ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,652 รายการ

เลขทะเบียน : นพ.บ.377/16ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 32 หน้า ; 5 x 52 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 142  (7-25) ผูก 16 (2566)หัวเรื่อง : เวสฺสนฺตรชาตก --เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.518/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4 x 49 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 173  (254-258) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง                         ธมฺมปทวณฺณนา ธมฺมปทฏฺธกถา ขุทฺทกนิกายฏฺธกกา (ธมฺมฺปทขั้นปลาย)อย.บ.                            241/2หมวดหมู่                       พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                  62 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 58.5 ซม.หัวเรื่อง                         พระธรรมเทศนา                                                                       บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา


          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี ขอเชิญชมนิทรรศการหมุนเวียน "Object of the Month" วัตถุจากคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี ประจำเดือน "พฤษภาคม" เชิญพบกับ "พัดฝัดข้าว" เครื่องมือเครื่องใช้จากภูมิปัญญา จัดแสดงให้ชมระหว่างวันที่ ๑ - ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖          พัดฝัดข้าว (วี หรือ ก๋าวี) เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้พัดแยกเมล็ดข้างที่ไม่มีเนื้อ (ข้าวลีบ) เศษผง เศษฟางต่าง ๆ ออกจากเมล็ดข้าวดี ให้เหลือเพียงเมล็ดข้างเปลือกที่มีน้ำหนักและใช้ได้          ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ "พัดฝัดข้าว" ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ (ปิดวันจันทร์ วันอังคาร) สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๓๕๕๓ ๕๓๓๐ หรือเฟสบุ๊ก: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี


ชื่อเรื่อง                     นิทานเทียบสุภาษิต ฉบับ พระสุวรรณรัศมี (ทองคำ สีหอุไร) ภาคที่ 2 และภาคที่ 3ผู้แต่ง                       สุวรรณรัศมีประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   ขนมธรรมเนียม ประเพณี คติชนวิทยาเลขหมู่                      398.2 ส839นวสถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์อักษรสัมพันธ์ปีที่พิมพ์                    2508ลักษณะวัสดุ               70 หน้าหัวเรื่อง                     สุภาษิตและคำพังเพยภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกหนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้นเนื่องในงานฌาปนกิจศพ จ.ส.ต.วิชัย เจตสิกทัต หนังสือเรื่องนิทานเทียบสุภาษิตนี้เป็นเรื่องที่มีคุณค่า เป็นแนวทางสอนที่ดีให้ยึดถือปฏิบัติซึ่งพระยาสีหราชฤทธิไกร (ทองคำ สีหอุไร) หรือพระสุวรรณรัศมี ได้รวบรวมแต่งไว้เป็นนิทาน 84 เรื่อง ในเล่มนี้ ประกอบด้วย เรื่องที่ 1-16


องค์ความรู้: สำนักหอสมุดแห่งชาติ เรื่อง: เข็มข้าหลวงเดิม            เครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือที่เรียกกันว่า ตรา เป็นเครื่องหมายแสดงเกียรติยศและบำเหน็จความชอบที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างขึ้นสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในราชการ รวมถึงเหรียญที่ระลึกที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ทรงนำรูปวชิราวุธมาใช้ประกอบในเครื่องหมายและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในรัชกาลของพระองค์ และเมื่อวันที่ 15 เมษายน ร.ศ.130 (พ.ศ.2454) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้ "พระราชบัญญัติเข็มข้าหลวงเดิม"               เข็มข้าหลวงเดิม เป็นเข็มชั้นเดียว มีลักษณะเป็นรูปวชิราวุธแนวตั้ง คมเงินด้ำทอง พระราชทานแก่ข้าราชบริพารในพระองค์ ผู้ได้รับราชการในพระองค์มาแต่ก่อนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ และยังคงรับราชการสืบมา แม้ไม่ได้ถวายตัวด้วยดอกไม้ธูปเทียนก็ตาม ผู้ที่ได้รับพระราชทานเข็มนี้แล้ว เมื่อมีความผิดรับพระอาญาต้องคืนเข็มยกเว้นแต่จะได้รับพระราชทานพระมหากรุณาเป็นพิเศษจึงสามารถประดับเข็มต่อไปได้ เข็มข้าหลวงเดิมนั้นให้ประดับที่เสื้อข้างซ้ายได้ทุกเวลา ให้ติดระหว่างกระดุมเม็ดที่ 2 และเม็ดที่ 3 ยกเว้นถ้าแต่งเครื่องยศประดับเครื่องราชอิศริยาภรณ์ ห้ามประดับเหนือเครื่องราชอิศริยาภรณ์และเหรียญ             เข็มข้าหลวงเดิมนี้ พระราชทานแต่เฉพาะฝ่ายหน้า ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2463 โปรดเกล้าฯ ให้เพิ่มเติมเข็มข้าหลวงเดิมสำหรับสตรี ลักษณะลวดลายเหมือนเข็มข้าหลวงเดิมของบุรุษ มีขนาดสูง 5.5 เซนติเมตร สามารถประดับเพชรพลอยเพิ่มขึ้นที่ลายริมคมและที่ลายต้นเข็ม พระราชทานเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติยศแก่ข้าราชบริพารฝ่ายในที่เคยรับราชการสนองพระเดชพระคุณมาแต่ก่อนเสด็จเสวยราชย์สมบัติ   ----------------------------------------------- รายการอ้างอิง  สารานุกรมพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว.  กรุงเทพฯ: มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว,  2540.  พระราชบัญญัติเข็มข้าหลวงเดิม.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2565, จาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2454/A/7.PDF   เรียบเรียงโดย: นางสาวพีรญา ทองโสภณ บรรณารักษ์ปฏิบัติการ สำนักหอสมุดแห่งชาติ  



๑๑ กรกฎาคม วันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ขอนำเสนอองค์ความรู้เรื่อง "สถาปัตยกรรมพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ สถานที่สวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช" เรียบเรียงโดย นายกฤษฎา นิลพัฒน์ ภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์



ชื่อเรื่อง: ศิลปินแห่งละคอนไทย ผู้แต่ง: ธนิต อยู่โพธิ์ ปีที่พิมพ์: พ.ศ. ๒๔๙๗สถานที่พิมพ์: พระนครสำนักพิมพ์: โรงพิมพ์พระจันทร์จำนวนหน้า: ๑๑๖ หน้า เนื้อหา: "ศิลปินแห่งละคอนไทย" กรมการสังคีต กรมศิลปากร ได้จัดพิมพ์ด้วยความมุ่งหมายที่จะให้ตำนานทางนาฏศิลปของไทย และเกียรติประวัติของศิลปินทางโขนและละคอนไทยปรากฏแพร่หลาย   และเป็นแบบฉบับแก่การศึกษาของศิลปินอนุชนรุ่นหลัง โดยธนิต อยู่โพธิ์ ได้รวบรวมตำนานและประวัติของศิลปินแต่ละท่านจากในหนังสือและคำบอกเล่า เริ่มตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา และสิ้นสุดในสมัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยส่งฉบับไป  ตีพิมพ์ลงเป็นตอนๆ ในวารสารศิลปากร ประจำปี ๒๔๙๑ และ ๒๔๙๒ ต่อมานำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือเล่มนี้ เนื้อหาว่าด้วย ศิลปินแห่งละครไทย การแบ่งแยกของชาวไทย ละคอนไทยในสมัยต่างๆ อาทิ ละคอนผู้หญิงในราชสำนัก ละคอนผู้ชายของหลวง ละคอนของเอกชน ละคอนไทยในประเทศพม่า ละคอนของนายบุญยัง ละคอนของเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ ละคอนไทยในราชสำนักเขมร เป็นต้น นับว่าเป็นประโยชน์แก่การศึกษาความเป็นมาของนาฏศิลปไทยและเป็นที่เชิดชูเกียรติของท่านศิลปินผู้มีคุณกับมรดกทางวัฒนธรรมด้านนาฎศิลปของชาติไทย  เลขทะเบียนหนังสือหายาก: ๖๒๑เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์: E-book ๒๕๖๖_๐๐๐๙หมายเหตุ: โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖


วันรพี ตรงกับวันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย” เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นนักนิติศาสตร์และทรงวางระบบแบบแผนศาลยุติธรรม รวมถึงทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอันเป็นประโยชน์ใหญ่ยิ่งแก่ประเทศชาติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยประสูติจากเจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2417 ทรงเข้าศึกษา ในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ แล้วเสด็จไปศึกษาต่อ ณ โรงเรียนมัธยมกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 3 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมแล้ว ทรงสอบเรียนต่อกฎหมายที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดได้ด้วยพระชนมายุเพียงแค่ 14 ชันษา ได้ศึกษาต่อ จนจบหลักสูตรปริญญาตรีด้านกฎหมาย ชั้นเกียรตินิยม โดยใช้เวลาศึกษาเพียงแค่ 3 ปี ด้วยพระชันษาเพียง 20 พรรษา เมื่อปี พ.ศ. 2439 ทรงเข้ารับราชการในกรมเลขานุการ ทรงปฏิบัติงานเป็นที่พอพระราชหฤทัยในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถ เป็นอย่างยิ่ง พระภารกิจของพระองคืนับได้ว่าเป็นภาระที่หนักยิ่ง ทรงเสียสละทุกอย่าง คิดถึงแต่งานเป็นใหญ่ ทรงยึดหลักที่ว่า “คนทุกคนต้องเคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะทำอะไรต้องคิดถึง คนอื่น” ทรงยึดหลักความยุติธรรม และหลักที่ว่า “My life is service” คือ ชีวิตของข้าพเจ้าเกิดมาเพื่อรับใช้ประเทศชาติ ปี พ.ศ. 2462 ทรงประชวรด้วยโรควัณโรคที่พระวักกะ (ไต) ไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พระอาการ ก็ไม่ทุเลา และพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ ในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2463 รวมพระชนมายุได้ 47 พรรษา ในวันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี วงการนักกฎหมายได้ถือเอาวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ เป็นวันรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านที่มีต่อวงการกฎหมายไทย โดยใช้ชื่อว่า “วันรพี” ขนานนามพระองค์ว่า “พระบิดาและปฐมาจารย์แห่งนักกฎหมายไทย” โดยจะมีการจัดกิจกรรมวันรพี วางพวงมาลาถวายราชสักการะเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่อนุสาวรีย์พระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หน้าสำนักงานศาลยุติธรรม ศาลที่เป็นสถานที่ราชการทั่วประเทศ และคณะนิติศาสตร์ของทุกมหาวิทยาลัยในประเทศไทย โดยมีการจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507




ชื่อเรื่อง                     เมืองโบราณอู่ทอง : บรรณนิทัศน์ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีผู้แต่ง                       มหาวิทยาลัยศิลปากร. คณะโบราณคดี. ภาควิชาโบราณคดีประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN                978-974-641-559-0หมวดหมู่                   ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์เลขหมู่                     959.373 ศ529มสถานที่พิมพ์               กรุงเทพฯสำนักพิมพ์                 บริษัท เปเปอร์เมท (ประเทศไทย) จำกัดปีที่พิมพ์                    2558ลักษณะวัสดุ               342 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม.หัวเรื่อง                     เมืองโบราณอู่ทอง – ประวัติศาสตร์                              อู่ทอง – ประวัติศาสตร์ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก         เป็นการจัดทำบรรณนิทัศน์จากเอกสารที่ตีพิมพ์เผยแพร่ทั้งจากหนังสือทั่วไป งานค้นคว้าวิจัย รวมทั้งบทความในวารสารต่าง ๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2494 – 2557 รวม 128 ฉบับ โดยมุ่งเน้นการรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับเมืองอู่ทองและความสำคัญของเมืองอู่ทองในประวัติศาสตร์ไทย รวมถึงการขุดค้นภายในเขตเมืองโบราณ


          กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “ราตรีนี้...ที่วัดไชยวัฒนาราม” วิทยากร นางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา, นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และนายวีระศักดิ์ แสนสะอาด นักโบราณคดีชำนาญการ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ผู้ดำเนินรายการ นายสิทธิพร  บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๑.๔๕ น. ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร


         หนังสือ : 100 เอกสารสำคัญ : สรรพสาระประวัติศาสตร์ไทย ลำดับที่ 24          เอกสารฉบับนี้เป็นงานวิจัยลำดับที่ ๒๔ ซึ่งประกอบไปด้วยเอกสารสำคัญ 5 เรื่อง คือ งานวิจัยลำดับที่ 98 ถึงลำดับที่ 102 (รวมบทความพิเศษ 1 เรื่อง) งานวิจัยลำดับที่ 98 เรื่อง จารึกพระมหาราชครูเชียงใหม่ที่พระเจดีย์ชเหว่ซีโข่ง เมืองพุกาม ค.ศ.1393 ของ อาจารย์วทัญญู ฟักทอง บทสวดอุปปาตสันติ : คติความเชื่อเรื่องการสืบชะตาเมือง เป็นงานวิจัยลำดับที่ 99 ของ ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร งานวิจัยลำดับที่ 100 เรื่อง ตำนานมูลศาสนากับประวัติศาสตร์สถาบันสงฆ์ในล้านนา ของ ผศ.ดร. วรพร ภู่พงศ์พันธุ์ บทความพิเศษเรื่อง "พระราชกำหนดเก่า จุลศักราช 1089 รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ ว่าด้วยการปกครองหัวเมือง" ของ ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร งานวิจัยฉบับสุดท้าย เรื่อง จดหมายเหตุโฮสต์ เอส.ฮอลเล็ตต์ (Holt S. Hallett) ในล้านนา ของคุณธิษณา วีรเกียรติสุนทร เป็นงานวิจัยลำดับที่ 102   ห้องบริการ 1 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ เลขหมู่ : 959.3 ร192


black ribbon.