ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 41,347 รายการ
“แห้ว” พืชเศรษฐกิจคู่เมืองสุพรรณ แต่คำว่า แห้ว อาจทำให้บางคนเรียกแทนการอกหักรักคุด จึงทำให้พืชชนิดนี้เป็นที่ไม่นิยมของคนบางกลุ่มที่ติดกับความเชื่อที่ว่าเป็นชื่อของสิ่งที่มีความหมายไม่ดี ถึงขั้นมีการเรียกคำแทนใหม่ว่า “สมหวัง” แต่ความจริงแล้ว แห้วเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมายและรสชาติอร่อย
ผู้เรียบเรียง : นางภควรรณ คุณากรวงศ์ บรรณารักษ์ชำนาญการ
#ข้อมูลอ้างอิง
“นาแห้วสุพรรณบุรี” [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก http://www.suphan.biz/waternut.htm. (วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔)
มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร. “แห้ว” [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.saranukromthai.or.th (วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔)
ไมตรี ระงับพิศม์.(๒๕๒๖). เศรษฐกิจการผลิตแห้วจีนในจังหวัดสุพรรณบุรี.(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต) (วท.ม.) กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรี. ข้อมูลการผลิตและการตลาดแห้วจีน จังหวัดสุพรรณบุรี. สุพรรณบุรี : สำนักงานพาณิชย์ จังหวัดสุพรรณบุรี. ๒๕๓๗.
“แห้ว กับประวัติที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน พร้อมชวนมากินแห้วที่ไม่แห้วอย่างที่คิด” [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://kaset.today (วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔)
ชื่อผู้แต่ง ธีรญาณมุนี , สมเด็จพระ
ชื่อเรื่อง แคน สมเด็จพระธีรญาณมุนี
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ ๒
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ วัชรินทร์การพิมพ์
ปีที่พิมพ์ ๒๕๒๐
จำนวนหน้า ๑๑๘ หน้า
หมายเหตุ จัดพิมพ์ในงานบำเพ็ญกุศลอายุครบ ๘๐ ปี สมเด็จพระธีรญาณมุนี ปุณณกมหาเถร
เมื่อกล่าวถึงเครื่องเป่าชนิดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า แคน ว่าเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งอันเป็นสัญลักษณ์ของคนไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสียงเป่าแคนใครๆก็เคยฟัง ว่าเป็นเสียงนิ่มนวลฟังไพเราะเย็นใจไม่เป็นเสียงโฉ่งฉ่างตึงตังเหมือนดังเครื่องดนตรีอื่นลางชนิด เพียงแต่ทราบเท่านี้ก็นเป็นความรู้ว่าแคนคืออะไร ผู้ที่สนใจต่อเพื่อเป็นความรู้และเข้าใจต่อไปว่าแคนนั้นเขาทำกันอย่างไร ทำกันที่ไหน ทำไมจึงเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมกันทั่วไปในภาคนั้น และมีเรื่องราวตำนานกันมาแต่เมื่อไหร่
ชื่อเรื่อง : การปกครองของไทย ชื่อผู้แต่ง : -ปีที่พิมพ์ : 2514 สถานที่พิมพ์ : พระนครสำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี จำนวนหน้า : 368 หน้า สาระสังเขป : หนังสือเล่มนี้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองของประเทศไทย เริ่มจาก บทความทั่วไป การปกครองสมันโบราณจนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย สถาบันการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง การบริหารราชการแผ่นดิน และการปกครองท้องถิ่น
ชื่อเรื่อง เปิดประตูเมืองนนทบุรีผู้แต่ง -ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN -หมวดหมู่ ภูมิศาสตร์และการท่องเที่ยวเลขหมู่ 915.9312 ป759สถานที่พิมพ์ ม.ป.ท. สำนักพิมพ์ ม.ป.พ.ปีที่พิมพ์ ม.ป.ป.ลักษณะวัสดุ 60 หน้า : ภาพประกอบ ; 29 ซม.หัวเรื่อง นนทบุรี—การเมืองการปกครอง นนทบุรี—ความเป็นอยู่และประเพณี นนทบุรี—ภูมิประเทศและการท่องเที่ยวภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับประโยชน์และรู้จักเมืองนนท์ เมืองประวัติศาสตร์ของชาติ และเมืองนนท์ยังเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพร่มรื่น ชวนสัมผัส ผลไม้พืชผักมีรสชาติชวนรับประทาน ยังมีศิลปวัฒนธรรมประเพณีและหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีคุณค่า
แนะนำหนังสือน่าอ่าน เรื่อง พระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระปิยมหาราชินีกับเมืองจันทบุรี
พระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระปิยมหาราชินีกับเมืองจันทบุรี. กรุงเทพฯ: ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์การพิมพ์ , 2550. 175 หน้า. ภาพประกอบ.
หนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงพระราชประวัติของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวี กับจังหวัดจันทบุรี ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเรื่องราวการเสด็จประพาสเมืองจันทบุรีเมื่อจุลศักราช ๑๒๓๘ ความเป็นมาของอนุสรณ์สถานแห่งรักอมตะ ณ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี และที่สำคัญคือสำเนาพระราชหัตเลขาระยะทางเสด็จประพาสจันทบุรี ที่แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณสุดคณานับที่พระองค์ทรงมีต่อชาวจันทบุรี
ท
923.1593
พ341
(ห้องจันทบุรี)
“มโหระทึก” เป็นเครื่องประโคมตระกูลฆ้อง-ระฆัง ทำจากโลหะผสมระหว่างทองแดง ดีบุกและตะกั่ว บ้างเรียก “กลองทอง(แดง)” “ฆ้องบั้ง” หรือ “ฆ้องกบ” พบได้ตั้งแต่เหนือสุดทางมณฑลยูนนาน (ประเทศจีน) ถึงบริเวณหมู่เกาะประเทศอินโดนีเซีย เป็นเครื่องมือโลหะที่คนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ใช้ตีในพิธีกรรมสำคัญ ถือเป็นวัฒนธรรมที่มีร่วมกันของคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพบมากทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามบริเวณแหล่งโบราณคดีดองซอน จังหวัดธานหัว ซึ่งนักวิชาการสันนิษฐานว่าได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและรูปแบบจากจีนสมัยราชวงศ์จิวและราชวงศ์ฮั่นเมื่อกว่า ๒,๗๐๐ ปีมาแล้ว
ส่วนการหล่อมโหระทึกแต่ละใบ จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก เช่น ไม้ไผ่ ดินเหนียว แกลบ ขี้วัว ขี้ผึ้ง สายชนวน แร่โลหะ รวมถึงเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการขึ้นรูป ทำแม่พิมพ์ขี้ผึ้ง การใช้ไฟหรือการควบคุมความร้อนที่เหมาะสม ลายที่ปรากฏบนมโหระทึกส่วนใหญ่เป็นลวดลายเรขาคณิต ภาพเล่าเรื่องวิถีชีวิตของคนยุคนั้น ซึ่งลายหนึ่งที่ทุกท่านน่าจะคุ้นตา คือ ลายแฉก สันนิษฐานได้ว่าคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์อาจมีความเชื่อเรื่องการนับถือดวงอาทิตย์เป็นดั่งพระเจ้า ทั้งนี้ คติการบูชาดวงอาทิตย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์น่าจะมีความเชื่อสืบมาถึง “วัฒนธรรมทวารวดี” ผสมผสานกับความเชื่อจากอินเดีย จนปรากฏรูปดวงอาทิตย์บนเหรียญกษาปณ์ ซึ่งในนิทรรศการพิเศษได้จัดแสดงต่อเนื่องกับมโหระทึก เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยปัจจุบันมีการค้นพบมโหระทึกสมัยก่อนประวัติศาสตร์ทั่วทุกภูมิภาคของไทยแล้ว จำนวนมากกว่า ๔๐ ใบ นอกจากนี้ “มโหระทึก” ยังคงถูกใช้ในพระราชพิธีสำคัญของราชสำนักสืบมาจนปัจจุบัน
ภาพมโหระทึก คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จัดแสดงในนิทรรศการพิเศษ “อารยธรรมวิวัฒน์ ลพบุรีศรีรามเทพนคร” พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
เทคนิคภาพโดย อริย์ธัช นกงาม ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ เผยแพร่โดย ศรัญ กลิ่นสุคนธ์ ภัณฑารักษ์ กลุ่มทะเบียน คลังพิพิธภัณฑ์และสารสนเทศ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร
เรื่อง "ปัญจรูป"การผลิตสื่อเพื่อสื่อความหมายทางวัฒนธรรมครั้งที่ ๑จัดทำโดย นางสาวธิติพร สายฝั้นนิสิตฝึกงาน ระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง เรื่องเล่นสาดน้ำวันสงกรานต์ และเทศกาลลอยกระทงผู้แต่ง เสฐียร โกเศศประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ขนมธรรมเนียม ประเพณี คติชนวิทยา เลขหมู่ 394.2 ส893รชสถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์พระจันทร์ปีที่พิมพ์ 2508ลักษณะวัสดุ 82 หน้าหัวเรื่อง สงกรานต์ ลอยกระทงภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกเรื่องเล่นสาดน้ำวันสงกรานต์กล่าวถึงการเข้าฤดูร้อนวันสงกรานต์ และเทศกาลลอยกระทงกล่าวถึงประเพณีลอยกระทงในพื้นที่ต่างๆ ประเทศต่างๆ
วันนี้ (วันศุกร์ที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๕) เวลา ๑๐.๐๐ น. นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในการแถลงข่าวโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดไก่เตี้ย กิจกรรมกรมศิลป์ร่วมมือคณะสงฆ์ร่วมใจ อนุรักษ์ สืบสาน อ่านแปล ใบลาน โดยมีภาคีเครือข่ายอนุรักษ์เอกสารโบราณเข้าร่วมงาน ณ วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้ดำเนินโครงการสำรวจเอกสารโบราณมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๑๘ จนถึงปัจจุบัน โดยได้ดำเนินการอนุรักษ์เอกสารโบราณทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งสร้างเครือข่ายจิตอาสาปฏิบัติงานอนุรักษ์เอกสารโบราณกับชุมชนในการพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดซึ่งเป็นแหล่งเอกสารโบราณที่สำคัญ และพระสังฆาธิการ ซึ่งล้วนมีส่วนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดูแลมรดกภูมิปัญญาให้สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดไก่เตี้ย ได้ดำเนินการสำรวจ อนุรักษ์ ลงทะเบียน และจัดเก็บ
เอกสารโบราณต่าง ๆ ในวัดให้เป็นระบบ รวมทั้งสร้างเครือข่ายภาคีอนุรักษ์เอกสารโบราณระหว่างกรมศิลปากรกับคณะสงฆ์ และชุมชน ได้มีส่วนร่วมและสร้างการรับรู้อย่างทั่วถึง นำข้อมูลองค์ความรู้ในเอกสารโบราณอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนมาเผยแพร่และพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ต่อไป โดยกิจกรรมในโครงการฯ ได้แก่ “กิจกรรมสำรวจ อนุรักษ์ ลงทะเบียน และจัดเก็บเอกสารโบราณ” และ “กิจกรรมกรมศิลป์ร่วมมือคณะสงฆ์ร่วมใจ อนุรักษ์ สืบสาน อ่านแปล ใบลาน” เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ถึง ๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ ประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง ได้รับข้อมูลองค์ความรู้ใหม่และสร้างการรับรู้ เกิดภาคีเครือข่ายการทำงานระหว่างองค์กร ดังนี้
๑. ดำเนินการสำรวจ อนุรักษ์ ลงทะเบียน และห่อ มัด จัดเก็บคัมภีร์ใบลานวัดไก่เตี้ย อักษรขอม อักษรไทย ภาษาบาลี ภาษาบาลี-ไทย และภาษาไทย จำนวน ๔๑ มัด ๑๒๖ เลขที่ รวมทั้งสิ้น จำนวน ๖๕๓ ผูก (รายการ)
๒. สำรวจพบคัมภีร์ใบลานสมัยอยุธยาและสมัยรัตนโกสินทร์ ที่ระบุปีที่สร้างอย่างน้อย ๓ คัมภีร์
ดังนี้
๒.๑ คัมภีร์ใบลาน เลขที่ วกต.๒๗/ค/๑ เรื่อง วิธูรชาดก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๑๖๓ สมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม อักษรขอม ภาษาบาลี ฉบับล่องชาดข้างลาย ปัจจุบันอายุ ๔๐๒ ปี
๒.๒ คัมภีร์ใบลาน เลขที่ วกต.๔๗/๑ เรื่อง กุสลวินิจฺฉยกถา สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๒๓๒ สมัยสมเด็จพระเพทราชา อักษรขอม ภาษาบาลี-ไทย ฉบับทองทึบ ปัจจุบันอายุ ๓๓๓ ปี
๒.๓ คัมภีร์ใบลาน เลขที่ วกต.๙๗/๑ เรื่อง ภิกฺขุปาติโมกฺข สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๓๔๓ สมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช อักษรขอม ภาษาบาลี ฉบับล่องชาด ปัจจุบันอายุ ๒๒๒ ปี
๓. จัดทำบัญชีทะเบียนคัมภีร์ใบลานวัดไก่เตี้ย เพื่อเป็นเอกสารอ้างอิงทางวิชาการ พร้อมคำชี้แจงการดำเนินการโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดไก่เตี้ย
๔. สร้างการรับรู้แก่ประชาชนให้มีส่วนร่วมและตระหนักรู้คุณค่าและความสำคัญของเอกสารโบราณ โดยบูรณาการภาคีเครือข่ายระหว่างกรมศิลปากรและคณะสงฆ์จากวัดต่าง ๆ ในเขตใกล้เคียงวัดไก่เตี้ย ร่วมกิจกรรมกรมศิลป์ร่วมมือคณะสงฆ์ร่วมใจ อนุรักษ์ สืบสาน อ่านแปล ใบลาน จำนวน ๕ รูป รวมทั้งภาคประชาชน สมาชิกชุมชนวัดไก่เตี้ย ร่วมทำกิจกรรมเครือข่ายจิตอาสาปฏิบัติงานคัมภีร์ใบลาน จำนวน ๒๐ คน รวมภาคีเครือข่ายอนุรักษ์เอกสารโบราณ ทั้งสิ้น ๒๕ รูป/คน
เอกสารโบราณบันทึกสรรพวิชาการต่าง ๆ ในอดีตไว้เป็นจำนวนมาก จึงเป็นหลักฐานทางวิชาการที่สำคัญอย่างยิ่ง นับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่จะต่อยอดต้นทุนทางปัญญาในการศึกษาอันเป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศอย่างมั่งคั่งยั่งยืน การดำเนินโครงการดังกล่าวสอดรับนโยบายกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ในการธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากรกับคณะสงฆ์ ในการดูแลสมบัติล้ำค่าเหล่านั้นให้คงอยู่และเป็นประโยชน์ โดยคณะสงฆ์มีส่วนร่วมในการคัดถ่ายถอด อ่าน แปล และเผยแพร่ในรูปแบบที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจนำไปปฏิบัติได้ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับวัดอื่น ๆ ควรค่าแก่การ ยกย่องเป็นวัดต้นแบบในการอนุรักษ์เอกสารโบราณและเชิดชูเกียรติเพื่อเป็นการส่งเสริมเครือข่ายภาคีอนุรักษ์เอกสารโบราณต่อไป
บุณยฤทธิ์ ฉายสุวรรณ และเรไร นัยวัฒน์. ทุ่งตึกเมืองท่าการค้าโบราณ. ภูเก็ต : สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต กรมศิลปากร, 2550. ทุ่งตึกเป็นเมืองท่าการค้าที่อยู่ในเส้นทางขนถ่ายสินค้าข้ามคาบสมุทรไปมาระหว่างฝั่งทะเลอันดามันกับฝั่งทะเลอ่าวไทย เป็นเส้นทางข้ามคาบสมุทรตะกั่วป่า-อ่าวบ้านดอน ที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยศรีวิชัย ซึ่งเมืองท่าหรือสถานีการค้าแห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการค้าทางทะเลของโลกที่เรียกว่า "เส้นทางสายไหมทางทะเล" เนื่องจากได้เชื่อมโยงการค้าจากยุโรปตะวันตก ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแดง ไปยังอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีนตอนใต้ หนังสือทุ่งตึกเมืองท่าการค้าโบราณ นี้ จึงแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของดินแดนภาคใต้ โดยเฉพาะระบบการค้าในสมัยศรีวิชัยที่มีแหล่งโบราณคดีทุ่งตึกเป็นสื่อสะท้อนเห็นภาพความเคลื่อนไหวของผู้คน และแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ในการติดต่อของผู้คนไปยังดินแดนที่เป็นแหล่งอารยธรรมสำคัญๆ ของโลกในอดีตได้อย่างหลากหลาย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง จัดนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทย ประจำปี ๒๕๖๕ เรื่อง “ชวนอ่านเรื่องเมืองถลาง” หลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองถลางในช่วงกรุงธนบุรีถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๖๕ เป็นต้นไป นิทรรศการนี้จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับการค้าของเมืองถลาง และสำเนาจดหมายการติดต่อกันระหว่างเจ้าเมืองและขุนนางเมืองถลางและเมืองใกล้เคียง กับพระยาราชกปิตันผู้สำเร็จราชการเกาะปีนัง หรือกัปตันฟรานซิสไล้ท์ กัปตันเรือสังกัดบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ ที่มีบทบาทสำคัญต่อการค้าในพื้นที่ทะเลอันดามัน และเป็นผู้บุกเบิกการตั้งอาณานิคมบนเกาะปีนัง ในช่วงกรุงธนบุรีถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จดหมายได้รับการรวบรวมโดยนายวิลเลียม มาร์สเดน (William Marsden) ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออก และได้ถูกส่งให้วิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและการศึกษาแอฟริกา (SOAS) มหาวิทยาลัยลอนดอน ใน ค.ศ.๑๙๑๖
ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “ชวนอ่านเรื่องเมืองถลาง” ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง จังหวัดภูเก็ต เปิดทุกวันพุธ - อาทิตย์ ปิดวันจันทร์ - อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๖๓๗ ๙๘๙๕
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ขอเชิญชมนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ เรื่อง “จารึกศาลสูง : บันทึก ๑,๐๐๐ ปี เมืองลพบุรี" ณ หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๕ – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
“จารึกศาลสูง : บันทึก ๑,๐๐๐ ปี เมืองลพบุรี” นิทรรศการพิเศษในวาระครบรอบ ๑,๐๐๐ ปี ศักราชที่บันทึกเรื่องราวไว้บนจารึกศาลสูง ซึ่งถือเป็นจารึกหลักสำคัญที่พบ ณ ศาลสูง หรือ ศาลพระกาฬ โบราณสถานคู่บ้านของชาวลพบุรี โดยจารึกมีเนื้อความที่สะท้อนภาพวิถีชีวิตและความเชื่อของผู้คนเมื่อ ๑,๐๐๐ ปีที่แล้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จึงจัดนิทรรศการพิเศษเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านภาษาศาสตร์ ประวัติ และโบราณคดีให้กับผู้ที่สนใจได้รับรู้และตระหนักถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของเมืองลพบุรี
ปัจจุบันจารึกศาลสูงหลักนี้จัดแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในโอกาสพิเศษครั้งนี้จึงได้ทำการจำลองจารึกศาลสูงขนาดเท่าจริง โดยใช้เทคโนโลยีการสแกนแบบ ๓ มิติ และพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ ๓ มิติ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร ในการดำเนินการจำลองจารึกศาลสูง เพื่อนำมาจัดแสดงในนิทรรศการ
นอกจากองค์ความรู้เกี่ยวกับจารึกศาลสูงในด้านต่าง ๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้ทดลองทำสำเนาจารึกศาลสูงอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามกำหนดการของกิจกรรมได้ทางเพจเฟสบุ๊ก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ : King Narai National Museumศาสตร์
สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมการเสวนาวิชาการ เรื่อง “จารึกศาลสูง : บันทึก ๑,๐๐๐ ปี เมืองลพบุรี” ซึ่งได้จัดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๕ สามารถรับชมย้อนหลังได้ตามที่ลิงก์ : https://fb.watch/f_eoSIiKMN/
กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “เล่าขานตำนานวังหน้า : จากอดีตสู่ปัจจุบัน” วิทยากรโดย นางสาวเด่นดาว ศิลปานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และนายยุทธนาวรากร แสงอร่าม ภัณฑารักษ์ชำนาญการ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ดำเนินรายการโดย นายสิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๐.๔๕ น.
ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร และชมย้อนหลังได้ทาง Youtube Live : กรมศิลปากร
ชื่อเรื่อง สุตฺตสงฅหอฏธกถา(สุตฺตสงฺตห)
สพ.บ. อย.บ.8/8ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 54 หน้า กว้าง 5.5 ซม. ยาว 54 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา บทสวด พระวินัย คำสอน
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ภาษามอญ เส้นจาร ฉบับทองทึบ ลานดิบ ล่องชาด ได้รับบริจาคมาจาก วัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา