ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,215 รายการ
รายงานการเดินทางไปราชการ ณ เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น
๑. ชื่อโครงการ
The Training Course on Cultural Heritage Protection in the Asia Pacific Region ๒๐๑๖: Research, Analysis, Preservation and Utilisation of Archaeological Sites and Remains
๒. วัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถให้แก่ผู้ที่ทำงานในด้านการวิจัย วิเคราะห์ อนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์จากโบราณสถานและโบราณวัตถุ ให้สามารถนำวิธีการและเทคโนโลยีที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมในประเทศของตนได้
๓. กำหนดเวลา
๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ – ๒๙ กันยายน ๒๕๕๙
๔. สถานที่
Asia – Pacific Cultural Centre for UNESCO (ACCU Nara Office) จังหวัดนารา ประเทศญี่ปุ่น
๕. หน่วยงานผู้จัด
Asia – Pacific Cultural Centre for UNESCO (ACCU)
๖. หน่วยงานสนับสนุน
- Agency for Cultural Affairs, Japan (Bunkacho)
- Asia – Pacific Cultural Centre for UNESCO (ACCU)
- International Centre for the Study of the Preservation and Restoration of Cultural Property (ICCROM)
- National Institutes for Cultural Heritage, Tokyo
- National Research Institute for Cultural Properties, Nara
- Japan Consortium for International Cooperation in Cultural Heritage, Ministry of Foreign Affairs of Japan
- Nara Prefectural Government
- Nara City Government
๗. กิจกรรม
กิจกรรมในการฝึกอบรมสามารถแบ่งออกเป็นหัวข้อใหญ่ได้ดังนี้
- การศึกษาวิธีการสงวนรักษาและการใช้ประโยชน์จากโบราณสถานและโบราณวัตถุ
- การศึกษาระบบการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมในประเทศญี่ปุ่น
- การศึกษาวิธีการบันทึกข้อมูลหลักฐานทางโบราณคดีด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การถ่ายภาพ การวาดภาพ การสำเนาจารึก เป็นต้น
- การศึกษาวิธีการจัดการแหล่งโบราณคดี และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม
- การศึกษาวิธีการสงวนรักษาหลักฐานทางโบราณคดีด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ผลกระทบจากความเค็มและมลทินภายในดินต่อหลุมจัดแสดงหรือโบราณวัตถุ การอนุรักษ์โบราณวัตถุจากไม้และอินทรียวัตถุ วิธีการเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมภายในอาคารจัดแสดงหรือแหล่งโบราณคดีด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
- การศึกษาเรื่ององค์กรระหว่างประเทศและการขึ้นทะเบียนมรดกโลก
- การทัศนศึกษาแหล่งโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ในจังหวัดนารา ได้แก่ Kasuga-taisha Shrine, Gango-ji Temple, Todai-ji Temple, Nara Palace Site, Palaitial Garden in Nara Capital Site, Isui-en Garden, Asuka Historical Museum, The Museum and Archaeological Institute of Kashihara, Horyu-ji Temple และ Ikaruga Centre for Cultural Heritage
- การทัศนศึกษาแหล่งโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ในจังหวัดนางาซากิ ได้แก่ Oura Church, Glover Garden, Dejima และ Nagasaki Museum of History and Culture
๘. คณะผู้แทนไทย
นางสาวทิพย์วรรณ วงศ์อัสสไพบูลย์ นักโบราณคดีปฏิบัติการ สำนักศิลปากรที่ ๙ ขอนแก่น
๙. สรุปสาระของกิจกรรม
ในการเข้าร่วมการฝึกอบรมในครั้งนี้ สาระสำคัญของกิจกรรมคือ การศึกษาวิธีการวิจัย วิเคราะห์ อนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์จากโบราณสถาน – โบราณวัตถุตามแนวทางของประเทศญี่ปุ่น โดยการไปศึกษายังสถานที่ทำงาน พิพิธภัณฑ์ และโบราณสถานที่มีการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะโบราณสถานที่มีการสร้างอาคารขึ้นมาใหม่ (Reconstruction) โดยอาศัยการวิเคราะห์หลักฐานทางโบราณคดีที่พบจากการขุดค้นและจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างอาคารจำลองที่มีขนาดและสัดส่วนใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุดขึ้นมาบนสถานที่และตำแหน่งเดิม และพัฒนาสถานที่เหล่านั้นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ – โบราณคดี ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวชมได้อย่างต่อเนื่อง เช่น Nara Palace site, Palatial Garden, Dejima เป็นต้น
นอกจากนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมไปทัศนศึกษาวิธีการจัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับงานโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นจะมีการสร้างพิพิธภัณฑ์เฉพาะเรื่องหรือเฉพาะแหล่งเอาไว้เกือบทุกสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม โดยพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งจะจัดแสดงเนื้อหาที่มีความสัมพันธ์กับแหล่งโบราณคดีหรือโบราณสถานนั้นๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ในพื้นที่เกาะ Dejima ที่นอกเหนือไปจากการก่อสร้างอาคารจำลองขึ้นมาใหม่แล้ว ยังมีการจัดแสดงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการค้าทางทะเล สภาพวิถีชีวิตของผู้คนในเกาะ Dejima หลักฐานทางโบราณคดีที่ขุดพบในพื้นที่ และวิธีการก่อสร้างอาคารต่างๆ เป็นต้น
๑๐. ข้อเสนอแนะจากการจัดกิจกรรม
จากการเข้าร่วมการฝึกอบรมในครั้งนี้ ข้าพเจ้ามีความเห็นว่าประเทศไทยสามารถนำวิธีการจัดการและการใช้ประโยชน์จากแหล่งโบราณคดีและมรดกทางวัฒนธรรมที่ประเทศญี่ปุ่นใช้ มาปรับประยุกต์ใช้กับประเทศไทยได้หลายประการ เช่น
- การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ห้องสุขา ทางลาดสำหรับผู้พิการหรือผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ทางเดินและป้ายบรรยายสำหรับผู้พิการทางสายตา การจัดเส้นทางเดินเพื่อการท่องเที่ยวแบบทางเดียว (One Way) ซึ่งสะดวกต่อการจัดระบบการท่องเที่ยว การจัดทำป้ายบอกทางหรือป้ายสัญลักษณ์เตือนต่างๆ ที่เข้าใจง่าย เป็นต้น
- การป้องกันอุบัติเหตุและการรับมือในกรณีฉุกเฉินในสถานที่ท่องเที่ยว เช่น อุปกรณ์ช่วยชีวิต (AED – Automated External Defibrillator) อุปกรณ์การปฐมพยาบาล หรือถังดับเพลิง โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะถูกติดตั้งไว้ที่ประตูทางเข้าอาคารในจุดที่มองเห็นได้ง่าย เป็นต้น
- การสร้างความร่วมมือกับประชาชนในการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งโบราณคดี โดยการจัดตั้งองค์กรอาสาสมัครในการดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรม อาสาสมัครกลุ่มนี้จะปฏิบัติหน้าที่และกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับรัฐบาลและภาคประชาชน เช่น กิจกรรมทำความสะอาดโบราณสถาน กิจกรรมถ่ายทอดความรู้ทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์แก่นักเรียนในโรงเรียน กิจกรรมสำรวจแหล่งโบราณคดีร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ กิจกรรมมัคคุเทศก์อาสาสมัครตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อาสาสมัครในการขุดค้นทางโบราณคดี หรือการเป็นผู้ช่วยนักโบราณคดี เป็นต้น
- จากการเข้าฝึกอบรมข้าพเจ้าพบว่า ประเทศญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับรายละเอียดของโบราณวัตถุที่ได้จากการขุดค้น โดยมีการศึกษาในรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง และไม่เน้นปริมาณหรือจำนวนแหล่งที่ขุดค้นได้ในแต่ละปี (เฉพาะแหล่งขุดค้นเพื่อการศึกษา) เนื่องจากต้องการสงวนรักษาแหล่งโบราณคดีเอาไว้ให้คนรุ่นถัดไปได้มีพื้นที่ศึกษา
- จากการเข้าฝึกอบรมพบว่าประเทศญี่ปุ่นมีระบบการจัดแบ่งประเภทของมรดกทางวัฒนธรรมที่ชัดเจนและเป็นแบบแผนของตนเอง (เอกสารอัดสำเนา ๑) ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าประเทศไทยสามารถนำรูปแบบดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการจัดแบ่งมรดกทางวัฒนธรรมของเราได้ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทำได้ง่ายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าหากในปีถัดไปทางประเทศญี่ปุ่นมีการจัดกิจกรรมเช่นนี้ขึ้นอีก ก็ควรส่งข้าราชการของกรมศิลปากรเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้และทักษะในการทำงานด้านโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ อันจะเป็นประโยชน์ที่สามารถนำมาพัฒนาการทำงานด้านวัฒนธรรมในประเทศไทยต่อไปในอนาคต
ลงชื่อ.........................................................................
(นางสาวทิพย์วรรณ วงศ์อัสสไพบูลย์)
ผู้สรุปผลการเดินทางไปราชการ
เลขทะเบียน : นพ.บ.7/3ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 54 หน้า ; 4 x 55 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 5 (47-61) ผูก 3หัวเรื่อง : อัพภันตรนิทาน--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.30/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 28 หน้า ; 4.5 x 59 ซ.ม. : ทองทึบ ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 16 (175-181) ผูก 2หัวเรื่อง : สตฺตปฺปกรณาธมฺม --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.53/9ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 56 หน้า ; 4.5 x 51.3 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 34 (344-352) ผูก 9หัวเรื่อง : จตุกฺกนิบาต --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อเรื่อง : ตามรอยพระแม่เจ้าจามเทวี
ผู้แต่ง : วัดละโว้
ปีที่พิมพ์ : 2551
สถานที่พิมพ์ : เชียงใหม่
สำนักพิมพ์ : ณัฐพลการพิมพ์
ชื่อเรื่อง : รามเกียรติ์ เล่ม 9
ชื่อผู้แต่ง : พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก, พระบาทสมเด็จพระ
ปีที่พิมพ์ : 2507
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : องค์การค้าของคุรุสภา
จำนวนหน้า : 370 หน้า
สาระสังเขป : พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระราชนิพนธ์เป็นกลอนบทละคร ดำเนินเรื่องโดยการเล่าเรื่องติดต่อกันตั้งแต่ต้นจนจบ พระราชนิพนธ์บทละครรามเกียรติ์ เล่ม 9 เริ่มจากตอน ไพนาสุริยวงศ์คิดจะไปหาท้าวจักรวรรดิ (ต่อ) ทศพินรบกับอสูรผัด บรรลัยจักรออกรบ พระพรตแผลงศรอัคนิวาต จนถึงตอนพระพรตแผลงศรพลายวาต
ว่าด้วย ตำรายาเกร็ด อักษรขอม – ไทย ภาษาบาลี – ไทย เช่น แก้ร้อนใน, ไข้สาริบาด, ยาตะคริว, อ้าปากมิออก, ยาตกมูกตกเลือด, แก้ขัดหน้าขัดเบา, ยาลอมลูกในท้อง, ยาพ่นแก้ร้อน, กำเนินออกดำออกแดง,ยาจุดฝีการ ฯลฯ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. พระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีไปมากับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2472. พระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับลายพระหัตถ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงมีไปมาถึงกันนั้นกล่าวถึงเนื้อหาแบ่งเป็น 8 หมวด ได้แก่ 1) หมวดการเกี่ยวกับพระราชวงศ 2) หมวดการในพระองค์ 3) หมวดการคณะสงฆ์ 4) หมวดการศาสนา 5) หมวดการศึกษา 6) หมวดเรื่องการบำรุงวัด 7) หมวดการเทศนา และ 8) หมวดการปกิรณก
ชื่อเรื่อง : ประชุมเพลงยาว ภาคที่ 4 เพลงยาวกรมหมื่นสถิตย์ธำรงสวัสดิ์
หัวเรื่อง : กวีนิพนธ์ไทย
คำค้น : เพลงยาว
รายละเอียด : แจกในการกฐินพระราชทาน จางวางโท พระยาอนิรุทธเทวา อธิบดีกรมมหาดเล็ก ณ วัดเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนนทบุรี วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 ปีวอก พ.ศ. 2463
ผู้แต่ง : สถิตย์ธำรงสวัสดิ์, พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่น, 2388-2433
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ/ โรงพิมพ์/ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร
ปีที่พิมพ์ : 2463
วันที่เผยแพร่ : 19 สิงหาคม 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : หนังสือเล่มนี้รวบรวมบทกลอนประเภท เพลงยาวสังวาสเบ็ดเตล็ด ซึ่งพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นสถิตย์ธำรงสวัสดิ์ ทรงพระนิพนธ์ทั้งหมด พระองค์ทรงมีความชำนาญในทางกลอนอย่างมาก ทรงโปรดทั้งโคลงและกลอน ใช้โวหารตามแบบอย่างในสมัยรัชกาลที่ 3 เนื้อหาแสดงถึงความงามทางภาษา และความรู้สึกอันลึกซึ้งในแง่มุมของความรัก ความอาลัย และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
เลขทะเบียน : น. 34 บ. 6062 จบ (ร)
เลขหมู่ : ห
895.9112
ป247
ผู้แต่ง : -
ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 1
สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร
ปีที่พิมพ์ : 2503
หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายแพทย์ ขุนพรหม วราทร (สด เรืองหมวก) ณ ฌาปนสถานกองทัพบก วัดโสมนัสวิหาร 22 พฤษภาคม 2503
วาหนิต์ติกร เป็นหนังสือเสริมความรู้เฉพาะเรื่อง ว่าด้วยเรื่องอักษรนำ ขึ้นต้นด้วยโคลงสี่สุภาพ 3 บทเป็นส่วนนำเรื่อง ตามด้วยคำอธิบายเรื่องอักษรนำ และอธิบายต่อว่าอักษรสูงนั้นนำได้เฉพาะอักษรต่ำเดี่ยวเท่านั้น การแจกลูกอักษรนำไปโดยละเอียด ทุกมาตรา เช่น ขง ขงัง ขงาง ขงึง ฉง ฉงา ฉงิ ฉงน ถง ถงา ถงึ เป็นต้น