ค้นหา


รายการที่พบทั้งหมด 37,660 รายการ

เลขทะเบียน : นพ.บ.416/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 60 หน้า ; 4.5 x 53 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 147  (71-80) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : จีณณปาลชาดก--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.549/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 12 หน้า ; 5 x 55 ซ.ม. : ชาดทึบ-รักทึบ-ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 182  (311-323) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : อุปสมบทวิธี--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง : พงศาวดารจีน เรื่อง ชิดก๊กไซ่ฮั่น พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายตันซิวเม้ง หวั่งหลี ต.ม. และนางทองพูล หวั่งหลี จ.ม.,ข.ช. ณ เมรุวัดธาตุทอง วันจันทร์ ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2515 ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2515 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : ตีรณสาร จำนวนหน้า : 598 หน้า สาระสังเขป : พงศาวดารจีน เรื่อง ชิดก๊กไซ่ฮั่น กล่าวถึงเหตุการณ์บ้านเมืองในระยะที่กษัตริย์ราชวงศ์ฮั่นเป็นเป็นผู้ครองบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง เรื่องไซ่ฮั่นเป็นเรื่องราวตอนหนึ่งที่แสดงถึงการทำสงครามล้างอำนาจ ตั้งตัวเป็นใหญ่มีบุคคลสำคัญในเรื่องนี้สองคน คือ เล่าปัง (หรือเล่าปั๋ง)คนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเป็นฮั่นอ๋องแล้วเป็นพระเจ้าฮั่นเต้ และห้างอิ๋ อีกคนหนึ่ง ต่อมาเป็นพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง ได้ทำสงครมรบขับเคี่ยวกันจนในที่สุด เล่าปัง มีชัยชนะได้รับความยกย่องนิยมนับถือสูงสุด แล้วได้เสวยราชสมบัติเป็นฮองเต้ ปฐมราชวงศ์ฮั่น



องค์ความรู้: ความทรงจำแห่งโลกในประเทศไทยบันทึกการประชุมของสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์บันทึกการประชุมของสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนไว้เมื่อปี พ.ศ.2556 เป็นเอกสารที่มีอายุกว่า 100 ปี (The Minute Books of the Council of the Siam Society", 100 years of recording international cooperation in research and the dissemination of knowledge in the arts and sciences) จัดเก็บไว้ ณ สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ วันที่ 19 มิถุนายน 2556 เป็นเอกสาร ส่วนหนึ่งของบันทึกการประชุมของสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มีทั้งหมด 16 เล่ม บันทึกไว้ช่วงระหว่างปี 2447-2547 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นการรวบรวมบันทึกความคิด ความอ่าน หรือการระดมสมองของ สมาชิกสยามสมาคมที่มาจากหลายสาขาอาชีพ มีทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการระดับสูง ที่ปรึกษาชาวต่างชาติ สะท้อนภาพและมุมมองของสังคมในยุคสมัยนั้น ซึ่งเป็นประโยชน์ในการศึกษาวิจัย และอ้างอิงได้


เทวดานพเคราะห์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทวดานพเคราะห์ทั้งปวง พระอิศวรทรงใช้ราชสีห์ ๖ ตัว ป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีแดง พรมด้วยน้ำอมฤต ลักษณะเป็นบุรุษมีผิวกาย สีแดง ทรงราชสีห์เป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มักมีอารมณ์รุนแรง ตัดสินใจไว เฉียบขาด รักอิสระ แต่ซื่อสัตย์ เป็นมิตรกับพระพฤหัสบดี และเป็นศัตรูกับพระอังคาร สัญลักษณ์เลข ๑ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๖


เจริญ  ไชยชนะ.  คู่มือวรรณคดีมหาเวสสันดรชาดก.  พิมพ์ครั้งที่ 1.  พระนคร: ไชยวัฒน์, 2502.         พระเวสสันดรชาดก เป็นชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้า  เมื่อพระเวสสันดรสิ้นพระชนม์แล้วไปประสูติเป็นพระสิทธัตถะ เวสสันดรชากได้ชื่อว่ามหาชาติ เป็นการแต่งชาดกไว้เป็นลักษณะคำฉันท์ที่พระสงฆ์นำมาเทศนาสั่งสอน มีทั้งหมด 1,000 พระคาถาและแบ่งเป็น 10 เชื่อกันว่าการฟังเทศน์มหาชาติจบ 13 กัณฑ์ ได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ได้แก่ กัณฑ์ที่ 1 ทศพร กัณฑ์ที่ 2 หิมพานต์ กัณฑ์ที่ 3 ทานกัณฑ์  กัณฑ์ที่ 4 วนปเวสน  กัณฑ์ที่ 5 ชูชก กัณฑ์ที่ 6 จุลพน กัณฑ์ที่ 7 มหาพน กัณฑ์ที่ 8 กุมารบรรพ กัณฑ์ที่ 9 มัทรี  กัณฑ์ที่ 10 สักกบรรพ  กัณฑ์ที่ 11 มหาราช  กัณฑ์ที่ 12 ฉกษัตริย์  กัรฑ์ที่ 13 นครกัณฑ์ 


ชื่อเรื่อง                         ธมฺมบทวณฺณนา ธมฺมบทฏฺฐกถา (ขุทฺทกนิกายฏฺฐกถา) อย.บ.                            327/16 หมวดหมู่                       พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                   56 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 53 ซม. หัวเรื่อง                         พระธรรมเทศนา                                                                       บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา



          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช แจ้งของดให้บริการนำชมเป็นหมู่คณะชั่วคราว ตั้งแต่บัดนี้ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ เนื่องจากอยู่ระหว่างการขนย้ายโบราณวัตถุเพื่อเตรียมดำเนินโครงการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพอาคารจัดแสดงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ทั้งนี้ ผู้มาติดต่อราชการสามารถติดต่อพิพิธภัณฑ์ได้ตามปกติ ณ อาคารสำนักงาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. หรือโทรศัพท์ ๐๗๕-๓๔๑๐๗๕ (ปิดวันจันทร์ - อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)


ชื่อเรื่อง                         มหานิปาต(เวสฺสนฺตรชาดก)ชาตกปาลิขุทฺทกนิกาย(คาถาพัน)อย.บ.                            170/2งหมวดหมู่                       พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                  56 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 55 ซม.หัวเรื่อง                         มหาเวสสันดรชาดก                                                               บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา


            ฟังเบื้องหลังความสำเร็จของประเทศไทยในการนำเสนอเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม แหล่งที่ 4 ของไทย สร้างแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ สืบสาน เมืองโบราณศรีเทพตลอดจนมรดกวัฒนธรรมไทยให้ยั่งยืน และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ             ติดตามได้ในรายการเรื่องเล่าข่าวดี กับ สายสวรรค์ ตอน ร่วมอนุรักษ์และสืบสานเมืองโบราณศรีเทพ มรดกโลกทางวัฒนธรรม แหล่งที่ ๔ ในประเทศไทย สัมภาษณ์นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ออกอากาศวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2566 เวลา 20:30 น.-21:00 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 HD


ชื่อเรื่อง                               อนุสรณ์ถึงท่านเจ้าประคุณ พระพุทธวรญาณผู้แต่ง                                    -ประเภทวัสดุ/มีเดีย                 หนังสือหายากISBN/ISSN                            -หมวดหมู่                                ศาสนาเปรียบเทียบและศาสนาอื่นๆเลขหมู่                                  294.3144สถานที่พิมพ์                          กรุงเทพฯสำนักพิมพ์                            โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยปีที่พิมพ์                                 2536ลักษณะวัสดุ                           177 หน้าหัวเรื่อง                                   ศาสนาเปรียบเทียบและศาสนาอื่นๆภาษา                                    ไทย  


#องค์ความรู้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ผีปู่ย่า ผี ตามความเชื่อของชาวล้านนาไทยโบราณ นอกจากจะหมายถึง วิญญาณของคนที่ล่วงลับไปแล้ว ยังรวมถึง ผีในลัทธิที่เคารพนับถืออีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าเป็นผีที่มีอิทธิฤทธิ์ มีความศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาลให้คุณและโทษแก่คนได้  โดยสามารถแบ่งผีออกได้เป็น 2 ประเภท คือ1. ผีที่เคารพยำเกรงสืบต่อกันมาในวงศ์ตระกูล เช่น ผีปู่ย่า ผีโป่งป่าถ้ำดอยหลวง2. ผีที่ต้องเคารพเชื่อถือตามความนิยมของชนชาวอื่นที่เข้ามาเป็นใหญ่หรือมาเป็นครูบาอาจารย์อยู่ในบ้านเมืองตั้งแต่โบราณ เช่น  ผีครู (ผียักษ์), ผีมดหรือผีเมง, ผีแมน (ผีดิบ), ผีนาค.โดยในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะ “ผีปู่ย่า” ซึ่งจัดอยู่ในผีประเภทแรก คือ ผีที่เคารพยำเกรงสืบต่อกันมาในวงศ์ตระกูล หรือเรียกได้ว่าเป็น ผีบรรพบุรุษ หรือ ผีประจำตระกูลผีปู่ย่า แบ่งออกมาได้เป็น 4 ชนิด คือ ผี สาง เทวดา และเปรต (เผด)1. ผี คือ วิญญาณของผู้ที่ตอนมีชีวิตอยู่ประพฤติตนดี ได้ก่อร่างสร้างวงศ์ตระกูล ผีจะอาศัยอยู่ยังตามอาสน์ หอ หรือสถานที่ที่ลูกหลานทำไว้ให้สถิต2. สาง คือ วิญญาณที่ตายโหง ตายห่า หรือตอนมีชีวิตอยู่ประพฤติตนเป็นคนชั่วช้า สางจะไม่มีที่อยู่อาศัย เพราะผีจะรังเกียจสาง คอยขับไล่ไม่ให้เข้ามาอยู่ปะปนกับผี ต้องคอยเร่ร่อนหลอกคนให้สะดุ้งตกใจ และแย่งเอาโชคลาภของคนไป หากญาติพี่น้องจะทำบุญอุทิศผลให้ก็ต้องแอบทำ ไม่ให้ผีรู้ คือไปทำตามตรอก ซอก ซอยทางสามแพร่ง หรือข้างทางแทน 3. เทวดา คือ วิญญาณของเจ้านาย เจ้าบ้านผ่านเมือง ที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่คนจำนวนมาก ที่เป็นกษัตริย์จะได้เป็น พระยาอินตา คือ พระอินทร์ 4. เปรต (เผด) คือ วิญญาณของเจ้านายเจ้าบ้านที่ทำตนไม่เที่ยงตรง โดยปกติเป็นคนพาล และคนที่ทำลายศาสนสถาน ฉ้อโกง ทำของปลอม เปรตต้องอาศัยอยู่ตามวัดคอยรับผลเมตตาจิต ต้องคอยตัดหญ้าในวัดโดยการกัดหญ้าทีละเส้น และแลบลิ้นเลียขัดพื้นโบสถ์วิหารให้สะอาด เพื่อใช้หนี้เวรกรรมที่ทำไว้เมื่อตอนเป็นคน อาหารก็ไม่สามารถกินจากที่ญาติอุทิศไปให้ได้ ต้องคอยกินเศษอาหารที่พระนำไปทิ้ง หรือคอยหลอกแล้วแย่งมากินเอา.สางกับเปรตจะเป็นผีที่น่าเกลียดน่ากลัว ไม่ทำคุณประโยชน์ให้แก่คน แต่ผีกับเทวดานั้นจะคอยช่วยเหลือ ปกปักรักษาคนให้มีความสุข ความเจริญ โดยเฉพาะกับคนที่เป็นลูกหลานของผีเหล่านั้น จะได้รับประโยชน์จากผีหรือเทวดามากกว่าผู้อื่น มักจะคอยติดตามลูกหลานไปปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ ลูกหลานจึงเคารพยำเกรงและคอยเส้นไหว้บวงสรวงให้อยู่เสมอ พร้อมจัดที่ทางให้สถิตอยู่ เช่น ทำเป็นหิ้งไว้บนฝาหัวนอนเหมือนตั้งพระพุทธรูป หรือสร้างเป็นหอ เป็นห้องไว้ให้ .การบวงสรวงผีปู่ย่านั้น มักจะทำการประมาณเดือน 7-8-9 เหนือ (ตรงกับเดือนเมษายน – มิถุนายน) ของทุกปี แล้วแต่ความพร้อมหรือความสะดวกของแต่ละตระกูล โดยมีการนำเครื่องบวงสรวง เช่น หัวหมูไก่ต้ม สำรับคาวหวาน สุรา ดอกไม้ธูปเทียน น้ำขมิ้นส้มป่อย หรือแล้วแต่จะกำหนด มาสังเวย นอกจากนี้อาจจะทำเนื่องในโอกาสที่ญาติ ๆ บนบานศาลกล่าวผีปู่ย่าให้ช่วยคนในตระกูลแล้วหายเจ็บป่วยก็ได้ --------------------------------------อ้างอิง    - แก้วมงคล ชัยสุริยันต์. ผีของชาวล้านนาไทยโบราณ. พระนคร: โรงพิมพ์พระจันทร์, 2486. หน้า 4-19.- สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ. ชีวิตไทย ชุด ฮีตฮอยเฮา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2538 หน้า 185.


สวัสดีปีมังกรทอง 2567 : 2024 Year of the Gold Dragon ผู้เรียบเรียง : นางอภิญญานุช เผ่าพงษ์คล้าย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ


Messenger