ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 41,342 รายการ


          เนื่องด้วยวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๓ ถือเป็นวันที่คณะรัฐมนตรี ในรัฐบาลสมัยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้มีการพิจารณารับรองให้ "เสื้อชุดไทย" หรือ "เสื้อไทยพระราชทาน" เป็นเครื่องแบบข้าราชการและสามารถใช้แทนเสื้อสากลได้ เพื่อเป็นการประหยัดและเพื่อความเหมาะสมกับภาวะอากาศของประเทศไทย           นอกจากนั้นให้ถือเป็นเครื่องแต่งกายที่สุภาพเสมอด้วยเครื่องแต่งกายสากล มีผลให้สมาชิกเนติบัณฑิตสภาใช้แต่งกายในเวลาปฏิบัติหน้าที่ในศาล รวมทั้งข้าราชการก็แต่งมาทำงานได้           ชุดพระราชทาน หรือ เสื้อพระราชทาน เป็นเครื่องแต่งกายของบุรุษ ลักษณะเป็นเสื้อคอตั้ง ผ่าหน้า กระดุม ๕ เม็ด ส่วนใหญ่ใช้ผ้าไทยตัดเย็บ ใส่คู่กับกางเกงสีสุภาพ หรือสีเดียวกับเสื้อ ถือเป็นชุดประจำชาติที่ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ริเริ่มขึ้นขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี            ในช่วงที่พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ มีโอกาสเดินทางไปเยือนต่างประเทศแล้วพบว่าผู้แทนประเทศอื่นๆ ต่างมีชุดประจำชาติกันหลายประเทศ แต่ไทยเป็นประเทศเก่าแก่กลับไม่มีชุดประจำชาติ จึงนำความกราบบังคมทูลปรึกษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการนี้พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานชุดพระราชทานให้แก่ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดังจะเห็นได้จากคำกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณไว้ในปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ความเป็นไทยด้วยจิตวิญญาณ” เมื่อพ.ศ. ๒๕๔๗ ว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานชุดไทย สำหรับสุภาพบุรุษที่นิยมเรียกกันว่า ชุดพระราชทาน ผมรับแบบชุดไทยจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่านเอง”            จากนั้นพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้สวมชุดพระราชทานนี้ครั้งแรกในโอกาสเป็นประธานเปิดงานฉลองครบ ๖๐ ปี วงเวียน ๒๒ กรกฎาคม เมื่อพ.ศ. ๒๕๒๒ และยังได้สวมชุดดังกล่าวเข้าประชุมสภาในปีเดียวกันด้วย ทำให้บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตื่นตาตื่นใจ สื่อมวลชนต่างลงข่าวเกี่ยวกับแบบเสื้อใหม่กันแทบทุกฉบับ และเสื้อพระราชทานกลายเป็นสัญลักษณ์ของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ไปในที่สุด            ต่อมาขณะท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๓ มีมติรับรองให้เสื้อไทยพระราชทาน เป็นเครื่องแบบข้าราชการและใช้แทนเสื้อสากลได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดและเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย นอกจากนั้นให้ถือเป็นเครื่องแต่งกายที่สุภาพเช่นเดียวกับเครื่องแต่งกายแบบสากลนิยมและมอบให้กระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ร่วมกันพิจารณากำหนดรายละเอียดในเรื่องสีของผ้าและการประดับเครื่องหมายของทางราชการ ซึ่งได้ตกลงให้ชื่อเสื้อไทยพระราชทานนี้ว่า “เสื้อชุดไทย” ชนิดของผ้า ควรเป็นผ้าที่ทำในประเทศไทย มี ๓ แบบ คือ แบบแขนสั้น แบบแขนยาว และแบบแขนยาวคาดเอว ใช้ในโอกาสต่าง ๆ ดังนี้            ๑. ชุดไทยแขนสั้น ใช้สีอ่อนหรือมีลวดลายสุภาพ สวมใส่ในโอกาสธรรมดาทั่วไปหรือในการปฏิบัติงาน หรือในงานพิธีการกลางวัน และอาจใช้สีเข้มได้ ในพิธีการเวลากลางคืน            ๒. ชุดไทยแขนยาว ใช้สีอ่อนหรือมีลวดลายสุภาพ ในโอกาสพิธีการเวลากลางวัน และอาจใช้สีเข้มในโอกาสพิธีเวลากลางคืน //๓. ชุดไทยแขนยาวคาดเอว ใช้ในโอกาสพิธีการที่สำคัญ ถือเป็นแบบเต็มยศ ------------------------------------------------จัดทำข้อมูล : หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์-----------------------------------------------เอกสารอ้างอิง กระทรวงวัฒนธรรม. (๒๕๖๒). จารึกไว้ในแผ่นดิน พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ. กรุงเทพฯ : รุ่งศิลป์การพิมพ์(๑๙๗๗). หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี. ภ นรม ๑/๖๘ ภาพกิจกรรมหอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ภาพพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เดินทางมาเยี่ยมชมหอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อวันที่ ๒๖ ก.พ. ๒๕๔๕ หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี. ภ นรม ๑.๑.๑.๓/๓๖ ภาพกองงานโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ภาพพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ประจำปี ๒๕๒๔ หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี. ภ นรม ๑.๑.๑.๓/๘๕ ภาพกองงานโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ภาพพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงานรักเมืองไทย ที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ ๑๖ ก.ค. ๒๕๒๖ หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี. ภ นรม ๑.๑.๑.๓/๑๙๘ ภาพกองงานโฆษก สำนักเลขาธิกานายกรัฐมนตรี ภาพพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้การรับรองเจ้านโรดมสีหนุ ประธานาธิบดีแห่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยกัมพูชาในโอกาสที่เข้าเยี่ยมคารวะ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ ๒๘ ก.ค. ๒๕๒๖ -


ผู้แต่ง : - ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 2 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร ปีที่พิมพ์ : 2473 หมายเหตุ : พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ มหาเสวกตรี พระยาอาทรธุรศิล์ป (ม.ล. ช่วง กุญชร) ทจ, ทม, ตช, รัตน ว ป ร 3, ร จ พ ฯลฯ เมื่อปีมะเมีย พ.ศ. 2473               ประกอบด้วยจดหมายของมองเซนเยอร์ เดอซิเซ กล่างถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในกรุงศรีอยุธยา ความต้องการให้ฝรั่งเศสเข้ามาค้าขายในเมืองไทย ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฮอลันดาและอังกฤษ


ปริวรรต/เรียบเรียง :  นางสาวเอกสุดา ไชยวงศ์คต และ นายพจนวราภรณ์ เขจรเนตรห้องจัดเก็บ : กรมศิลปากรประเภทสื่อ : สิ่งพิมพ์ - หนังสือISBN/ISSN : 978-616-283-524-7ผู้จัดทำ : หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนมหมวดหมู่ : พุทธศาสนาปีที่จัดทำ : 2563ลักษณะวัสดุ :  140 หน้า  : ภาพประกอบ ; 25.5 ซม. ชื่อชุด : ฉบับหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนมหัวเรื่อง : สังฮอมธาตุ--ว่าด้วยความเป็นไปของพระพุทธศาสนาในอนาคตกาลเบื้องหน้า            สังฮอมธาตุ--คัมภีร์ใบลาน            วรรณกรรมพุทธศาสนาบทคัดย่อ : สังฮอมธาตุ ฉบับหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม นี้แปลปริวรรตจากเอกสารโบราณประเภทคัมภีร์ใบลานฉบับลานดิบทะเบียนเลขที่ นพ.บ.1039/1-5 ของหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม จำนวน 1 ผูก 88 หน้าลาน จารด้วยอักษรธรรมอีสาน สำนวนร้อยแก้ว คัดลอกโดยพระภิกษุจันทร์ เมื่อพุทธศักราช 2465 สังฮอมธาตุ จัดอยู่ในประเภทวรรณกรรมตำนานเนื้อหากล่าวถึงเหตุแห่งความเสื่อมสูญไปของพระพุทธศาสนา ความเสื่อมสูญของแนวทางการปฏิบัติตนของพุทธศาสนิกชนและการอันตรธานไปของพระบรมสารีรักธาตุ ในเวลาที่พระพุทธศาสนามีอายุครบ 5,000 ปี เนื้อหามีลักษณะเดียวกันกับที่พบในจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน เพื่อให้ได้อานิสงส์จากการทำบุญ แต่ไม่สามารถระบุผู้แต่งที่แน่ชัดได้



ชื่อเรื่อง                           เตภูกถา (ไตรภูมิวินิจฉัย)สพ.บ.                                  107/1ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           54 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 55.5 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           บทสวดมนต์บทคัดย่อ/บันทึกเป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก วัดประสพสุข   ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี


ชื่อเรื่อง                           เทศนา (ธัมมสังคิณี-มหาปัฎฐาน)สพ.บ.                                  179/4ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           24 หน้า กว้าง 4.4 ซ.ม. ยาว 55.3 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           ธรรมเทศนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ภาษาบาลี-ไทย ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากวัดพยัคฆาราม  ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี   


เลขทะเบียน : นพ.บ.91/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  32 หน้า ; 5 x 56 ซ.ม. : ทองทึบ ; ไม้ประกับธรรมดา  ชื่อชุด : มัดที่ 54 (122-128) ผูก 1 (2564)หัวเรื่อง : สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (พระอภิธัมมสังคิรี-พระสมันตมหาปัฎฐาน) --เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ขอมภาษา : บาลี-ไทยบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง                                ปฐมสมฺโพธิ (ปฐมสมโพธิ)สพ.บ.                                  159/24ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           32 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 56 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           พระพุทธเจ้า บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดสัปรสเทศ ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี


พระอภัยมณี ชบ.ส. ๘๑ เจ้าอาวาสวัดเทพประสาท ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มอบให้หอสมุด ๒๓ ก.ค. ๒๕๓๕ เอกสารโบราณ (สมุดไทย)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.29/1-2 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)



“ แรกมีอควาเรียม (Aquarium) ในพะเยา          อควาเรียม คือสถานที่อนุรักษ์และจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ส่วนมากเป็นอาคารห้องโถงขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยตู้ปลาหรือซุ้มกระจกโค้งตั้งแต่พื้นจรดเพดาน สำหรับเลี้ยงพันธุ์สัตว์น้ำนานาชนิด โดยผู้เข้าชมสามารถมองเห็นได้ถ้วนทั่ว        นับแต่ปลายสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เมืองแรกๆ ที่มีอควาเรียมในประเทศไทยคือ จังหวัดพะเยา จากการสืบค้นเอกสารจดหมายเหตุของสถานีประมงน้ำจืดพบว่า ปี ๒๔๘๖ ฯพณฯ  จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ได้มอบเงินจำนวน ๕,๐๐๐ บาท สำหรับก่อสร้างอควาเรียมภายในสถานีบำรุงพันธุ์ ๒ กว๊านพะเยา ทั้งนี้หัวหน้าแผนกสถานีได้เร่งงานโดยนำเสนอแบบแปลนการก่อสร้างให้ผู้บังคับบัญชาเห็นชอบอีกด้วย  เมื่อพิจารณาแบบแปลน ภายนอกเป็นอาคารทรงปั้นหยา มีมุขทางเข้าอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายและขวาประดับไม้ระแนงตกแต่งต้นไม้ ส่วนภายในอาคารแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะเน้นพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ประกอบกับความโค้งมนสี่ทิศของอาคาร ซึ่งสอดคล้องการจัดวางตู้ปลาอิงผนังแบบ ๓๖๐ องศาในแนวฉาก มีมุมนั่งพักผ่อนทอดสายตาชมพันธุ์สัตว์น้ำได้ ๒ ฝั่งอย่างลงตัว  หากนับถึงปัจจุบัน ไม่น่าเชื่อว่าจังหวัดเล็กๆ ที่เคยเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย จะได้รับมอบหมายงานสำคัญ นั่นสะท้อนให้เห็นว่า ในขณะที่สงครามกำลังคุกรุ่นไปทั่วโลก ประเทศไทยเริ่มดำเนินงานอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำกันแล้ว ผู้เขียน : นายธานินทร์ ทิพยางค์ (นักจดหมายเหตุ) เอกสารอ้างอิง : หจช.พย. เอกสารสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  (2) กษ 1.1.1.1.3 / 1 เรื่องการปลูกบ้านพักและซ่อมแซมภายในสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยา ( 29 ก.ย. 2482 - 20 ก.ค. 2503 )


งค์ความรู้ เรื่อง กล้องยาสูบดินเผา (Pipe/Clay Pipe) ตอนที่ ๒ การศึกษาเปรียบเทียบกล้องยาสูบดินเผาที่พบในวัฒนธรรมล้านช้างกับแหล่งโบราณคดีอื่น ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเรียบเรียงข้อมูลโดย นางสาวกุลวดี สมัครไทย นักโบราณคดีชำนาญการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๘ ขอนแก่น




Messenger