ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,749 รายการ
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กรมศิลปากรเตรียมดำเนินการบูรณะสิม (อุโบสถ) ในภาคอีสาน ซึ่งเป็นโบราณสถานที่ยังมีการใช้งานอยู่ถึงปัจจุบัน จำนวน 12 วัด เพื่อสร้างเส้นทางสายบุญเชื่อมโยงพระธาตุสำคัญ 3 แห่ง ประกอบด้วย พระธาตุยาคู ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พระธาตุนาดูน ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม และพระธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักศิลปากร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 สำนัก ได้แก่ สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น สำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี และสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ตั้งเป้าแล้วเสร็จปี 2569 งบประมาณรวมกว่า 42 ล้านบาท
สิม หรืออุโบสถ ในภาคอีสาน มีลักษณะเฉพาะทางสถาปัตยกรรม เป็นเอกลักษณ์ที่แสดงถึงความงดงามและความสมถะ บางแห่งมีฮูปแต้มหรือภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญา วัฒนธรรม คติความเชื่อ และวิถีชีวิตของผู้คนในภาคอีสานในอดีต มักสร้างด้วยไม้ อิฐ หรือดิน เป็นอาคารขนาดเล็ก มีรูปแบบเรียบง่าย แต่ด้วยวัสดุที่นำมาใช้ก่อสร้างสิม หรืออุโบสถนั้น มีการเสื่อมสภาพได้ง่าย ทำให้ต้องมีการซ่อมแซมอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้กรมศิลปากรจึงจัดทำโครงการบูรณะสิม (อุโบสถ) ในเขตภาคอีสาน โดยจะเริ่มดำเนินการบูรณะสิม (อุโบสถ) ตามเส้นทางสายบุญเชื่อมโยงพระธาตุสำคัญ รวมทั้งสิ้น 12 วัด ได้แก่
1. สิม (อุโบสถ) วัดสนวนวารีพัฒนาราม ตำบลหัวหนอง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
2. สิม (อุโบสถ) วัดบึงแก้ว ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น
3. สิม (อุโบสถ) วัดมัชฌิมวิทยาราม ตำบลบ้านลาน อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
4. สิม (อุโบสถ) วัดสว่างโพธิ์ศรี ตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
5. สิม (อุโบสถ) วัดลัฏฐิกวัน ตำบลชะโนด อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร
6. สิมน้ำบ้านปลาโด (อุโบสถกลางน้ำ) ตำบลหนองพอก อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด
7. สิม (อุโบสถ) วัดโพธารมณ์ ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
8. สิม (อุโบสถ) วัดสระแก ตำบลบ้านเป้า อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์
9. สิม (อุโบสถ) วัดโพธิ์ศรีเชียงเหียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
10. หอแจก (ศาลาการเปรียญ) วัดโพธาราม ตำบลดงบัง อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
11. สิม (อุโบสถ) วัดบรมคงคา ตำบลบ้านแวง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์
12. สิม (อุโบสถ) วัดท่าเรียบ ตำบลนาโพธิ์ อำเภอนาโพธ์ จังหวัดบุรีรัมย์
รมว. สุดาวรรณ กล่าวอีกว่า การดำเนินการบูรณะโบราณสถานสิมและการอนุรักษ์ฮูปแต้ม ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์โบราณสถาน ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของกรมศิลปากรแล้ว ยังเป็นการเชื่อมโยงให้เกิดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายบุญ และยังได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ตลอดจนเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นในภาคอีสานอีกด้วย
ภาพ : สิม (อุโบสถ) วัดสนวนวารีพัฒนาราม ตำบลหัวหนอง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
ภาพ : สิม (อุโบสถ) วัดสว่างโพธิ์ศรี ตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
ภาพ : สิม (อุโบสถ) วัดโพธารมณ์ ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
ภาพ : สิม (อุโบสถ) วัดสระแก ตำบลบ้านเป้า อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์
ภาพเล่าเรื่องบนใบเสมา สัญชาตญาณของความเป็นแม่
โดย นางสาวพรพิณ โพธิวัฒน์ ภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น
ชื่อเรื่อง : ที่ระลึกพิธีเปิดอาคารที่ว่าการอำเภอแหลมสิงห์
คำค้น : จังหวัดจันทบุรี, จันทบุรี, อำเภอแหลมสิงห์, น้ำตกพลิ้ว, ประวัติศาสตร์จันทบุรี, การท่องเที่ยวจันทบุรี, ประวัติพระเจ้าตากสิกจันทบุรี
แหล่งที่มา : ต้นฉบับหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : บริษัท ระยองกันเอง จำกัด
ลิขสิทธิ์ : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือท้องถิ่น (ห้องจันทบุรี)
รายละเอียดเนื้อหา : ประกอบด้วยคำขวัญอำเภอแหลมสิงห์ สารของ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ แผนที่จังหวัดจันทบุรี คำขวัญจังหวัดจันทบุรี พร้อมคำอธิบาย ประวัติศาสตร์พระเจ้าตากสินมหาราช-จันทบุรี ประวัติอำเภอแหลมสิงห์ รายนามผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอตั้งแต่ อดีต-ปัจจุบัน สภาพทั่วไปของอำเภอแหลมสิงห์ รายชื่อปลัดอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการอำเภอแหลมสิงห์ รายชื่อหัวหน้ากลุ่มมวลชน รายชื่อผู้บริหารโรงเรียน รายชื่อกรรมการสุขาภิบาลปากน้ำแหลมสิงห์ รายชื่อสุขาภิบาลพลิ้ว ทำเนียบกำนันผู้ใหญ่บ้าน แผนที่อำเภอแหลมสิงห์ และภาพกิจกรรมต่างๆ ของอำเภอแหลมสิงห์
เลขทะเบียน : น 40 บ. 16444 จบ. (ร)
เลขหมู่ : ท 351.059326 ท535
โบราณสถานเพนียด
ตั้งอยู่ที่บ้านเพนียด ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี และอยู่ภายในเมืองเพนียด ซึ่งเป็นเมืองโบราณในวัฒนธรรมเขมรโบราณที่มีคันดินล้อมรอบ ลักษณะเป็นโบราณสถานที่ก่อด้วย
ศิลาแลงเป็นกรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า วางเรียงตัวตามแนวเหนือ – ใต้ จำนวน ๒ แห่ง และมีทางเดินเชื่อมถึงกัน ภายในกรอบสี่เหลี่ยมมีบันไดเชื่อมต่อกับลานตรงกลางที่เปิดโล่ง ซึ่งมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับหน้าที่การใช้งานและอายุสมัยของโบราณสถานแห่งนี้ ๒ แนวทาง ได้แก่
๑. โบราณสถานเพนียดเป็นสระน้ำ ๒ แห่งซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกัน กำหนดอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ (ประมาณ ๘๐๐ ปีมาแล้ว)
๒. โบราณสถานเพนียดเป็นอาคาร ๒ หลัง ที่อาจจะเป็นพลับพลาซึ่งมักพบสร้างอยู่ทางตะวันออกของปราสาทแบบเขมรโบราณสมัยบาปวนถึงนครวัด หรือกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - พุทธศตวรรษที่ ๑๗ กำหนดอายุอยู่ในช่วงประมาณ ๙๐๐ - ๑,๐๐๐ ปีมาแล้ว
กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานเพนียดในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๗๘
Phaniat Archaeological Site
Phaniat Archaeological Site is in Ban Phaniat, Khlong Narai Subdistrict, Mueang Chanthaburi District, Chanthaburi Province. This archaeological site is situated within the ancient Khmer town of Phaniat. It consists of two laterite buildings in a rectangular shape, arranged in a north-south direction and connected by a laterite walkway. Each frame is an open courtyard with stairs. The function and dating of this site could not be clearly determined but there are two assumptions as follows:
1. Two ponds with a laterite edge, which were built above the ground surface around the middle 12th century (800 years ago).
2. Two buildings that are components of the Khmer temple, usually situated on the east side of the main sanctuary in Baphuon to Angkor Wat style (11th - 12th century or 900 - 1,000 years ago).
The Fine Arts Department announced the registration of Phaniat Archaeological Site as an ancient monument in the Royal Gazette, Volume 52, dated 8th March 1935.
คณะกรรมการชำระปทานุกรม. หนังสือน้ำพักน้ำแรง. พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2479.พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานปลงศพ นายหลี เสฐียรโกเศศ วันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2479
ชื่อผู้แต่ง มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว , พระบาทสมเด็จพระ
ชื่อเรื่อง เที่ยวเมืองพระร่วง
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ ๘
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพมหานคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย
ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๙
จำนวนหน้า ก-ฒ , (๑-๘) , ๒๔๑ หน้า : ภาพประกอบ
ISBN -
เลขเรียกหนังสือ 915.9365 ม113ท
เลขทะเบียนหนังสือ 059986
หมายเหตุ มูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดพิมพ์โดยเสด็จพระกุศล ซึ่งสมเด็จพระเจ้าภคิณีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงบำเพ็ญในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมพระมงกุฎเกล้าอยู่หัว ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๑๙ ครบ ๕๑ ปี
เรื่องเที่ยวเมืองพระร่วงนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ ครั้งเสด็จไปประพาสเมืองกำแพงเพชร เมืองสุโขทัย เมืองสวรรคโลก เมืองอุตรดิตถ์ และเมืองพิษณุโลก เล่าเรื่องไปดูโบราณสถานต่าง ๆ และตำนานของเมืองเหล่านั้น
ชื่อผู้แต่ง มหามกุฎราชวิทยาลัย
ชื่อเรื่อง ทางร่มเย็น อันดับ ๑๘
พิมพ์ครั้งที่ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย
ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๙
จำนวนหน้า ๕๒ หน้า
รายละเอียด หนังสือทางร่มเย็น ลำดับที่ ๑๘ จัดพิมพ์ขึ้น เพื่อเป็นหนังสือธรรมะสำหรับแจกห้องสมุดหรือวัด ทั่วไปและเพื่อแจกแก่ผู้บริจาคทรัพย์สมทบทุนทางร่มเย็น สำหรับเรื่องที่จัดพิมพ์นั้น พระธรรมดิลกได้กรุณาเลือกหนังสือ เรื่อง “ธรรมะช่วยแก้ปัญหาทางสังคม” ของพระมหาระแบบ จิตญาโณ วัดบวรนิเวศวิหาร มาจัดพิมพ์หนังสือทางร่มเย็น อันดับที่ ๑๘ นี้
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 102/3ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 22 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 56.8 ซม.หัวเรื่อง พระไตรปิฎก พระอภิธรรมบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ธรรมอีสาน ฉบับล่องชาด ไม่มีไม้ประกับ
สำนักหอสมุดแห่งชาติ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกครูกลอนสุนทรภู่ เนื่องในวันสุนทรภู่ ประจำปี 2568 ขอเชิญร่วมเปิดโลกวรรณคดีไทยผ่านละครชาตรีสุดอลังการ ในพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 13.30 - 14.30 น. พบกับการเสวนาพิเศษ เรื่อง “จากวรรณกรรมสุนทรภู่ สู่การแสดงละครชาตรี” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณคดีและการละคร และเวลา 14.30 - 16.30 น. ชมการแสดงละครชาตรี เรื่อง “พระอภัยมณี ตอน กำเนิดสุดสาคร - สุดสาครจับม้านิลมังกร" จากคณะละคร "จงกล โปร่งน้ำใจ" ที่จะพาคุณท่องโลกแฟนตาซีแห่งบทกวีของสุนทรภู่ ณ ห้องประชุมใหญ่ หอสมุดแห่งชาติ ลงทะเบียนฟรี (รับจำนวนจำกัด) >> https://shorturl.at/3eEVv วันสุนทรภู่ปีนี้ ไม่ทำแค่รำลึก แต่ต้องทำถึง! มาสัมผัสวรรณคดีไทยแบบ "มีชีวิต" ด้วยตาคุณเอง