ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 41,347 รายการ
องค์ความรู้ เรื่อง ประติมากรรมพระอรรธนารีศวร ที่เมืองโบราณศรีเทพ เรียบเรียงโดย นายภัทร โพธิโต ผู้ช่วยนักโบราณคดี อุทยานประวัติศาสตร์ ศรีเทพ
ชื่อเรื่อง : รายงานการสำรวจโบราณสถานในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๒ (ประเภทศาสนสถาน)ผู้แต่ง : กรมศิลปากรปีที่พิมพ์ : 2521สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ : ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำนวนหน้า : ๓๒๒ หน้า รายงานการสำรวจโบราณสถานและอาคารเก่าในเขตกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๒ เป็นการสำรวจและนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นของโบราณสถาน ประเภทศาสนสถาน ในแง่ของประวัติ ความเป็นมา ความเป็นมา ความสำคัญในอดีต ลักษณะทางสถาปัตยกรรมสภาพปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนงานการอนุรักษ์ขั้นต่อไป
ผู้แต่ง : ตรี อมาตยกุล
ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 1
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร
ปีที่พิมพ์ : 2509
หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางริ้ว ประกาศสุขการ และนายสุธี ประกาศสุขการ
นำเสนอเรื่องประวัติศาสตร์ ภูมิประเทศและสภาพทั่วไปของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โบราณสถานสำคัญต่าง ๆ เช่น ป้อมและปราการรอบกรุง พระราชวังและตำหนักต่าง ๆ ประตูและกำแพงวัง วัดต่าง ๆ และประวัติและโบราณสถานในเกาะบางปะอิน
ชื่อเรื่อง ตำราพระราชพิธีพรุณศาสตร์ ผู้แต่ง เจ้าพระยาพลเทพฯประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ประเพณี ขนมธรรมเนียม เลขหมู่ 390.22 พ439ตสถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร ปีที่พิมพ์ 2466ลักษณะวัสดุ 48 หน้าหัวเรื่อง พิธีขอฝน พิธีทางศาสนาและพิธีกรรม ภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก ตำราพระราชพิธีพรุณศาสตร์มีมาแต่โบราณหลายตำรา พระบาทสมเด็จฯพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้ในหนังสือเรื่องพระราชพิธี 12 เดือน ตำรานี้เป็นตำราที่แต่งในรัชกาลที่ 4 พระราชพิธีพรุณศาสตร์ เป็นพิธีเจริญมงคลเพื่อขอให้ฝนตกมาทำความอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดิน ในตำราอธิบายถึงพระราชพิธี การประกอบพิธี ของใช้ จำนวนเท่าไหร่ ภาพแสดงลักษณะรูปที่ใช้ประกอบในพิธี ภาพท้าวจตุโลกบาล นาค พระมหาสุภูตเจ้า และปลาข่อย ผังโรงพิธี รวมทั้งบทสวดในพิธีของพระเจ้าแผ่นดิน
ชื่อเรื่อง ธมฺมปทวณฺณนา ธมฺมปทฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฐกถถา (พระธัมมปทัตถกถา)สพ.บ. 144/15ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 64 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 56 ซ.ม. หัวเรื่อง พุทธสาวก -- ชีวประวัติ พระธรรมเทศนา พระไตรปิฎก พระสูตร บทคัดย่อ/บันทึก
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดป่าเลไลยก์ ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองฯ จ.สุพรรณบุรี
ชื่อเรื่อง เทศนาสังคิณี-ธาตุกถาสพ.บ. 237/3ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 28 หน้า กว้าง 4 ซ.ม. ยาว 57.7 ซ.ม. หัวเรื่อง พุทธศาสนา บทสวดมนต์
บทคัดย่อ/บันทึก
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด ภาษาบาลี-ไทยอีสาน ได้รับบริจาคมาจากวัดทุ่งอุทุมพร ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
ชื่อผู้แต่ง พระญาลิไทย
ชื่อเรื่อง ไตรภูมิพระร่วง ของ พระญาลิไทย
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์คุรุสภา
ปีที่พิมพ์ ๒๕๐๓
จำนวนหน้า ๓๔๔ หน้า
หมายเหตุ -
หนังสือไตรภมิฉบับนี้ ว่าเป็นของพระเจ้ากรุงศรีสัชนาลัย สุโขทัย ผู้ทรงพระนามว่า พระญาลิไทย ได้แต่งขึ้นไว้เมื่อปีระกาศักราชได้ ๒๓ ปี ต้นฉบับของหอสมุดวชิรญาณได้มาจากเมืองเพชรบุรี เป็นหนังสือ ๑๐ ผูก บอกไว้ข้างท้ายว่า พระมหาช่วย วัดปากน้ำ ซื่อวัดกลาง (คือวัดกลางเมืองสมุทรปราการเดี๋ยวนี้) จารขึ้นไว้ในรัชกาลเจ้ากรุงธนบุรีเมื่อ ณ เดือนสี่ ปีจอ สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๑๔๐ ต้นฉบับเดิมเป็นอักษรขอม
จารึกอักษรฝักขามในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ได้ทำการปรับปรุงการจัดแสดงห้องศิลาจารึก ที่ได้เก็บรวบรวมไว้ในพิพิธภัณฑ์มาเป็นเวลานาน และมีจำนวนมากที่สุดในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในภาคเหนือ โดยแบ่งเป็นจารึกอักษรมอญโบราณ และอักษรฝักขาม พบบริเวณอำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน และบริเวณโดยรอบ
อักษรฝักขาม หมายถึง ตัวอักษรที่ใช้บันทึกเรื่องราว ลงบนศิลาจารึกในอาณาจักรล้านนา ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๔ มีลักษณะที่ใกล้เคียงอักษรโบราณในสมัยสุโขทัย ลักษณะตัวอักษรจะโค้งและผอมสูงมากกว่าจึงเรียกว่าตัวอักษรฝักขาม ซึ่งได้แบบอย่างไปจากอักษรสมัยสุโขทัยสมัยพระเจ้าลิไท เมื่อครั้งพระยากือนาโปรดให้พระราชทูตไปอาราธนาพระสุมนเถระขึ้นไปฟื้นฟูพระศาสนาที่เชียงใหม่ ดังปรากฏหลักฐานในจารึกวัดพระยืน จังหวัดลำพูน ที่ถือว่าเป็นจารึกอักษรไทย ภาษาไทยเก่าแก่ที่สุดที่พบในล้านนา ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนจนกลายเป็นอักษรฝักขามจนได้รับความนิยมก่อนที่จะมีการนิยมใช้อักษรธรรมล้านนาแทนที่ในสมัยต่อมา
สำหรับโพสต์นี้ ขอนำเสนอจารึกอักษรฝักขามบางส่วน สำหรับจารึกหลักอื่นๆ ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย จะได้นำมาเผยแพร่ในโอกาสต่อไป
ท่านที่สนใจสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ในวันพุธ-อาทิตย์ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. โดยให้บริการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดCOVID-19 อย่างเคร่งครัด
อ้างอิง
คงเดช ประพัฒน์ทองและคณะ. วิเคราะห์จารึกในพิพิธภัณพสถานแห่งชาติ หริภุญไชย. กรุงเทพฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) จำกัด, มปป.
ศิลปากร,กรม. แบบเรียนหนังสือภาษาโบราณ. กรุงเทพฯ: สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, ๒๕๕๓.
ยามอุบากอง ชบ.ส. ๑๑๘
เจ้าอาวาสวัดเขาคันธมาทน์ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
มอบให้หอสมุด ๒๓ ก.ค. ๒๕๓๕
เอกสารโบราณ (สมุดไทย)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.34/1-1 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ประติมากรรมพระสาวก
เนื่องในวันมาฆบูชาที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ หรือวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ตามปฏิทินสุริยคติ อันเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ให้กับพระอรหันตสาวกที่มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายจำนวน ๑,๒๕๐ รูป ภายหลังจากที่ได้เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังดินแดนต่าง ๆ จึงขอนำเรื่องราวของคติความนิยมในการสร้างประติมากรรมพระสาวกมาเผยแพร่ให้ทราบกัน
พระอรหันตสาวกเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา และมักได้รับ
การกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้งในเหตุการณ์พุทธประวัติ โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญในวันมาฆบูชาซึ่งอาจเป็นคติความเชื่อที่ส่งผลให้เกิดความนิยมในการสร้างประติมากรรมพระสาวกขึ้นซึ่งเราจะพบได้ในทุกศิลปะของไทย ในสมัยสุโขทัยก็พบว่ามีความนิยมสร้างประติมากรรมพระสาวกเช่นกัน โดยมีลักษณะเหมือนพระพุทธรูปสุโขทัยแต่มีความแตกต่างในรายละเอียดเล็กน้อย คือขมวดผมเป็นก้นหอย แต่ไม่มีพระรัศมีและเกตุมาลา หน้ารูปไข่ คิ้วโก่ง จมูกงุ้ม ห่มจีวรเฉียง ชายสังฆาฏิยาวถึงหน้าท้องปลายทำเป็นริ้วคล้ายเขี้ยวตะขาบ มักแสดงอิริยาบถหลากหลาย เช่น นั่งพับเพียบประนมมือที่หน้าอก อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ ยืน หรือเดิน
พระอรหันตสาวกทั้งหลาย อาทิ พระมาลัย พระสีวลี พระอัญญาโกณฑัญญะ พระอานนท์ พระสารีบุตร หรือพระโมคคัลลานะ เป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากที่ทำให้พระพุทธศาสนายังดำรงอยู่มาจนทุกวันนี้ อีกทั้งเป็นผู้ที่มีความเป็นเลิศในด้านต่าง ๆ จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก เป็นเหตุให้เกิดการสร้างประติมากรรมพระสาวกขึ้นซึ่งยังคงสืบทอดคติความเชื่อนี้มาจนถึงปัจุบัน
เนื่องจากมีผู้เข้าใช้บริการ สอบถามเรื่องชื่อถนน"สีบุญเรือง"ที่อยู่บริเวณเขาพลอยแหวน ว่าเป็นมาอย่างไร ผู้เขียนจึงได้ค้นคว้าจากเอกสารที่มีภายในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี พบเอกสารที่ใช้อ้างอิง2 ประเภท คือจดหมายเหตุลายลักษณ์ และเอกสารแนบจดหมายเหตุประเภทหนังสือหายาก(น.2) เอกสารทั้ง2 ประเภท ได้เขียนไว้อย่างสอดคล้องกันว่า...นายซองอ๊วน เป็นพี่ชายของนายซองกุ่ย ได้รับโอนกิจการด้านการซ่อมถนนและเดินรถยนต์จากหลวงชนาณัมคณิศร ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตทำกิจการด้านนี้จากกระทรวงมหาดไทย ... ...ต่อมาใน พ.ศ.2470 นายซองอ๊วน ได้รับสิทธิจากกรมทางหลวงให้ดำเนินการสร้างและซ่อมทางเพื่อถือสิทธิการเดินรถรับจ้างบรรทุกสินค้าและคนโดยสาร... ...ทางเริ่มตั้งต้นจากทางแยกท้องที่อำเภอเมืองจันทบุรี ผ่านเมืองใหม่บางกะจะ สีพระยา ไร่โอ๋ บ่อพุ ห้วยแร้ง พลอยแหวน ชำฆ้อ โป่งรัก เนินพลอยแหวน วัดหนองโพรง ถึงตลาดท่าใหม่ เป็นสุดเขต... ...กำหนดถือสิทธิ 20 ปี นับแต่วันทำสัญญา โดยทุนตั้งบริษัทเป็นเงิน 100,000 บาท ลัษณะของถนนสายนี้ เป็นแบบถมดินและโรยกรวด......ในการอนุญาตให้ทำทางในครั้งนี้สิทธิผลประโยชน์โดยรวมของชาวบ้านยังคงได้รับคือสามารถนำพาหนะ ยวดยานมาวิ่งได้ ยกเว้นมาวิ่งเก็บค่าโดยสารทับเส้นทางนี้ไม่ได้เท่านั้น หนังสืออนุสรณ์งานศพของนายซองกุ่ย ผู้เป็นน้องชาย ได้มีการบันทึกไว้ว่า...ภายหลังนายซองอ๊วนถึงแก่กรรม นายซองกุ่ย ผู้น้องได้รับสัมปทานเดินรถยนต์ต่อจากพี่ชาย และเมื่อสัมปทานสิ้นสุดลง นายซองกุ่ย ได้ยกทางสัมปทานเส้นนี้ให้แก่จังหวัดจันทบุรี เพื่อใช้ในการคมนาคมต่อไป ทางจังหวัดจึงตั้งชื่อถนนสายนี้ว่า"ถนนสีบุญเรือง" และทางหลวงสายกรุงเทพฯจันทบุรี ได้ตัดต่อมาเชื่อมถนนสายนี้ในเวลาต่อมา เรื่องนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ที่ผู้เขียนเห็นว่าเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ บางครั้งมักมีแอบหรือสอดแทรกอยู่ในเอกสารจดหมายเหตุประเภทต่าง ๆ ดังนั้นผู้ค้นคว้ามืออาชีพจึงจำเป็นต้องอ่านและศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง----------------------------------------------------------ผู้เขียน สุมลฑริกาญจณ์ มายะรังษี นักจดหมายเหตุชำนาญการ----------------------------------------------------------เอกสารอ้างอิง ที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพนายซองกุ่ย ศรีบุญเรือง. 2507. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ลุริยนเอเจนซี หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี. เอกสารกระทรวงมหาดไทย ชุดมณฑลจันทบุรี (13)มท 1.2.3/11 เรื่องนายซองอ๊วน ผู้รับมอบฉันทะจากหลวงชนาฯ ขออนุญาตทำทางถือสิทธิ์เดิรรถยนตร์ แต่บ้านหัวหินไปถึงตลาดท่าใหม่ (18 มิถุนายน 2470 – 16 พฤษภาคม 2474).