถ่ายทอดความรู้ในการอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอานแก่บุคลากรของโรงเรียนมาโดยตลอด และยังร่วมกันจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อส่งต่อความรู้ไปสู่บุคลากรทางศาสนาอิสลามในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ในพิธีเปิดงานครั้งนี้ทางโรงเรียนได้นำการแสดงศิลปะการต่อสู้ “สีละ”ของนักเรียนมาแสดงต้อนรับอธิบดีกรมศิลปากรตามธรรมเนียมของชาวมุสลิม เช่นเดียวกับการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานโดยนางสาวไซนับ อับดุลรอแม เพื่อนำเข้าสู่พิธีการสำคัญ
ในช่วงท้ายนายพนมบุตร ได้กล่าวถึงผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวังจากกิจกรรมครั้งนี้ว่านอกจากเจ้าของวัฒนธรรมได้นำความรู้ที่ได้ไปดูแลรักษามรดกวัฒนธรรมในศาสนาตนแล้ว ยังเป็นโอกาสที่กรมศิลปากรได้ถ่ายทอดความรู้ ทักษะการจัดกิจกรรมบริการศึกษาของพิพิธภัณฑ์แก่บุคลากรโรงเรียนสมานมิตรวิทยา อันเป็นการเตรียมความพร้อมบุคลากรที่จะดำเนินงานพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอานเมื่อแล้วเสร็จต่อไป
ชื่อเรื่อง: จดหมายเหตุบัญชีน้ำฝนของสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เล่ม ๓ ผู้แต่ง: สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ปีที่พิมพ์: พ.ศ. ๒๔๗๓สถานที่พิมพ์: พระนครสำนักพิมพ์: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากรจำนวนหน้า: ๑๑๖ หน้า เนื้อหา: จดหมายเหตุบัญชีน้ำฝนของสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เล่ม ๓ เจ้าพระยาพลเทพ เสนาบดีกระเกษตราธิการ พิมพ์ในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัล ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ พิมพ์ที่โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร ซึ่งสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงเริ่มจดในรัชกาลที่ ๓ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๓๘๙ และทรงพระอุตสาหะจดเป็นรายวันตลอดมานับได้ ๔๕ ปี จนถึง พ.ศ. ๒๔๓๓ รวมกันได้ ๑๓ เล่มสมุดไทย ในหนังสือเล่มนี้เป็นบัญชีฝนตกตั้งแต่ปีเถาะ พ.ศ. ๒๔๑๐ จนถึงปีชวด พ.ศ. ๒๔๑๙ รวม ๑๐ ปี โดยอธิบายเรื่องห่าฝน ปริมาณฝนที่ตกรายวัน ข้างขึ้นข้างแรมรายเดือน ทั้งยังได้จดหมายเหตุคล้ายกับปูมของโหรหลวงลงไว้ และทรงพระนิพนธ์โคลงไว้มีทุกเล่มสมุด จึงเห็นว่าเป็นตำราที่น่ารู้น่าอ่าน และจัดพิมพ์ให้แพร่หลาย เพื่อรักษาไว้มิให้สูญหาย
เลขทะเบียนหนังสือหายาก: ๑๓เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์: E-book ๒๕๖๖_๐๐๐๑หมายเหตุ: โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖
ประเพณีการแข่งเรือวันออกพรรษาของวัดบุญยืน ซึ่งเป็นพระอารามหลวงตั้งอยู่ที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน จะกระทำในโอกาสประเพณีตานก๋วยสลากของวัดบุญยืน ซึ่งยึดถือปฏิบัติเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่สมัยสมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ เป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน ทรงสร้างและบูรณะวัดบุญยืนขึ้นในปี พ.ศ.2343 โดยยึดถือคติในไตรภูมิพระร่วง ตามพุทธประวัติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงเสด็จประทับจำพรรษาบนสรวงสวรรค์ เพื่อโปรดพุทธมารดา ครั้งออกพรรษาจึงเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่โลกมนุษย์ ในวันออกพรรษาของวัดบุญยืน จะมีกิจกรรมการแข่งขันเรือของแต่ละหมู่บ้านที่มาร่วมงานถวายทานสลากภัต โดยยึดถือปฏิบัติกันมา ไม่ว่าวันออกพรรษาจะตรงกับวันใดก็ตามโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
เรือแข่งเมืองน่านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากเรือแข่งโดยทั่วไป ด้วยหัวเรือใช้ไม้แกะสลักเป็นรูปพญานาค เนื่องจากคติความเชื่อของคนโบราณที่ว่า พญานาคเป็นเจ้าแห่งสายน้ำ เจ้าแห่งชีวิต เป็นตัวแทนความศรัทธาที่มนุษย์มีต่อน้ำ พญานาคจะดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เกิดความสมบูรณ์ต่อเรือกสวนนาไร่ บางปีหากฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวเมืองจะนำเรือมาพาย เสมือนว่าพญานาคเล่นน้ำขอฝน ซึงเป็นที่อัศจรรย์ว่า มีฝนตกลงมาทุกครั้ง ลักษณะเรือแข่งเมืองน่านจะทำหัวเรือเป็นรูปพญานาค ชูคอสง่า อ้าปากเห็นเขี้ยวโง้ง งอนสูง ตาโปนแดง ส่วนหางยาวเรียว โค้งสะบัด ติดพู่ห้อยงดงามยิ่งนัก เอกลักษณ์ของเรือแข่งเวียงสามีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ส่วนคือ หัวเรือ กัญญาหัว และกัญญาท้ายเรือ
พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรือแข่งเมืองน่าน เริ่มตั้งแต่ตัดไม้ตะเคียน ขุดแต่งลำเรือ ไปจนกระทั่งการแข่งขันเรือสิ้นสุดลง โดยจะมีผู้ประกอบพิธีกรรมที่เรียกว่า "ข้าวจ้ำ" หรือ "หมอสู่ขวัญ" เรียกแตกต่างกันไปตามโอกาสของการจัดพิธีกรรม โดยทั่วไปเป็นปราชญ์ที่มีความอาวุโสในหมู่บ้าน หรือพระสงฆ์ มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการอ่าน เขียนและท่องบทคาถาภาษาล้านนาได้เป็นอย่างดี เป็นที่เชื่อถือและศรัทธาของคนในหมู่บ้าน มีความเกี่ยวข้องกับพิธีกรรม 6 พิธี ได้แก่ 1) พิธีตัดต้นตะเคียน 2) พิธีอัญเชิญเจ้าแม่ตะเคียน 3) พิธีขอขมาเจ้าแม่ตะเคียนเพื่อทำการขุดเรือแข่ง 4) พิธีอัญเชิญเจ้าแม่ตะเคียนสิงสถิตในเรือแข่ง 5) พิธีบายศรีสู่ขวัญเรือแข่ง 6) พิธีอัญเชิญเรือแข่งลงสู่น้ำ โดยพิธีกรรมที่ 1)-5) จะดำเนินเมื่อมีการขุดเรือแข่งขึ้นใหม่ และพิธีที่ 5)-6) จะดำเนินการก่อนการแข่งขัน บทบาทผู้ประกอบพิธี ได้แก่ การจัดเตรียมเครื่องประกอบพิธี การประกอบพิธีกรรม และสร้างขวัญกำลังใจแก่ฝีพายและประชาชนในหมู่บ้าน
จากเดิมที่เคยใช้เรือในวิถีชีวิตเพื่อการไปมาหาสู่ใช้เป็นขบวนทอดกฐิน ทอดผ้าป่า งานบุญประเพณีได้ค่อย ๆ พัฒนาจนกลายเป็นประเพณีที่มีการแข่งขันเพื่อความสามัคคีของคนในชุมชน หากหมู่บ้านใดวัดใดประสงค์ให้มีการแข่งขันเรือในงานประเพณีตานก๋วยสลาก ก็จะมีใบฎีกาบอกบุญและเชิญไปยังคณะศรัทธาต่าง ๆ ที่อยู่ต่างหมู่บ้านต่างตำบลออกไป สมัยก่อนมีกฎกติกาง่าย ๆ เพียงตั้งลำเรือ เมื่อหัวเรือตรงกันก็เริ่มการแข่งขันได้ ไม่มีการคัดแยกประเภทเรือ รางวัลที่ได้ก็เป็นเพียงเหล้าขาวใส่กระบอกไม้ไผ่ และเปลี่ยนเป็นตะเกียงเจ้าพายุพร้อมน้ำมันก๊าด 1 ปี๊บ ในสมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้กัน ใครชนะก็ตีฆ้องกลองพับพาง บ้างก็ลุกฟ้อน พายเรือกลับบ้านอย่างมีความสุข
ในปี พ.ศ.2551 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลเรือใหญ่ ประเภทเรือเร็ว ให้แก่ชาวอำเภอเวียงสา ต่อมาในปี พ.ศ.2552 ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลพระราชทานเรือแข่งประเภทเรือเร็ว รวม 3 ประเภท คือ เรือใหญ่ (ฝีพายตั้งแต่ 48-58 คน) เรือกลาง (ฝีพายตั้งแต่ 35-40 คน) และเรือเล็ก (ฝีพายตั้งแต่ 25-30 คน) ซึ่งในปี พ.ศ.2555 อำเภอเวียงสาได้จัดการแข่งเรือเอกลักษณ์เมืองน่าน และปี พ.ศ.2556 ได้เพิ่มการแข่งขันเรือเอกลักษณ์เมืองน่าน ประเภทเรือมะเก่า ซึ่งการแข่งขันไม่ได้เน้นแพ้ชนะ แต่มุ่งความสนใจไปที่การนำเสนอความเป็นอดีตของประเพณีแข่งเรืออำเภอเวียงสา ดังจะเห็นได้จากการแต่งกายของฝีพาย ที่จะต้องสวมเสื้อหม้อห้อม คาดผ้าขาวม้า แสดงวิถีชีวิตของคนเมืองน่านในอดีต ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่บนเรือต่างพากันส่งเสียงโห่ร้อง ฟ้อนรำกันด้วยความสนุกสนาน ในขณะที่เรือกำลังล่องเข้าสู่ร่องน้ำ สร้างความประทับใจแก่ชาวอำเภอเวียงสา และนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานยิ่งนัก
รายการอ้างอิง
กวินธร เสถียร และพัชรินทร์ สิรสุนทร. คู่มือส่งเสริมความเข้าใจ เอกลักษณ์เรือแข่งเวียงสา และส่งเสริมสุขภาพเชิงสร้างสรรค์. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2557.
กวินธร เสถียร และพัชรินทร์ สิรสุนทร. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนานวัตกรรมทางสังคมเพื่อส่งเสริมสุขภาพเชิงสร้างสรรค์ในประเพณีแข่งเรือ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน.พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2557.
สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า. แข่งเรือปลอดเหล้าจังหวัดน่าน พลังการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: สำนักงาน, 2554.
ที่มาของภาพประกอบ
อนุรัตน์ วัฒนาวงศ์สว่าง. แข่งเรือเมืองน่าน บูชาพญานาค สานตำนานเชื่อมความสามัคคี. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 30 พฤษภาคม 2566, จาก: https://www.nairobroo.com/travel/boat-race-in-naan/
เรียบเรียงโดย: นางสาวอลิษา สรเดชบรรณารักษ์ชำนาญการ สำนักหอสมุดแห่งชาติ
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา ขอเชิญชมนิทรรศการพิเศษ เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖ เรื่อง “รำลึก ๖๘ ปี เสด็จประพาส ปราสาทพิมาย” เพื่อร่วมรำลึกและน้อมสำนึกในเหตุการณ์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรปราสาทพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๔๙๘ (เมื่อ ๖๘ ปีที่แล้ว) นับเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์สำคัญต่อโบราณปราสาทพิมาย ตลอดจนพสกนิกรในพื้นที่ ซึ่งมีภาพถ่ายบันทึกไว้หลายภาพ ทั้งโดยส่วนราชการและประชาชน นับเป็นภาพถ่ายที่ทรงคุณค่า แสดงให้เห็นสภาพของปราสาทพิมายก่อนที่จะได้รับการบูรณะ และพระราชกรณียกิจครั้งสำคัญ อันเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ “พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย” ทรงมีต่องานด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ
โดยจะมีพิธีเปิดนิทรรศการ ในวันพุธที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมนิทรรศการพิเศษนี้ได้ ระหว่างวันที่ ๑๑ ตุลาคม ถึง ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๐๐ น. ทุกวัน (ไม่มีวันหยุด) สอบถามรายละเอียด โทร. ๐ ๔๔๔๘ ๑๕๖๘
วันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 นายประพนธ์ รอบรู้ ผู้แทนหน่วยงาน ได้เข้าร่วมพิธีในงาน “ 4 ตุลา วันมหามงคล เคลื่อนพลไปกู้ชาติ” ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ทุ่งนาเชย) จังหวัดจันทบุรี ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ร่วมกับสภาวัฒนธรรม ส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและวีรชนบรรพบุรุษชาวจันทบุรี ที่ร่วมกองทัพพระเจ้าตากสินมหาราชไปกู้ชาติ ในงานมีการแสดงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และการเคลื่อนพลนักรบจากจันทบุรีไปกู้ชาติ/ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีเสริมสิริมงคล บทสวดธชัคคปริตร /พิธีตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 48 รูป อุทิศบุญกุศลแก่บรรพบุรุษของไทย
หนังสือ : คู่มือเอาตัวรอดจากสถานการณ์ฉิบหายขั้นสุด = The worst-case scenario survival handbook
ผู้เขียน : โจชัว ไพเวน และ เดวิด โบร์เกนิซต์
ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์
เวลาดูภาพยนตร์ที่ต้องหนีตายจากฉลาม จระเข้ เคยสงสัยไหมคะ ว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์นั้น เราต้องทำอย่างไรถึงจะรอด หนังสือเล่มนี้จะช่วยไขข้อสงสัยดังกล่าว (แต่ไม่รับประกันความปลอดภัย) โดยผู้เขียนทำการรวบรวมวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญหลายแขนง เช่น วิธีหนีออกจากรถที่กำลังจม วิธีป้องกันตัวจากฉลาม วิธีสลัดให้หลุดจากจระเข้ วิธีกระโดดเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกฟ้าผ่า ฯลฯ สรุปเป็นขั้นตอนที่กระชับ เข้าใจง่าย มีภาพประกอบ ให้เราพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
คำเตือน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ห้องบริการ 1 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
เลขหมู่ : 363.34 พ994ค
เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๒
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้ำแม่เริมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ้านเป้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
รหัสเอกสาร ภ หจภ กษ ๑.๑/๑๐๒
ผู้สนใจสามารถสืบค้นเอกสารจดหมายเหตุเพิ่มเติมได้ที่ https://archives.nat.go.th/Home/
หรือสนใจสั่งซื้อหนังสือออนไลน์
https://shorturl.asia/nQ5WZ
กรมศิลปากรได้ดำเนินการจัดทำบอร์ดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๗ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อพสกนิกรชาวไทยจะได้น้อมรำลึกและเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการสร้างสรรค์ และธำรงรักษามรดกของชาติให้ยั่งยืนสืบไป