ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ



ผู้แต่ง : ธนิต อยู่โพธิ์ ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 1 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2511 หมายเหตุ : กรมศิลปากรพิมพ์ถวายพระภิกษุและสามเณรซึ่งเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ในเทศกาลเข้าพรรษา พ.ศ. 2511               เป็นหนังสือสารคดีที่จัดพิมพ์ถวายพระภิกษุและสามเณรซึ่งเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ในเทศกาลเข้าพรรษาเป็นประจำทุกปี ต่อมาได้มีการก่อสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในต่างจังหวัดหลายแห่ง และได้เลือกเรื่องอตีตังสญาณ หรือเครื่องวิทยาการกำหนดรู้เรื่องในอดีต จัดพิมพ์ถวายเป็นธรรมบรรณาการแก่พระภิกษุและสามเณร โดยแปลความหมายของคำว่าญาณในทางพุทธศาสนาว่าคือความหยั่งรู้ แต่ความหมายในหนังสือเล่มนี้เน้นในทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี โดยอาศัยจดหมายเหตุ เอกสารพงศาวดาร ตำนานและจารึก ฯลฯ นอกจากนี้ยังนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อช่วยในการค้นคว้าเป็นที่ยอมรับและทันสมัย




         รวบรวมภาพ พระราชกรณียกิจ ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในขณะดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ประจำปี พ.ศ. 2540 - 2541 ผู้แต่ง                                     สำนักงานเสิมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โรงพิมพ์                                 เซเว่น พริ้นติ้ง กรุ๊ปปีที่พิมพ์                                 2541 ภาษา                                     ไทย - อังกฤษ รูปแบบ                                   pdf เลขทะเบียน                           หช.จบ. 212 จบ (ร)




เลขทะเบียน : นพ.บ.121/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  34 หน้า ; 5 x 57.3 ซ.ม. : ทองทึบ-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดา  ชื่อชุด : มัดที่ 69 (225-231) ผูก 2 (2564)หัวเรื่อง : สตฺตปฺกรณาภิธมฺ (พระอภิธมฺสงฺคิณี-พระยกมกปกรณ)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.111/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  32 หน้า ; 4.5 x 54.6 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดา  ชื่อชุด : มัดที่ 62 (188-191) ผูก 1 (2564)หัวเรื่อง : แทนน้ำนม--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ตำรายาแผนโบราณ ชบ.ส. ๒๑ เจ้าอาวาสวัดต้นสน ต.บางปลาสร้อย เขต ๑ อ.เมือง จ.ฃลบุรี มอบให้หอสมุด ๒๐ ก.ค. ๒๕๓๕ เอกสารโบราณ (สมุดไทย)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.20/1-3 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)



อาคารเก่าริมฝั่งโขงเมืองนครพนม (ตอนที่๑) นครพนม เป็นจังหวัดชายแดนของประเทศไทยในภาคอีสานซึ่งมีพื้นที่ติดกับ สปป.ลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นแนวกั้นแบ่งพรมแดน มีความยาวเลียบชายฝั่งแม่น้ำโขงประมาณ ๑๕๓ กิโลเมตร ตลอดความยาวเลียบชายฝั่งแม่น้ำโขงดังกล่าว จะพบอาคารเก่าสมัยอาณานิคมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตตัวเมืองนครพนม ซึ่งปัจจุบันจังหวัดนครพนมและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอนุรักษ์ไว้ จนกลายมาเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดนคร ที่ใครๆหลายคนให้ความสนใจมาศึกษาเที่ยวชม ในที่นี้จะขอเสนอเรื่องราวอาคารเก่าริมฝั่งโขงเมืองนครพนม โดยเริ่มจาก “อาคารศาลากลางจังหวัดนครพนม” หลังเก่า ซึ่งมีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมที่หลายคนได้มาเยี่ยมชมจะเกิดความประทับใจยิ่ง นอกจากความงามของอาคารภายนอกแล้ว การได้เข้าไปในตัวอาคารเพื่อนั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดในบรรยายกาศที่เงียบสงบ ยิ่งเพิ่มความประทับได้ในอีกรูปแบบหนึ่งด้วย เนื่องจากปัจจุบัน อาคารศาลากลางจังหวัดนครพนมหลังเก่า กรมศิลปากรได้ดำเนินการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์เป็น “หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม” ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นต้นมา อาคารศาลากลางจังหวัดนครพนมหลังเก่า สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๘-๒๔๖๒ สมัยพระยาพนมนครานุรักษ์ (อุ้ย นาครทรรพ) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ช่างผู้ควบคุมการก่อสร้างคือ นายสุมังค์ ปทุมชาติ อดีตปลัดอำเภอ หัวหน้าการก่อสร้างเป็นช่างชาวญวณชื่อ นายก่าย ใช้แรงงานผู้ต้องขังในการก่อสร้าง ที่ออกแบบโดยนายแพทย์ชาวอเมริกัน ในนามคณะมิสชั่นนารีอเมริกันเพรสไบทีเรียน เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ในเหตุการณ์พิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ทหารฝรั่งเศสได้ยิงปืนใหญ่จากเมืองท่าแขก ข้ามแม่น้ำโขงมายังเมืองนครพนม ทำให้อาคารศาลากลางจังหวัดชั้นสองได้รับความเสียหาย เมื่อซ่อมแซมแล้วได้ใช้งานต่อมากระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๒๓ จึงได้ย้ายออกไปยังอาคารศาลากลางแห่งใหม่และได้ยกให้กรมศิลปากรดำเนินการอนุรักษ์จนแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ จึงได้ใช้เป็นที่ทำการหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม จนปัจจุบัน ลักษณะสถาปัตยกรรมของอาคารหลังนี้เป็นแบบโคโลเนียล ในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ต่อมุขตรงมุมอาคารด้านเหนือและใต้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเข้าสู่แม่น้ำโขง ตัวอาคารก่ออิฐถือปูนไม่เสริมเหล็ก โครงสร้างอาคารใช้ผนังรับน้ำหนักหลังคาปั้นหยา มุงกระเบื้องดินเผาสีแดง ส่วนประกอบโครงสร้างต่างๆ ทำจากไม้ พื้นอาคารทุกชั้นปูด้วยไม้กระดานวางบนตงไม้ ตัวอาคารหลักมี ๒ ชั้น จำนวน ๑๗ ห้อง ส่วนมุขซ้ายและขวามีชั้นที่ ๓ ประตูทางเข้าด้านหน้า ๓ ทาง ประตูด้านหลัง ๒ ทาง ห้องโถงกลางอาคารมีบันไดไม้ประดับราวลูกกรงไม้ เป็นทางเดินขึ้นไปบนชั้น ๒ แยกซ้ายและขวา กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน อาคารศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๒๒ เนื้อที่โบราณสถานประมาณ ๖ ไร่ ๙๒ ตารางวา โบราณสถานแห่งนี้ได้รับการบูรณะครั้งหลังสุดใน พ.ศ. ๒๕๕๐ ท่านใดไปจังหวัดนครพนมต้องไม่พลาดไปชมอาคารหลังนี้นะคะ ในตอนต่อไปจะเล่าถึงจวนผู้ว่าจังหวัดนครพนมหลังเก่า ซึ่งเป็นอาคารอีกหลังหนึ่งที่น่าสนใจอย่าลืมติดตามกันนะคะ... ข้อมูล นางสาวเมริกา สงวนวงษ์ ที่มา - คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ.๒๕๔๒.วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดนครพนม.กรุงเทพฯ:คุรุสภาลาดพร้าว. - เกริกฤทธี ไทคูนธนภพ.สยาม ร.ศ.๑๑๒ วิกฤตแผ่นดิน พิพาทฝรั่งเศสและเสียดินแดน.กรุงเทพฯ:คอนเซพท์พริ้นท์.  


          วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมพิพิธภัณฑสถานวิทยาแก่บุคคลภายนอก (ปีที่ ๑๗) หัวข้อ “พิพิธภัณฑ์ในอาคารเก่า” ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร           การอบรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๗ – ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ (หลักสูตร ๑๐ วัน) มุ่งเน้นการถ่ายทอดองค์ความเรื่องการอนุรักษ์และการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ในอาคารโบราณสถาน หรืออาคารเก่าที่มีคุณค่า โดยถอดบทเรียนจากการปรับปรุงอาคารหมู่พระวิมาน ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มาเป็นกรณีศึกษา มีผู้เข้าอบรมจำนวน ๒๐ คน จาก ๑๘ หน่วยงาน ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในอาคารโบราณหรืออาคารเก่าอันทรงคุณค่า           ตลอดการอบรม ๑๐ วันผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับความรู้และประสบการณ์จากวิทยากรซึ่งล้วนเป็นผู้ที่มีบทบาทและมีส่วนสำคัญที่ส่งเสริมให้การปรับปรุงอาคารและการจัดนิทรรศการภายในหมู่พระวิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนางสมลักษณ์ เจริญพจน์ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ (SPAFA) และอดีตรองอธิบดีกรมศิลปากร ให้เกียรติมาเป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์ในการอบรมครั้งนี้ด้วย           ทั้งนี้ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้กำหนดข้อปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ระหว่างการอบรมอย่างเคร่งครัด


black ribbon.