ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 42,932 รายการ

สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ.                       66/7หมวดหมู่                   พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ               82 หน้า : กว้าง 4.8 ซม. ยาว 53.5 ซม.บทคัดย่อ/บันทึกเป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด  ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ชื่อผู้แต่ง         ธนิต อยู่โพธิ์ ชื่อเรื่อง            อุดมคติอันแตกต่างกันระหว่างพระพุทธศาสนาฝ่ายหินยานกับฝ่ายมหายานกับพระโพธิสัตว์และตรีกาย พิมพ์ครั้งที่       - สถานที่พิมพ์     พระนคร สำนักพิมพ์       โรงพิมพ์ห้างหุ้นส่วนจำกัดศิวพร ปีที่พิมพ์          ๒๕๐๔ จำนวนหน้า      ๔๙  หน้า รายละเอียด                    อุดมคติอันแตกต่างกันระหว่างพระพุทธศาสนาฝ่ายหินยานกับฝ่ายมหายาน กับพระโพธิสัตว์ และตรีกาย  พิมพ์เป็นบรรณาการ เนื่องในวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๑๑  พระพุทธศาสนาแบ่งออกเป็นนิกายหินยาน  และนิกายมหายาน อุดมคติตามคำสอนของฝ่ายหินยานคือการบรรลุพระอรหันต์ บุคคลในอุดมคตินี้คือพระอรหันต์ ผู้พากเพียรดำรงตนอยู่ในศีลธรรมจนสิ้นกิเลส เป็นพระอรหันต์ แล้วนิพพาน ส่วนฝ่ายมหายานไม่ถือว่าการบำเพ็ญตบะเพื่อประโยชน์เฉพาะตัวเช่นนั้นเป็นการกระทำถูกต้องตามพุทธประสงค์ที่แท้จริง แต่มองว่าคุณธรรมที่สร้างสมมาควรเผื่อแผ่ให้สรรพสัตว์ มีคำสอนให้มุ่งเน้นช่วยเหลือสรรพสัตว์ ซึ่งบุคคลในอุดมคติของฝ่ายมหายาน คือพระโพธิสัตว์


ชื่อเรื่อง                     สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ.                       88/4หมวดหมู่                   พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ               50 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 53.5 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก                    เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา 


ชื่อเรื่อง : การต่อสู้ของชีวิตพ่อสมบูรณ์ ณ เชียงใหม่ ผู้แต่ง : สมบูรณ์ ณ เชียงใหม่ ปีที่พิมพ์ : 2550 สถานที่พิมพ์ : สมุทรสาคร สำนักพิมพ์ : แอ๊ปป้า พริ้นติ้งกรุ๊ป      หนังสือแต่งขึ้นโดยพ่อสมบูรณ์ ณ เชียงใหม่ หนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆในอดีตของพ่อสมบูรณ์ที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้แกคนรุ่นหลังถึงความเป็นมาของบุคคลสำคัญในสมัยตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนถึงพ่อสมบูรณ์สร้างครอบครัวมีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง ในหนังสือเป็นเรื่องเกี่ยวกับแผนผังชาติตระกูล ประวัติความเป็นมาของพ่อสมบูรณ์ ประวัติการศึกษา การประกอบอาชีพ ชีวิตในกรุงเทพ ชีวิตการทำงานบริษัทขนส่ง ชีวิตรับราชการ ชีวิตพ่อค้า ชีวิตชาวเมือง ชีวิตชาวสวน นอกจากนี้ท่านสมบูรณ์ยังถ่ายทอดประสบการณ์ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และยังศึกษาเกี่ยวกับแพทย์แผนโบราณ สุดท้ายคือชีวิตหัวหน้าครอบครัว


วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2560 เวลา 16.30 น. ร้อยเอกบุณยฤทธิ์ ฉายสุวรรณ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ประชุมและมอบนโยบายการปฏิบัติงาน ให้กับบุคลากรภาคสนาม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


โบราณสถานและสถานที่สำคัญที่น่าเยี่ยมชม ของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ





ร่วมด้วยช่วยกันขุดค้นแหล่งโบราณคดีดอนไร่  เป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการเครือข่ายมรดกศิลปวัฒนธรรมปี ๒๕๕๔ ร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งโบราณคดีดอนไร่ ต.เจียด อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ซึ่งดำเนินการในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๕๔ โดยมีพระอาจารย์คารมย์ โอภาโส เป็นแกนนำและมีสมาชิกเครือข่ายตำบลเจียดมาร่วมกิจกรรมจำนวนมากกว่า ๕๐ คน โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาในทุกวันตลอดโครงการ ตามวันเวลาที่สะดวกของแต่ละคน กิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะเป็นการเรียนรู้งานโบราณคดีร่วมกันแล้ว ยังเป็นการสร้างความสามััคคีในชุมชน สร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกรมศิลปากรในการทำงานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน ทั้งนี้ทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมต่างมาด้วยจิตอาสา ไม่มีการจ้าง เพราะรู้ว่ากิจกรรมที่ร่วมทำจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาท้องถิ่นของตนร่วมกัน


กรมศิลปากรชี้แจงประเด็นข่าวกุฏิพระโบราณ ที่วัดสิงห์ จังหวัดปทุมธานี พังทลายเสียหาย สาเหตุจากช่างที่กรมศิลปากรจ้างมาซ่อมแซมบูรณปฏิสังขรณ์ เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ กรมศิลปากรแถลงข่าวชี้แจงประเด็นกุฏิพระโบราณที่วัดสิงห์ จังหวัดปทุมธานี พังทลายเสียหาย โดยนายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร นายประทีป เพ็งตะโก ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี นายช่างโยธาและวิศกรควบคุมงาน เป็นผู้แถลงข่าว ณ ห้องประชุมกรมศิลปากร ตามที่รายการเรื่องเล่าเสาร์ – อาทิตย์ ประจำวันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ประจำวันจันทร์ที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง ๓ และหนังสือพิมพ์ข่าวสด หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ ได้เสนอข่าวเกี่ยวกับกุฏิพระโบราณ ที่วัดสิงห์ ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พังทลายเสียหายทั้งหมด สาเหตุจากช่างที่กรมศิลปากรจ้างมาซ่อมแซมบูรณปฏิสังขรณ์ นั้น   กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี ขอชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวดังนี้ ๑. วัดสิงห์ ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งยังปรากฏเจดีย์ โบสถ์ วิหารเก่าแก่ ควรค่าแก่การศึกษาด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี พระพุทธรูปสำคัญของวัดคือ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย สมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธไสยาสน์ (หลวงพ่อเพชร) นอกจากนี้ยังมีโกศบรรจุอัฐิหลวงพ่อพญากราย ซึ่งเป็นพระมอญธุดงค์มาจำพรรษา ที่วัดสิงห์ บนกุฏิของวัดมีพิพิธภัณฑ์ เก็บรักษาของเก่า ได้แก่ ตุ่มสามโคก แท่นบรรทมของพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองสามโคก ใบลานอักษรมอญ ตู้พระธรรม และพระพุทธรูป ด้านหน้าวัดสิงห์มีการขุดค้นพบโบราณสถานเตาโอ่งอ่าง ซึ่งถือ เป็นหลักฐานของการตั้งชุมชนมอญในสมัยแรกในบริเวณนี้นับแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๕ เล่มที่ ๑๐๙ ตอนที่ ๑๐๙   ๒. กรมศิลปากร สำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี ได้รับการจัดสรรงบประมาณโครงการฟื้นฟูบูรณะโบราณสถานที่ประสบอุทกภัย โครงการบูรณะโบราณสถานวัดสิงห์ จำนวน ๑๒,๐๒๐,๐๐๐ บาท โดยแบ่งเป็น ๒ โครงการ - โครงการงานบูรณะโบราณสถาน จำนวนเงิน ๔,๔๕๐,๐๐๐ บาท - โครงการงานปรับยกระดับ (ปรับดีด) วงเงินสัญญาจ้าง ๗,๕๓๙,๐๐๐ บาท ดำเนินการว่าจ้างบริษัทกันต์กนิษฐ์ ก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ดำเนินงาน ตามสัญญาจ้างเลขที่ ๑๒/๒๕๕๕ เริ่มสัญญาวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ สิ้นสุดวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๕ โดยมีนายเฉลิมศักดิ์ ทองมา นายช่างโยธาชำนาญงาน สำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี เป็นผู้ควบคุมงาน   ๓. เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๒๑.๓๐ น. นายเฉลิมศักดิ์ ทองมา ได้รับแจ้งจากตัวแทนบริษัทกันต์กนิษฐ์ ก่อสร้าง จำกัด ในเวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น. ขณะที่คนงานอยู่ในช่วงพัก ไม่มีใครอยู่ภายในบริเวณอาคารกุฏิโบราณ ได้ยินเสียงพร้อมทั้งปูนฉาบของตัวอาคารกะเทาะหลุดร่วงลงมา แล้วมุมอาคารด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เกิดการทรุดตัวลง ทำให้กระเบื้องหลังคาและโครงสร้างหลังคาทั้งหมด ทรุดลงมากองอยู่บริเวณพื้นไม้ชั้นสองของอาคาร ทำให้น้ำหนักบรรทุกของพื้นมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นผนังด้านทิศใต้ ก็ได้พังทลายตามลงมาเนื่องจากรับหนักของหลังคาที่ทรุดลงมาไม่ไหว   ๔. เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น.ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี (นายประทีป เพ็งตะโก) นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ วิศวกรชำนาญการพิเศษ นายจมร ปรปักษ์ประลัย สถาปนิกชำนาญการ นายเฉลิมศักดิ์ ทองมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสามโคก และคณะกรรมการวัดสิงห์ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและหาสาเหตุของการพังทลาย ได้ข้อสรุปดังนี้ ๔.๑ การที่อาคารเกิดการทรุดตัว เนื่องจากพื้นดินรับฐานรากอาคารอยู่ในที่ต่ำชุ่มน้ำตลอดทั้งปี ทำให้อ่อนตัวรับน้ำหนักอาคารไม่ไหวทำให้ผนังอาคารทรุดตัวลงมาประมาณ ๑ ใน ๔ ส่วน ๔.๒ ผนังอาคารมีร่องรอยแตกร้าวจำนวนมาก พบร่องรอยนี้จากการสำรวจเพื่อจัดทำรูปแบบรายการการอนุรักษ์ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๐ - ๒๕๕๔ ๔.๓ ปูนสอเสื่อมสภาพจากการถูกน้ำแช่ขังและใช้งานอาคารมาเป็นเวลานาน ทำให้การยึดตัวของอิฐและปูนสอไม่ดี เป็นสาเหตุให้ตัวอาคารทรุดลงมา ๔.๔ สภาพอาคารที่ปูนฉาบผนังนอกหลุดร่อน ทำให้น้ำซึมผ่านเข้าไปในผนังทำให้ ปูนสอชุ่มน้ำ ทำให้แรงยึดเกาะระหว่างอิฐต่ำ ๔.๕ ขณะที่อาคารทรุดตัวอยู่ระหว่างการขุดเพื่อตรวจสอบฐานของอาคารส่วนที่ จมดินเพื่อเตรียมการกำหนดระยะที่ทำการตัดผนังเพื่อเสริมคานถ่ายแรง ยังไม่ได้ทำการตัดผนัง จึงยังมิได้มีการรบกวนโครงสร้างของอาคารโบราณ แต่ตัวอาคารก็เกิดการทรุดตัวลงมาเสียก่อน   หลังจากทำการตรวจสอบพื้นที่แล้ว สำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี ได้สั่งการให้บริษัทผู้รับจ้างทำการค้ำยันผนังส่วนที่เหลือโดยให้ดำเนินการตามคำแนะนำของวิศวกร และทำการจัดเก็บวัสดุส่วนที่สามารถนำมาก่อสร้างเพื่อคืนสภาพอาคารไปจัดเก็บในที่ให้เรียบร้อย รวมทั้งได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างดำเนินการบูรณะกุฏิให้คืนสภาพโดยเร็ว โดยให้บริษัทผู้รับจ้างร่วมกับสถาปนิก วิศวกร และผู้เกี่ยวข้อง ปรับปรุงรูปแบบรายการ และวิธีปรับดีดให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพปัจจุบันของกุฏิ และให้ดำเนินการบูรณะกุฏิให้กลับคืนสภาพเดิม โดยให้เป็นไปตามรูปแบบรายการบูรณะที่ได้รับอนุญาต



เอกสารดาวน์โหลด



ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจโบราณเตาสวาย อำเถอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ วันพฤหัสบดี ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖