ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
วันที่ 24 เมษายน 2567 เวลา 10.30 น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวส่งมอบผลงานการอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลานวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม จำนวน 894 รายการ (ผูก) พร้อมหนังสือบัญชีทะเบียนคัมภีร์ใบลาน และมอบเกียรติบัตรแก่อาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ.) ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามกับกรมศิลปากร เพื่อเผยแพร่ผลงานการอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลานวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 21 มีนาคม 2567 ระยะเวลา 2 เดือน ทำการอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลาน จำนวน 894 รายการ (ผูก) โดยบูรณาการประสานความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากร คณะสงฆ์ และประชาชน สร้างการรับรู้อย่างเป็นรูปธรรม เกิดเครือข่ายอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ.) เพิ่มขึ้น จำนวน 7 รูป/คน ความสำเร็จของการดำเนินงานครั้งนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่สร้างความมั่นใจในการเป็นผู้นำการอนุรักษ์ให้กับประชาชน และสร้างการรับรู้แบบตรงไปตรงมาแก่ชุมชนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดเอกสารโบราณ โดยมีวัดเป็นแหล่งเอกสารโบราณและคณะสงฆ์เป็นผู้เก็บรักษาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ไว้ สรุปผลความสำเร็จของการดำเนินงานได้ ดังนี้
1. กรมศิลปากร อนุรักษ์จัดเก็บและจัดทำทะเบียนคัมภีร์ใบลาน ซึ่งเป็นการจัดระบบคัมภีร์ใบลานเพื่อให้บริการตามหลักวิชาการ ออกเลขทะเบียนบัญชีรายชื่อคัมภีร์ใบลานจำนวน 67 มัด มีเลขทะเบียน 144 เลขที่ รวมทั้งสิ้นจำนวน 894 ผูก ถือว่าเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้กลางกรุงที่สำคัญ
2. ความสำคัญของคัมภีร์ใบลานเทียบเท่าความสำคัญของวัดซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 4 เนื่องจากเป็นคัมภีร์ใบลานพระไตรปิฎกซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ภายในพระบรมมหาราชวังมาแต่เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จึงถือว่าเป็นคัมภีร์ใบลานพระไตรปิฎกฉบับหลวงประจำรัชกาลที่ 4 ด้วยเช่นกัน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดให้อัญเชิญคัมภีร์พระไตรปิฎกชุดนี้ มาประดิษฐาน ณ วัดราชประดิษฐฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้น
3. จากการสำรวจ อนุรักษ์จัดเก็บ พบว่า มีคัมภีร์ใบลานฉบับทรงสร้างซ่อมเติมเต็มฉบับที่หายไปในรัชกาลก่อน ซึ่งในแหล่งเอกสารโบราณวัดราชประดิษฐฯ นี้ รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างซ่อมคัมภีร์บางฉบับที่หายไปในรัชกาลที่ 4 เพื่อทำให้สมบูรณ์เต็มชุด จึงเรียกว่าคัมภีร์ใบลานฉบับหลวงทรงสร้างซ่อม หรือคนทั่วไปเรียกว่า คัมภีร์ใบลาน 2 รัชกาล เนื่องจากมีตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 4 อยู่ด้านซ้าย และตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 5 อยู่ด้านขวา ของปกคัมภีร์ใบลาน โดยสรุปมีคัมภีร์สำคัญ ได้แก่ วรด.1-3 (วัดราชประดิษฐฯ เลขที่ 1-3) เรื่อง อนาคตวังสะ สมัยรัชกาลที่ 4 อายุประมาณ 170 ปี, วรด.14,17,28-32,83,98 (วัดราชประดิษฐฯ เลขที่ 14,17,28-32,83,98) เรื่อง วังสมาลินี, อรรถกถาสังยุตตนิกาย, ฎีกามหาวงศ์, โยชนาอภิธัมมัตถสังคหะและปุคคลบัญญัติ ฉบับหลวงสร้างซ่อม รัชกาลที่ 5 อายุ 139 ปี
4. คัมภีร์ใบลานสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ได้รับการอนุรักษ์จัดเก็บอย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ โดยใช้ไม้ประกับประกบด้านข้างของคัมภีร์เพื่อเป็นการรักษาทรงไม่ให้โค้งงอ ส่วนกล่องบรรจุคัมภีร์ที่มีมาแต่เดิม จำนวนทั้งสิ้น 87 กล่อง ถือเป็นโบราณวัตถุที่มีความสำคัญเพราะสร้างโดยประณีตศิลป์ เพื่อเก็บรักษาคัมภีร์ มีข้อความจารึกฝังที่สันกล่องระบุปี จ.ศ.1247 (พ.ศ.2428) กล่องประณีตศิลป์นี้จึงมีอายุอย่างน้อย 139 ปี จึงถ่ายโอนภารกิจนี้ให้กับสำนักช่างสิบหมู่ดำเนินการอนุรักษ์ซ่อมแซมต่อไป
5. ขยายเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์รักษาเอกสารโบราณเพิ่มเติมจากปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา โดยการอบรมจัดตั้งสมาชิก (อส.มศ.) ตามหลักสูตรอบรมจัดตั้งเป็นเวลา 2 วัน มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 7 รูป/คน จึงถือเป็นการร่วมมือระหว่างวัด กรมศิลปากร และภาคส่วนประชาชน เป็นอย่างดี ตามโครงการความร่วมมือระหว่างวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามกับกรมศิลปากรเพื่อเผยแพร่ผลงานการอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลานวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมให้แก่คณะสงฆ์และประชาชนเพิ่มขึ้น
ภาพปูนปั้นเล่าเรื่องเวสสันตระชาดก (วิศวนตร – อวทาน)
- ทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๔)
- ปูนปั้น
- เดิมประดับที่ฐานลานประทักษิณ ของเจดีย์จุลประโทน อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดี เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑
ภาพเล่าเรื่องบุรุษกำลังยืนพูดอยู่กับบุรุษและสตรีคู่หนึ่ง บุรุษและสตรีนั้นแสดงความสนิทสนมซึ่งอาจเป็นสามีภรรยากัน โดยตีความว่าเป็นภาพตอนพระเวสสันดร กำลังประทานพระมัทรีแก่ท้าวสักราช (พระอินทร์) ซึ่งจำแลงเป็นพราหมณ์มาทูลขอ
แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=40149
ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th
วันที่ 25-26 มกราคม 2567 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับ กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ และ กลุ่มงานสงวนและรักษาหนังสือ เข้าอนุรักษ์เอกสารโบราณเบื้องต้น ประเภทหนังสือสมุดไทยขาว และใบลานฉบับตัวพิมพ์ ทำความสะอาด ลงทะเบียน พร้อมจัดทำสมุดทะเบียน และอนุรักษ์เอกสารโบราณที่ชำรุด พร้อมทั้งให้ความรู้คำแนะนำกับทางวัดและชุมชนเพื่อใช้ในการดูแลรักษาต่อไป ณ วัดกลาง ต.ท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๐พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงเปิดศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดน (ค่ายนเรศวร) อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์รหัสเอกสาร ภ หจภ นร ๑๔.๕/๒๑
ชื่อเรื่อง ประวัติจังหวัดนนทบุรี และตำนานพระพุทธรูปสำคัญผู้แต่ง -ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ศาสนา เลขหมู่ 294.31218 ป312สถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์บูรณะการพิมพ์ปีที่พิมพ์ 2505ลักษณะวัสดุ 112 หน้า หัวเรื่อง พระพุทธรูป นนทบุรี – ประวัติศาสตร์ภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกประวัติจังหวัดนนทบุรี เป้นเรื่องที่กล่าวถึงภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การปกครอง การคมนาคม สภาพภูมิศาสตร์ อาชีพของราษฎรและขนมธรรมเนียมประเพณีของชาวจังหวัดนนทบุรี และกล่าวถึงตำนานพระพุทธรูปเชียงแสน เรื่องพระพุทธชินราช พระพุทธสิหิงค์ และตำนานพระพุทธรูปลานช้าง
แบบคําขออนุญาตซ่อมแซม แก้ไข เปลี่ยนแปลง รื้อถอน ต่อเติม ทำลาย เคลื่อนย้าย หรือส่วนต่างๆ ของโบราณสถาน หรือขุดค้นในเขตโบราณสถาน
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี, ธาตุกถา-มหาปฏฐาน) อย.บ. 100/1งหมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 72 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 53.5 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก วัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ว่ามีการขุดพบโบราณวัตถุจากการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานพระนอน วัดธรรมจักรเสมาราม อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา โดยเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ขณะดำเนินการเพื่อเตรียมการตัดความชื้นใต้ดิน ที่ระดับความลึกประมาณ 1.30 เมตร ได้พบเครื่องประดับทำด้วยโลหะบรรจุในภาชนะดินเผาซึ่งมีสภาพไม่สมบูรณ์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเครื่องประดับดังกล่าวทำด้วยโลหะประเภทสำริด เงิน และทองคำ จำนวนทั้งสิ้น 33 รายการ อาทิเช่น แหวนทอง ต่างหูเงิน และเครื่องประดับสำริดรูปทรงต่าง ๆ เป็นต้น โดยเฉพาะต่างหูแบบห่วงเกลียว ซึ่งสามารถเปรียบเทียบรูปแบบคล้ายกับต่างหูทองคำที่พบจากแหล่งโบราณคดีภูเขาทอง จังหวัดระนอง และแหล่งโบราณคดีท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ได้ขุดพบโบราณวัตถุที่ทำด้วยทอง และตะกั่ว ชิน (โลหะผสมที่มีส่วนผสมของตะกั่วและดีบุก) จำแนกออกเป็น 3 รายการ ได้แก่
รายการที่ 1 แผ่นทองดุนรูปพระพุทธรูป ลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ขนาดกว้าง 8 เซนติเมตร สูง 12.5 เซนติเมตร ดุนเป็นรูปพระพุทธรูปประทับนั่ง พระเศียรมีประภามณฑลล้อมรอบ เม็ดพระศกขมวดก้นหอยเม็ดใหญ่ พระกรรณยาว พระเนตรเหลือบต่ำ พระโอษฐ์หนา ครองจีวรห่มเฉียง พระกรซ้ายกำชายจีวร พระกรขวาทำวิตรรกมุทรา (ปางแสดงธรรม) นั่งขัดสมาธิราบบนฐานบัว บริเวณกึ่งกลางด้านขวา ของแผ่นทองเจาะรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.3 เซนติเมตร สันนิษฐานว่าเจาะไว้สำหรับร้อยสายเพื่อเอาไว้ห้อยหรือผูก
รายการที่ 2 แผ่นชิน หรือ ตะกั่ว ดุนรูปพระพุทธรูปลักษณะรูปทรงซุ้มโค้ง สภาพชำรุดด้านขวาของแผ่นหักหายไป ขนาดกว้าง 11.5 เซนติเมตร สูง 15.5 เซนติเมตร ดุนเป็นรูปพระพุทธรูปยืนตรง พระเศียรมีประภามณฑลล้อมรอบเป็นเม็ดไข่ปลา เม็ดพระศกใหญ่ขมวดเป็นก้นหอย พระขนงต่อกันเป็นรูปปีกกา พระนาสิกใหญ่ แย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย ครองจีวรห่มคลุมบางแนบเนื้อ พระกรทั้งสองทำวิตรรกมุทรา (ปางแสดงธรรม) ขนาบข้างด้วยบริวาร รูปบุคคลเบื้องขวาชำรุดหายไป ส่วนรูปบุคคลเบื้องซ้าย สันนิษฐานว่าเป็นพระพรหม เบื้องต้นเปรียบเทียบได้กับแผ่นโลหะดุนรูปพระพุทธรูปแสดงวิตรรกมุทราขนาบข้างด้วยรูปบุคคล ศิลปะแบบทวารวดี ขุดพบที่วัดพระประโทณ จังหวัดนครปฐม ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่ห้องศิลปะทวารวดี อาคารมหาสุรสิงหนาท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
รายการที่ 3 เป็นก้อนดินที่มีแผ่นโลหะฝังอยู่ภายใน จำนวน 3 ชิ้น แผ่นโลหะซ้อนเป็นชั้น ๆ สลับกับแผ่นปูนบาง ๆ ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัดเนื่องจากมีสภาพชำรุด โดยตำแหน่งที่ขุดพบอยู่บริเวณด้านหลังพระเศียรขององค์พระนอน
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้รับมอบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่พบทั้งหมดมาเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยได้จัดทำบัญชี และอนุรักษ์เบื้องต้นแล้ว
ภาพ : เครื่องประดับดังกล่าวทำด้วยโลหะประเภทสำริด เงิน และทองจำนวนทั้งสิ้น 33 รายการ ที่พบในภาชนะดินเผา
ภาพ : จุดที่ขุดตรวจและพบเครื่องประดับทำด้วยโลหะบรรจุในภาชนะดินเผาบริเวณใต้องค์พระนอนช่วงระหว่างพระศอกับพระอุระ
ภาพ : แผ่นทองดุนรูปพระพุทธรูปประทับนั่ง ลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ขนาดกว้าง 8 เซนติเมตร สูง 12.5 เซนติเมตร
ภาพ : แผ่นตะกั่วหรือชินดุนรูปพระพุทธรูปประทับยืนพร้อมพระสาวก ลักษณะเป็นทรงซุ้มโค้ง สภาพชำรุดด้านขวาของแผ่นหักหายไป ขนาดกว้าง 11.5 เซนติเมตร สูง 15.5 เซนติเมตร
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)
อย.บ. 148/1
หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 52 หน้า กว้าง 5.5 ซม. ยาว 54.5 ซม.
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
เลขทะเบียน : นพ.บ.652/ค/6ขห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 56 หน้า ; 5 x 53 ซ.ม. : ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 207 (106-114) ผูก ค/6ข (2568)หัวเรื่อง : กจฺจายมูล--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อแบบฉบับ : ตำนานพระธาตุตะโก้ง (ผูก1ก)
ชื่อเรื่อง : ตำนานธาตุตะโก้ง (ผูก 1ก)
เลขทะเบียน : ชม.บ.820/1ก
ผู้แต่ง : ไม่ปรากฏ ผู้สร้าง : ไม่ปรากฏ ปีที่สร้าง : ไม่ปรากฏ
จำนวน : 1 คัมภีร์ 2 ผูก (หอสมุดแห่งชาติฯ เชียงใหม่ มีผูก 1, 1ก)
จำนวนบรรทัด : 4 บรรทัด จำนวนหน้า : 30 หน้า
อักษร : ธรรมล้านนา ภาษา : บาลี-ไทยล้านนา เส้น : จาร
ฉบับ : ชาดทึบ ไม้ประกับ : ไม่มี ประเภทเอกสารโบราณ : คัมภีร์ใบลาน
ประวัติ : ได้มาจากวัดท่าฟ้าเหนือ ต.สระ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2531
โครงการ : พัฒนาระบบบริการห้องสมุดดิจิทัล หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2568