ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,754 รายการ

ชื่อเรื่อง                                สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (วิภังค์-มหาปัฏฐาน) สพ.บ.                                  377/7ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           36 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 58 ซม.หัวเรื่อง                                 ธรรมเทศนา บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทย-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ-ล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


องค์ความรู้เรื่อง : พระแก้วเวียงยวมเรียบเรียงโดย : นายสายกลาง  จินดาสุ                       นักโบราณคดีชำนาญการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่




สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)  ชบ.บ.41/1-7  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


อฎฺฐงฺคิกมคฺค (พรอฎงฺคิกมคฺค)  ชบ.บ.83/1-3  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


มหานิปาตวณฺณนา(เวสฺสนฺตรชาตก) ชาตกฎฺฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฺฐกถา (ทสพร-กุมาร)  ชบ.บ.106ก/1-3  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


เลขทะเบียน : นพ.บ.332/6ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4.5 x 55 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 132  (343-358) ผูก 6 (2565)หัวเรื่อง : ปาลิวารปาลี (บาลีบริวาร)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


           หากย้อนกลับไปหาต้นตอของคำว่า Museum ในประวัติศาสตร์ อาจสืบได้ว่ามีรากศัพท์จากการผูกคำระหว่าง -eum ที่แปลว่าสถานที่ กับ muse ที่หมายถึงเทพีแห่งศิลปวิทยาการทั้งเก้า ยืมมาจากภาษาละตินว่า “มูเซอุม” อันมีรากศัพท์จากภาษากรีกโบราณว่า “มูเซออน” (Mouseion) ที่สถิตของเทพีมูซา รากเดียวกับคำว่า music ที่หมายถึงศิลปะที่เทพีทั้งปวงจัดแสดง          ส่วนกิจการพิพิธภัณฑ์ไทย มีประวัติโดยคร่าวว่า ได้เปิดการจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมครั้งแรกในตอนค่ำของวันที่ 19 กันยายน 2417 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีที่ 21 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดแสดงโบราณวัตถุที่รวบรวมไว้จากสถานที่ต่าง ๆ เครื่องมงคลบรรณาการ รวมถึงของสะสมส่วนพระองค์ กระทั่งต่อมาได้มีการขยับขยายกิจการพิพิธภัณฑ์จากวังหลวงสู่วังหน้า ปรากฏนาม มูเสียมหลวงที่วังหน้า, พิพิธภัณฑ์วังหน้า, โรงปะเซียม, โรงกระเซียมข้างทุ่งพระเมรุ จนมีคำว่า "สถานพิพิธภัณฑ์" ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ซึ่งความหมายของพิพิธภัณฑ์ปัจจุบัน มีจุดประสงค์หนึ่งระบุว่ามีขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินใจ วันนี้ เพจคลังกลางฯ จึงมาในหัวข้อ “วันพิพิธภัณฑ์ไทยกับ 9 ของแปลกที่ไม่คิดว่าจะมีในคลังกลาง”           นำเสนอวัตถุแต่ละห้องคลัง มีจารึกปูนปลาสเตอร์อักษรไทย-อยุธยา กระดูกปากปลาฉนาก กาน้ำจากไข่นกกระจอกเทศ พระพิฆเนศดินเผา ชิ้นส่วนราวสะพานมัฆวานรังสรรค์ ‘หมาย’ ใช้แทนเงินตราสมัยรัชกาลที่ 4 แก้วที่ระลึกเมื่อคนไปเหยียบดวงจันทร์ รางไม้รูปจระเข้ รวมถึงวัตถุชิ้นสำคัญ คือแผ่นปูมโหร มีประวัติระบุว่าพระธุดงค์องค์หนึ่งพบที่วัดร้างแถบเมืองสุโขทัย และได้มอบให้หม่อมหลวงชิต เสนีวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2430 โดยวัตถุประสงค์การนำเสนอของแปลกเหล่านี้ มีขึ้นเพื่อสมดังนิยามของคำว่า... พิพิธภัณฑ์           เผยแพร่โดย ศรัญ กลิ่นสุคนธ์ ภัณฑารักษ์ / ภาพโดย กิตติยา เชื้อทอง นายช่างภาพปฏิบัติงาน / เทคนิคภาพโดย ณัฐดนัย อรุณมาศ ผู้ช่วยภัณฑารักษ์ กลุ่มทะเบียน คลังพิพิธภัณฑ์และสารสนเทศ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ


ชื่อเรื่อง : ราชาธิราช ฉบับหอสมุดแห่งชาติ ชื่อผู้แต่ง : ราชาธิราชปีที่พิมพ์ : 2505 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : รุ่งเรืองธรรม จำนวนหน้า : 696 หน้า สาระสังเขป : หนังสือราชาธิราชนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพงศาวดารมอญ ได้แปลและเรียบเรียงขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 1 กรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ 1 นั้นมีหนังสือสำคัญๆเกิดขึ้นเป็นอันมาก โดยเฉพาะหนังสือเรื่องราชาธิราชนั้น ปรากฏในบานแผนกว่าโปรดฯ ให้แปลและเรียบเรียงขึ้นเมื่อปีมะเส็ง พุทธศักราช 2328 โดยทรงมอบให้กวี 4 คน ช่วยกันทำ กวี 4 คนนั้นคือ พระยาพระคลัง(เจ้าพระยาพระคลัง หน) 1 พระยาอิทรอัคคราช 1 พระภิรมรัศมี 1 พระศรีภูริปรีชา 1 หมอบรัดเล ได้ต้นฉบับมาตีพิมพ์จำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2423


ชื่อผู้แต่ง          ถวิล   อยู่เย็น ชื่อเรื่อง           การเสียดินแดนของชนเชื้อชาติไทย ครั้งที่พิมพ์       - สถานที่พิมพ์     กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์       โรงพิมพ์กรมยุทธศึกษาทหารบก ปีที่พิมพ์          ๒๕๑๖ จำนวนหน้า      ๔๖  หน้า            การเสียดินแดนของชนเชื้อชาติไทย  เป็นหนังสือที่เป็นส่วนหนึ่งที่จะกระตุ้นเตือนให้คนไทยรักชาติ หวงแหนแผ่นดินเกิด  มีระเบียบวินัย  เข็มแข็งไม่อ่อนแอ มีความซื่อสัตย์ ขยันหมั่นเพียรและอดทนเพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ไม่ให้มีการเสียดินแดนอีก จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพ นายห้อย  อยู่เย็น  กล่าวถึง ความเป็นมาของชนเชื้อชาติไทย  อาณาจักรของชนเชื้อชาติไทย อาณาจักรไทยสมัยต่างๆ ได้แก่ อาณาจักรไทยสมัยน่านเจ้า  สมัยพระเจ้าขุนรามคำแหง การเสียดินแดนของชนเชื้อชาติไทย  (ยุคกรุงรัตนโกสินทร์)  เป็นต้น ท้ายเล่มมีบทความเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร เป็นที่น่าวิตกในอนาคต พร้อมภาพประกอบ


          มหามกุฎราชสันตติวงศ์ ๑๕ ตุลาคม ๒๔๐๖ วันประสูติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุษบันบัวผัน           พระองค์เจ้าหญิงบุษบันบัวผัน พระราชธิดาลำดับที่ ๖๕ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาห่วง เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๔๐๖ มีพระอนุชา ๑ พระองค์ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย           พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุษบันบัวผัน สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๘ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๔๘๒ ขณะพระชันษา ๗๖ ปี           พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงเล่าว่า "เสด็จย่าสร้อย (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์) กับเสด็จย่าบุษบัน (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุษบันบัวผัน) ทั้งสองพระองค์นี้คุ้นเคยมากเพราะเวลาเสด็จไปอยู่พระราชวังพญาไท เสด็จย่าทั้งสองพระองค์นี้ก็เสด็จไปด้วย เสด็จย่าสร้อยทรงคุยคล่อง เสด็จย่าบุษบันท่านเงียบ ๆ เมื่อก่อนนี้ ท่านเคยทรงเป็นพี่เลี้ยงทูลกระหม่อมอาติ๋ว"   ภาพ : พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุษบันบัวผัน


       ศิลปะรัตนโกสินทร์ พ.ศ. ๒๓๖๕        ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องไม้จำหลัก มุขเด็จทิศตะวันตก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร        เดิมเป็นบานประตูคู่กลางด้านหน้าพระวิหารหลวงวัดสุทัศนเทพวราราม พระอารามหลวงกลางเมืองกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ทรงมีส่วนร่วมในการจำหลักด้วยพระองค์เอง ประตูจำหลักจากไม้แผ่นเดียวคว้านผิวลึกลงเป็นลวดลายพันธุ์พฤกษาตวัดเกี่ยวกันคล้ายกำลังเคลื่อนไหว สอดแทรกรูปสรรพสัตว์นานาพันธุ์ ลงรักปิดทองฝีมือประณีตงดงามอย่างยิ่ง ต่อมาในวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๐๒ เกิดไฟไหม้บานประตูชำรุดบานหนึ่ง จึงได้นำบานประตูคู่กลางด้านหลังมาใส่ไว้แทน และถอดบานประตูเดิมนี้ออกเก็บรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร       สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์เกี่ยวกับบานประตูพระวิหารวัดสุทัศน์ ใน พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒  ส่วนของเชิงอรรถ ความว่า “ลายสลักบานพระวิหารวัดสุทัศน์ สลักดีไม่มีที่ไหนเหมือน ยังเปนของควรชมอยู่จนทุกวันนี้ มีคำเล่ากันสืบมาว่า ช่างที่สลักบานพระวิหารวัดสุทัศน์นั้น เมื่อทำการเสร็จแล้ว ประสงค์จะไม่ให้ใครทำได้เหมือนต่อไป จึงเอาเครื่องมือทิ้งน้ำเสียหมด ความข้อนี้จะจริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ แต่มีความจริงอย่าง ๑ ซึ่งปรากฏในรัชกาลหลังต่อมา มีพระราชประสงค์จะทำบานอย่างพระวิหารวัดสุทัศน์ไปใช้ในที่อื่น ไม่มีช่างที่จะรับทำให้เหมือนได้”




ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา.  ประวัติอธิบดีสงค์วัดมหาธาตุ.  พระนคร : กรมศิลปากร, 2486.         รวบรวมประวัติสงค์วัดมหาธาตุ ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเรียบเรียงไว้ และประวัติสมเด็จพระวันรัต เขมจารี อธิบดีสงฆ์องค์ที่ 14 ซึ่งพระธัมไตรโลกาจารย์เรียบเรียงไว้ด้วย


black ribbon.