ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 40,910 รายการ

เนื่องในโอกาสที่เมืองโบราณศรีเทพได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ขอนำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับโบราณวัตถุจากเมืองศรีเทพที่เก็รักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ เรื่อง " จารึก เย ธัมมา จากเมืองโบราณศรีเทพ" ซึ่งจัดแสดงประกอบนิทรรศการตามรอยศรีเทพ เมืองมรดกโลก ...เรายังมีโบราณวัตถุจากเมืองศรีเทพอีกหลายชิ้น โปรดติดตามต่อไป...


ห้องสมุดอเล็กซานเดรีย เป็นห้องสมุดที่เก่าแก่และมีการเก็บรวบรวมเอกสารตำรามากมาย เป็นห้องสมุดในยุคแรกที่มีการจัดระบบห้องสมุดโดยการจัดหมวดหมู่ตามเนื้อหา และเรียงตามลำดับอักษรตัวแรกของชื่อผู้แต่ง น่าเสียดายที่ห้องสมุดนี้ได้ถูกทำลายลงไป ปัจจุบัน มีการสร้างห้องสมุด Bibliotheca Alexandrina ใกล้เคียงกับพื้นที่เดิมของห้องสมุดอเล็กซานเดรีย เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการระลึกถึงห้องสมุดที่ยิ่งใหญ่ในอดีตข้อมูลอ้างอิงโตมร ศุขปรีชา.  Alexandria: ห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกกับกษัตริย์ผู้รักในความรู้.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ 11 มีนาคม 2565, จาก:  https://themomentum.co/worldsend-alexandria-egypt/ยุวดี.  ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย แหล่งวิทยาการแห่งแรกของโลก.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ  10 มีนาคม 2565, จาก: https://teen.mthai.com/education/95758.htmlฮอร์ตัน, ไบรอัน.  ไขปริศนาอารยธรรมโลก. กรุงเทพฯ: มูลนิธิเด็ก, 2552.Bibliotheca Alexandrina.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ 10 มีนาคม 2565, จาก:      https://www.bibalex.org/en/DefaultHarlitz-Kern, Erika .  10 Things you need to know about the ancient library of Alexandria.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ 11 มีนาคม 2565, จาก: https://bookriot.com/library-of-alexandria-facts/ภาพไฟไหม้ห้องสมุดอเล็กซานเดรีย ที่มา https://www.gqthailand.com/culture/article/history-of-fireเรียบเรียงโดย นางสาวพิมพา สุธัญญาวัชชัย บรรณารักษ์ชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่



           สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ขอเชิญชมโครงการดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ ๖๗ “เหมันต์สุขศรี สุนทรีย์สังคีต” วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๓๐ น. ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร            พบกับการบรรเลง - ขับร้องวงเครื่องสาย เพลงทวิชาวตาร เถา  และการแสดงตำนานเทวะนิยาย เรื่องนารายณ์สิบปาง “ทุลกีวตาร” และ “ทวิชาวตาร” นำแสดงโดย ศิลปินสำนักการสังคีต กำกับการแสดงโดย สมชาย อยู่เกิด อำนวยการแสดงโดย ลสิต อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต บัตรราคา ๒๐ บาท (จำหน่ายบัตรก่อนการแสดง ๑ ชั่วโมง) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม (วันและเวลาราชการ) โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๔๒ และ โทร. ๐๒๒๒๑ ๐๑๗๑            นอกจากนี้ ผู้สนใจยังสามารถรับชมการแสดงในโครงการดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ ๖๗ “เหมันต์สุขศรี สุนทรีย์สังคีต” ได้ทุกวันอาทิตย์ เริ่มเวลา ๑๗.๓๐ น. ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๗ ณ สังคีตศาลา เวทีกลางแจ้ง บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ทั้งนี้ รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถติดตามรายละเอียดการแสดงแต่ละสัปดาห์ได้ทาง เฟสบุ๊ก : สำนักการสังคีต กรมศิลปากร


           กรมศิลปากร โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม “สงกรานต์แฟร์“ ปี ๒ Songkran in Colours- สีสันสงกรานต์ เนื่องในเทศกาลมหาสงกรานต์ประจำปี ๒๕๖๗ ก่อนเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ ท่านจะได้พบกับกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้             - เชิญสักการะพระพุทธสิหิงค์             - ขอพรพระคเณศ ณ ห้องชวา - ศรีวิชัย             - เลือกซื้อของขวัญ ของที่ระลึก ผลงานศิลปินต่าง ๆ ในตลาดเก้าล้าน             - ลุ้นกาชาปองชุดพิเศษ “นวคเณศ” ในธีม Universal God             - เล่นบอร์ดเกมไทยกับกลุ่ม TBD Union             - ล่าขุมทรัพย์เก้าแต้มเพื่อรับของที่ระลึก             - ชมพิพิธภัณฑ์รอบพิเศษกับทัวร์เก้ามณี             - และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ในวันศุกร์ - อาทิตย์ที่ ๕ - ๗ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โปรดติดตามรายละเอียดแต่ละกิจกรรมได้ทาง Facebook Page : Education.National Museum Bangkok เที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร



กิจกรรมทดสอบ


        พระพุทธรูปปางประทานอภัย         แบบศิลปะ : ลพบุรี         ลักษณะ : พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย สลักจากหินทราย ทาสีส่วนที่เป็นจีวรด้วยสีแดงอมส้ม พระพักตร์เป็นเหลี่ยม ปรากฏกรอบไรพระศกเหนือพระนลาฏ ขมวดพระเกศาเป็นรูปก้นหอย พระเกตุมาลาทรงกรวยรูปกลีบบัวซ้อนกันเป็นชั้นลดหลั่นกันขึ้นไป พระหัตถ์ขวายกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกโดยอยู่แนบชิดพระอุระ พระหัตถ์ซ้ายทอดลงข้างพระวรกาย บนพระอังสาซ้ายปรากฏชายสังฆาฏิพาดเป็นแผ่นใหญ่ปลายตัดตรงยาวลงมาเกือบจรดพระนาภี ที่บริเวณพระโสณีคาดรัดประคดเป็นแถบกว้างสลักลายดอกไม้ในกรอบสี่เหลี่ยม และมีแถบหน้านางที่สบง         พุทธลักษณะดังกล่าวแสดงอิทธิพลศิลปะเขมรโบราณแบบบายนผสมฝีมือช่างท้องถิ่น มักพบอยู่ที่เมืองลพบุรีและสุพรรณบุรี กำหนดอายุอยู่ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 19 จัดอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนที่จะเกิดบ้านเมืองกลุ่มรัฐไทยในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา         ขนาด : สูง 166 เซนติเมตร         ชนิด : หินทราย         อายุ/สมัย : พุทธศตวรรษที่ 18 - 19 (ประมาณ 700 - 800 ปีมาแล้ว)         ประวัติ/ตำนาน : ได้จากวัดถ้ำเขาพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี     แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=51723   ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th



ชื่อเรื่อง :  ข้อบังคับแลกฏของสโมสรนวรัฐ เชียงใหม่ผู้แต่ง : ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์ : ม.ป.ป.สถานที่พิมพ์ : ม.ป.ท. สำนักพิมพ์ : ม.ป.พ.จำนวนหน้า : ๑๖ หน้าเนื้อหา : หนังสือ ข้อบังคับแลกฏของสโมสรนวรัฐ เชียงใหม่ ในความอุปถัมภ์แห่งพระราชชายา เจ้าดารารัศมี และ สมุหเทศาภิบาลฯ มณฑลพายัพ ประกอบไปด้วยเนื้อหาดังนี้ หน้าที่กรรมการ กฎของสโมสรนวรัฐ เชียงใหม่ สมาชิก ๒ ประเภท ได้แก่ สมาชิกสามัญและสมาชิกพิเศษเลขทะเบียนหนังสือหายาก : ๒๓๑๘เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : E-book_๒๕๖๗_๐๐๓๒หมายเหตุ : โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗





อยากทราบว่ารับนักศึกษาฝึกงานหรือเปล่าครับ ผมเรียน วัฒนธรรม สาขา ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณดคี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ครับ 


ความเป็นมาของอาเซียน              สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  (Association  of  Southeast  Asian  Nations  หรือ  ASEAN)  ก่อตั้งขึ้นโดยปฏิญญากรุงเทพ  (Bangkok  Declaration)  หรือ  ปฏิญญาอาเซียน  (ASEAN  Declaration)  เมื่อวันที่  8  สิงหาคม  2510  โดยมีประเทศสมาชิก  5  ประเทศ  ประกอบด้วย  อินโดนีเซีย  มาเลเซีย  ฟิลิปปินส์  สิงคโปร์  และไทยเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการเมือง  เศรษฐกิจและสังคม  ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   ต่อมามีประเทศสมาชิกเพิ่มเติม  ได้แก่  บรูไนดารุส-ซาลาม   เวียดนาม   ลาว   เมียนมาร์  และกัมพูชา  ตามลำดับ   จึงทำให้ปัจจุบันอาเซียน   มีสมาชิก  10  ประเทศ “อาเซียน” สู่การเป็นประชาคมอาเซียน  ในปี 2558               ปัจจุบัน  บริบททางการเมือง  เศรษฐกิจ  และสังคม   รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก      ทำให้อาเซียนต้องเผชิญ สิ่งท้าทายใหม่ๆ    อาทิ    โรคระบาด    การก่อการร้าย   ยาเสพติด  การค้ามนุษย์  สิ่งแวดล้อม  ภัยพิบัติ  อีกทั้ง  ยังมีความจำเป็นต้องรวมตัวกันเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองและขีดความสามารถทางการแข่งขันกับประเทศในภูมิภาคใกล้เคียง  และในเวทีระหว่างประเทศ  ผู้นำอาเซียนจึงเห็นพ้องกันว่า  อาเซียนควรจะร่วมมือกันให้เหนียวแน่น  เข้มแข็ง  และมั่นคงยิ่งขึ้น  จึงได้ประกาศ  “ปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือในอาเซียน  ฉบับที่ 2”  (Declaration  of  ASEAN  Concord  II)  ซึ่งกำหนดให้มีการสร้างประชาคมอาเซียนที่ประกอบไปด้วย  3  เสาหลัก ได้แก่                -  ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political and Security Community - APSC) มุ่งให้ประเทศกลุ่มสมาชิกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แก้ไขปัญหาระหว่างกันโดยสันติวิธี มีเสถียรภาพและความมั่นคงรอบด้าน เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของเหล่าประชาชน              -  ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community - AEC) มุ่งเน้นให้เกิดการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจ และความสะดวกในการติดต่อค้าขายระหว่างกัน เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่นๆได้โดย               -   ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio - Cultural Community - ASCC) มุ่งหวังให้ประชากรอาเซียนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีความมั่นคงทางสังคม มีการพัฒนาในทุกๆ ด้าน และมีสังคมแบบเอื้ออาร โดยจะมีแผนงานสร้างความร่วมมือ 6 ด้าน คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การคุ้มครองและสวัสดิการสังคม สิทธิและความยุติธรรมทางสังคม ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม การสร้างอัตลักษณ์อาเซียน การลดช่องว่างทางการพัฒนา              ซึ่งต่อมาผู้นำอาเซียนได้ตกลงให้มีการจัดตั้งประชาคมอาเซียนให้แล้วเสร็จเร็วขึ้นมาเป็นภายในปี 2558 ประชาคมอาเซียน คือ               ประชาคมอาเซียน  (ASEAN  Community)  คือ  การรวมตัวของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนให้เป็นชุมชนที่มีความแข็งแกร่ง  สามารถสร้างโอกาสและรับมือส่งท้าท้าย  ทั้งด้านการเมืองความมั่นคง  เศรษฐกิจ  และภัยคุกคามรูปแบบใหม่  โดยสมาชิกในชุมชนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี  สามารถประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น  และสมาชิก  ในชุมชนมีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน   จุดประสงค์หลักของอาเซียน              ปฏิญญากรุงเทพฯ ได้ระบุวัตถุประสงค์สำคัญ 7 ประการของการจัดตั้งอาเซียน ได้แก่               1.  ส่งเสริมความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และการบริหาร               2.  ส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงส่วนภูมิภาค               3.  เสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจพัฒนาการทางวัฒนธรรมในภูมิภาค               4.  ส่งเสริมให้ประชาชนในอาเซียนมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี               5. ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในรูปของการฝึกอบรมและการวิจัย และส่งเสริมการศึกษาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้              6. เพิ่มประสิทธิภาพของการเกษตรและอุตสาหกรรม การขยายการค้า ตลอดจนการปรับปรุงการขนส่งและการคมนาคม              7. เสริมสร้างความร่วมมืออาเซียนกับประเทศภายนอก องค์การ ความร่วมมือแห่งภูมิภาคอื่นๆ  และองค์การระหว่างประเทศ ภาษาอาเซียน               ภาษาทางการที่ใช้ในการติดต่อประสานงานระหว่างประเทศสมาชิก  คือ  ภาษาอังกฤษ คำขวัญของอาเซียน                                                        "หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งเอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม”                                           (One Vision, One Identity, One Community) อัตลักษณ์อาเซียน             อาเซียนจะต้องส่งเสริมอัตลักษณ์ร่วมกันของตนและความรู้สึกเป็นเจ้าของในหมู่ประชาชนของตน  เพื่อให้บรรลุชะตา  เป้าหมาย  และคุณค่าร่วมกันของอาเซียน   สัญลักษณ์อาเซียน               คือ   ดวงตราอาเซียนเป็น               รูปมัดรวงข้าว สีเหลืองบนพื้นวงกลม               สีแดงล้อมรอบด้วยวงกลมสีขาว  และสีน้ำเงิน               รวงข้าวสีเหลือง 10 ต้น หมายถึง ความใฝ่ฝันของบรรดาสมาชิกในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ  ให้มีอาเซียนที่ผูกพันกันอย่างมีมิตรภาพและเป็นหนึ่งเดียว              วงกลม  เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงเอกภาพของอาเซียน              ตัวอักษรคำว่า  asean  สีน้ำเงิน  อยู่ใต้ภาพรวงข้าว  แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อความมั่นคง  สันติภพ  เอกภาพ  และความก้าวหน้าของประเทศสมาชิกอาเซียน              สีเหลือง    :   หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง               สีแดง       :    หมายถึง ความกล้าหาญและการมีพลวัติ               สีขาว       :    หมายถึง ความบริสุทธิ์               สีน้ำเงิน    :    หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง ธงอาเซียน               ธงอาเซียนเป็นธงพื้นสีน้ำเงิน  มีดวงตราอาเซียนอยู่ตรงกลาง  แสดงถึงเสถียรภาพ  สันติภาพ  ความสามัคคี  และพลวัตของอาเซียน สีของธงประกอบด้วย  สีน้ำเงิน  สีแดง  สีขาว  และสีเหลือง  ซึ่งเป็นสีหลักในธงชาติของบรรดาประเทศสมาชิกของอาเซียนทั้งหมด วันอาเซียน               ให้วันที่  8  สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันอาเซียน เพลงประจำอาเซียน (ASEAN  Anthem)               คือ  เพลง  ASEAN  WAY กฎบัตรอาเซียน               กฎบัตรอาเซียน  กำหนดให้อาเซียนและประเทศสมาชิกปฏิบัติตามหลักการดังต่อไปนี้               1.  เคารพเอกราช  อธิปไตย  ความเสมอภาค  บูรณภาพแห่งดินแดน  และอัตลักษณ์แห่งชาติของรัฐสมาชิกอาเซียนทั้งปวง              2.  ผูกพันและรับผิดชอบร่วมกันในการเพิ่มพูนสันติภาพ  ความมั่นคง  และความมั่งคั่งของภูมิภาค              3.  ไม่รุกรานหรือข่มขู่ว่าจะใช้กำลังหรือการกระทำอื่นใดในลักษณะที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ              4.  ระงับข้อพิพาทโดยสันติ              5.  ไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐสมาชิกอาเซียน              6.  เคารพสิทธิของรัฐสมาชิกทุกรัฐในการธำรงประชาชาติของตนโดยปราศจากการแทรกแซง  การบ่อนทำลาย  และการบังคับจากภายนอก              7.  ปรึกษาหารือที่เพิ่มพูนขึ้นในเรื่องที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อผลประโยชน์ร่วมกันของอาเซียน              8.  ยึดมั่นต่อหลักนิติธรรม  ธรรมาภิบาล  หลักการประชาธิปไตยและรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ              9.  เคารพเสรีภาพพื้นฐาน  การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน  และการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม              10.  ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ    รวมถึงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ  ที่  รัฐสมาชิกอาเซียนยอมรับ              11.  ละเว้นจากการมีส่วนร่วมในการคุกคามอธิปไตย  บูรณภาพแห่งดินแดนหรือเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของรัฐสมาชิกอาเซียน              12. เคารพในวัฒนธรรม  ภาษา  และศาสนาที่แตกต่างของประชาชนอาเซียน              13.  มีส่วนร่วมกับอาเซียนในการสร้างความสัมพันธ์กับภายนอกทั้งในด้านการเมือง  เศรษฐกิจ  และสังคม  โดยไม่ปิดกั้นและไม่เลือกปฏิบัติ              14. ยึดมั่นในกฎการค้าพหุภาคีและระบอบของอาเซียน                                          กฎบัตรอาเซียน.....(คลิกรายละเอียดเพิ่มเติม)   ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรจาก AEC (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน)           ประชาคมอาเซียนที่จะถือกำเนิดในปี 2558 นั้น คนไทยจะได้ประโยชน์อะไร แน่นอนเราคงอยากทราบ แต่ในชั้นนี้ขอจำกัดเฉพาะทางเศรษฐกิจก่อน               ประการแรก ไทยจะ “มีหน้ามีตาและฐานะ” เด่นขึ้นประชาคมอาเซียนจะทำให้เศรษฐกิจ “ของเรา” มีมูลค่ารวมกัน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีขนาดใหญ่อันดับ 9 ของโลก ยังประโยชน์แก่คนไทยทุกคนที่จะได้ยืนอย่างสง่างาม “ยิ้มสยาม” จะคมชัดขึ้น               ประการที่สอง การค้าระหว่างไทยกับประเทศอาเซียนจะคล่องและขยายตัวมากขึ้น กำแพงภาษีจะลดลงจนเกือบจะหมดไป เพราะ 10 ตลาดกลายเป็นตลาดเดียว ผู้ผลิตจะส่งสินค้าไปขายในตลาดนี้และขยับขยายธุรกิจของตนง่ายขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกมากขึ้นราคาสินค้าจะถูกลง               ประการที่สาม ตลาดของเราจะใหญ่ขึ้น แทนที่จะเป็นตลาดของคน 67 ล้านคน ก็จะกลายเป็นตลาดของคน 590 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจ เพราะสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยสามารถส่งออกไปยังอีกเก้าประเทศได้ราวกับส่งไปขายต่างจังหวัด ซึ่งก็จะช่วยให้เราสามารถแข่งขันกับจีนและอินเดียในการดึงดูดการลงทุนได้มากขึ้น               ประการที่สี่ความเป็นประชาคมจะทำให้มีการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารคมนาคมระหว่างกันเพื่อประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุน แต่ก็ยังผลพลอยได้ในแง่การไปมาหาสู่กัน ซึ่งก็จะช่วยให้คนในอาเซียนมีปฏิสัมพันธ์กัน รู้จักกัน และสนิทแน่นแฟ้นกันมากขึ้น เป็นผลดีต่อสันติสุข ความเข้าใจอันดีและความร่วมมือกันโดยรวม นับเป็นผลทางสร้างสรรค์ในหลายมิติด้วยกัน               ประการที่ห้า โดยที่ ไทยตั้งอยู่ในจุดกึ่งกลางบนภาคพื้นแผ่นดินใหญ่อาเซียน ประเทศไทยย่อมได้รับประโยชน์จากปริมาณการคมนาคมขนส่งที่จะเพิ่มขึ้นในอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับจีน (และอินเดีย) มากยิ่งกว่าประเทศอื่นๆบริษัทด้านขนส่ง คลังสินค้า ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ จะได้รับประโยชน์อย่างชัดเจน จริงอยู่ ประชาคมอาเซียนจะยังผลทั้งด้านบวกและลบต่อประเทศไทย ขึ้นอยู่กับพวกเราคนไทยจะเตรียมตัวอย่างไร แต่ผลทางบวกนั้นจะชัดเจน เป็นรูปธรรมและจับต้องได้ ที่มา : มติชน


 พิพิธิภัณฑสถานแห่งชาติเสมือนจริง พระนครคีรี: www.virtualmuseum.finearts.go.th/phranakhonkhiri     พระนครคีรีหรือ เขาวัง เดิมเป็นพระราชวังในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อยู่ที่ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขา 3 ยอดติดต่อกัน ยอดสูงที่สุดสูง 95 เมตร เดิมเรียกว่า “เขาสมน” (เขาสะหมน) ไหล่เขาทางด้านทิศตะวันออก มีวัดอยู่วัดหนึ่งชื่อ “วัดสมณ” สมณ พ.ศ. 2404 พระองค์ได้พระราชทานนามว่าเขามหาสวรรค์ ต่อมาเปลี่ยนเป็น เขามไหสวรรย์      พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างพระราชวังบนเขามไหสวรรย์ ใน พ.ศ. 2402 โดยมีเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง  บุนนาค) ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เป็นแม่กองในการก่อสร้าง และ พระเพชรพิไสยศรีสวัสดิ์ ( ท้วม  บุนนาค ) เป็นนายงานก่อสร้าง เมื่อสร้างเสร็จแล้วพระราชทานนามว่า “ พระนครคีรี ” พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดอากาศและภูมิทัศน์ที่มีความสวยงามของเมืองเพชรบุรีมาก พระองค์ได้เสด็จมาประทับที่พระนครคีรีหลายครั้งตลอดรัชกาลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าให้ปรับปรุงพระนครคีรีเพื่อใช้สำหรับเป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะจากเยอรมันนี      ภายหลังรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มิได้มีพระมหากษัตริย์เสด็จมาประทับที่พระนครคีรีอีก จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบันมีพระราชดำริ  ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ กรมศิลปากรจึงได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระนครคีรีเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ ดำเนินการบูรณะอาคารหมู่พระที่นั่งต่างๆ และได้ประกาศจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2522 เป็นพิพิธภัณฑ์ประเภทอนุสรณ์สถาน โดยได้นำเครื่องราชูปโภคทั้งหมดที่ได้รับมอบกลับคืนมาจากสำนักพระราชวัง และกระทรวงมหาดไทย นำมาขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ อนุรักษ์และนำออกจัดแสดงภายในพระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ และพระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์


Messenger