ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 41,346 รายการ




ชื่อเรื่อง                     สังข์ทองผู้แต่ง                       กรมศิลปากรประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   วรรณกรรมเลขหมู่                      895.9112 พ835สกสถานที่พิมพ์               ธนบุรีสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์สุทธิสารการพิมพ์ปีที่พิมพ์                    2508ลักษณะวัสดุ               328 หน้า หัวเรื่อง                     หนังสืออนุสรณ์งานศพภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก นิทานเรื่องสังข์ทองนี้มีในคัมภีร์ปัญญาสชาดก เรียกว่า สุวัณณสังขชาดก ถึงเชื่อถือกันว่าเป็นเรื่องจริง      


ชื่อเรื่อง : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 42 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 67 (ต่อ) - 68 ) จดหมายเหตุเกี่ยวกับเขมรและญวนในรัชกาลที่ 3 ตอนที่ 1 (ต่อ) และตอนที่ 2ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2512 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : องค์การค้าของคุรุสภา จำนวนหน้า : 296 หน้า สาระสังเขป : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 42 ภาคที่ 67 (ต่อ) กล่าวถึง จดหมายเหตุเกี่ยวกับเขมรและญวนในรัชกาลที่ 3 ตอนที่ 1 บรรยายถึงเหตุการณ์ในปี มะเมีย พ.ศ. 2377 ถึง ปีกุน พ.ศ.2382 มีจดหมายเหตุฉบับสำคัญอาทิ หนังสือตอบเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เรื่องถอยทัพจากเมืองโจดก มาตั้งอยู่เมืองเชิงกระชุม ตราถึงเจ้าพระยาบดิทรเดชาฯ เรื่องให้จัดส่งเครื่องยศเจ้าองค์ด้วงไว้กับเมืองพระตะบอง เป็นต้น และประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 68 กล่าวถึง จดหมายเหตุเกี่ยวกับเขมรและญวนในรัชกาลที่ 3 ตอนที่ 2 บรรยายถึงเหตุการณ์ในปีชวด พ.ศ. 2383 อาทิ อักษรสารเจ้าพระยาบดินทรเดชาฯ ตอบแม่ทัพญวน คำให้การญวน กองทัพพระยาสังคโลกส่งมาให้แม่ทัพใหญ่ผู้สำเร็จราชการ เป็นต้น


          วันจันทร์ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๓๐ น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการถาวรพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม โดยมีพระศรีวิสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ผู้แทนหน่วยงานและประชาชนในจังหวัดนครปฐม เข้าร่วมงาน          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เมืองนครปฐมโบราณเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเมืองในสมัยทวารวดี นับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๒ เป็นต้นมา จัดเป็นศิลปกรรมต้นธารอารยธรรมสมัยประวัติศาสตร์ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ณ บริเวณลุ่มแม่น้ำท่าจีน – แม่กลอง ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๑ – ๑๖ บรรดาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และโบราณสถาน ส่วนใหญ่ล้วนสร้างขึ้นเนื่องในพุทธศาสนาลัทธิเถรวาท หากแต่ยังปรากฏหลักฐานการนับถือศาสนาพุทธลัทธิมหายานและฮินดูรวมอยู่ในพื้นที่นี้ด้วย การที่กรมศิลปากรได้ปรับปรุงการจัดแสดงนิทรรศการถาวร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ขึ้นในครั้งนี้ แสดงถึงความตั้งใจพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในประเทศไทย และเผยแพร่ความรู้ใหม่ด้านศิลปวัฒนธรรม ให้ประชาชนตระหนักรู้ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ หวงแหน และภาคภูมิใจในมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติอีกทางหนึ่งด้วย             พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ดำเนินการปรับปรุงการจัดแสดงนิทรรศการถาวรภายใน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ โดยนำเสนอเนื้อหาทางประวัติศาสตร์และพัฒนาการของเมืองนครปฐม ที่สอดคล้องกับโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วงวัฒนธรรมทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๖) แบ่งเนื้อหาการจัดแสดงออกเป็น เรื่องราวในอดีตของนครปฐมในสมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัยทวารวดีผ่านโบราณวัตถุ เข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ จากจารึกสำคัญที่ค้นพบในเมืองนครปฐม แนะนำสภาพภูมิศาสตร์ของนครปฐมโดยสังเขป การจัดแสดงเรื่องราวของศาสนาและความเชื่อของชุมชนทวารวดีในนครปฐมจากหลักฐานโบราณวัตถุที่ค้นพบในบริเวณเมืองโบราณนครปฐม และส่วนสุดท้ายเป็นเรื่องราวความเจริญรุ่งเรืองของนครปฐมหลังจากวัฒนธรรมทวารวดีเสื่อมลงจนกระทั่งถึงสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ อาทิ จารึกวัดพระงาม พระพุทธรูป ประติมากรรมประดับศาสนสถาน พระพุทธรูปประทับเหนือพนัสบดี ธรรมจักร          ทั้งนี้ กรมศิลปากรหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปรับปรุงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ครั้งนี้ จะทำให้ผู้ชมนิทรรศการได้เรียนรู้และมีความเข้าใจในประวัติศาสตร์ โบราณคดีและศิลปกรรมของไทย อีกทั้งจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความสนใจในการศึกษา “ทวารวดี” ในเมืองนครปฐมโบราณ อันเป็นประโยชน์อย่างกว้างขวางในทางวิชาการต่อไป


ส่งเสริมการอ่านผ่าน Facebook กับหอสมุดแห่งชาติชลบุรี เรื่อง คน 5 แบบที่จะทำชีวิตคุณพัง เอ็ดดี, บิลล์. คน 5 แบบที่จะทำชีวิตคุณพัง แปลโดย มิส บรีฟ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2562. ห้องหนังสือทั่วไป 1 เลขเรียกหนังสือ 158.2 อ887ค ในชีวิตเราต้องพบปะผู้คนมากมายซึ่งแต่ละคนนั้นก็จะมีบุคลิกภาพ อุปนิสัยใจคอที่ต่างกันออกไป ร้อยละ 90 ของคนทั่วไปคุณสามารถเชื่อได้ว่าตัวตนของพวกเขาเป็นอย่างที่แสดงออกมาและมีชีวิตตามปกติของสังคม แต่จะมีอีก ร้อยละ 10 ที่อาจเป็นบุคคลซึ่งสร้างความยุ่งยากและเพิ่มปัญหาความขัดแย้ง โดยแสดงออกผ่านการกระทำและคำพูด หากมีเหตุให้ต้องปฏิสัมพันธ์กับบุคคลเหล่านี้ ก็ควรต้องเรียนรู้สัญญาณอันตรายและวิธีป้องกันตนเองจากบุคคลที่จะเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต คน 5 แบบที่จะทำชีวิตคุณพัง เล่มนี้ ผู้เขียนพาเราไปพบกับ การรับมือกับบุคคลที่อาจเป็นอุปสรรคต่อชีวิต ทั้งในเรื่องการทำงาน สถานะทางการเงิน รวมไปถึงสุขภาพจิต ซึ่งบุคคลเหล่านี้อยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คาดคิด พวกเขาอาจมาในรูปแบบของเจ้านาย หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ญาติสนิท หนังสือเล่มนี้จึงเป็นคู่มือแนะนำวิธีแยกแยะสัญญาณอันตรายเมื่อต้องเข้าใกล้บุคคลที่มีบุคลิกภาพขัดแย้งสูงทั้ง 5 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพขัดแย้งสูงแบบหลงตัวเอง มักจะเชื่อว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่นอยู่มาก ผู้มีบุคลิกภาพขัดแย้งสูงแบบก้ำกึ่ง มักเริ่มต้นด้วยความเป็นมิตร แต่จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวอย่างฉับพลัน จนบางครั้งลุกลามไปถึงการใช้คำพูดหยาบคาย ผู้มีบุคลิกภาพขัดแย้งสูงแบบต่อต้านสังคม พวกเขามักมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนรอบข้างแต่ก็จะแฝงไว้ซึ่งความต้องการมีอำนาจเหนือผู้อื่น ผู้มีบุคลิกภาพขัดแย้งสูงแบบหวาดระแวง พวกเขามักจมอยู่กับความระแวงและกลัวการถูกหักหลัง สุดท้ายคือผู้มีบุคลิกภาพขัดแย้งสูงแบบเรียกร้องความสนใจ มักมีเรื่องราวที่น่าสงสารหรือเหตุการณ์อันโหดร้าย จนนำไปสู่การระบายอารมณ์กับคนรอบข้าง โดยทั่วไปแล้วบุคคลที่มีบุคลิกภาพขัดแย้งสูงมักจะมีลักษณะที่สอดคล้องกัน คือ แนวความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมที่แคบกว่าคนทั่วไป พวกเขาจะไม่ทำสิ่งที่ลดหรือคลี่คลายปัญหา ในทางตรงกันข้ามกลับเพิ่มความขัดแย้งและปัญหาขึ้นมาเสียเอง หลักสำคัญในการป้องกันและรับมือไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของบุคคลเหล่านี้ คือ การตระหนักรู้ในตนเอง หมั่นสังเกตอารมณ์ที่ตอบสนองต่อคำพูดหรือพฤติกรรมที่หยาบคาย ผู้สนใจสามารถหาอ่านได้ที่หอสมุดแห่งชาติชลบุรี (วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 09.00 - 17.00 น.)


ชื่อเรื่อง                    สพ.ส.17 คำอุปโลกน์กฐินประเภทวัสดุ/มีเดีย       สมุดไทยดำISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  ธรรมคดีลักษณะวัสดุ              41; หน้า : มีภาพประกอบหัวเรื่อง                    ธรรมคดี             ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                   ประวัติวัดป่าเลไลยก์ ต.รั้วใหญ่  อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 16 ส.ค.2538 



          บ้านเรือนของชาวลาวโซ่งเรียกว่า “กวังตุ๊บ” หรือ “เฮือนลาว” เป็นเรือนเครื่องผูก ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ หลังคามุงด้วยแฝก มีใต้ถุนสูง องค์ประกอบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเรือนลาวโซ่ง ดังนี้           • หลังคา มุงด้วยหญ้าแฝก เป็นทรงโค้งคล้ายกระดองเต่า ลาดต่ำคลุมลงมาจนเกือบถึงพื้นดิน แทนฝาเรือน เพื่อกันลม ฝน และอากาศหนาวเย็น เนื่องจากถิ่นฐานเดิมของลาวโซ่งอยู่ในเขตหนาวมาก่อน การทำหลังคาลาดต่ำจึงช่วยป้องกันลมหนาว            • ขอกุด ทำจากไม้แกะสลักคล้ายเขากวางไขว้ ประดับบนยอดจั่ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเรือนลาวโซ่ง โดยมีตำนานของชาวลาวโซ่งเล่าสืบต่อกันมาว่า แถนหรือเทวดาเป็นผู้ส่งควายมาเป็นสัตว์เลี้ยง เพื่อใช้งานและช่วยมนุษย์ทำมาหากิน จึงทำให้มีความผูกพันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและเป็นที่มาของการสร้าง “ขอกุด” ประดับไว้เหนือจั่วหลังคาบ้าน ถือว่าควายมีบุญคุณทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความอดทน มุ่งมั่นการต่อสู้และความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์           • เสาเรือน ทำจากไม้เนื้อแข็งทั้งต้น ซึ่งต้องคัดเลือกต้นไม้ที่มีง่ามสำหรับทำเสา และเป็นต้นไม้ที่มีความสูงไล่เลี่ยกัน เมื่อวางไม้คานบนง่ามเสาทำให้ได้ระดับเดียวกัน           • เรือนยุ้งข้าว มักจะมีพื้นสูงกว่าเรือนผู้ท้าว (เรือนนอน) เนื่องจากชาวลาวโซ่งถือว่าภายในยุ้งข้าวซึ่งเก็บรักษาข้าว และข้าวมีพระแม่โพสพสถิตย์อยู่ ชาวลาวโซ่งมักใช้พื้นที่ใต้ถุนทำกิจกรรมในตอนกลางวัน เช่น ทอผ้า ตำข้าว จักสาน ส่วนบนเรือนจะใช้สำหรับเป็นที่หลับนอน ทำครัว และประกอบพิธีกรรม บนเรือนลาวโซ่งแบ่งพื้นที่ออกเป็น ๓ ส่วน คือ            • ชาน  เป็นส่วนระเบียงหน้าเรือน ใช้เป็นที่รับแขกและนั่งเล่น           • ห้อง เป็นโถงใหญ่ภายในบ้าน ใช้เป็นที่นอน ที่ทำครัว และเก็บข้าวของต่าง ๆ มีมุมหรือกั้นห้องเล็กสำหรับเซ่นไหว้ผี เรียกว่า “กะล้อห่อง” ที่แปลว่ามุมห้อง เป็นส่วนที่บุคคลอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวไม่สามารถเข้าไปในส่วนนี้ได้            • กว้าน เป็นส่วนระเบียงหลังเรือน ใช้สำหรับทำพิธีเซ่นบรรพบุรุษ ---------------------------------------------------------- ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง https://www.facebook.com/153378118193282/posts/1840817466115997/  


ชื่อเรื่อง                     เพลงพวงมาลัยผู้แต่ง                       สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรีประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  ประเพณี ขนบธรรมเนียมเลขหมู่                     398.2 ส691พสถานที่พิมพ์              สุพรรณบุรีสำนักพิมพ์                สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรีปีที่พิมพ์                   2549ลักษณะวัสดุ              220 หน้า : ภาพประกอบ ; 29 ซม.หัวเรื่อง                    เพลงพวงมาลัย                             เพลงพื้นบ้านภาคกลางภาษา                      ไทยบทคัดย่อ/บันทึก           หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงเพลงพวงมาลัย เป็นเพลงพื้นบ้านภาคกลางที่นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีคุณค่าของคนไทย เป็นบทเพลงที่แต่ละท้องถิ่นนำมาร้องกันเพื่อความบันเทิงมักใช้ถ้อยคำเรียบง่าย มีสัมผัสคล้องจอง และไม่นิยมใช้เครื่องดนตรีประกอบ เนื้อหาของเพลงบ่งบอกถึงวิถีชีวิตอันดีงาม รวมถึงคติสอนใจ ซึ่งนับวันจะหาผู้สืบทอดได้ยากยิ่งและกำลังจะสูญหายไปกับกาลเวลา  



ข่าวหจช.สงขลา จาก สื่อมวลชนรวมข่าวที่กล่าวถึงหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ สงขลาจากข่าวตัด หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์


          กรมศิลปากร จัดพิมพ์นิตยสารศิลปากร เป็นนิตยสารราย ๒ เดือน กำหนดออกปีละ ๖ ฉบับ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและผลงานด้านวิชาการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ ตลอดจนส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของชาติ โดยมีบทความจากนักเขียนและนักวิชาการด้านวัฒนธรรม ซึ่งมีคอลัมน์ที่น่าสนใจ อาทิ เกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์  ภาพเก่า - เล่าอดีต  ของชิ้นเอกในกรมศิลปากร ฯลฯ            กรมศิลปากรขอเชิญชวนผู้สนใจสมัครหรือต่ออายุสมาชิกนิตยสารศิลปากร ปี ๒๕๖๖ ค่าสมัครสมาชิกเพียง ๖๐๐ บาท/ปี (ค่าจัดส่งฟรี) รับนิตยสารศิลปากร จำนวน ๖ ฉบับ (นิตยสารราย ๒ เดือน) พร้อมรับฟรี หนังสือ ๑๑๑ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร และ ปกิณกศิลปวัฒนธรรม เล่ม ๒๘ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายการละ ๑ เล่ม (มีจำนวนจำกัด) เป็นของสมนาคุณ           สามารถสมัครสมาชิก โดยกรอกใบสมัคร และโอนชำระค่าสมัครสมาชิกผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาถนนข้าวสาร ชื่อบัญชี กรมศิลปากร-เงินจำหน่ายหนังสือออนไลน์ เลขบัญชี 027-6-03454-6 โดยติดต่อสอบถาม หรือส่งใบสมัครสมาชิกได้ผ่านทาง inbox นิตยสารศิลปากร, E-mail : silpakornjournal@hotmail.com หรือสมัครสมาชิกด้วยตนเองได้ที่ ศูนย์หนังสือกรมศิลปากร ชั้น ๑ อาคารกรมศิลปากร (เทเวศร์) ๘๑/๑ ถนนศรีอยุธยา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐           ทั้งนี้ ในส่วนผู้ที่สนใจส่งบทความเพื่อเผยแพร่ลงในนิตยสารศิลปากร สามารถส่งได้ที่กองบรรณาธิการนิตยสารศิลปากร ชั้น ๓ อาคารกรมศิลปากร (เทเวศร์) เลขที่ ๘๑/๑ ถนนศรีอยุธยา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ หรือทางอีเมล silpakornjournal@hotmail.com โดยเนื้อหาของบทความและรูปภาพรวมกันประมาณ ๑๐ หน้ากระดาษ A4            หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒๑๒๖๖๖๖๐, ๐๒๑๒๖๖๗๕๐ และ ๐๒๑๖๔๒๕๐๑ - ๒ ต่อ ๓๐๔๒ โหลดใบสมัครได้ที่ https://drive.google.com/file/d/1aMND2X8I3z4xP0mTTcZAxKAgt5l15X-8/view?fbclid=IwAR0xKyT0cuZ3ZoKOUSyV45yoXBjU6B-HRFDeMGEqG0oDyhVSLCwwbwFp0PE หรือ QR Code ด้านล่าง



ชื่อผู้แต่ง      วศิน อินทสระ   ชื่อเรื่อง        หลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด  ครั้งที่พิมพ์     - สถานที่พิมพ์   พระนคร สำนักพิมพ์     มหามกุฏราชวิทยาลัย ปีที่พิมพ์        ๒๕๒๔ จำนวนหน้า    ๑๗๙ หน้า รายละเอียด                    หลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องหลักคำสอนสำคัญในพระพุทธศาสนา (พุทธปรัชญาเถรวาท) หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายหลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิดไว้เกือบทุกแง่ ทุกมุม ตามหลักของพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท พร้อมทั้งหลักฐานอ้างอิงตัวอย่างและอุปมาเปรียบเทียบที่น่าสนใจ


Messenger